หัวข้อ: ขอฎีกาหรือคำพิพากษาว่ามีปืนลูกโม่.357แล้วสามารถมีกระสุนขนาด.38ไว้ในครอบครองได้ เริ่มหัวข้อโดย: 100 ที่ กันยายน 05, 2010, 10:56:38 PM ขอฎีกาหรือคำพิพากษาว่ามีปืนลูกโม่.357แล้วสามารถมีกระสุนขนาด.38ไว้ในครอบครองได้โดยไม่ผิดกฎหมายด้วยขอรับ
::014:: :VOV: หัวข้อ: Re: ขอฎีกาหรือคำพิพากษาว่ามีปืนลูกโม่.357แล้วสามารถมีกระสุนขนาด.38ไว้ในครอบครองได้ เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กันยายน 06, 2010, 03:37:01 AM อ้างจากผู้การสุพินท์ให้ความรู้ไว้ครับ
คำพิพากษาศาลไทยผมมองว่ายังไม่นิ่ง มักเปลี่ยนไปตามยุค ตามกระแส แม้แต่ที่เคยร่ำเรียนกันมานมนานว่ากฏหมายไม่มีผลย้อนหลัง แต่ท่านก็ยังลากแถไปข้างๆจนได้ เช่นว่าเนื่องจากผู้กระทำผิดเป็นนักการเมือง ซึ่งขณะที่พิพากษาผู้ปกครองประเทศเป็นกลุ่มทหาร ถ้าเราไม่ต้องไปสนใจแบบเจาะลึกหรือนำเอาหลักการปกครอง(คนละเรื่องกับหลักกฏหมาย)มาประกอบพิจารณา จะเห็นความจริงที่ว่ากฎหมายของประเทศเราเป็นกฏหมายลายลักษณ์อักษร คือต้องยึดตามที่ระบุไว้ในกฏหมาย จะผิดไปจากข้อกฏหมายนั้นมิได้ ในทำนองเดียวกันนี้เมื่อกำหนดให้ต้องมีเครื่องกระสุนเป็นขนาดเดียวกับปืนที่ได้รับอนุญาตก็ต้องเป็นไปตามนั้น..อย่างเคร่งครัด แต่ในทางปฏิบัติก็มักนำหลักรัฐศาสตร์มาวางระเบียบหรือวิธีการปฏิบัติเสียใหม่ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นประณีประนอม จึงได้เกิดบรรทัดฐานใหม่ๆหลายๆอย่างในสั้งคม ทั้งนี้ก็เนื่องจากดุลพินิจที่ผู้ปกครองนำมาใช้ต่างกัน สรุป หากยึดตามหลักกฏหมายมีอาวุธปืน .357 แต่มีกระสุน .38 ในครอบครองนั้นผิดครับ ถ้าไม่เข้าใจให้อ่านย้ำอีกครั้งเรื่องที่ประเทศเราใช้กหมายลายลักษณ์อักษร ผมไม่เห็นด้วยกับคำวิพากษ์วิจารณ์ศาลตามที่ท่านกล่าวข้างต้น 8) ::014:: ด้วยความเคารพครับคุณหนวดหิน......เอาเฉพาะประเด็นของกระทู้นี้....ผมเห็นด้วยว่ากฎหมายเราตีความตามตัวอักษร.. ...และนั่นจึงเป็นเหตุผลจากข้อเท็จจริงที่ว่า กระสุน .38Spl เป็นกระสุนที่ใช้กับปืนขนาด .357Magnumได้โดยปกติ ข้อเท็จจริงนี้สามารถให้ผู้เชี่ยวชาญเบิกความยืนยันต่อศาลได้ ดังนั้นการมีกระสุนที่ใช้ได้(โดยปกติ)กับอาวุธปืนที่เราได้รับอนุญาตฯจึงไม่เป็นความผิด มีคำพิพากษาศาลฎีกาอ้างอิงได้ ถ้าคุณหนวดหินเห็นว่ามีข้อกฎหมายใด มาตราใด กำหนดให้เป็นความผิดไว้ ก็ได้โปรดแสดงให้ทราบด้วย เนื่องจากผมยังไม่พบ....จึงถือตามหลักที่ว่า สิ่งใดที่กฎหมายมิได้บัญญัติห้ามหรือให้เป็นความผิด .... ย่อมไม่ผิดครับ ::014:: ฎีกา 875/2494, 267/2506, 615/2515, 200/2518, 927/2519 เดินตามหลักกระสุนที่ใช้ได้กับปืนที่ได้รับใบอนุญาต ไม่มีความผิด หัวข้อ: Re: ขอฎีกาหรือคำพิพากษาว่ามีปืนลูกโม่.357แล้วสามารถมีกระสุนขนาด.38ไว้ในครอบครองได้ เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กันยายน 06, 2010, 03:38:32 AM บทคัดย่อโดยพี่ธำรง
ท่านผู้การสุพินท์ได้กรุณาให้เลขฎีกาที่เกี่ยวข้องกับประเด็นว่ามีปืน .357 แต่มีกระสุน .38 ผิดหรือไม่ ตามลิงค์ http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=58663.msg1487439#msg1487439 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=58663.msg1487439#msg1487439) ก็ขอนำบทคัดย่อของฎีกามาเก็บไว้ในกระทู้นี้ครับ ::014:: คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 875/2494 เมื่อมีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนแล้ว การมีกระสุนปืนสำหรับอาวุธปืนนั้น ไม่ต้องมีใบอนุญาตพิเศษอีกเพราะการที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน เป็นการอนุญาตให้มีและใช้กระสุนปืนไปในตัว คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2506 ปลอกกระสุนปืนตามสภาพอาจเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนได้ แต่การมีอยู่เพียง 2 ปลอก และได้ความว่ามีไว้ใช้สวมปลายไม้ตะพด ปลอกกระสุนปืนนั้นก็ไม่มีสภาพเป็นเครื่องหรือสิ่งสำหรับอัดหรือทำหรือใช้ประกอบเครื่องกระสุนปืนเสียแล้ว คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 615/2515 เมื่อกระสุนปืนของกลางที่จำเลยมีไว้เป็นกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนซึ่งจำเลยได้รับอนุญาตให้มีและใช้ได้แล้วจำเลยย่อมไม่มีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ฟ้องกล่าวหาจำเลยมาแต่เพียงว่ามีกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต โจทก์จะนำสืบว่าจำเลยซื้อกระสุนปืนนั้นมาโดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายเพื่อแสดงว่าจำเลยมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตตามมาตรา 7 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ จึงเป็นการนำสืบนอกประเด็นตามข้อกล่าวหาความผิดในคำฟ้อง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 200/2518 มีกระสุนปืนและปลอกกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาตให้มีและใช้แล้วไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.2490 มาตรา 8 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2519 พลุสดุดส่องแสงของกลางไม่เป็นเครื่องกระสุนปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และไม่เป็นอาวุธตามประมวลกฎหมายอาญา แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง แต่เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดเสียแล้ว ก็ย่อมลงโทษจำเลยไม่ได้ |