เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: ban.cha ที่ กันยายน 06, 2010, 07:08:06 PM



หัวข้อ: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: ban.cha ที่ กันยายน 06, 2010, 07:08:06 PM
   
   
(http://)http://img259.imageshack.us/img259/5011/1originalx.jpg (http://img259.imageshack.us/img259/5011/1originalx.jpg)

     
   

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
 
ในการอบรมคราวหนึ่ง วิทยากรได้ชูกำปั้นขึ้น และเชิญชวนให้ทุกคนในห้องหาทางทำให้เขาแบมือออกมา คนแล้วคนเล่าลุกขึ้นมางัดแงะกำปั้นของเขา พยายามดึงนิ้วของเขาให้ถ่างออก หรือไม่ก็บีบข้อมือของเขาโดยหวังว่าความเจ็บปวดจะทำให้เขาคลายกำปั้น แต่ก็ไม่ได้ผล

        ถ้าเป็นคุณ จะทำอย่างไร ?

        ชายผู้หนึ่งเดินตรงมาหาเขาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม แล้วก็พนมมือไหว้ เขายกมือไหว้ตอบทันที สักพักคนในห้องจึงสังเกตว่ากำปั้นของเขาได้คลายออกแล้ว   

        โดยไม่ได้ใช้กำลังอย่างคนอื่นๆ เลย ชายผู้นี้สามารถทำให้วิทยากรคลายกำปั้นออกมาได้ เขาเพียงแต่แสดงไมตรีด้วยการพนมมือไหว้เท่านั้น   

        คุณเป็นคนหนึ่งหรือไม่ที่คิดอย่างชายผู้นี้ ถ้าใช่คุณเป็นคนส่วนน้อยมากๆ เพราะจากประสบการณ์ของวิทยากร คนส่วนใหญ่คิดแต่การเอาชนะเขาด้วยกำลัง ไม่ว่าหญิงหรือชาย เด็กหรือผู้ใหญ่ มีไม่กี่คนที่คิดจะชนะใจเขา ถ้าไม่ด้วยการไหว้ ก็ด้วยการยื่นดอกไม้หรือยื่นมือมาทักทายเขา

        กิจกรรมเล็กๆ นี้บอกอะไรบ้างไหมเกี่ยวกับวิธีคิดของผู้คนส่วนใหญ่ในเวลานี้ ใช่หรือไม่ว่าเราคิดถึงการใช้กำลังมากกว่าวิธีการที่สันติ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นกับใครก็ตาม เราคิดแต่จะเอาชนะด้วยกำลังยิ่งกว่าการชนะใจ แต่กิจกรรมเดียวกันนี้เองก็บอกเราว่าวิธีการที่สันตินั้นสามารถแก้ปัญหาได้ดีกว่าแม้ในกรณีที่ดูเหมือนว่าต้องใช้กำลังเท่านั้นเป็นทางออก การใช้ไมตรีนั้นสามารถทำให้อีกฝ่าย ' ยอมจำนน ' ได้ หรือพูดให้ถูกต้องกว่านั้นก็คือ ' ชนะ ' ทั้งสองฝ่าย เพราะขณะที่วิทยากรได้มิตรภาพ อีกฝ่ายก็สามารถคลายกำปั้นเจ้าปัญหาออกมาได้
        จริงอยู่กิจกรรมนี้เป็นแค่เกม ในชีวิตจริงเราคงไม่คิดจะใช้กำลังแก้ปัญหากับใคร แต่ใช่หรือไม่ว่าเมื่อมีข้อขัดแย้งกับใคร คนส่วนใหญ่นิยมใช้วิธี ' แรงมาก็แรงไป ' ถ้าเขาโกรธมา ก็โกรธไป ด่ามา ก็ด่าไป การใช้วิธีที่นุ่มนวลหรือใช้ความดีเข้าเผชิญมักจะถูกมองข้ามไป หรือถูกบอกปัดไปเพราะเข้าใจว่าไม่ได้ผิด แต่ในความเป็นจริงวิธีการดังกล่าวก็ได้ผลไม่น้อยไปกว่าในเกม ' คลายกำปั้น ' ข้างต้น

        สตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้กำกับและนักสร้างหนังชื่อดังแห่งฮอลลีวู้ด เล่าว่าเมื่ออายุ  13 ปี ชีวิตของเขาเหมือนตกอยู่ในนรก เพราะที่โรงเรียนมีอันธพาลวัย  15 คนหนึ่งชอบทำร้ายเขา ทั้งทุบตีและขว้างปาระเบิดไข่เน่าใส่เขา เขาทนสภาพนี้อยู่นาน แล้ววันหนึ่งเขาก็เข้าไปหาอันธพาลคนนั้นและพูดว่า ' เธอรู้ไหม ฉันกำลังถ่ายทำหนังเรื่องสู้กับนาซี เธออยากเล่นบทพระเอกไหม ' ทีแรกอันธพาลหัวเราะใส่เขา แต่ในที่สุดก็ตกลง สปีลเบิร์กเล่าว่า หลังจากถ่ายทำวีดีโอเสร็จ อันธพาลคนนั้นได้กลายมาเป็นเพื่อนสนิทของเขา   

        การที่สปีลเบิร์กให้การยอมรับเขาและเปิดโอกาสให้เขาได้เป็นพระเอก มีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนเขาจ าก ' ศัตรู ' ให้กลายเป็นมิตรได้ เพราะลึกๆ วัยรุ่นคนนั้นก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้รับความยอมรับ สปีลเบิร์กชนะใจเขาด้วยการยื่นไมตรีให้แทนที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูหรือยอมจำนนต่ออำนาจบาตรใหญ่ของเขา

        น้ำใจไมตรีไม่เพียงแปรเปลี่ยนความขัดแย้งให้คลี่คลายไปในทางที่ดีเท่านั้น หากยังสามารถเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ด้วย

        นักธุรกิจไทยผู้หนึ่งได้เล่าถึงประสบการณ์เมื่อครั้งไปเรียนหนังสือในเมืองบอสตันว่า เธอเคยถูกคนผิวดำล็อกคอและเอามีดจี้ขณะรอสัญญาณไฟเขียวบนเกาะหน้ามหาวิทยาลัย เมื่อโจรพบว่าในกระเป๋าของเธอมีเงินแค่  20 ดอลลาร์ ก็ไม่พอใจ เขาขุ่นเคืองหนักขึ้นเมื่อพบว่าเธอไม่มีนาฬิกา แหวนและกำไรเลยสักอย่าง เขาจึงถามเธอว่า ' เป็นคนเอเชียมาเรียนที่นี่ได้ก็ต้องรวยไม่ใช่หรือ ' เธอตอบว่า ' สำหรับฉันน่ะไม่ใช่ เพราะได้ทุนมา ' แล้วโจรก็ย้อนกลับมาถามถึงเงิน  20 ดอลลาร์ว่าจะเอาไปทำอะไร เธอตอบว่า เอาไปซื้อไข่ เขาถามเธอว่าเอาไข่ไปทำอะไร ' เอาไปต้มกินได้ทั้งอาทิตย์ ' เธอตอบตามความจริงเพราะตอนนั้นการเงินฝืดเคือง

        ระหว่างที่โต้ตอบกันอยู่นั้น ยามหน้ามหาวิทยาลัยเห็นผิดสังเกต จึงยกหูโทรศัพท์เรียกตำรวจ เธอมองเห็นพอดีก็เลยโบกมือว่า ' ไม่ต้อง เราเป็นเพื่อนกัน ' โจรได้ยินเช่นนั้นก็งง ถามว่า ' คุณรู้จักกับผมตั้งแต่เมื่อไหร่ ' ' ก็เมื่อกี้ไง ' เธอตอบ

        โจรเปลี่ยนท่าทีไปทันที หลังจากสนทนาพักใหญ่ โจรไม่เพียงแต่จะคืนเงินให้เธอ หากยังพาเธอไปซื้อไข่และซื้ออาหาร  3 ถุงใหญ่ พร้อมทั้งหิ้วมาส่งถึงหน้ามหาวิทยาลัย แล้วยังแถมเงินอีก  50 ดอลลาร์

        เรื่องนี้ยังไม่จบเพราะวันรุ่งขึ้นเธอนำเงิน  50 ดอลลาร์นั้นไปซื้อเครื่องปรุงอาหารไทย แล้วไปเยี่ยมบ้านเขาเพื่อทำต้มยำกุ้งให้กินกันทั้งครอบครัว นับแต่นั้นทั้งสองฝ่ายก็ไปมาหาสู่กัน เธอเล่าว่าทุกวันนี้หากมีธุระไปบอสตันก็จะไปแวะเยี่ยมครอบครัวนี้ทุกครั้ง

          น้ำใจไมตรีและความดีนั้นมีพลังที่สามารถเปลี่ยนร้ายให้กลายเป็นดี และเปลี่ยนภัยคุกคามให้เป็นสะพานสานมิตรภาพได้ ใช่หรือไม่ว่าการกำจัดศัตรูที่ดีที่สุดก็คือการเปลี่ยนเขามาเป็นมิตรนั่นเอง นี้คือชัยชนะที่ให้ผลยั่งยืนกว่าชัยชนะด้วยกำลังที่เหนือกว่า

อ่านแล้วคิดดูดี ๆ กันนะครับ จะปรับใช้ตรงใหนกันได้บ้าง
                                                                                จากโฆษณา Google......
 


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด้กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: wharf 20d ที่ กันยายน 06, 2010, 07:18:06 PM

      ......ใช่......


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: tutorlsag-Long Live The King ที่ กันยายน 06, 2010, 07:34:53 PM
ขอบคุณมากๆ เลยครับ
ขอนำไปบอกต่อนะครับ


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กันยายน 06, 2010, 07:39:31 PM
                      ได้ข้อคิดดีๆอีกแล้ว   ::002::


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: m120 ที่ กันยายน 06, 2010, 09:21:19 PM
ขอบคุณครับ..


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 07, 2010, 12:45:10 AM
อาชีพที่ผมทำก็คล้ายๆกับผู้หญิงคนนั้นครับ... เจอโจรอยู่ตรงหน้าก็ต้องยิ้มให้... ผมจะสู้กับคนที่คิดว่าเราสู้ได้ แต่ถ้าคำนวณว่าสู้ยังไงก็ไม่ได้ผมจะปล่อยวาง...

แต่การที่ยอม... ไม่ใช่คนที่แพ้ครับ...


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ กันยายน 07, 2010, 02:49:20 AM
ผมทำไม่ได้ครับ ตั้งแต่หัวข้อแรกก็ทำไม่ได้แล้ว

ผมไหว้คนที่เห็นว่าควรไหว้ คู่ควรกับการไหว้ของผม ผมไม่ยกมือไหว้คนที่ไม่คู่ควรเพื่อหวังผลอะไรทั้งนั้น

ผมไม่มีวันญาติดีกับโจร ยิ่งให้ไปทำอาหารเลี้ยงยิ่งไม่มีทางใหญ่ ประจบจนมันละเว้นผมแต่มันก็ยังจะไปปล้นคนอื่นต่อ เผลอๆก่อนเจอผมมันแทงใครไปไม่รู้กี่คนแล้ว เจอโจรผมจะกระทืบให้จมตีนครับ ตอนนี้ทำไม่ได้ก็ไปทำตัวเองให้มีปัญญาเอาจนกว่าจะได้

มิน่า ผมถึงมาได้แค่นี้  ::012::


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: ห ม า ย จั น ท ร์ ที่ กันยายน 07, 2010, 07:40:55 AM
ขอบคุณท่าน จขกท.ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 07, 2010, 07:43:14 AM
นายสมชายจะประเมินคนก่อนครับ ว่าเป็นบัวเหล่าไหน, หากเป็นบัวใต้น้ำ เขาจะมีวิธีคิดแบบที่เรานึกไม่ถึงครับ เพราะเป็นเหตุผลของเขาภายใต้กรอบความคิดของเขา ซึ่งเราอาจเข้าใจหรือไม่เข้าใจก็ได้... ตัวอย่างเรื่องวิทยากร วิทยากรอาจค้อมหัวต่ำ+ยิ้มให้ เป็นการรับไหว้(เพราะรู้ว่าเอ็งหลอกข้าให้รับไหว้), เรื่องสตีเว่น สปีลเบิร์กฯ อันธพาลฯอาจดึงให้งานถ่ายวีดีโอไม่สำเร็จเพราะศักยภาพไม่ถึง, เรื่องนักเรียนไทยในบอสตันฯ อาจโดนข่มขืนที่บ้านชายผิวดำในวันหลัง เพราะชายผิวดำอาจอยากลองของแปลก(สาวเอเชีย)ครับ... กึ๋ยส์...

ศาสนาพุทธมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้คือ 1) ประเมินคนด้วยหลักบัว 4 เหล่า, 2) เคารพผู้ทรงศีล(สำหรับคฤหัสถ์หมายถึงผู้มีวินัยกำกับตนเอง), 3) คบหาแต่ผู้รู้(อยู่ในหัวข้อ"ห้ามคบคนชั่วเป็นมิตร"ในเรื่องอบายมุข 6 ซึ่งรวมถึง"คนโง่"ด้วย เนื่องจากคนโง่จะประพฤติชั่วด้วยความเขลาแห่งตนเอง)...

ว่าแต่ จขกท. ไม่ทำโพล(ตามหัวข้อกระทู้)เล่าครับ... แฮ่ๆ...


หัวข้อ: Re: เพื่อนพ้อง/เลือดร้อน/ศักดิ์ศรี/เด็กเดน....?
เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ กันยายน 07, 2010, 08:48:59 AM
แต่ความปัญญาอ่อนของนักการเมืองไทยที่จะแก้ไขเรื่อง นศ. ตีกัน

.............เวรจะส่งไป 3 จชต.  มันเอาหัวแม่ตีนคิดหรือเปล่าเนี่ย  มันคิดว่านั้นจะทำให้ นศ. ดีขึ้น........
 
.........................ดูถูกคน 3 จชต.  นี่น่า   ::013:: ::013:: ::013::

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยอมไปแล้วไม่ส่งแล้ว  ::002::