เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

  เหตุที่ว่าก็คือถ้ามีคนมายิงปืนใส่บ้านของเราโดยเราไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อนโดยส่วนตัว  เเต่อาจเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านด้วยกันคนใดคนหนึ่งที่มีเรื่องกันโดยเราไม่รู้เรื่องหรือไม่ใช่เลยอาจเป็นการเข้าใจผิด (เหตุเกิดยามค่ำคืน เเละยิงเข้ามานอกเขตรั้วบ้านของเรา) คำถามมีดังนี้

               1.ถ้ายิงเข้ามาเรามีสิทธิ์ยิงสวนออกไปได้หรือเปล่า ถ้าผู้อาศัยได้รับบาดเจ็บตัวบ้านหรือพาหนะได้รับความเสียหาย..
               2.ถ้ายิงสวนออกไปแล้วโดนเสียชีวิตหรือบาดเจ็บมีความผิดใด?
               ......เป็นข้อสงสัยนะครับยังไม่ได้เกิดขื้นถามไว้เป็นความรู้...... ::014::           
               
   

แจ้งตำรวจง่าย กว่า ครับ
ลูกปืน นัดละ ประมาณ20 บาทขึ้นไป ต้องเสียเวลามานั่งล้างปืนอีก ถ้ายิงโดนคนอื่น เรื่องยาวเป็นรถไฟ
โทรแจ้งตำรวจ ค่าโทรแพงสุด นาทีละ3 บาท หักลบแล้วพี่ประหยัดตั้ง 17 บาท  แถม นอนเกาพุง ดู ชิงร้อยชิงล้านสบายใจไม่โดนจับแน่ๆ ::014::
เท่าที่ศึกษาจากเวป   ถ้าพี่ยิง อาจจะเจอข้อหา  ฆ่าคนตาย หรือ ทำเกินกว่าเหตุ  ครับ  ส่วนโทษนั้นต้องรอผู้รู้ท่านอื่น ครับ ::014::

+1

 ::014::เห็นด้วยกับพี่ศักดาทุกประการครับ แจกตำรวจดีที่สุดครับ

เอ่อ ถ้าเขายิงมาไม่หยุดละครับ บางนัดอาจโดนเราหรือคนที่เรารักเข้าละครับ ขอรอฟังด้วยคนครับ

ถ้ายิงแล้วพยายามบุกเข้ามา คงต้องสู้
แต่ถ้ายิงเม็ดเดียวแล้วหนี คงจะไม่ตาม

ปล.อ่านแล้วคิดถึงโจรปล้นควายในหนังไทยโบราณเลยครับ...
"ไอ้เสือ...บุก!!!"

คำตอบทางด้านกม. รอผู้รู้ครับ

เพิ่ม - ถ้ายิงแล้วยังยืนโวยวายหน้าบ้าน ก็แจ้งตำรวจตามคุณศักดาว่ามา จะให้ดีหากล้องถ่ายรูปมันไว้ด้วย

ทอนกลับ แล้ว ครับ  :VOV:

คงกะจะยิงแค่ข่มขู่ครับ ถ้าหวังจะเอาชีวิตคงไม่ยิงจากนอกรั่วหรอกครับ คงปืนเข้ามากลางดึก เรารู้ตัวอีกที ก็อยู่ข้างหน้าต่างแล้วครับ น่ากลัว ::003::
แต่ถ้าเป็นกรณีนี้ ควรแจ้งตำรวจ ให้ลงบันทึกไว้แล้วค่อยสืบหาจากพยาน และ หลักฐานต่างๆ

ได้ใจครับ  +1

ผมว่าเราก็คงไม่รู้ว่าใครยิง ยิงจากตรงไหน เห็นด้วยกับท่านอื่นๆ  แจ้งความ ดีที่สุดครับ

ถูกใจครับพี่เวียร์ +1
วันนี้ผมซื้อลูก 11 มา ตกเม็ดละ 32 บาท  :~)

น่าจะลองคิดเรื่องทำผนังบ้านให้แข็งแรงมากขึ้นครับ :) หวังพึ่งแต่ตำรวจอย่างเดียวคงไม่พอต้องเตรียมพร้อมเองด้วยครับ ::014::

น่าจะยิงสวนได้ครับ  (ความคิดส่วนตัว )   เมื่อเขายิงเข้ามาในบ้านเราหลายนัด  ไม่ทราบเจตนา ว่าต้องการสิ่งใด   แต่ที่แน่ๆเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและทรัพย์สิน  เราน่าจะป้องกันชีวิตและทรัพย์สินเราได้  คือยิงแค่หยุดการกระทำของผู้ร้าย   ผมคิดว่าค่าลูกกระสุนคงไม่ใช้ปัจจัยจริงๆใช่มั๊ยครับ     

พี่ชายเคยไปมีเรื่องกับคนข้างนอก แล้วกลับมาบ้าน มันตามมาครับ เอาปืนมาด้วย ยืนท้าทายอยู่หน้าบ้าน เราเอาลูกกรดยาวไปซุ่มไว้ห่างจากมันไม่เกิน 20 เมตร ในจุดที่มองไม่เห็น ถ้ามันยิงเข้ามา ระยะแค่นั้นลูกกรดยาวออโต สอยร่วงแน่ โชคดีมันเปลี่ยนใจกลับไป แต่เราก็ต้องอพยพคนในบ้านไปไว้ด้านใน รวมทั้งยายที่แก่มากด้วย เหตุการณ์คืนนั้นทำให้เส้นเลือดในสมองแกแตก เพราะตกใจมากทำให้ความดันขึ้นสูงมาก และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 1 เดือน

เหตุการณ์ตึงเครียดครับ ถ้าได้อยู่ในเหตุการณ์จริงท่านจะรู้ว่ามันกดดันมาก ถ้ายิงเข้ามาในบ้านเรามีสิทธิ์ป้องกันเต็มที่ เรื่องแบบนี้ศาลน่าจะเห็นใจครับ ส่วนตำรวจท่านก็ต้องตั้งข้อหาฆ่าคนตายไปตามหน้าที่และครับ มันเข้าองค์ประกอบ สุดท้ายศาลที่จะตัดสินไปตามข้อเท็จจริงครับ

       สมมุติว่าเค้าหนี อะไรมาซักอย่าง หรือเค้าเมายา  ถ้าเรายิงตอบโต้ไป เท่ากับว่าเราเปิดศึกและอาจจะเป็น จุดเด่นว่า
 เราเป็นศัตรูกับเค้า มากกว่า ครับ  จากคำถามของเจ้าของกระทู้  บอกว่า  (เหตุเกิดยามค่ำคืน เเละยิงเข้ามานอกเขตรั้ว บ้านของเรา)
      นั้นหมายความว่า  เค้าอยู่นอกบ้าน  ครับ  เป็นผม ผมหาที่หลบ ครับ แล้วแจ้งตำรวจ หลังจากนั้น ค่อยว่ากันอีกรอบว่าจะ
เรียกร้องค่าเสียหาย และค่าทำขวัญ เท่าไหร่อย่างน้อย ก็ได้ตังค์เพิ่ม ครับ ส่วนตัวผม ผมคิดว่าไม่น่าจะแลก เพราะ ว่า การที่ผมมีปืนไม่ได้หมายความว่า ผมจะยิงไม่เข้า  ลูกปืนเราก็มองไม่เห็น จะเห็นอีกทีก็ต่อเมื่อหมอเอาให้ดู หรืออาจจะไม่มีโอกาส ดูซะด้วยซ้ำ
อย่าว่าแต่ลูกปืนเลย ครับ แค่ กระสุนจากหนังสติ้ก ผมยังหลบไม่ได้เลยครับ  ::005::
   

ผมคิดว่าถ้าในเมืองในชุมชนก็ทำอีกแบบ  ในชนบทที่บ้านห่างๆกันก็ทำอีกแบบครับ     :VOV:

ถ้าการกระทำของเราเป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุครับ ::002::

เรื่องอย่างนี้ บางครั้งมันขึ้นอยู่กับ เหตุการณ์ประกอบ ในเวลานั้นด้วยครับ
ถ้าเป็นการยิงเข้ามาโดยไม่มีใครบาดเจ็บ แล้วมันหนีไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะตามไปแก้แค้น
ก็คงได้แต่ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เผื่อมันกลับมาอีกในวันข้างหน้า เรายังมีบันทึกประจำวันไว้อ้างต่อศาล
ในกรณีเกิดเหตุขึ้นอีก
ส่วนถ้าเป็นการยิงคุกคามเพื่อเอาชีวิต เราหรือคนในบ้าน อย่างนี้ คงต้องตายกันไปข้างครับ
เรื่องกฎหมายในกรณีหลังนี่ คงไม่ต้องนึกถึงเท่าไหร่ในเวลานั้น เอาชีวิตตัวเองและคนในครอบครัวให้รอดก่อนครับ

เห็นด้วยกับคุณศักดาครับ แต่ถ้าเข้ามาในอาณาเขตบ้านเรามีอาวุธด้วยคงไม่ต้องคุยแล้วครับ

เห็นด้วยกับคุณศักดาครับ

ถ้าเขายิงเข้ามานัดเดียวและไม่เข้ามาในเขตรั้วบ้านแจ้งตำรวจจัดการดีกว่าเราเป็นต่อ
แต่ถ้าเรายิงสวนเราเป็นรองและถ้าเขาบุกเข้ามายิงในบ้านเราผมยิงสวนแน่ๆมีลุ้น50/50
ไม่เขาก็เรา

ขออนุญาติใช้กะทู้ครับมีเรื่องคล้ายกันเมื่อวานขับรถไปรับลูก(คือบ้านผมจะมีทางเข้าส่วนตัวระยะ80ม.ปากทางมีบ้านอยู่หลังเดียวส่วนเพื่อนบ้านหลังอื่นๆ100ม.ขึ้น)พอไปถึงปากทางพบมอเตอร์ไซด์ล้มทับผู้ชายคนหนึ่งเพื่อนบ้านปากทางกำลังช่วยยกและผมก็ลงไปช่วยพอยกรถเรียบร้อยชายคนนั้นก็ลุกขึ้นเมามากและพกปืนสั้นปลอม(กระบอกละ100ที่เด็กๆเล่นกัน)เสร็จแล้วก็รีบขับรถออกไปผมไม่รู้จักแต่เพื่อนบ้านรู้จักและรู้จากพ่อแฟนว่าเมายาด้วยทีนี้ผมสงสัยว่าเป็นคนพื้นที่จะบอกว่าหลงไม่น่าใช่และถ้ารถไม่ล้มเข้ามาถึงบ้านผม ผมต้องดูทางหน้าต่างพบชายแปลกหน้าพกอาวุธปืนสั้นแล้วจะเป็นอย่างไง870ก็วางไว้แถวนั้นตลอดเวลางานเข้าแน่ๆเพราะนึกทีไรก็ตอบว่ายิงทุกที ถ้าเป็นเพื่อน สมช จะทำอย่างไร

เเจ้งตร.ครับ  จวนตัวผมยิงเท่านั้น

เห็นด้วยครับ สิทธิ์ขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตนตามสมควรแก่เหตุ

เป็นผม บอกเลย  ผมเป็นเจ้าหน้าที่(พูดให้กว้างไว้) คนเก็บค่าไฟ/ ค่าขยะ  ก็เรียก" เจ้าหน้าที่"  เหมือนกัน ::007::
แล้วถามว่า" ทำไมถึงพกปืน  พกทำไม"แค่ นั้น ความเมาก็จะจางหายไป เพราะเค้าเข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ  แต่เราบอกแค่เป็นเจ้าหน้าที่
มั่ว เข้าไว้  แล้วจับข้อมือเค้าให้แน่น  เค้นถามหรือถ่วงเวลาให้ ตำรวจ จริงๆ มาก็เท่านั้น  แต่ต้องระวังด้วยครับ 
  ให้ดี อย่าให้เค้ารู้ ว่าบ้านเราอยู่ไหนเป็นดีที่สุด  เดี๋ยวมันจะแค้นเอา  ::007:: ::007::
 ที่ศึกษามาจากเวป  ปืนปลอม เป็นสิ่งเทียมอาวุธ  ถ้าก่อคดีจริงๆก็โดนเหมือนกันกับพกอาวุธ ครับหรือรอด้านกฎหมายผู้รู้ท่านอื่น ครับ ::014::
  ผมว่าวันนี้ผมมี สาระ นะ   ;D ::014::

ครับพี่ ถ้าใช้ปืนปลอมเพื่อให้ผู้อื่นสำคัญผิดว่าตนเองมีอาวุธร้ายแรง ก็ถือว่าผู้นั้นใช้อาวุธในการกระทำความผิดด้วยครับ อย่างเช่นถ้าใช้ไปชิงทรัพย์ ก็จะได้อัพเกรดโทษจากชิงทรัพย์ เป็นชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนครับ

ดึกๆดื่นๆกลางคืนมืดๆดันมายิงใส่บ้านเรา ถ้ายิงมาหลายๆนัด ความเห็นส่วนตัวผมว่าน่าจะส่องกลับไปทางเสียงปืนได้สักนัดสองนัดเพื่อปกป้องกันเขายิงมาอีกได้นะครับ  เพราะถ้ามัวไปรอแจ้งตำรวจหรือคนช่วยเหลือ  มันอาจจะยิงสุ่มเข้ามาแล้วถูกเราได้

เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกระทู้นี้มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อคราวชวนภรรยาไปค้างที่ไร่ฃึ่งไปปลูกบ้านไว้ติดเชิงเขา บรรยากาศช่วงราว3ทุ่มชั่งเงียบสงัดเปลี่ยวและวังเวง แต่ก็เหมาะกับการนั่งดื่มคนเดียวชมดาวเดือนฃึ่งหาไม่ได้ในเมืองกรุง ทันใดนั้นเห็นแสงไฟหน้ารถคันหนึ่งเลี้ยวขึ้นมาจากทางเข้า     .เอ...รถมันหาใครหว่าที่นี่ไม่มีบ้านอีกแล้วนอกจากเราและเราก็ไม่รู้จักใครด้วยนานๆถึงมาที(คิดในใจ..ถามตัวเอง) เราก็นั่งดื่มและดูท่าทีอยู่เห็นใกล้ถึงเราแล้วห่างราว200ม.(ระยะทางเข้าถึงบ้าน500ม.เป็นทางลูกรังเล็กๆผ่าไร่ข้าวโพดขึ้นมาถึงบ้าน)  อ้าว...รถจอดพร้อมดับไฟหน้า เสี่ยววินาทีนั้น...เปรี้ยง..? แสงไฟวาบ เราชักเพื่อนรักออกมาจากกระเป๋าสะพายกระชากขึ้นลำดังฉึ๊ง.ฉับในวินาทีเดียวกัน...เมียร้องมาจากในบ้าน.เสียงอะไรน่ะ.  เปิดโฃดา(เราตอบไปไม่ให้รู้ครามจริงคนตาแหกพรรค์นี้) หลังจากนั้นรถดังกล่าวก็ถอยเข้าดงข้าวโพดเปิดไฟหน้าเลี้ยวลงไป เช้ากินข้าวเสร็จยังไปดูร่องลอยยังมีลอยล้อแต่ไม่พบปลอกกระสุน แล้วเก็บของกลับกรุงเทพ ทุกวันนี้ก็ยังไปค้างบ้านโน้นเสมอและก็ยังไม่รู้เป็นโคร สงสัยเจ้าถิ่นมาทดสอบกำลังใจ ป.ล.เป็นเรื่อง3ปีมาแล้ว

 ::014::ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นนะครับ โอกาสหน้ามีข้อสงสัยอะไรเเล้วจะมาขอความรู้อีกนะครับ ::002::

เป็นผมถ้าได้ยินนัดแรกแล้วคงไม่ปล่อยให้มีนัดที่สองหรอกครับถ้ายิงเข้ามาอีกโดนใครมันจะไม่คุ้ม อย่างน้อยก็ ยิงขู่ล่ะครับ ลงพื้นด้านที่ได้ยินเสียงหลายๆนัด (ปลุกชาวบ้านด้วย)ถ้าไม่หยุดคงต้องเอาจริง
แล้วอย่าลืมแจ้ง ตร.ด้วยนะครับถ้าผู้คุกคามไม่หยุดก่อนตำรวจมาก็คงแล้วแต่การตัดสินใจของแต่ละท่านแล้วครับ ::014::


ตอนท่านไม่อยู่มีคนเฝ้าหรือเปล่า ถ้าไม่มีอาจเป็นผู้ที่ใช้บ้านท่านผักผ่อนหรือทำกิจกรรมอื่นก็ได้ครับ

ไม่มีคนเฝ้าครับ แค่ฝากคนเช่าไร่เราทำ อาจจริงดังท่านว่า

เห็นด้วยกับพี่ศักดาครับ เเจ้งตำรวจดีกว่า ถ้ายิงนัดเดียวเเล้วหยุด
เเต่ถ้ายิงเเล้วจะบุกเข้าบ้านก็อีกเรื่อง 1 ครับ