เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: kon tung kru 91 ที่ กันยายน 11, 2010, 09:13:17 PM



หัวข้อ: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kon tung kru 91 ที่ กันยายน 11, 2010, 09:13:17 PM
                สวัสดีทุกๆท่านครับ เรื่องนี้ แม้ผมยังไม่เคยเจอกับตัว แต่ก็ได้รับได้ฟังจากประสบการณ์เล่ากล่าว

ของคนใกล้ตัวผม

                เรื่องนี้มีอยู่ว่า สมัยประมาณ 40 กว่าปีก่อน คุณพ่อผมยังเป็นวัยรุ่นอายุประมาณ 20-22 ขณะนั้น

ท่านยังเป็น นศ. อยู่ เป็นศิษย์เก่ามหาลัยดังของ จ.เชียงใหม่ (สงวนชื่อมหาลัยนะครับ) ท่านก็เล่าให้ฟังว่า มีอยู่วัน

ได้ชวนเพื่อนๆ จากหอพักในมหาลัย ไปเดินในเมืองบ้าง ประตูท่าแพบ้าง มีแวะไปหาของอร่อยๆทานกันตามประสาวัยรุ่น

จนสักประมาณ กี่ทุ่ม ! ไม่แน่ใจครับ แต่ก็เริ่มดึกแล้ว จึงชวนกันกลับหอพัก คุณพ่อผมก็ส่งเพื่อนที่หอพัก 1 เหลือพ่อผม

คนเดียวที่อยู่หอพัก 3 ท่านก็ต้องเดินไปอีกพอสมควร (เดินคนเดียวและไม่มีใครอยู่แถวนั้นแล้ว) ระหว่างเดินยังไม่ถึงหอ

คุณพ่อก็เล่าให้ฟังว่า เหมือนมีเงาคนเดินตามหลังมา คุณพ่อก็หันหลังไปมองครับ แต่ปรากฏไม่มีใคร เงาก็หายไป

ท่านก็ไม่คิดอะไรก็เดินต่อ ปรากฏว่า เริ่มมีเงาคนเลื่อนๆเข้มขึ้นเรื่อยๆตามหลังมาอีก คราวนี้คุณพ่อก็ไม่หันไปมอง

แล้ว เพราะ อีกไม่ไกลก็ถึงหอพัก ท่านก็รีบเดินอย่างเร็วจนถึงหอครับ สำหรับเรื่องนี้ ผมก็ถามคุณพ่อว่า ตาฝากหรือเปล่า

หรือมีคนอื่นหลงเข้ามาก็เป็นไปได้นะ คุณพ่อบอกว่า ดึกขนาดนั้นจะมีใครล่ะ ! เสียงคนเดินตามหลังก็ไม่มี มีพ่อคนเดียวแน่นอนลูก

ผมก็ถามอีกว่า "เงาพ่อหรือเปล่า" พ่อบอกว่า ไม่ใช่ ! เพราะ เป็นเงาบุคคลที่สองตามหลังพ่อมา ห่างเงาของพ่อไม่กี่เมตรเอง

และที่สำคัญคือ มันไม่มีเสียงเดินด้วยนี่สิ 

                สมัยนั้นพ่อผมบอกว่า มหาลัยดังกล่าว ยังเป็นพื้นที่ป่าอยู่มาก ไฟถนนก็มีน้อย มีหอพัก นศ. ไม่กี่หอพัก

ส่วนเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของพี่ๆแต่ละท่านนะครับ หรือ พี่ๆท่านใด มีประสบการณ์ในเรื่องของจิตวิญญาณ

ที่ได้เคยสัมผัสมาบ้าง ลองมาเล่าคุยกันให้ขนหัวลุก ก็เชิญได้นะครับ  ::014::  ::014::           


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sada ที่ กันยายน 11, 2010, 09:17:08 PM
แล้วผม จะเข้ามาทำไมเนี้ย  :~)


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ กันยายน 11, 2010, 09:19:31 PM
 ::007::ขออนุญาตขำบังครับ รู้ว่ากลัวยังจะเข้ามาอ่านอีก ::007::


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kon tung kru 91 ที่ กันยายน 11, 2010, 09:26:13 PM
                 แต่เรื่องนี้ ผมนับถือคุณพ่อก็ตรงที่จิตท่านค่อนข้างแกร่งครับ หากเป็นผม ผมวิ่งนะครับ

แม้ผมไม่เคยเจอผีวิญญาณของจริง แต่เมื่อผมดูหลังละครเรื่องผีจบเวลากลางคือ แม้กระทั่งเมื่อก่อน

มีรายการชั่วโมงพิศวง หลังละคร ผมดูจนติดครับ ใจมันก็อยากดู แต่พอดูจบก็ทำให้ผมไม่กล้าปิดไฟ

จริงๆครับ เนื่องจาก ภาพปริศนาที่ถ่ายติดมาในกล้อง ที่ทางรายการนำเสนอ ผมก็ขนลุกแล้วครับ จริงๆ  :OO   :OO 


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ กันยายน 11, 2010, 10:19:28 PM
มีหลายเรื่องอยู่เดี๋ยวเล่าให้ฟังวันหลัง  เหอๆๆ   ::008::


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กันยายน 11, 2010, 10:34:58 PM
 ::014::ปูเสื่อรอฟังครับ

 ::005::เพิ่งกลับจากดูผีมาครับ...ผีชีวะ 4...หนุกดี...ไม่น่ากลัว


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sukan2525 ที่ กันยายน 11, 2010, 11:38:04 PM
ใครเชื่อเรื่องเป้าบ้าง เป้า ก็คือ ผีเป้านั่นเอง  ทางบ้านผมยังมีนะครับ ตัวหนึ่ง ไปหาปลากลางคืน พอได้วิ่งกันหนุกๆ 
มันไม่ทำไรคนหรอกครับ มันก็หากินของมัน แต่ถ้ามันแก่กล้าแล้ว อย่าไปใกล้มัน มันเอาไข้ตาย
คนเฒ่าคนแก่บอกว่ายังเหลือตัวหนึ่ง แต่หาที่อยู่ไม่เจอ  จะเป็นผอบ นวด เขาเอาไว้ทุ่งนา

โปรดใช้วิจารณญาณ อยากให้ทายว่าเป็นลักษณะอย่างไรกันครับ ผีเป้าเนี่ย


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ กันยายน 12, 2010, 07:01:37 AM
ลองเข้าไปอ่านกระทู้ของอาศักดาสิครับ ผมมีประสบการณ์ตรง ;)


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ กันยายน 12, 2010, 10:37:22 AM
 ::005::เป้านี้ เป็นนักร้อง หมอลำ หรืออะไรก็ได้ ยกเว้นผี ....ฉะนั้น ผีเป้าที่ว่า ไม่ใช่ผมเด้อ...อิอิอิ ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ กันยายน 12, 2010, 12:12:45 PM
ช่วงปี 51 ผมมีโอกาสเข้าไปนอนในห้องICU 3 ครั้งในเวลาห่างกันไม่ถึงเดือน

พบเหตุการณ์ที่คิดว่าก้ำกึ่งว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณหรือไม่...จึงขอให้ท่าน

ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ได้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ

เข้าICUรอบที่ 1

ผมถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลใกล้บ้านไปที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งมีเครื่องมือพร้อมกว่า

ไปถีงก็ได้รับการตรวจรักษาโดยให้อยู่ในห้องผู้ป่วยซึ่งต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

ก็มีคนไข้หลายๆรายนอนรักษาตัวรวมอยู่ห้องนั้น....มีอยู่รายหนึ่งประสพอุบัติเหตุเพิ่งเข้ามาใใหม่

พยาบาลก็เข้าไปรุมล้อมดูแลกันอย่างฉุกละหุก...สุดท้ายมีเสียงครอกๆออกมาจากคอของคนไข้รายนั้น

แล้วพยาบาลก็ดึงผ้าห่มปิดหน้าคนไข้...เสียงญาติที่มารอดูอาการที่หน้าห้องร้องไห้กันระงม

ผมเดาว่าเขาสิ้นใจไปแล้ว....เตียงนั้นอยู่ริมสุดทางด้านซ้ายมือของแถวที่ผมนอน

เข้าICUรอบที่ 2

หลังจากผมออกจากห้องICUรอบแรกแล้วก็ถูกย้ายไปอยู่้หองพิเศษได้ 3 วัน

ก็ต้องเข้าห้องผ่าตัด...หลังจากดมยาสลบไปผมก็ไม่รู้ตัวอีกเลย....จนกระทั่งฟื้นขึ้นมาก็รู้ว่าอยู่ใน

ห้องICUเป็นการเข้าห้องนี้เป็นรอบที่ 2ก็ได้ยินเสียงคนไข้คนอื่นๆส่งเสียงโอดโอยเบาๆพอได้บรรยากาศ

แล้วก็มีเสียงครอกๆแทรกเข้ามาเป็นระยะ....คงจะเมายาสลบหรือยาอะไรอย่างอื่นทำให้ผมหลับต่อไป

ตื่นขึ้นมาคงจะเป็นเวลาดึกมากแล้ว.....เสียงโอดโอยหายไปหมดเพราะคนไข้เหล่านั้นก็คงจะหลับหมดแล้ว

แต่ก็ยังมีเสียงครอกๆดังแว่วมาเป็นระยะ...ตื่นมารอบนี้สติสัมปะชัญญะของผมค่อนข้างแจ่มใส

ก็เลยมองไปรอบๆห้องสังเกตรอบๆห้องไปเรื่อยๆ....ครอกๆเสียงนี้แว่วมาอีก...เอ....มันดังมาจากไหนนะ

ผมมองไปทางขวา....อ้อ....โน่นมันเตียงที่เรามานอนเมื่อเข้ามาครั้งแรกนี่นา....มีเด็กมานอนแทนซะแล้ว

หันมองไปทางซ้ายบ้าง....เอ้า....ติดผนังห้องนี่เอง....อ๋อ....ตอนนี้เรานอนอยู่เตียงริมสุด  :OO

แทนไอ้เจ้าของเสียงครอกๆนี่นา  :OO


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ กันยายน 12, 2010, 12:21:03 PM
 :OO ยังมีเรื่องเข้าห้องICUรอบ 3 อีกนะครับ....ขอเรียบเรียงก่อนครับ  :OO


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: STECON ที่ กันยายน 12, 2010, 02:10:22 PM
จองที่นั่งแถวหน้านั้งรอฟังต่อครับ


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kon tung kru 91 ที่ กันยายน 12, 2010, 02:22:43 PM
               นอกจากเรื่องราวของพ่อผมที่ท่านเจอมากับตัว พี่สาวผมก็เจอมาเหมือนกันครับ คือประมาณ 5-6 ปี

ที่แล้ว พี่สาวผมเรียนจบโท และเพิ่งได้รับเข้าทำงาน เป็นนักข่าว แผนกช่างภาพ แต่ประเด็นคือที่ทำงานไกลบ้าน

บ้านหลักผม คือ ประชาอุทิศ ข.ทุ่งครุ แต่ที่ทำงานพี่อยู่แถวพหลโยธิน พี่จึงกลับบ้านลำบากเลยอยู่กับเพื่อนผู้หญิง

โดยเช่าอพาร์ทเม้นท์ ใกล้ๆแถวนั้น แต่ก็อยู่ได้ไม่ถึงเดือนครับ เพราะ มีเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น มีอยู่คืนนึง

พี่ผมกับเพื่อนอีกคนนอนหลับ อยู่ดีๆ ก็มีเสียงเหมือนคนอาบน้ำในห้องน้ำพี่จึงสะกิดเพื่อนบอกว่า ได้ยินเสียง

เหมือนคนใช้น้ำในห้องน้ำชัดเจน แกได้ยินบ้างไหม ปรากฎว่า เพื่อนพี่ผมก็ได้ยินเหมือนกันครับ จึงต้องพิสูจน์

พี่จึงเข้าไปตรวจห้องน้ำ ปรากฎว่า พื้นอ่างอาบน้ำแห้งสนิท ฝักบัวแห้ง ก๊อกน้ำก็แห้งสนิทครับ แม้แต่อ่างล้างหน้า ก็แห้ง

ก๊อกปิดสนิท ไม่มีน้ำไหลซึมด้วย  ??? คราวนี้พี่สาวผมก็เริ่มไม่ค่อยดีแล้ว พอตอนเช้า ก็โทรมาหาผมที่บ้าน ขอคุยกับแม่ผม

พี่ก็เลยเล่าเหตุการณ์อันน่าพิศวงนี้ ให้แม่ฟังตามที่กล่าวไปครับ คุณแม่บอกว่า มีอยู่ทางเดียวคือ ช่วงนี้ก่อนนอน ต้องสวดมนต์

แล้วแผ่เมตตา เดี๋ยวหาจังหวะดีๆแล้วย้ายหอเลย นอกจากนี้ พี่สาวผมก็ได้ลงไปที่เคาน์เตอร์ชั้นล่าง เล่าเหตุการณ์นี้ให้กับ

เจ้าของหอพักครับ จากนั้นก็ได้คำตอบจากเจ้าของหอว่า ห้องถัดจากห้องคุณข้างๆ เคยมีคนเสียชีวิตมาก่อนหน้านานแล้วนะ

พอพี่สาวผมทราบเรื่องนี้ พี่จึงตัดสินใจขอย้ายออกวันนั้นครับ แล้วหาหอใหม่ได้ไปอีกไม่ไกล พอผ่านเหตุการณ์นี้หมาดๆ

ช่วงเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น พี่สาวผมถึงจะกลับบ้านที่ทุ่งครุ แล้วก็ได้ชวนพ่อ แม่ และผม ไปทำบุญที่วัด กรวดน้ำ แผ่เมตตาให้กับ

ผู้เสียชีวิตห้องข้างๆ แล้วหลังจากย้ายหอ ก็ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเลยหลังจากวันนั้นครับ  :OO  :OO  ::014::      


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kon tung kru 91 ที่ กันยายน 12, 2010, 02:42:14 PM
                เรื่องที่สอง พี่สาวผมอีกตามเคยครับ มีช่วงหนึ่งประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว จตุคามรามเทพ กำลังคึกคักมาก

กระแสแรงทีเดียว โดยเฉพาะพี่ผมมีอยู่หลายองค์ด้วย แต่มีอยู่องค์หนึ่งครับ สุนัขที่พี่สาวเลี้ยงไว้มันชอบเห่าตลอด

เวลาที่มันมองเห็นจตุคามองค์ปริศนานี้ พี่สามผมก็เลยดุมันว่า แกจะเห่าทำไมหนวกหู ซึ่งสุนัขตัวนี้ ปกติมันเชื่องครับ

เวลาพี่ผมดุมันจะกลัวแล้วไม่กล้า แต่ที่แปลกกว่าคือ รอบนี้มันเห่าตลอดครับ ตำหนิอย่างไรก็ไม่ยอมเลิก พี่สามผม

ก็ผิดสังเกต ทำไมมันมองไปที่จตุคามองค์ดังกล่าว แล้วชอบเห่าตลอด พี่สาวผมจึงมาปรึกษาหมอดูที่เป็นขาประจำ

แกดูแม่นมากครับเรื่องดวงโชคชะตา พี่สาวผม ก็ได้นำจตุคามองค์ดังกล่าว มาให้ท่านหมอดูตรวจดู โดยทำพิธีบ้าง

นิดๆหน่อยๆ ปรากฎว่า ได้คำตอบจากหมอดูท่านนี้ว่า จตุคามรามเทพองค์นี้ เนื้อจตุคามผลิตด้วยกระดูกมนุษย์

ผสมอยู่ (ผงกระดูกของคนที่เสียชีวิต) หลังจากนั้นพี่สาวผมจึงไม่ครอบครองครับ เลยนำไปให้หลวงพ่อ

องค์หนึ่ง วัดแถวปากเกร็ด ตรวดสอบ ก็ได้คำตอบเดียวกันคือ ผงกระดูกมนุษย์จากนั้น ก็ได้ทำพิธีที่วัดในวันนั้น

แล้วก็ได้นำจตุคามองค์นั้น ถวายวัดไปเลย  ::014::   


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: FCUK ที่ กันยายน 12, 2010, 09:03:22 PM
ผีจับศีรษะ  ผีลูบศีรษะ น่ากลัวเช่นกันครับ


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ กันยายน 12, 2010, 09:19:44 PM
สมัยหนุ่มๆชอบพาสาวเข้าป่าช้าครับ....เงียบดีกลัวนะครับไม่ใช่ไม่กลัว


หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ กันยายน 12, 2010, 09:24:34 PM
21 ปีผ่านมาแล้ว(ปี2532) ผมรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้าเป็นอาคารชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นที่เพิ่งต่อเติมโดยแต่เดิมมี 3 ชั้น  อาคารนี้อยู่ริมถนนวิภาวดีรังสิต ยาวขนานกับถนนวิภาวดี ตรงนั้นมีอยู่ 2 อาคารเดิมเป็น 3 ชั้นทั้งคู่ ตอนที่ผมไปรับงานมานั้นเป็นอาคารแรกที่ต่อเป็น 4 ชั้น ปัจจุบันทั้ง 2อาคารเป็น 4 ชั้นแล้ว แต่อีกอาคารหนึ่งซึ่งต่อเติมภายหลังจากนั้นผมไม่ได้รับงานระบบไฟฟ้า  

ในช่วงแรก ๆ ก็นำ นศ.ที่สอนอยู่ โดยนำ นศ.ภาคค่ำที่ยังไม่มีงานทำ ไปทำงานนี้  ส่วนในวันเสาร์-อาทิตย์ก็ให้ นศ.ภาคเช้าไปทำงานแทน โดยมีเพื่อน ๆ อาจารย์อีก 4 คน รวมตัวผมด้วยเป็น 5 คน ร่วมกันรับงานนี้ แล้วผลัดกันไปควบคุมงานตามชั่วโมงที่ว่างเว้นจากงานสอน

เมื่อเดินสายไฟถึงห้อง ๆ หนึ่ง ตามแบบแปลนระบุว่าจะใช้เป็นห้องไมโครเวฟในอนาคต  ได้ให้ นศ.เดินท่อ EMT ที่เพดานและผนังรวมทั้งร้อยสาย THW (สายตัวนำเดี่ยวสำหรับร้อยท่อ) ใส่ในท่อตามแบบจนครบในท่อทุกเส้น แต่ยังไม่ได้เดินสายเมนเข้ามา และเนื่องจากเป็นชั้นที่ต่อเติมใหม่จึงยังไม่มีระบบไฟฟ้าใด ๆ  โดยหากจะใช้เครื่องมือไฟฟ้าจะต้องต่อสายลากมายาวไม่น้อยกว่า 30 เมตร  ซึ่งเมื่อถึงตอนเย็นก็จะกำชับให้ นศ. เก็บอุปกรณ์ทั้งหมดไม่ให้หลงเหลือ แล้วพวกเราอาจารย์ที่ดูแลอยู่ก็จะเดินตรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนที่จะเลิกงาน  

รุ่งขึ้นปรากฎว่า สาย THW ที่ร้อยอยู่ในท่อไหม้เกือบทุกเส้น โดยตัวท่อไม่มีรอยไหม้หรือโดยความร้อนใด ๆ รวมทั้งปลายสายก็ยังเป็นแนวตัดปล่อยปลายตามปกติของสายที่ร้อยท่อใหม่ ๆ ผนังบริเวณที่เดินท่อก็ไม่มีรอยไหม้ใด ๆ   พวกเราทุกคนหาสาเหตุที่สายในท่อไหม้เกรียมไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ ตอนนั้นทำได้เพียง ลากสายเดิมออกแล้วร้อยสายใหม่แทน

หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ก็ให้ นศ. เดินท่อสวิตช์ไฟทางเดิน  โดยที่หน้าประตูห้องไมโครเวฟได้สกัดปูนไว้ฝังสวิตช์ไฟทางเดินไว้ และ นศ.ได้เดินท่อรวมทั้งร้อยสายลงมาเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะสั่ง นศ.เสมอว่า ต้องม้วนปลายสายยัดไว้ใน บ๊อกซ์ ที่จะติดสวิตช์เสมอ อย่าปล่อยปลายสายออกมานอกบ๊อกซ์  เย็นวันนั้นผมไม่อยู่แต่เพื่อนผมเป็นคนเดินตรวจความเรียบร้อยก่อนจะเลิกงาน

เมื่อเขาเดินผ่านห้องดังกล่าวโดยประตูห้องอยู่ทางด้านขวา เขารู้สึกว่าสายไฟจากบ๊อกซ์มาเกี่ยวข้อมือขวาของเขา  ตอนนั้นเขาเล่าว่าเขานึกตำหนิ นศ.ที่ไม่เก็บปลายสายให้เรียบร้อย จนเมื่อเขาเดินไปสุดตึกแล้วเดินกลับมาก็ตกใจเพราะปรากฎว่าปลายสายไฟก็ถูกม้วนไว้ในบ๊อกซ์อย่างเรียบร้อย เขาเล่าให้ฟังว่า "ขนลุกซู่" แล้วรีบเดินลงมาชั้นล่างและเก็บขนกลับโดยเร็ว

จากนั้นเย็นอีกวันหนึงเป็นเย็นวันเสาร์ นศ.ที่เก็บของเลิกงานเดินลงมาบอกเพื่อนผมว่า เขาเดินลงมาเป็นคนสุดท้าย ระหว่างเดินตามทางเดินมีเสียงคนเดินตามและใช้มือดันใบมีดคัตเตอร์เข้า ๆ ออก ๆ ตามมาด้วย แต่หันกลับไปก็ไม่มีใครอยู่

จนกระทั่งปลายเดือน ก.ย.ต่อต้นเดือน ต.ค.2532 นศ.ของพวกเราติดสอบปลายภาค ต้องให้หยุดงานประมาณ 10 วัน แต่งานต้องเดินหน้าเพราะต้องส่งงานตามงวด จึงต้องจ้างช่างไฟฟ้าจำนวน 4 คน มาทำงานแทน โดยช่างขึ้นนั่งร้านเหล็กมาตรฐานสูง 1.80 ม. เพื่อเดินท่อวงจรไฟทางเดินแบบพิเศษ ที่ตัวผมเป็นคนออกแบบไว้ แล้วตัวผมเองก็ต้องเป็นผู้ควบคุมเอง  วันนั้นช่างที่อยู่บนนั่งร้านกำลังเดินสายมาถึงหน้าห้องไมโครเวฟ และสิ่งที่ไม่น่าเกิดก็เกิดขึ้นนั่นคือ ช่างไฟฟ้าตกนั่งร้าน ต้องพาไปเย็บขมับซ้าย 3 เข็ม  ทั้ง ๆ ที่บนนั่งร้านก็ปูไม้พื้นหน้ากว้าง 8 นิ้วไว้ถึง 2 แผ่น  และไม้ทั้ง 2 แผ่นก็ไม่ได้ตกลงมาแต่ประการใด

ในเวลาเพียงไม่ถึง 6 สัปดาห์ มีเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้เกิดขึ้นถึง 4 ครั้ง บริษัทผู้รับเหมา(คู่สัญญากับเจ้าของตึก)ต้องนิมนต์พระมาทำบุญอุทิศส่วนกุศล

ต้นเดือน พ.ย. 2532  งานใกล้เสร็จ เหลือแต่เก็บงานเล็ก ๆ น้อย ๆ  ที่ห้องไมโครเวฟมีสาว ๆ ที่จะต้องทำงานในห้องนั้นขึ้นมาดูห้องทำงานใหม่ ขณะนั้นผมและเพื่อนก็อยู่ในห้องนั้นด้วย สาว ๆ ถามว่าระบบไฟห้องนี้ใช้งานยังไง เพื่อนผมเป็นผู้อธิบายการใช้งานให้ ส่วนผมบอกกับคุณเธอทั้งหลายว่า ห้องนี้คงทำงานได้อย่างอบอุ่น รับรองว่าไม่เหงาครับ

ทุกวันนี้หากขับรถผ่านไปก็ยังหันมองไปที่อาคารนี้เสมอ ๆ    
 



  





หัวข้อ: Re: ประสบการณ์ใกล้ชิดวิญญาณ ขอเล่าสู่กันฟังนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ กันยายน 14, 2010, 02:12:01 AM
ฤดูหนาวที่ผ่านมาวันนึง ตอนดึกเพื่อนบ้านนอนกันหมดแล้ว  ผมกำลังเก็บล้างจานชามจากมื้อเย็น และล้างตู้เย็นแถมไปด้วย  เนื่องจากมีธุระเช้าและจะไม่อยู่บ้านหลายวัน  นั่งล้างอยู่นอกบ้าน อากาศเย็นสบาย ยุงก็ไม่มี มีแต่เสียงทีวีบ้านผมรอดออกมาเบาๆ  ความรู้สึกเหมือนกับว่า หมู่บ้านนี้เป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว ฮ่าๆๆ   แต่แล้วอยู่ไม่อยู่ ก็มีหมาหอนรับกันหลายตัว มันหอนไป ๒ รอบจะขึ้นรอบที่ ๓ ผมก็รู้ตัวว่า เดี๋ยวใจมันจะต้องนึกกลัวผีแน่ๆเลย  ตอนนั้นก็เลยนึกถึงบุญความดีที่เคยทำมาบ้าง แล้วแผ่เมตตาไปรอบๆตัว ไกลสุดขอบฟ้า นึกในใจเบาๆ สัพเพสัพตา...  เสียงหมามันเงียบทันทียังกับปิดสวิทช์ไฟเลยครับ  ตอนนั้นก็นึกเอาไงดี ใจมันจะฟุ้งแล้ว มองต้นไม้เพื่อนบ้านเริ่มน่ากลัวซะแล้ว งานนี้ล้างไม่เสร็จแน่วุ้ย  เลยกลั้นใจท่องในใจพุทธโธๆๆๆ มือก็ล้างๆๆๆๆ โครมๆ เก็บของเข้าบ้าน สวดนโม ๓จบ บทอื่นลืมหมด ด่าตัวเองว่าห่างวัดจริงมึ.. หลับตานอนแต่ใจก็นโมตัสสะไปเรื่อยๆ จนหลับไปเอง

พอตอนเช้าผมพิจารณาเคสนี้แล้ว เป็นเพราะ ผมจ่ายกับข้าวโอเวอร์ไปหน่อย  เนื่องจากกะจะจิบเบียร์สัก ๒ ขวดพร้อมดูหนังไปด้วย แต่เนื่องจากห่างแอลกอฮอล์มานาน แถมกลางวันก็เก็บบ้านล้างรถจนเพลีย ตอนเย็นก็ทำกับข้าวอีก ผลคือ ผมมึนตั้งแต่ครึ่งขวดแรกแล้วครับ แถมไม่นึกอยากอาหารอีก เลยยอมแพ้ขอหลับสักงีบ  พอตื่นมาตอนดึกเพราะปวดหลังกับปวดฉี่ ก็ต้องตัดใจทิ้งหมด  สัญญาว่า คราวหน้าจะไม่ล้างอะไรดึกๆอีกแล้วครับ กับแกล้มแค่เลย์กับโก๋แก่ถุงเล็กๆหลายๆถุงก็พอแล้ว เหลือก็เก็บไว้ได้  ::005:: ::005::

ส่วนอีกเรื่องเป็นเรื่องของพ่อผม  เมื่อเกือบ ๕๐ปีก่อน  ตอนนั้นแกเป็นวัยรุ่นบ้านนอก  เป็นพี่ชายคนโตที่ไม่ชอบเรียนหนังสือ  แต่ชอบเที่ยวเล่น และยิงนกตกปลา หาอาหารเข้าบ้านตามวิสัยคนยุคนั้น  มีอยู่วันนึง แกไปหาปลาตอนมืดแล้ว แต่ไม่ดึกมาก แกไปของแกคนเดียว เพราะไม่ไกลบ้านเท่าไหร่ คุ้นเคยจนชินเลยไม่กลัว  ตอนนั้นแกเล่าว่าแกไปเจอผีหมา หรือหมาผี นี่แหละ แกบอกว่าตัวมันดำๆใหญ่ๆ ตาแดงเหมือนมีหลอดไฟอยู่ข้างใน มันอยู่คนละฝั่งคลอง แกเห็นมันแต่มันคงไม่เห็นแก  มันเดินอยู่ในพงไม้ริมคลอง แฮ่ๆ เรื่องนี้สั้นเท่านี้เองครับ

อีกเรื่องเป็นเรื่องทวดที่เป็นยายของแม่ผมครับ  เรื่องนี้ประมาณ ๒๐กว่าปีแล้วครับ  ตอนนั้นยาย(ผมเรียกตามแม่) ป่วยมาก ทางบ้านนอกโทรมาหาแม่ผมให้ไปหาหน่อย  แม่ผมก็หยุดงานไปอยู่บ้านนอกหลายวัน สุดท้ายยายเสีย ก็จัดงานกันไปจนเสร็จแล้วกลับกรุงเทพกัน  พอผ่านมาหลายวันแม่ผมก็คุยกับพ่อแล้วก็เพื่อนๆ  แม่แกเล่าว่า ยายแกป่วยมาก แล้วอยู่ๆแกก็ดีขึ้น แกก็ขอกินโน้นกินนี่  ผิดนิสัยแก  ๓ วันหลังจากนั้น ทางญาติก็เลยไปปรึกษาหลวงปู่ที่วัดใกล้บ้าน  หลวงปู่บอกว่ายายแกไปแล้ว  ที่อยู่ไม่ใช่ยาย แล้วก็ทำน้ำมนต์มาให้ บอกเอาไปให้กิน ก็ไม่กี่ชั่วโมงยายก็เสียครับ

อีกเรื่องของพ่อผมอีกแหล่ะ  แต่น่าจะเกี่ยวกับเวรกรรมมากกว่า
เรื่องมีอยู่ว่า  เมื่อ ๒๐กว่าปีก่อน พ่อผมที่เป็นเบาหวาน และมีแผลติดเชื้อตาปลาที่นิ้วโป้งเท้า  ได้เข้าไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแถวสำเหร่  ตึกศัลยกรรมชาย ยุคนั้นเตียงว่างแยอะ  นอนกันกี่วันก็ได้ชิวๆเพราะเป็นข้าราชการ  ตอนนั้นแกตั้งใจอย่างแรง  อยากจะนอนห้องพิเศษซะเหลือเกิน ก็พยายามหาทางติดต่ออยู่  นอนห้องรวมไม่มีแอร์อยู่ ๒-๓วัน คนห้องพิเศษก็ขอย้ายออกมานอนรวมกันคนอื่น  พ่อผมที่มีนิสัยชอบพูดคุยอยู่แล้ว ก็เข้าไปคุยด้วย  ก็ได้ความว่า แกนอนไม่ได้เพราะ โดนสารพัด กระตุกขาบ้าง อำบ้าง เข้าฝันบ้าง  พ่อผมก็เลยยกเลิกความตั้งใจทันที

แต่การยกเลิกฯ  ทำให้พบเรื่องๆนึง  คือว่า ระหว่างที่นอนรักษาตัวอยู่นั้น  ก็มีคนไข้ใหม่ที่ป่วยเป็นเบาหวาน และมีแผลที่นิ้วโป้งเท้าเหมือนกันเข้ามา(แต่คนละข้าง)  ก็นอนเตียงใกล้กันเลยครับ  เกิดแรงดึงดูดให้คุยกัน  ก็อยู่กันหลายวัน คุยกันมากมาย สารพัดเรื่อง  ได้ใจความว่า  ชื่อเหมือนกัน เกิดวันเดือนปีเดียวกัน ตอนเด็กเคยเอาเชือกผูกคอแมว ดึงเล่นอยู่ใต้ถุนบ้านจนแมวตายเหมือนกัน

ส่วนผลการรักษาก็คือ  คุณหมอแกบอกหายยาก ถ้าตัดแล้ว แผลจะหายเร็วทั้งคู่  ก็นอนสบตากันหลายวัน รอว่าใครจะออกตัวก่อน สุดท้ายต่างก็ตัดสินใจคือ  พ่อผมใจเด็ด  บอกกับหมอให้ตัดเลยมาถึงครึ่งหน้าแข้ง  ส่วนเพื่อนเตียงข้างๆตัดแค่นิ้วโป้ง  พ่อผมตัดแล้วไม่นาน ก็ใส่ขาเทียมไปเที่ยวไหนต่อไหนได้เหมือนคนปกติได้เป็นสิบปี  ส่วนเพื่อนใหม่อยู่ได้ไม่กี่ปีครับ  การตัดสินใจของแกครั้งนี้นับเป็นตำนานของแก  ที่แกต้องเล่าให้เด็กรุ่นน้องฟังเสมอ(ตอนกินเหล้า  ส่วนผมนั่งข้างๆคอยกินกับแกล้มข้างๆครับ ฮิฮิ)