|
หัวข้อ: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: BAER ที่ กันยายน 28, 2004, 09:57:30 AM ??? ??? ??? เมื่อวานได้ข้อมูลมาว่า ไทยเราผลิตเสื้อเกราะขายให้ราชการครับ
สนนราคาแว่วๆมาว่าประมาณ 20,000 กว่าบาท น่าสนมั๊กๆๆครับ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมช่วยแจ้งด้วยครับผม หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ กันยายน 28, 2004, 10:09:23 AM กฎหมายเขาห้ามประชาชนมีเสื้อเกราะกันกระสุนหรือสะเก็ดระเบิดครับ
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 28, 2004, 12:12:16 PM กฎหมายเขาห้ามประชาชนมีเสื้อเกราะกันกระสุนหรือสะเก็ดระเบิดครับ ไม่ได้ห้ามครับ แต่ควบคุมเหมือนกับปืน คือต้องขออนุญาต คุมน้อยกว่าด้วย เพราะไม่ต้องมีใบพกหัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: APACHE _ Love The King ที่ กันยายน 28, 2004, 12:16:54 PM พี่สุพินท์ ครับแล้วการกำหนดบทลงโทษเป็นอย่างไรบ้างครับ เช่น เสื้อเกราะ, ท่อเก็บเสียง อยากทราบครับผม
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: visith ที่ กันยายน 28, 2004, 12:53:05 PM ;) ข่าวว่า มีการแจกจ่ายเสื้อเกราะไปให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้แล้ว... ???
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: b@ll - รักในหลวง ที่ กันยายน 28, 2004, 01:14:06 PM (http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=199256)
(ซ้าย)เสื้อบางระจัน กับ ชุดนิรภัยครบชุดราคาไม่ถึง 20,000 บาท ผลงานล่าสุดของบริษัท พรีซิพาร์ท เสื้อเกราะ "บางระจัน" ประมาณช่วงปีเดียวกัน พ.ต.ต.ศรายุทธ เดินทางกลับจากการอบรมในอเมริกา เขาหยิบเสื้อเกราะกันกระสุนที่ได้รับแจกกลับมาให้ พ.ต.ทรงพล ดูแล้วถามว่า พี่ช่วยทำแบบนี้หน่อยได้มั้ย ตำรวจส่วนใหญ่ไม่มีใส่กัน พ.ต.ทรงพล พร้อมนายตำรวจทั้งสอง สลับผลัดเปลี่ยนกันเล่ารายละเอียดให้ฟังว่า เป็นที่รู้กันดีในแวดวงเจ้าหน้าที่ว่า เสื้อเกราะที่ได้รับแจกจากรัฐมีไม่เพียงพอสำหรับนำมาให้ตำรวจใช้ปฏิบัติงานอย่างทั่วถึง เพราะราคาแพงมาก พวกเขาบอกว่า ของมือสองหลังกระทรวงตัวหนึ่งยังราคากว่า 30,000 บาท แถมยังเป็นที่เคลือบแคลงไม่มั่นใจว่ากระสุนจะเจาะทะลุเกราะได้หรือไม่ ทั้งยังเป็นเกราะอ่อนที่ไม่สามารถป้องกันการกระแทกอวัยวะสำคัญอย่างลิ้นปี่และหัวใจในเวลาที่ถูกยิงได้ ตลอดจนไม่สามารถตรวจสอบการหมดอายุของเส้นใย และไม่เหมาะสมกับสภาพอากาศในบ้านเราด้วย ดังนั้น จากตัวอย่างแผ่นเหล็กที่มีอยู่ในเสื้อเกราะเมดอินอเมริกา ปลายปีนั้นเอง พ.ต.ทรงพล และทีมวิจัย จึงทดลองแสวงหาเอาเครื่องโลหะทั้งหมดที่อยู่ในไทยมาปรับปรุงคุณภาพตามกรรมวิธีโลหะวิทยา เขาใช้เวลาเพียง 15 วัน ได้แผ่นเหล็กขึ้นมา 1 แผ่น แต่ที่เหมือนปาฏิหาริย์ คือเมื่อลองใช้ปืน .357 บรรจุกระสุนเจาะเกราะยิงใส่แผ่นเหล็กแล้วไม่ทะลุตั้งแต่การทดลองในครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยก็ยอมรับว่ายังมีข้อด้อยตรงที่มีน้ำหนักมากกว่าต้นแบบ จนคนทั่วไปที่ทราบข่าวในตอนนั้นใช้คำว่า "โลว์เทค" แต่ไม่ว่าคนจะว่าอย่างไร เสื้อเกราะแข็งตัวแรกของไทย โดยคนไทย ก็ได้กำเนิดขึ้นมาแล้ว ผู้คิดค้นกล่าวสรรพคุณว่า เป็นเสื้อเกราะที่ใช้เหล็กกล้าชุบพิเศษ มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอีก 2 กิโลกรัมจากเสื้อเกราะเดิมของเมืองนอกที่ 3 กิโลกรัม ข้อดีคือ เป็นอุปกรณ์ป้องกันกระสุนปืนนานาชนิดได้ดีกว่าของต่างประเทศ ยิ่งหากเทียบราคา เสื้อเกราะกันกระสุนของต่างประเทศในระดับ "A 3" 1 ตัว สามารถซื้อเสื้อเกราะแข็งของไทยประดิษฐ์ได้ถึง 5 ตัว แม้จะมีน้ำหนักมาก แต่ก็ทนทานมีอายุคงทนได้ถึง 90 ปี เนื่องจากใช้ยางพาราหุ้ม ส่วนของต่างประเทศมีอายุไม่เกิน 7 ปี และไม่สามารถถูกน้ำได้ นอกจากนี้ทีมวิจัยก็ได้พัฒนาเสื้อเกราะโดยปรับลดจุดอ่อนบริเวณช่องว่างที่จะถูกกระสุนปืนให้มีเกราะป้องกันได้มิดชิดขึ้น พร้อมกับอุปกรณ์เสริมกันอีกหลากรูปแบบ คนต้นคิดตั้งชื่อให้เสื้อเกราะไทยประดิษฐ์นี้ว่า "เสื้อบางระจัน" ทว่า แม้ เสื้อบางระจัน จะมีการมอบให้หน่วยงานตำรวจหน่วยงานรัฐไปทดลองใช้ หรือจะได้รับการตอบกลับที่ดีเพียงใดจากผู้ที่ซื้อไปใช้ แต่คุณภาพและมาตรฐานของเสื้อ ก็ยังคงเป็นรู้จักกันเฉพาะเพียงในแวดวงของเหล่าตำรวจทหารเหมือนที่ผ่านมาเท่านั้น (http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=199261) การสาธิตยิงปืนเพื่อทดสอบความแข็งแรงเสื้อบางระจัน กับ ชุดนิรภัยที่กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในขณะนี้ (http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=199262) แผ่นเหล็กนิรภัยใต้ผ้าของเสื้อบางระจันที่ถูกยิงทดสอบความแข็งแรงเป็นครั้งแรกด้วยปืน .357 (http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=199259) พ.ต.ต.ศรายุทธ อรุณฉาย สว.ผ.ฝึกอบรมพิเศษ ของ 191 กับปืนลูกซองที่ใช้ยิงทดสอบแผ่นเสริมประตูนิรภัย (http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=199260) ร่องรอยหลังทดสอบยิงด้วยปืนขนาด 9 มม. , 11 มม.และ .357 บนแผ่นเสริมกระจกนิรภัย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9470000058279 หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ กันยายน 28, 2004, 02:48:52 PM กฎหมายเขาห้ามประชาชนมีเสื้อเกราะกันกระสุนหรือสะเก็ดระเบิดครับ ไม่ได้ห้ามครับ แต่ควบคุมเหมือนกับปืน คือต้องขออนุญาต คุมน้อยกว่าด้วย เพราะไม่ต้องมีใบพกขอบคุณมากครับท่านผู้การ ;D ผมเองไม่เคยได้ยินว่าใครขอเลยครับ เลยไม่รู้ว่าขอกันได้ด้วย 8) หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กันยายน 28, 2004, 03:01:17 PM วันก่อนที่เดิมบาง พี่มะขิ่น ทดสอบ เปรียบเทียบระหว่างปืนสั้นลูกโม่ .357 กับคานเหวี่ยง .357
ผลปรากฎว่า เหล็ก ซีแชนแนล หนาประมาณ 5 มิล ปืนสันยิงแล้วตุง แต่คานเหวี่ยงทะลุกลมดิ๊กครับ อีกรายการ ลูกโดดครับ หุหุหุ เหล็กหนาร่วม 10 มิล ตุงจนน่ากลัว ถึงใส่เกราะนะ โดนจังๆคงซี่โครงหักช้ำในไปอีกนาน หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Choltit ที่ กันยายน 28, 2004, 03:17:33 PM เดี๋ยวมีคนอ่านบ้าจี้ สั่งห้ามนำเข้าปืนยาวคานเหวี่ยงหรอก ;D
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ กันยายน 28, 2004, 03:21:30 PM เดี๋ยวมีคนอ่านบ้าจี้ สั่งห้ามนำเข้าปืนยาวคานเหวี่ยงหรอก ;D ชักจะอยากได้คานเหวี่ยง .357 หรือ .44 แล้วสิ แม่นกว่า ยิงไกลๆน่าสน อิอิอิ ดูไม่ออกว่าสั้นหรือยาว หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: krudam ที่ กันยายน 28, 2004, 03:32:41 PM วันก่อนที่เดิมบาง พี่มะขิ่น ทดสอบ เปรียบเทียบระหว่างปืนสั้นลูกโม่ .357 กับคานเหวี่ยง .357 ผลปรากฎว่า เหล็ก ซีแชนแนล หนาประมาณ 5 มิล ปืนสันยิงแล้วตุง แต่คานเหวี่ยงทะลุกลมดิ๊กครับ อีกรายการ ลูกโดดครับ หุหุหุ เหล็กหนาร่วม 10 มิล ตุงจนน่ากลัว ถึงใส่เกราะนะ โดนจังๆคงซี่โครงหักช้ำในไปอีกนาน ....... ;D มิน่าละ เป้าเหล็กผมพังไม่เป็นท่าเลย..... กองรวมกันอยู่ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะซ่อมตรงไหนก่อนดี ;D...... หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Choltit ที่ กันยายน 28, 2004, 03:38:06 PM ปี 40-42 บนหน้าหนังสือปล่อยขายปืนคานเหวี่ยงเยอะมาก
มีตั้งแต่ขนาด .22 ขึ้นมาจนถึง .44mag แต่วันนี้มาอ่านกระทู้นี้แล้ว สงสัยกระแสเปลี่ยนไป :D หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: JarengkaBOW ที่ กันยายน 28, 2004, 05:33:01 PM เดี๋ยวมีคนอ่านบ้าจี้ สั่งห้ามนำเข้าปืนยาวคานเหวี่ยงหรอก ;D ชักจะอยากได้คานเหวี่ยง .357 หรือ .44 แล้วสิ แม่นกว่า ยิงไกลๆน่าสน อิอิอิ ดูไม่ออกว่าสั้นหรือยาว ท่านทัด แย่งสีข้าน้อยอะ :P หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Ninja 19 + รักในหลวง + ที่ กันยายน 28, 2004, 05:42:37 PM ........ ;D..ผู้การครับ .แล้วขั้นตอนการขออนุญาติมีเสื้อเกราะ นี้ทำอย่างไร และขอที่ไหนครับ... ;D
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ กันยายน 28, 2004, 06:19:08 PM คนไทยเนี่ยเจ๋งจริงครับ..... ;D ;D
อยากรู้อย่างท่านนินจาเช่นกันครับ ??? หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 28, 2004, 06:42:20 PM ........ ;D..ผู้การครับ .แล้วขั้นตอนการขออนุญาติมีเสื้อเกราะ นี้ทำอย่างไร และขอที่ไหนครับ... ;D คล้าย ๆ กับปืน เพียงแต่นายทะเบียนคือปลัดกระทรวงกลาโหม และใบอนุญาต "มี" ค่าธรรมเนียม 200 บาท หน่วยงานดำเนินการคือ กองควบคุมยุทธภัณฑ์และพัฒนาอุตสาหกรรม กรมการอุตสาหกรรมทหาร อยู่แถว ๆ สี่แยกเกียกกาย แต่ทางผมไม่เคยไปขออนุญาตกันหรอกครับ ใช้วิธีซื้อแล้วยกให้ทางราชการ เสร็จแล้วถึงเบิกมาใช้อีกทีหนึ่งหัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Ninja 19 + รักในหลวง + ที่ กันยายน 28, 2004, 06:54:14 PM คล้าย ๆ กับปืน เพียงแต่นายทะเบียนคือปลัดกระทรวงกลาโหม และใบอนุญาต "มี" ค่าธรรมเนียม 200 บาท หน่วยงานดำเนินการคือ กองควบคุมยุทธภัณฑ์และพัฒนาอุตสาหกรรม กรมการอุตสาหกรรมทหาร อยู่แถว ๆ สี่แยกเกียกกาย แต่ทางผมไม่เคยไปขออนุญาตกันหรอกครับ ใช้วิธีซื้อแล้วยกให้ทางราชการ เสร็จแล้วถึงเบิกมาใช้อีกทีหนึ่ง .......... ;D..ขอบคุณครับ ท่านผู้การ แล้วเพื่อนๆพี่ๆ ท่านใดเคยขออนุญาติ หรือมีประสบการณ์ การขอเสื้อแกราะ เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ.. ;D หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กันยายน 29, 2004, 04:23:10 PM ขอเจ๋อหน่อย
ส่วนใหญ่คนที่ขอมีเสื้อเกราะ มิใช่คนอาชีพอื่นไกล แต่เป็นหัวคะแนนกะนักการเมืองน่ะแหละ หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: ttt ที่ กันยายน 29, 2004, 04:52:41 PM น่าจะลองใช้ไฟเบอร์กลาส หรือคาร์บอนไฟเบอร์ดูนะครับน้ำหนักเบากว่าเยอะ ที่ผมเคยทดลองเป็น ไฟเบอร์กลาสซ้อนกัน 8 ชั้นหนาประมาณ 6-8 มิล. ลองกับ.38 ตะกั่วหัวมน สภาพคือ ลูกปืนฝังไปในแผ่นไฟเบอร์แบบบี้แบนท้ายลูกปืนโผล่อยู่ในระดับผิวด้านหน้าของแผ่นทดสอบ และที่น่าพอใจคือด้านหลังของแผ่นทดสอบปูดขึ้นเล็กน้อยไม่เกิน 3 มิล. และมีเศษเรซินปริออกมาเล็กน้อยครับ
สังเกตการรับและถ่ายเทแรงจะถูกถ่ายทอดไปทางด้ายข้างทำให้แผ่นทดสอบเป็นวงฝ้าๆ ประมาณ 10 ซม.ครับ :) หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: BAER ที่ กันยายน 29, 2004, 04:57:19 PM ขอขอบคุณ-คุณ b@ll และ ผู้การสุพินท์ มากครับสำหรับรายละเอียด
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: buck_g19 ที่ กันยายน 29, 2004, 06:33:47 PM ทำไมไม่ลองขนาด.223บ้างเหรอครับ.. ???
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กันยายน 29, 2004, 06:44:01 PM น่าจะลองใช้ไฟเบอร์กลาส หรือคาร์บอนไฟเบอร์ดูนะครับน้ำหนักเบากว่าเยอะ ที่ผมเคยทดลองเป็น ไฟเบอร์กลาสซ้อนกัน 8 ชั้นหนาประมาณ 6-8 มิล. ลองกับ.38 ตะกั่วหัวมน สภาพคือ ลูกปืนฝังไปในแผ่นไฟเบอร์แบบบี้แบนท้ายลูกปืนโผล่อยู่ในระดับผิวด้านหน้าของแผ่นทดสอบ และที่น่าพอใจคือด้านหลังของแผ่นทดสอบปูดขึ้นเล็กน้อยไม่เกิน 3 มิล. และมีเศษเรซินปริออกมาเล็กน้อยครับ ผมกลัวเรื่องการยิงซ้ำในบริเวณใกล้ๆรอยเดิมนะครับสังเกตการรับและถ่ายเทแรงจะถูกถ่ายทอดไปทางด้ายข้างทำให้แผ่นทดสอบเป็นวงฝ้าๆ ประมาณ 10 ซม.ครับ :) เพราะท่านสามทีบอกว่ามีรอยปริและเกิดฝ้าตั้ง10ซม. เพราะการยิงแต่ละครั้ง ไม่ได้จำกัดวงกระสุนแค่นัดเดียว ส่วนที่สงสัยอีกอย่างคือพวกกระจกกันกระสุนน่ะมันน้ำหนักเท่าไหร่ครับ หนามาก ถ้าบางลงก็พวกพลาสติกใสอัดแรง ไม่ทราบน้ำหนักเท่าไหร่ และโล่ใสสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบบที่ใช้ตั้งรับเข้าแถวปราบพวกจลาจลอีกล่ะ น้ำหนักเท่าไหร่ รับแรงแค่ไหน หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 29, 2004, 07:13:54 PM น่าจะลองใช้ไฟเบอร์กลาส หรือคาร์บอนไฟเบอร์ดูนะครับน้ำหนักเบากว่าเยอะ ที่ผมเคยทดลองเป็น ไฟเบอร์กลาสซ้อนกัน 8 ชั้นหนาประมาณ 6-8 มิล. ลองกับ.38 ตะกั่วหัวมน สภาพคือ ลูกปืนฝังไปในแผ่นไฟเบอร์แบบบี้แบนท้ายลูกปืนโผล่อยู่ในระดับผิวด้านหน้าของแผ่นทดสอบ และที่น่าพอใจคือด้านหลังของแผ่นทดสอบปูดขึ้นเล็กน้อยไม่เกิน 3 มิล. และมีเศษเรซินปริออกมาเล็กน้อยครับ สังเกตการรับและถ่ายเทแรงจะถูกถ่ายทอดไปทางด้ายข้างทำให้แผ่นทดสอบเป็นวงฝ้าๆ ประมาณ 10 ซม.ครับ :) แต่ถ้าเป็นเคฟล่าร์ของดูปองท์ หรือสเปคตร้าชีลด์ของฮันนี่เวลล์ ระดับกระสุน.38 มันจะบี้แบนแล้วร่วงลงมาเฉย ๆ ไม่มีการฝัง กระสุนที่เริ่มฝัง ต้องเป็นหัว FMJ ความเร็วพันห้าขึ้นไป หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Choltit ที่ ตุลาคม 05, 2004, 10:44:35 PM ความเร็วพันห้า ??? ผู้การแน่ใจนะครับว่าตัวเลขไม่ผิด ?
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 06, 2004, 04:06:52 PM ความเร็วพันห้า ??? ผู้การแน่ใจนะครับว่าตัวเลขไม่ผิด ? ขนาดนี้ละครับ Level 3A ต้องทน 9 มม.จากปืนกลมือ (ความเร็ว 1,450) ได้ ที่เคยเห็นก็ หัว FMJ บี้แบนร่วงลงมาไม่มีฝังคาอยู่หรอกครับ ความเร็วก็แน่นอน วัดที่โรงงานวัตถุระเบิดที่นครสวรรค์ ใช้เครื่องละ 4 ล้านบาท มี 3 จอ หาค่าเฉลี่ยพวกที่เริ่มเจาะเข้าไปฝังได้จะเป็น.22 แมกนั่ม หัว FMJ ที่ยิงจากปืนยาว หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: evil 01 ที่ ตุลาคม 08, 2004, 11:47:25 AM ผมรึ ใว้มีรุ่นที่กัน เม็ก 58 ออกมาค่อยคิดหาดีกว่า อิอิ ;D
รถกันกระสุนใด้ก้อเฉียบแย้วครับ ;D หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: ninja_spl (ถูกแบนโดยบอร์ดอวป.) ที่ มีนาคม 06, 2008, 03:49:38 AM ลองยิงด้วย .357 คานเหวี่ยงดูสิครับ ก็ถ้ากันได้ก็กัน ปืน m16 ได้ หลัการเหมือนหนังสือนิตยสาร รองรับกระสุนจะไม่ทะลุครับ
หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Major ที่ มีนาคม 06, 2008, 03:51:14 PM โอ้โห้ พี่ไทยเราเก่งอีกแล้ว
ช่วยเชียร์ครับ ให้ติดอันดับโลกไปเลย ด้วยความเคารพครับผม ::002:: ::002:: ::002:: หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: xxx ที่ มีนาคม 06, 2008, 04:10:50 PM ผมเคยดู รายการของ UBC ช่อง discovery channel เรื่อง Future weapon ซึ่งเป็นเรื่องที่นำเอา อาวุธ Hi tec ทุกชนิด มาทดสอบและแสดงสมรรถนะให้ชมกัน เคยดูอยู่ตอนนึง เป็นการโชว์ ประสิทธิภาพ เสื้อเกราะทหาร ที่เรียกว่า Dragon skin เห็นเขาทดสอบแล้ว อึ้งมากครับ ถ้าจำไม่ผิดเขาเอาเสื้อเกราะที่ว่ามาใส่หุ่น แล้วยิงด้วยปืนทุกชนิดรวมถึงไรเฟิล ความเร็วสูง ถ้าจำไม่ผิด เป้นร้อยนัดครับ ประมาณว่าซ้ำตรงจุดเดิมด้วย ประกฏว่าไม่มีรอยด้านในที่ติดกับตัวหุ่นแต่อย่างใด เสร็จแล้ว ก็เอาเสื้อเกราะตัวเดิม ที่ยิงแล้ว ใส่เข้าไปที่หุ่นเหมือนเดิม แล้วนำไปวางทับระเบิด ไม่แน่ใจระเบิดชนิดไหน เมื่อระเบิดแล้วนำมาดูสภาพเสื้อเกราะดังกล่าว ด้านนอกที่อยู่ติดกับระเบิด ฉีกขากครับ แต่ด้านในที่ติดกับตัวหุ่น ไม่มีรอยอะไรเลยครับ เหมือนเดิมทุกอย่าง ดูแล้วอึ้งไปเลย ขนาดทหาร US ที่เข้าร่วมทดสอบในรายการยัง บอกว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย สุดยอดมากกับเทคโนโลยี่ เพราะเท่าที่ดู ไม่เห็นมีแท่งหรือแผ่นเหล็กแต่อย่างใด และก็ดูไม่หนักด้วยครับ
เข้าไปดูได้ใน link นี้ครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Dragon_Skin_body_armor#History_Channel_and_Discovery_Channel_tests หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Terk Kung ที่ มีนาคม 08, 2008, 03:37:22 PM ผมว่าราคา 20000 บาท แพงมากเลยครับ เสื้อเกราะตัวนี้ที่ทำขึ้นจากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์ มีต้นทุนการผลิตเพียงแค่ตัวละ 5000 บาทเท่านั้นเอง
(ข้อมูล) ทีมงานวิจัยพยายามตีปริศนานั้นอยู่นาน จนกระทั่งมาลงตัวที่ฟิล์มเอกซเรย์ ทีมงานวิจัยได้นำฟิล์มเอกซเรย์ใช้แล้ว มาผ่านกระบวนทางวิทยาศาสตร์เคลือบสาร เพื่อให้มีคุณสมบัติดูดพลังงานและกระจายความร้อนได้ดี จากนั้นก็นำมาเรียงซ้อนกันตามขั้นตอน เสื้อเกราะหนึ่งตัวจะใช้แผ่นฟิล์มเอกซเรย์ประมาณ 200 แผ่น นำมาอัดกันจนแน่น แล้วสอดไว้ตัวเสื้อทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เมื่อนำไปทด สอบก็ปรากฏว่ามีคุณสมบัติกันกระสุนได้ดี ตัวเสื้อเกราะซึ่งจากทำจากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์ รับกระสุนปืนสั้นได้อย่างดี แผ่นฟิล์มที่ผ่านการเคลือบตามขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์จะดูดซับลูกกระสุนได้ชั้น ๆ ลดแรงกระแทกและไม่มีแรงสะท้อน เพราะมีวิธีการกระจายพลังงานความร้อน ความเร็วและแรงระเบิดของลูกกระสุนได้ดี แต่ไม่ทะลุ โดยเฉพาะกับปืนสั้น เสื้อเกราะพระเจ้าตากมีคุณสมบัติได้อย่างใจของ ทหารตำรวจที่ต้องการใช้งาน แต่ก็ยังมีจุดอ่อนกับปืนยาว เพราะฟิล์มเอกซเรย์ไม่ทนความร้อน เพราะเวลาที่ลูกกระสุนหมุนทำให้เกิดพลังงานความร้อน ฟิล์มละลาย จึงต้องเคลือบสาร ให้เหนียวและเสริมวัสดุอื่นเข้า ไป เช่น ต้องใส่แผ่นเหล็กเพิ่มที่ ด้านหน้าและด้านหลังของตัวเสื้อ เกราะ ประการสำคัญเสื้อเกราะพระเจ้าตาก น้ำหนักเบา แค่ 4 กิโลกรัมจากเสื้อเกราะปกติที่ใส่กัน น้ำหนักมาก 8-10 กิโลกรัม พ.ต.ท.กฤษฎากร บอกว่า ตอนนี้ได้จดสิทธิบัตรเสื้อเกราะพระเจ้าตากทำจากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์ไว้แล้ว เมื่อสิ้นสุดงานวิจัยสิทธิบัตรนี้ก็จะเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตอนนี้ทางทีมงานผู้วิจัยมีฟิล์มที่หน่วยงานต่าง ๆ นำมาบริจาคให้ประมาณ 3 ตัน จึงอยากทำเสื้อเพื่อบริจาคให้กับหน่วยงานทหาร ตำรวจ ครู แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ที่ต้องลงไปปฏิบัติในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หากต้องการบริจาคฟิล์มเอกซเรย์ใช้แล้วก็สามารถบริจาคได้ที่วิทยาการตาก หรือจะร่วมเช่าบูชาวัตถุมงคลที่คณะวิจัยจัดทำขึ้นเพื่อนำเงิน ไปสมทบจัดทำเสื้อเกราะเพื่อบริจาคให้ทหาร ตำรวจก็ ได้อ่านรายละเอียดและสถานที่ติดต่อบนเว็บไซต์ www.aithaikid.com เสื้อเกราะพระเจ้าตากของทีมนักวิจัยตำรวจไทย จังหวัดตาก มีต้นทุนการผลิตเพียงตัวละประมาณ 5,000 บาท เท่านั้น อ่านมาถึงตรงนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าจะทำเสื้อเกราะกันได้ง่าย แค่เอาแผ่นฟิล์มเอกซเรย์ที่มีอยู่มาวางซ้อนกันแล้วจะกันกระสุนได้ ขอให้เลิกคิด เพราะกว่าจะได้เป็นเสื้อเกราะทำจากแผ่นฟิล์ม ทีมวิจัยต้องคิดค้นหากระบวนการทาง วิทยาศาสตร์เพื่อหาวิธีทำให้ฟิล์มเอกซเรย์ที่ได้มามีความแข็งแรง ทนต่อความร้อน และลูกกระสุน หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: ama ที่ มีนาคม 08, 2008, 06:20:33 PM ผมได้คุยกับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าบางคนก็ต้องซื้อเสื้อเกราะใช้กันเองครับ
เห็นบอกว่าเป็นเสื้อเกราะของบางระจันน้ำหนักเกือบ 10 โลครับ ราคาตกตัวละ 5,000 บาทครับ ส่วนเสื้อเกราะที่ทำจากเคฟล่าร์นั้นในเมืองไทยรู้สึกว่าจะมีผู้นำเข้ามาจำหน่ายเหมือนกันครับ มีหลายขนาด ซึ่งแต่ละขนาดก็จะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไป อายุการใช้งาน ประมาณ 5 ปี ราคาประมาณตั้งแต่ 20,000- 100,000 บาทครับ ซึ่งดูเมือนว่าจะไม่คุ้มสำหรับผู้ที่มีงบประมาณน้อยครับ จึงทำให้ผู้มีนำเข้ามาจำหน่ายในปริมาณที่น้อยครับ และขอเล่าประสบการณ์อีกนิดหนึ่งนะครับ ส่วนมากเท่าที่สัมผัสมานั้น การทดสอบเสื้อเกราะกันกระสุนจะไม่มีใครกล้าเป็นนายแบบในการทดสอบเสื้อเกราะ เพราะทุกคนต่างก็ไม่มั่นใจในสินค้าตัวนั้นกันสักเท่าไหร่ วันหนึ่งผมได้มีโอกาสได้รู้จักกับตำรวจใจกล้านายหนึ่งที่กล้าใส่เสื้อเกราะ และให้ตำรวจรุ่นน้องยิงในระยะ 5เมตรยิงไป 3นัด ปรากฏว่าไม่เข้าครับ ตำรวจผู้นี้จึงได้รับเงินจำนวน 20,000 บาทจากเซลล์ผู้นำสินค้าเสื้อเกราะตัวนี้มาขายที่สน. และเสื้อเกราะก็ขายหมดครับ ดังนั้นถ้าจะให้รู้ว่าเสื้อเกราะนั้นกันได้มั้ย...ต้องลองดูครับ ปล. 1.กระสุนที่ใช้ทดสอบเป็นขนาด 11 ครับ 2.หลังจากทดสอบตำรวจนายนี้ต้องนอนอยู่บ้านประมาณ 1 อาทิตย์ครับเพราะช้ำในครับ หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ มีนาคม 08, 2008, 06:32:37 PM ข้อมูลอีกด้านครับ
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=47308.150 หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: Terk Kung ที่ มีนาคม 08, 2008, 09:11:07 PM ผมได้คุยกับผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าบางคนก็ต้องซื้อเสื้อเกราะใช้กันเองครับ พูดถึงว่านายแบบจะคุ้มไหมเนี้ยกับการช้ำใน ดีไม่ดีซี่โครงอาจหักได้นะเนี้ย กับเงิน 20000 กล้าได้ยังไงเนอะ :OOเห็นบอกว่าเป็นเสื้อเกราะของบางระจันน้ำหนักเกือบ 10 โลครับ ราคาตกตัวละ 5,000 บาทครับ ส่วนเสื้อเกราะที่ทำจากเคฟล่าร์นั้นในเมืองไทยรู้สึกว่าจะมีผู้นำเข้ามาจำหน่ายเหมือนกันครับ มีหลายขนาด ซึ่งแต่ละขนาดก็จะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกันไป อายุการใช้งาน ประมาณ 5 ปี ราคาประมาณตั้งแต่ 20,000- 100,000 บาทครับ ซึ่งดูเมือนว่าจะไม่คุ้มสำหรับผู้ที่มีงบประมาณน้อยครับ จึงทำให้ผู้มีนำเข้ามาจำหน่ายในปริมาณที่น้อยครับ และขอเล่าประสบการณ์อีกนิดหนึ่งนะครับ ส่วนมากเท่าที่สัมผัสมานั้น การทดสอบเสื้อเกราะกันกระสุนจะไม่มีใครกล้าเป็นนายแบบในการทดสอบเสื้อเกราะ เพราะทุกคนต่างก็ไม่มั่นใจในสินค้าตัวนั้นกันสักเท่าไหร่ วันหนึ่งผมได้มีโอกาสได้รู้จักกับตำรวจใจกล้านายหนึ่งที่กล้าใส่เสื้อเกราะ และให้ตำรวจรุ่นน้องยิงในระยะ 5เมตรยิงไป 3นัด ปรากฏว่าไม่เข้าครับ ตำรวจผู้นี้จึงได้รับเงินจำนวน 20,000 บาทจากเซลล์ผู้นำสินค้าเสื้อเกราะตัวนี้มาขายที่สน. และเสื้อเกราะก็ขายหมดครับ ดังนั้นถ้าจะให้รู้ว่าเสื้อเกราะนั้นกันได้มั้ย...ต้องลองดูครับ ปล. 1.กระสุนที่ใช้ทดสอบเป็นขนาด 11 ครับ 2.หลังจากทดสอบตำรวจนายนี้ต้องนอนอยู่บ้านประมาณ 1 อาทิตย์ครับเพราะช้ำในครับ หัวข้อ: Re: เสื้อเกราะ-บางระจัน เริ่มหัวข้อโดย: at75 ที่ มีนาคม 08, 2008, 09:39:31 PM ความเร็วพันห้า ??? ผู้การแน่ใจนะครับว่าตัวเลขไม่ผิด ? ขนาดนี้ละครับ Level 3A ต้องทน 9 มม.จากปืนกลมือ (ความเร็ว 1,450) ได้ ที่เคยเห็นก็ หัว FMJ บี้แบนร่วงลงมาไม่มีฝังคาอยู่หรอกครับ ความเร็วก็แน่นอน วัดที่โรงงานวัตถุระเบิดที่นครสวรรค์ ใช้เครื่องละ 4 ล้านบาท มี 3 จอ หาค่าเฉลี่ยพวกที่เริ่มเจาะเข้าไปฝังได้จะเป็น.22 แมกนั่ม หัว FMJ ที่ยิงจากปืนยาว ผมเอง มีโอกาศได้เห้นการทดสอบ ทั้งเคฟล่าดูปอง และ สเป็คต้าชีล ครับ ผมเองไม่ทราบว่ากระสุนมีความเร้วเท่าไหร่ แต่ที่เห้นถ้าเป็น กระสุน 11 หัวจริงและตะกั่ว .38 นั้นเปะติดโดยไม่สามารถเจาะแผ่นเกราะเข้าไปได้เลย แถมสะกิดเบาๆก้หลุดออกมาแล้ว ครับ มีเพียงพวกหัวรูเท่านั้น ที่เจาะเจ้าไปติดเสื้อได้แล้วแกะออกยาก เพราะ หัวรู จะมีขอบคมๆตัดผิวแผ่นเกราะได้ แล้วส่วนที่เป็นตะกั่ว จะบี้ติดติดเข้าไป ครับแต่ ก็ไม่เข้าลึกเท่าไหร่ครับ |