เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ซิ่งฟอร์จูนเนอร์ปล้นทอง-กวาด100บ.

ยิงเจ๊คว่ำ บาดเจ็บ2 เขย่ากรุง




อำมหิต - ภาพจากกล้องวงจรปิด นาทีคนร้ายยิงเจ้าของร้านทอง ย่านดอนเมือง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และยิงสาวลูกจ้างในร้านปางตาย ก่อนกวาดทองคำหนักกว่า 100 บาทหลบหนีไป เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.

 
คนร้ายซิ่งฟอร์จูนเนอร์ควงปืนบุกเดี่ยวปล้นร้านทองย่านดอนเมืองกวาดทองไป 100 บาท แฉพฤติกรรมสุดโหดสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าตรงผลักประตูเข้าไปได้ก็ยิงกราดใส่เจ๊เจ้าของร้านจนทรุดฮวบ แล้วยิงแม่บ้านในร้านซ้ำอีก 3 นัด บาดเจ็บสาหัสทั้งคู่ ก่อนหลบหนีไป ขณะที่แท็กซี่พลเมืองดีเห็นขับรถไล่กวดตามแต่คลาดกันจำทะเบียนรถได้ สส 9912 กทม. ตร.ตรวจสอบทันทีเป็นทะเบียนปลอมเจ้าของตัวจริงเป็นทนายความ

เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 ธ.ค. พ.ต.ต. ทัศน์พงษ์ คงทัพ สวส.สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทองและยิงเจ้าของได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในห้างทองยิ่งเฮง ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก.น.2 พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.อ.ปิยวัธร์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สส.น.2 พร้อมฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น 1 คูหา ชั้นล่างเปิดเป็นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ ที่พื้นหน้าเคาน์เตอร์ตู้โชว์ทองพบกองเลือดจำนวนมาก และปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 3 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บพลเมืองดีช่วยกันนำส่ง โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อนางศศิภา พัฒนพนิชธำรงค์ อายุ 57 ปี เจ้าของร้านถูกยิงที่ใต้ราวนมซ้าย 1 นัด และนางศรีไล มีดี อายุ 49 ปี แม่บ้าน ถูกยิงใต้ราวนมขวา ชายโครงขวา และท้องอย่างละ 1 นัด

จากการตรวจสอบที่ตู้โชว์ทองพบถูกคนร้ายทุบจนกระจกแตกกระจายเกลื่อนพื้น นอกจากนี้พบว่าคนร้ายได้ขโมยทองรูปพรรณที่แขวนโชว์ไป 5 ถาด น้ำหนักรวม 100 บาท เจ้าหน้าที่จึงเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้เพื่อตรวจสอบ

จากการสอบถามนายบุญจริง มั่งคั่ง อายุ 38 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ที่เห็นเหตุการณ์และได้ขับรถติดตามคนร้ายไป กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังโอนเงินให้แฟนสาวอยู่ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสรงประภา ตั้งอยู่ใกล้กับร้านทองที่เกิดเหตุ เมื่อเดินลงมาได้มองไปเห็นแม่ค้าขายลอตเตอรี่ตะโกนว่ามีคนร้ายปล้นร้านทอง จึงมองไปหน้าร้านทองเห็นชายคนหนึ่งสวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สวมเสื้อแจ๊กเกตแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ เดินถือถาดใส่ทองออกมาจากร้านแล้วมาที่ประตูรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน สส 9912 กทม. แล้วรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นกลับรถไปฝั่งตรงข้ามเพื่อมุ่งหน้าไปทางแยกศรีสมาน ตนจึงรีบขับรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง หมายเลขทะเบียน มฉ 3721 กทม. ติดตามไปแต่คลาดกันทำให้คนร้ายหลบหนีไปได้

ขณะที่ด.ต.รุ่งนิรันดร์ แก้วเกิด ผบ.หมู่ป.สน. ดอนเมือง ซึ่งเข้าเวรดูแลร้านทองและธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ปกติจะรับผิดชอบตรวจตราความสงบเรียบร้อยในย่านนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ระหว่างนั้นพบรถฟอร์จูนเนอร์คัน ดังกล่าวมาจอดอยู่ที่หน้าร้านแต่ไม่ได้สังเกตคนที่ อยู่ในรถ และไม่ได้เอะใจว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น กระทั่งเวลา 11.30 น. ได้มีรองผกก.สน.ดอน เมืองเดินทางมาตรวจเวร ซึ่งหลังจากที่ตรวจสมุดเวรและเซ็นชื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตนจึงนำสมุดเวรกลับขึ้นไปเก็บบนธนาคาร ซึ่งคนร้ายอาศัยจังหวะดังกล่าวลงมือก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าคนร้ายมาจอดรถดูลาดเลาตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนจะตัดสินใจลงมือ

ด้านพล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าคนร้ายเป็นชายสวมชุดปิดคลุมร่างกายมิดชิด ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ มาจอดที่หน้าร้าน แล้วเดินลงจากรถ โดยไม่ทราบว่าภายในรถจะมีใครนั่งมาด้วยอีกหรือไม่ เพราะกระจกรถของคนร้ายติดฟิล์มทึบมองไม่เห็นด้านใน จากนั้นคนร้ายได้ถือปืนขนาด 9 ม.ม. เดินเข้าไปในร้านแล้วยิงใส่นางศศิภาเจ้าของร้านที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ทันทีก่อนจะล้มลง จากนั้นเดินเข้าไปที่หลังร้านแล้วใช้ปืนกระบอกดังกล่าวยิงใส่อีกคนนอนจมกองเลือด

"หลังจากนั้นคนร้ายได้เดินมาปิดประตูหน้าร้าน ก่อนกลับเข้าไปใช้ปืนทุบกระจกตู้โชว์ทอง แล้วกวาดทองที่ตู้โชว์ไปทั้งหมด 5 ถาด น้ำหนักรวม 100 บาท ก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถฟอร์จูนเนอร์ที่จอดติดเครื่องยนต์หลบหนีไปทางแยกศรีสมาน โดยมีโชเฟอร์แท็กซี่ที่เห็นเหตุการณ์ขับตามไปแต่ไล่ตามไม่ทัน" รองผบช.น. กล่าว

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเตรียมการมาเป็นอย่างดี เพราะมีพยานเห็น ว่าคนร้ายมาจอดรถอยู่ใกล้ร้านทองตั้งแต่เวลา 09.00 น.แล้ว และคนร้ายได้เฝ้าสังเกตการณ์ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลร้านทองละแวกนั้น เดินขึ้นไปที่ธนาคารกรุงเทพที่อยู่ใกล้ๆ คนร้ายจึงฉวยโอกาสบุกเข้าไปยิงเจ้าของร้านแล้วชิงทองหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งตรวจสอบรถคันดังกล่าวแล้วว่าเป็นของใคร และตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านและโดยรอบเพื่อจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้

ทางด้านพ.ต.อ.ปิยวัธร์ กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบแผนประทุษกรรม เนื่องจากมีลักษณะการก่อเหตุคล้ายกับเหตุจี้ร้านทองท้องที่พหลโยธิน อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณรอบนอกเพื่อค้นหาใบหน้าคนร้ายอย่างแท้จริงว่าเป็นใคร เนื่องจากในช่วงลงมือคนร้ายสวมหมวกกันน็อกทำให้ไม่สามารถจำใบหน้าได้ แต่แนวทางการสืบสวนยังพอมีช่องทาง ส่วนทะเบียนรถที่พยานจำได้เชื่อว่าเป็นทะเบียนปลอมที่คนร้ายนำมาสวมเพื่อใช้ในอำพรางการติดตามของเจ้าหน้าที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุ นายไชยรัตน์ เวชบารมี อายุ 45 ปี อาชีพทนายความ เป็นชาวจังหวัดอ่างทอง ได้ติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง เพื่อแจ้งให้ทราบว่าหมายเลขทะเบียน สส 9912 กทม. ตัวเองเป็นผู้ครอบครอง พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบรถที่จอดอยู่ภายในบ้านพักย่านมีนบุรี โดยปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์แต่อย่างใด จึงเชื่อว่าคนร้ายปลอมทะเบียนเพื่อนำมาใช้ในการก่อเหตุดังกล่าว

วันเดียวกัน พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองผบ.ตร. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ข้อมูลของคนร้ายมาแล้ว แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเพื่อตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี อย่างไรก็ตามคดีนี้ถือว่าคนร้ายก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมบุกเข้าไปยิงเจ้าของร้านและแม่บ้านแล้วได้ชิงเอาทองคำไป



 

 
 
 








 








 
  
  
 
 
Copyright © by Matichon Public Co.,Ltd

         โหดมากโจรรายนี้ แต่ดูแล้วไม่น่ารอดฝีมือตำรวจ ทายว่าไม่เกินสามวันจับได้แน่นอน

       มิต้องสงสัยไอ้หมอนี่หาเงินเที่ยวปีใหม่แน่นอน... ::009:: แต่ถึงขนาดยิงคนในร้านด้วยนี่ไม่ได้เที่ยวแล้วปีใหม่... ::010::

มันยิงก่อนเลย ไม่มีขู่...

เจ้าของร้านโดนที่"ใต้ราวนมซ้าย", อีกคนหนึ่งโดนเข้าหน้าอกตั้ง 3 นัด... น่าเป็นห่วงทั้ง 2 คนครับ...

ไม่พูดไม่จาเข้ามาถึงก็ซัดก่อนเลย

อาชีพขายทองนี่เสี่ยงและอันตรายรอบด้านครับแต่ละคดีเกิดกับคนใกล้ตัวเข้ามาเรื่อยๆ


(http://i949.photobucket.com/albums/ad333/ranthong_album/IMG_0012-1.jpg)

 :o

ผมขายทองม้วนดีกว่า ไม่เสี่ยง ;D ;D ;D

ในวงแดง เอาไปติดไว้ ทำไมครับ  
ระวัง สับสน  นะครับ   :)  

"ในวงแดง"เอามาวางไว้เฉยๆกระมังครับ... หากแปะกาวเอาไว้ ยิงลูกจริงโป้งเดียวทั้งบุษราคัม ทั้งเพชรล้อมฯ ปลิวว่อนเลย... เย้...

วันก่อนเห็นข่าวแม่ค้าเพชรไปโดนยิงที่ปราจินฯ, เพิ่งขายที่ดินได้เงินล้านสี่แสน โจรมันเอาอาร์ก้ายิงใส่ขณะขับรถปิ๊กอัพเลย, คนขับเป็นน้องคนเล็กสุด โดนกระสุนแล้วยังแข็งใจขับไปได้อีก 6 กม. แล้วสิ้นลมฯ... เงินแค่"แค่ล้านสี่แสน"สำหรับอาชีพนี้เล็กน้อยมาก หากรู้ตัวว่าจะถึงตายฯ เอ่ยปากบอกก็คงยอมให้แหละครับ, แต่นี่มันยิงใส่จากข้างทางตอนรถวิ่งเลย...

อาชีพนี้ต้องไม่ประมาทครับ... ขอให้พี่อภิสิทธิ์"ไม่ต้องเจอ"เรื่องที่ต้องใช้เจ้า M19 นี้นะครับ...

โจรโหดมากเลยนะครับ ไม่มีถามอะไรซักคำ
เดินเข้าไปยิงเลย ถึงมีปืน ก็คงไม่มีโอกาศยิงตอบโต้แน่ๆ
แต่ที่ผมสงสัยคือ ร้านทองบางร้าน ทำไมไม่ยอมติดกรงครับ
อยากทราบจริงๆ รบกวนสอบถามพี่อภิสิทธิ์ หน่อยครับ

ปัจจัยคือเครื่องบาดใจ  ศาสดาสอนไว้ในพระไตรปิฎก

ขอบคุณครับอาจารย์ ::014::  ผมก็เอือมระอากับอาชีพนี้ครับ  ขายยากขายไม่ดีไม่มีคนซื้อ ภาษีโดนเก็บแพง  แถมยังต้องระวังสารพัด ::014::


จริงๆแล้วก็อยากติดกรงนะครับ :D  แต่ร้านข้างๆห่างไปไม่ไกล เป็นเจ๊ผู้หญิงตัวเล็กๆผอมๆแกดูแลร้านคนเดียว :D แกยังไม่ยอมติดกรงครับ ถ้าผมติดกรงก่อนชาวบ้านชาวช่องเขาจะเย้ยหยันไยไพเอาได้ครับ ::005::

ต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นครับ.....





คนชั่ว..มันเยอะขึ้นครับ.....





 ::014::

สุดท้ายตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนครับ ::014::

จับหนุ่มตกงานปล้นทองผิดตู้




โจรกระจอก - นายไกรศร มูลคำ อายุ 26 ปี นั่งจนมุมให้ตร.จับกุม หลังตกงานแล้วริเป็นโจรปล้นร้านทองในห้างบิ๊กซี อ.เมือง จ.ลำ ปาง แต่ดันเอาหินไปปาใส่กระจกเงาสะท้อนแทน เพราะนึกว่าเป็นตู้โชว์ทอง เมื่อ 27 ธ.ค.

 
เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 27 ธ.ค. ตำรวจสภ.เมืองลำปาง รับแจ้งจาก ด.ต.นิธินันท์ ใจแข็ง สายตรวจร้านทองในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาลำปาง ว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้ก้อนหินปาใส่กระจกร้านห้างทองกรุงเทพ เพชรยูบิลลี่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้น 1 แต่ถูกจับกุมไว้ได้จึงรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบคนร้ายคือนายไกรศร หรือแดงน้อย มูลคำ อายุ 26 ปี ถูกด.ต.นิธินันท์ควบคุมตัวไว้ ตรวจสอบภายในร้านพบกระจกเงาบานใหญ่ที่ติดอยู่กับผนังร้านด้านขวามือ ขนาด 2ด3 เมตร แตกเป็นทางยาวเสียหายทั้งบาน ใกล้กันพบก้อนหินหนัก 1 ก.ก. ตกอยู่ที่พื้น

สอบถามนายผดุง ทองศรี พนักงานให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนอยู่ในร้านกับพนักงานอีก 2 คน ต่อมาคนร้ายเดินเข้ามาในร้าน ก่อนใช้ก้อนหินปาใส่กระจกเงาฝั่งตรงข้ามกับตู้ทองจนร้าว ตนกับเพื่อนเห็นว่าไม่มีอาวุธจึงช่วยกันจับตัว โดยมีเจ้าหน้าที่สายตรวจ และรปภ. ซึ่งอยู่ละแวกนั้นวิ่งเข้ามาล็อกตัวไว้ได้

สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยไม่มีอาการสะทกสะท้านว่า ที่ทำไปเพราะตกงานไม่มีเงินใช้จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า มีโอ สีน้ำเงิน ทะเบียน ขธจ 608 ลำปาง มาดูลาดเลาถึงเวลา 3 วัน จนแน่ใจว่าสามารถชิงทองในร้านได้ วันนี้ก่อนลงมือได้เดินสังเกตการณ์อยู่หลายรอบ เมื่อสบโอกาสจึงเข้าไปในร้านล้วงเอาก้อนหินที่ใส่ไว้ในเสื้อแขนยาวแบบทหารขว้างใส่ตู้ทอง แต่ก้อนหินไปกระทบเข้ากับกระจกจนแตกร้าว จึงรู้ว่าขว้างไปโดนกระจกเงาที่ติดอยู่กับฝาผนังร้าน เพื่อสะท้อนให้เห็นตู้ใส่ทองอยู่ตรงข้ามกับกระจกเท่านั้น ขณะที่เตรียมวิ่งหนีกลับมาถูกเจ้าหน้าที่และรปภ.จับกุมตัวได้เสียก่อน

หน้า 11

 

 
 
     



 








 
   
   
 

อ่านแล้วคิดถึงเพื่อนสมาชิกเวบผู้ล่วงลับไปแล้ว คนหนึ่ง ที่ทำโรงสีข้าว
ต้องมีเงินสดไว้สำหรับรับซื้อข้าวจากชาวนา เขาโดนปล้น และโดนยิงเสียไปหลายปี
แต่สุดท้ายจับคนลงมือปล้นได้ 
ลักษณะคล้ายกันครับ โจรลงมือก่อน

บางคนว่าโจรมาเป็นแก๊งค์น่ากลัวแต่ผมว่าโจรมาคนเดียวน่ากลัวกว่านะครับตรงข้ามร้านทองเป็นธนาคารด้วยโจรมันไม่กลัวเลยว่าจะมีตำรวจเฝ้าธนาคารด้วย ถ้าตำรวจออกมามันคงจะสู้ รายนี้รูปพรรณคล้ายกับที่ปล้นฆ่าเจ้าของร้านทองที่หนองคายที่ตอนหลังทางการระบุตัวว่าเป็น"แด๊กซ์ 11มม."