เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

หัวหน้าผมที่ทำงานแกมีชื่อตามทะเบียนบ้านอยู่ที่นนทบุรี  แต่เจ้าตัวต้องมาทำงานที่หาดใหญ่  เลขตำแหน่ง  และตำแหน่งจริงอยู่ที่หาดใหญ่   พักที่หาดใหญ่  (แต่ภูมิลำเนาเดิม  อยูที่สะเดา  ย้ายทะเบียนบ้านมา เมืองนฯหลายสิบปีแล้ว) แกซื้อปืนใหม่  CZ  75  D  และต้องการพกพาปืนที่หาดใหญ่  ไม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรครับ  (แกขอป.3ที่นนฯครับ)


 

ตามปกติแล้วปืนต้องอยู่ตามใบป.4 ครับ รายละเอียดต้องรอเพิ่มเติมครับ ;D

  ย้ายไปหาดใหญ่แล้ว  ขอที่หาดใหญ่สิครับ  ให้ผู้ว่าฯจังหวัด เซ็นต์ครับ

ย้ายทะเบียนบ้านไปหาดใหญ่ซิครับ และย้ายทะเบียนปืนตามไปด้วย แล้วขอ ป.12 ภายในจังหวัด  ;D

 :)..ในพื้นที่ทางจังหวัดในภาคใต้ เจ้าหน้าที่น่าจะใช้หลักรัฐศาสตร์เพื่อเอาใจประชาชนมากกว่า  ยึดถือกฎหมายที่เข้มงวดเป็นหลัก
      การพกพาอาวุธปืนไปด้วย จึงยังไม่น่ากังวลเท่าไร ถ้าเป็นข้าราชการด้วย ก็จะไม่น่าจะมีปัญหา..
      เว้นแต่ มีขบวนของผู้ใหญ่ในส่วนกลางลงไป เท่านั้น .. ระวัง  อย่าไปอยู่ผิดที่ ผิดเวลา..

      แต่ถ้าต้องการขอ ป.๑๒ ในเขตจังหวัด ก็จำเป็นต้องย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ในจังหวัดสงขลา ..
      ย้ายไปวันนี้ พรุ่งนี้ก็ยื่นคำร้องขอได้เลยครับ. ส่วนการอนุญาตเป็นอำนาจของผู้ว่า ฯ .

      แต่ถ้า ไม่ต้องการ ขอ.ป.๑๒  ก็ไม่จำเป็นต้องย้ายไปครับ.. 

      ในประเด็น ป.๔ ตรงกับทะเบียนบ้าน ในจังหวัดนนทบุรี  แต่มีตำแหน่งการงานอยู่ที่จ.สงขลา จำเป็นต้องย้ายทะเบียน บ้าน
      เพื่อ ย้าย ป.๔ ไป ไหม..   ไม่จำเป็นครับ.. อาวุธปืน ได้รับอนุญาตถูกต้องแล้ว จะไปอยู่ที่ไหนก็ได้
      เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ของเจ้าของ... เพียงแต่ต้องระวังในการนำพาระหว่างทางครับ   :)

มีบางท่านบอกว่าให้ไปขอหนังสือรับรองจาก  อธิบดีกรมชลฯ  แล้วนำไปแจ้งกับผู้ว่า สงขลา ไม่ทราจริงเท็จแค่ไหน

 :).. เรื่อง ป.๑๒  น่าไปจะต้องยื่นคำร้อง ทีสำนักงานจังหวัด  ขาดเอกสารใด นำไปเพิ่มทีหลังได้ครับ..
       เป็นข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ สภาพการทำงาน และการเสี่ยงภัยในพื้นที่  อยู่ในสายตาฝ่ายปกครองเสมอ.ครับ.  :)

พอดีเมื่อวานโทรไปถามมาพอดีครับ จ.ชลบุรี การขอใบ ป.12 ภายในจังหวัด เจ้าหน้าฝ่ายปกครอง จ.ชลบุรีอธิบายว่า ช่วงนี้ไม้สามารถออกใบ ป.12 ได้ เนื่องจากมีคำสั่งจาก มท.1 ให้ระงับการออกใบ ป.12 ภายในจังหวัดทั้งหมด ผมจึงถามต่อไปว่าถ้าไม่ระงับจะมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร เจ้าหน้าที่อธิบายว่า ผู้ขอ ป.12ภายในจังหวัด จะต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านจังหวัดนั้นๆเกิน 6 เดือน โดยยื่นเรื่องไปที่อำเภอที่ออกใบ ป.4  แล้วให้ทางอำเภอส่งเรื่องมาที่จังหวัดให้ผู้ว่าพิจารณาอีกครั้ง
แล้วกรณีผม ชื่อและที่อยู่ อยู่ที่จังหวัดสุพรรณ แต่มาทำงานที่ชลบุรีจะต้องทำอย่างไร เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ไม่สามารถออกใบ ป.12 ให้ได้เนื่องจากไม่มีชื่ออยู่ในจังหวัดชลบุรี เรื่องก็มีดังนี้แต่ท่านก็บอกว่าไม่ลองขอ ป.12 ทั้วประเทศละเห็นยังออกให้อยู่นะ

 :).ถ้าเป็นปรกติ ไม่มีคำสั่งทางการปกครอง  มาระงับไว้..
     ป.๑๒ ภายในจังหวัด ก็เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ละจังหวัด...
     ตามมาตรา ๒๒ ของ พรบ.อาวุธปืนฯ  สำหรับผู้ขอ ที่มีถิ่นที่อยู่ภายในจังหวัดนั้น ..

     ผู้มีหน้าที่ในการรับเรื่อง จะเป็นสำนักงานจังหวัด ..
     ไม่มีกฎหมายระบุไว้ ในเรื่องระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๖ เดือน
     เหมือนการขออนุญาต มีและใช้อาวุธปืน..
     เป็นแต่ภูมิลำเนาใน ป.๔  ต้องตรงกับภูมิลำเนา ตาม รายการทะเบียนบ้าน.ครับ..  :)
   

เคยชนกับนายทะเบียน อ.หาดใหญ่ คนเก่าครับ  ใช้ชื่อหน่วยงานเพื่อขออำนวยความสะดวกให้ออกใบอนุญาตพกพาให้  ยื่นเรื่องไปไม่ถึง 5 คน (แต่ละคนไม่มีภูมิลำเนาอยู่หาดใหญ่) แต่นับถือนายทะเบียนครับ ยืนยันว่ายังไงทางอำเภอก็ไม่อนุญาต  ต้องให้ย้ายทะเบียนบ้านและย้าย ป.4 มาอยู่ที่หาดใหญ่ถึงจะดำเนินการให้  สรุปว่าผมถอยกลับ  ยื่นเรื่องให้ทางกองทัพออกใบรับรองให้แทนครับ  ;)

..................ดูเหมือนแต่ละที่ก็แต่ละกฎนะขอรับ..................

ลองอ่านข้อความนี้
เนื่องจากยังมีความจำเป็นในการรักษาความสงบเรียบร้อย และเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕๗ แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ ให้จำกัดการออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว (แบบ ป. ๑๒) โดยระงับการออกใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวเป็นการชั่วคราวหากบุคคลใดมีความจำเป็นพิเศษมากกว่าปกติธรรมดาและประสงค์จะขออนุญาตมีอาวุธปืนติดตัวจะต้องได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานโดยการอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

เรื่องการระงับใบอนุญาต  ผมยอมรับ  เพราะเป็นอำนาจของ มท.1
แต่เรื่องการให้ มท.1 กลั่นกรองก่อน   ผมเห็นว่าผิดกฎหมาย    เพราะ พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ กำหนดอำนาจการอนุมัติไว้ว่าเป็น ผบ.ตร. กับผู้ว่าราชการจังหวัด   ตรงนี้เป็นอำนาจตามกฎหมาย  คือเป็นอำนาจที่มาจากฝ่ายนิติบัญญัติโดยตรง   ฝ่ายบริหารไม่มีสิทธิที่จะมาเปลี่ยนแปลงได้

แล้วจะมีแนวทางในการต่อสู้อย่างไรครับ ::)

อย่างแรก ควรใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ฯ ขอทราบว่าตั้งแต่ออกคำสั่งนี้มา (29 พ.ค.46)  มท.1 เคยอนุมัติให้ใครไปบ้าง

การใช้สิทธิตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร ขอทราบดังกล่าว เราต้องเป็นผู้ร้องขอป.12เสียก่อนหรือไม่ครับ

ไม่ต้องครับ   ประชาชนคนไหนก็มีสิทธิขอดูได้  หลักการเป็นอย่างนี้ครับ
ข้อมูลของราชการ   เปิดเผยเป็นหลัก  ปกปิดคือข้อยกเว้น
ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน  ปกปิดเป็นหลัก  เปิดเผยคือข้อยกเว้น
ข้อมูลที่อ้างว่าเป็นความลับ  หรือเปิดเผยไม่ได้ด้วยเหตุอื่น   จะมีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารมาวินิจฉัยชี้ขาด
ลักษณะการเปิดเผย
1  ต้องส่งไปลงราชกิจจานุเบกษา + ใส่แฟ้มเตรียมไว้ให้ประชาชนดู
2  ใส่แฟ้มเตรียมไว้ให้ประชาชนดู
3  ให้ดูต่อเมื่อมีการร้องขอ
        การออกใบ ป.3  ป.4  หรือ ป.12  ถือเป็นผลการพิจารณาที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน  ซึ่งเป็นข้อมูลข่าวสารประเภทที่ต้องจัดเตรียมไว้ให้ประชาชนตรวจดู  ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 มาตรา 9 (1)
วิธีการ  ก็คือต้องไปดูที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารของกรมการปกครองเสียก่อน (อยู่วังไชยา)  ถ้าไม่มี ก็ยื่นคำร้องขอดู  แล้วท่าน ผอ.สำนักสอบสวนและนิติการ  ท่านก็จะพยายามอ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล  เราก็อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัย ฯ
และไหน ๆ จะอุทธรณ์แล้ว  ก็ควรขอดูเรื่องที่เขาหวง อย่างเช่นการออก ป.4 ปืนไรเฟิล ใน กทม.ในช่วงที่กรมการปกครองรับผิดชอบเสียด้วย   อาจจะเห็นของแปลก เช่นมีรายหนึ่ง ที่ยื่นเรื่องรับโอน 10 กระบอก (มีไรเฟิล 4 กระบอก) ป.4 ออกวันรุ่งขึ้น

ขอบคุณผู้การครับ

ผมอนุมาณว่าถ้าว่าตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการ จะเร็วจะช้าและแม้จะต้องถูกยื้อในขั้นตอนต่างๆบ้าง แต่ก็น่าจะได้มาซึ่งรายชื่อผู้ที่ได้รับป.12 หลังจากคำสั่งมท. 235/2546 และรวมทั้งเรื่องรายชื่อผู้ได้รับป.4 ปืนไรเฟิลจากกรมการปกครองด้วยเช่นกัน

ขอถามข้ามขั้น ไปถึงการนำข้อมูลรายชื่อที่ว่า ไปสู่การเพิกถอน/ระงับ คำสั่งที่ผิดกฎหมาย/ไม่เป็นธรรม ว่าจะทำได้อย่างไรครับ

เรื่อง ป.4  เอาไว้เป็นข้อต่อสู้เรื่องการเลือกปฏิบัติ

ส่วนเรื่องการอนุมัติ ป.12  ก็ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง    เช่นถ้าพบว่าไม่เคยมีการอนุมัติเลย  ก็แปลว่าข้ออ้างเรื่องไม่ได้ห้ามเด็ดขาด เป็นเรื่องโกหก    แต่ถ้ามีการอนุมัติเฉพาะคนบางกลุ่ม ก็เป็นเรื่องการเลือกปฏิบัติ

ทราบมาว่าตอนนี้มีรายชื่อผู้ขอป.12บางส่วนที่สน.ตช.ตั้งเรื่องเสนอให้มท.1พิจารณา
รอผลกันอยู่ ถ้าไม่ได้ หรือได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็คงเป็นการเลือกปฏิบัติแน่นอนครับ
เพราะทราบว่าก่อนหน้านี้เคยมีการอนุมัติ ให้เป็นรายบุคคลที่"เข้าถึง"ไปบ้างแล้ว

 :VOV:..อึ่ม..นั่งอ่านเรื่องนี้พอจะเข้าใจบ้างแล้วล่ะครับ..ขอคุณท่านสุพินท์..ที่ช่วยให้ความรู้ครับ ;D

ขอบคุณครับที่ให้ความรู้ ;D ;D ;D