เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Nat_usp ที่ มกราคม 17, 2011, 05:09:27 PM



หัวข้อ: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มกราคม 17, 2011, 05:09:27 PM
มาบ่นอีกแล้วครับ

ที่อยุธยายูเทิร์นเกือกม้าเสร็จหลายแห่งแล้ว  แต่แทนที่จะสบายเวลากลับรถ

ต้องมาระวังมอเตอร์ไซด์ยูเทิร์นย้อนศรอีก สุดเซ็งเลย

ที่เจอก็ ตรงนิคมฯไฮเทค และตรงห้างฯบิ๊ก-ซอ ครับ

เปิดใช้มาไม่ถึง 1 เดือน ผมเจอไป 3 ครั้งแล้ว ( 3ครั้ง 4 คัน )

ช่วงเลาที่เจอก็ 1 - 2 ทุ่มครับ

ผมสงสัยว่าจะเอาสะดวกสะสบายอะไรกันนักหนา

ชีวิตตัวเองไม่หวงจะให้คนอื่นมาคอยระวังหรือครับ

ท่านใดมาใช้ยูเทิร์นเกือกม้าตรงจุดผมบอก

ก็ระวังมอเตอร์ไซด์ใจกล้าด้วยแล้วกันครับ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ มกราคม 17, 2011, 06:05:45 PM
แถวๆหน้าแฟชั่นไอส์แลนด์มอเตอร์ไซด์ย้อนศรออกช่อง 7 ได้2วันก็เหมือนเดิมไม่รู้ว่าวันไหนจะได้โชคใหญ่เหมือนกันครับ ::004::


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: FCUK ที่ มกราคม 17, 2011, 09:46:20 PM
แถวๆหน้าแฟชั่นไอส์แลนด์มอเตอร์ไซด์ย้อนศรออกช่อง 7 ได้2วันก็เหมือนเดิมไม่รู้ว่าวันไหนจะได้โชคใหญ่เหมือนกันครับ ::004::

แจ้ง บก.๐๒ แจ้ง บก.น.๔ หลายครั้ง(สน.บางชันยอดแย่) ทั้งด้วยวาจาและเป็นลายลักษณ์อักษร  มีการกวดขันเป็นระยะ แต่เผลอปั๊บย้อนปุ๊บเพราะยูเทิร์นไกลจริงๆ  ผู้โดยสารซ้อนท้ายมักบอกให้ย้อนศรเอง เพราะไปกลับรถตรง กม.๑๐ มันไกลและอันตรายกว่ามาก(เข้าใจกันไปอย่างนั้นเอง)
ผมไม่อยากคิดจะให้เกิด  แต่ถ้ามีซีวิคแบบแพรวากวาดเรียบสามสี่คันพร้อมกันให้เกลื่อนถนนพอเป็นข่าว "สรย้วย ยามเช้า" จะได้รับการแก้ไขแน่นอน ภาวนาว่าอย่าให้เป็นเด็กนักเรียนตัวเล็กๆก็แล้วกัน


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มกราคม 17, 2011, 10:15:17 PM


ทุบเกาะกลาง เป็นช่อง สักหน่อย ก็ไปกันได้แล้ว


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 17, 2011, 10:18:19 PM
ต้องเข้าประกันชั้น ๑ ไว้ครับ    ;D


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ มกราคม 18, 2011, 08:45:23 AM
ไม่ค่อยได้ผ่านแถวนั้นครับ... ได้ฟังมานี้แย่ครับ....แต่ก็นี้และประเทศไทย   อิอิ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: ต่อครับ ที่ มกราคม 18, 2011, 08:45:42 AM
เจอทุกวันเหมือนกันครับพี่ น่าเบื่อ แต่คงทำได้เพิ่มความระมัดระวัง

ไปบีบแตรไล่ เดี๋ยวมันยิงสวนเอา ยิ่งกลัวๆอยู่ด้วย

:D


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 18, 2011, 08:53:37 AM
พูดแล้วก็เหมือนเดิม คือทุกเรื่องของประเทศไทยนายสมชายว่ามันเกิดจาก... 1) คนโง่มันแยะเกินไป คิดมักง่าย(ตรงนี้คนออกแบบถนนก็ต้องช่วยแก้ด้วย แต่คนออกแบบก็ส่วนใหญ่โง่ - โดยเฉพาะป้ายบอกทางไม่ค่อยได้ผล), และ 2) คนบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ มักอ้างว่าเข้มเกินไปก็โดนบ่น โดนชาวบ้านด่า แล้วก็เลยกลายเป็นปล่อยเลย หรือไม่ก็ประชดด้วยการหาเรื่องแกล้งจับ ไม่เคยพอดี...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มกราคม 18, 2011, 08:59:13 AM
แถวๆหน้าแฟชั่นไอส์แลนด์มอเตอร์ไซด์ย้อนศรออกช่อง 7 ได้2วันก็เหมือนเดิมไม่รู้ว่าวันไหนจะได้โชคใหญ่เหมือนกันครับ ::004::
ย้อนจากแฟชั่นมาถนนปัญญา ชนกันบ่อยครับ ;D


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 18, 2011, 08:59:40 AM
เจอทุกวันเหมือนกันครับพี่ น่าเบื่อ แต่คงทำได้เพิ่มความระมัดระวัง

ไปบีบแตรไล่ เดี๋ยวมันยิงสวนเอา ยิ่งกลัวๆอยู่ด้วย

:D

คดีไอ้จิ๊บไอ้โจ๊ก กับคดีกัปตันการบินไทยนี่มีข้อดีทำให้คนรู้ว่าตำรวจสามารถตามจับได้"หากจะทำ"... เพราะก่อนหน้านี้ใครยิงปืนใส่รถคันอื่นแล้วไม่เคยมีโดนจับ แม้แต่โดนยิงที่หน้าวัดเอี่ยมวรนุชฯ...

ถ้าโดนจับกันบ้าง จะได้รู้ว่ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์จริง... ม่ายงั้นบนถนนมันจะน่ากลัวมาก เพราะคนเลวมันรู้ว่ายิงแล้วไม่โดนจับ, ทีนี้คนดีก็ตั้งท่า"ยิงก่อน", ตกลงเลยไม่รู้เลยว่าใครดีใครเลว เพราะมันยิงใส่กันทั้งคู่...

เรื่องรถยนต์บนถนน นี่น่าจะรณรงค์ใหญ่เรื่องกฎจราจร+มรรยาทกันมั่งก็ดี... ทุกวันนี้อาศัยใจถึงเข้าว่า ก็คนมันไม่รู้กฎจราจร ต่างฝ่ายก็คิดว่าตนเองถูก...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ มกราคม 18, 2011, 10:26:53 AM
พูดแล้วก็เหมือนเดิม คือทุกเรื่องของประเทศไทยนายสมชายว่ามันเกิดจาก... 1) คนโง่มันแยะเกินไป คิดมักง่าย(ตรงนี้คนออกแบบถนนก็ต้องช่วยแก้ด้วย แต่คนออกแบบก็ส่วนใหญ่โง่ - โดยเฉพาะป้ายบอกทางไม่ค่อยได้ผล), และ 2) คนบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ มักอ้างว่าเข้มเกินไปก็โดนบ่น โดนชาวบ้านด่า แล้วก็เลยกลายเป็นปล่อยเลย หรือไม่ก็ประชดด้วยการหาเรื่องแกล้งจับ ไม่เคยพอดี...
อืม..ถ้าคิดว่าคนออกแบบส่วนใหญ่โง่..ทำไมถึงคิดแบบนั้นละครับ ถ้างั้นรบกวนพี่แนะนำข้อมูลหน่อย ผมจะได้ไปบอกข้อมูลพี่ๆที่ออกแบบให้ พอดีผมพอรู้จักหลายคนอยู่ครับ :VOV:
ส่วนเรื่องทางกลับรถ ทางหลวงสาย32นั้นต้องมีเพราะการขยายช่องทางจราจรมากขึ้น การกลับรถตรงเกาะกลางถนนนั้นอันตรายมาก โดยเฉพาะรถขนาดใหญ่เช่นรถบัสโดยสาร หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่
 การวิ่งย้อนทิศทางจราจรนั้นผมว่าเป็นเรื่องของความมักง่ายและเห็นแก่ตัวมากกว่า ผมเคยไปช่วยคนที่ประสบเหตุเพราะขับรถย้อนศร ทั้งที่ที่กลับรถห่างไปไม่ถึง100เมตร ถ้าทำตามกฏสักนิดวันนั้นคนที่ย้อนศรคงไม่ตาย คนที่ขับมาตามทาง
ก็ไม่ต้องบาดเจ็บ ดีที่รถที่วิ่งมาตามทางคาดเข็มขัดนิรภัยมาทั้งคันไม่งั้นแย่แน่ ... คนมันจะมักง่ายที่กลับรถห่างบ้านแค่ไม่กี่เมตรมันยังย้อนศรเลย
ถ้าจะปรับปรุงผมว่าน่าจะเป็นเรื่องวินัยจราจรและการบังคับใช้กฏหมายที่ควรต้องปรับปรุงมากกว่าครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ มกราคม 18, 2011, 11:43:26 AM
บ้านเรา ทำไมถึงมีคนโดนรถชนใต้สะพานลอย

บ้านเรา มีคนโดนจี้บนสะพานลอย

บ้านเรา คนแก่คนท้องจะข้ามสะพานลอยไหวไหม

ทุกอย่างต้องไปด้วยกันครับ.........ด้วยความเคารพ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มกราคม 18, 2011, 11:49:44 AM
ปัญหาคือ คนออกแบบไม่ได้สำรวจ  คนสำรวจไม่ได้ออกแบบครับ  เลยมั่วตั๊วลูกลำเพลินกันไป  แต่เชื่อไหม ที่ไหนมีปั๊ม ปตท.อีกไม่เกิน100-200เมตร ต้องมียูเทิร์นหรือทางแยกทันที แม้ว่าจะไม่มีแต่เดิมก็เหอะ  มันจะมีขึ้นมาก่อนปั๊มเสร็จไม่ถึงอาทิตย์... ;D


ปล.ที่ต้องโทษมากที่สุดคือนิสัยมักง่ายของเรานีแหละครับ...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มกราคม 18, 2011, 11:49:49 AM
เวลาสร้างถนน สร้างยูเทิร์น สร้างสะพานลอย ต้องคำนึงถึงบุคคลสามฝ่ายบ้างครับ
รถยนต์
รถมอเตอร์ไซค์
คนข้ามถนน

ต้องสมดุลย์กันอย่าไปเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป จนเสียสมดุลย์ไป อันตรายมันจะตามมาภายหลัง
เวลานี้ผมเห็นว่าเอาใจแต่บุคคลแรกมากเกินไป จนสองคนหลังแทบไม่มีที่โผล่หัวในสังคมคนใช้รถใช้ถนนกันแล้ว


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ มกราคม 18, 2011, 11:53:16 AM
หลายอย่างต้องปรับปรุงครับ แต่บางอย่างต้องยอมรับว่ามีปัจจยมากมายมาบังคับ
อย่างสะพานลอยเมื่อก่อนกันตกเป็นคอนกรีต ทำให้ลับตาคน ทำให้มีคนโดนจี้
ต่อมาปรับปรุงเป็น กันตกสแตนเลส ที่น่าทุเรศคือโดนตัดไปขายซะงั้น
แต่ที่ทุเรศที่สุดคือมีหน่วยงานต่างๆเอาป้ายต่างๆไปติดจนมันบังตาคนเหมือนเดิม......
ส่วนความชันนั้นจำเป็นครับ...เพราะถ้าทางลาดมากๆก็บังหน้าที่ หน้าร้าน โดนประท้วงไล่ที่อีก


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มกราคม 18, 2011, 12:05:04 PM
เวลาสร้างถนน สร้างยูเทิร์น สร้างสะพานลอย ต้องคำนึงถึงบุคคลสามฝ่ายบ้างครับ
รถยนต์
รถมอเตอร์ไซค์
คนข้ามถนน
ต้องสมดุลย์กันอย่าไปเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป จนเสียสมดุลย์ไป อันตรายมันจะตามมาภายหลัง
เวลานี้ผมเห็นว่าเอาใจแต่บุคคลแรกมากเกินไป จนสองคนหลังแทบไม่มีที่โผล่หัวในสังคมคนใช้รถใช้ถนนกันแล้ว

อ่านถึงตรงนี้นึกได้  ท่านที่ใช้ทางคู่ขนานก่อนถึงห้าง Big-C อยุธยา ( ขาขึ้นเหนือ )
ระวังคนข้ามถนนด้วยครับเพราะสะพานลอยมีครึ่งเดียว ตรงถนนสายหลัก
พอสร้างคู่ขนาน ไม่ได้สร้างสะพานลอยต่อ  อันตรายกับผู้ข้ามถนนมากๆครับ
เพราะเป็นแยกตัว T  ถนนเป็น 2 +เลนสวนกัน+รถเข้า ออก จากซอย


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 18, 2011, 12:13:35 PM
พูดแล้วก็เหมือนเดิม คือทุกเรื่องของประเทศไทยนายสมชายว่ามันเกิดจาก... 1) คนโง่มันแยะเกินไป คิดมักง่าย(ตรงนี้คนออกแบบถนนก็ต้องช่วยแก้ด้วย แต่คนออกแบบก็ส่วนใหญ่โง่ - โดยเฉพาะป้ายบอกทางไม่ค่อยได้ผล), และ 2) คนบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ มักอ้างว่าเข้มเกินไปก็โดนบ่น โดนชาวบ้านด่า แล้วก็เลยกลายเป็นปล่อยเลย หรือไม่ก็ประชดด้วยการหาเรื่องแกล้งจับ ไม่เคยพอดี...
อืม..ถ้าคิดว่าคนออกแบบส่วนใหญ่โง่..ทำไมถึงคิดแบบนั้นละครับ ถ้างั้นรบกวนพี่แนะนำข้อมูลหน่อย ผมจะได้ไปบอกข้อมูลพี่ๆที่ออกแบบให้ พอดีผมพอรู้จักหลายคนอยู่ครับ :VOV:
ส่วนเรื่องทางกลับรถ ทางหลวงสาย32นั้นต้องมีเพราะการขยายช่องทางจราจรมากขึ้น การกลับรถตรงเกาะกลางถนนนั้นอันตรายมาก โดยเฉพาะรถขนาดใหญ่เช่นรถบัสโดยสาร หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่
 การวิ่งย้อนทิศทางจราจรนั้นผมว่าเป็นเรื่องของความมักง่ายและเห็นแก่ตัวมากกว่า ผมเคยไปช่วยคนที่ประสบเหตุเพราะขับรถย้อนศร ทั้งที่ที่กลับรถห่างไปไม่ถึง100เมตร ถ้าทำตามกฏสักนิดวันนั้นคนที่ย้อนศรคงไม่ตาย คนที่ขับมาตามทาง
ก็ไม่ต้องบาดเจ็บ ดีที่รถที่วิ่งมาตามทางคาดเข็มขัดนิรภัยมาทั้งคันไม่งั้นแย่แน่ ... คนมันจะมักง่ายที่กลับรถห่างบ้านแค่ไม่กี่เมตรมันยังย้อนศรเลย
ถ้าจะปรับปรุงผมว่าน่าจะเป็นเรื่องวินัยจราจรและการบังคับใช้กฏหมายที่ควรต้องปรับปรุงมากกว่าครับ ::014::

เรื่องออกแบบตำแหน่งว่าตรงไหนควรจะมีสะพานลอยคนข้ามถนน หรือสะพานลอยสำหรับมอเตอร์ไซค์นั้น ท่านอื่นบอกไปแล้วครับ... มีที่นายสมชายพูดบ่อยและยังไม่ได้รับการแก้ไขคือเรื่องทางโค้งรัชดาหน้าศาลอาญา กับเรื่องป้ายบอกทาง"ก่อน"ถึงทางแยะน่ะครับ...

เรื่องทางโค้งรัชดาหน้าศาลอาญา มีการคุยกันไปแล้วว่าเป็นเพราะส่วนโค้งของถนนมันมี"หัก"ซ้อนข้างในโค้งครับ ทำให้รถยนต์มุ่งหน้าเข้าแยกรัชโยธินที่เลี้ยงแรงเหวี่ยงพอดีกับแรงเสียดทานที่พื้นถนนแบบเป๊ะๆ พอถึงโค้งแล้วต้องหักโค้งซ้อนในโค้ง เลยมักหลุดโค้งครับ, ตรงนี้ในกระทู้เก่าเคยคุยกันว่าออกแบบไม่ดี ทหารช่างมาสร้างแล้วพบว่าไม่ถูกต้องขอแก้ไข แต่ทางคนออกแบบไม่ได้แก้แบบครับ... เรื่องนี้คนประมาทมันก็ขับกันเร็วเกิน แต่คนออกแบบน่าจะเผื่อคนประมาทเอาไว้ด้วยครับ...

เรื่องป้ายบอกทางทั่วไป... คือมาตรฐานประเทศไทยกับต่างประเทศแตกต่างกันมาก, ของประเทศไทยบอกก่อนถึงแยกกระชั้นชิดเกิน โดยนายสมชายเข้าใจว่าคนออกแบบใช้ความเร็วมาตรฐานไม่เกิน 90 กม./ชม. เป็นตัวตั้ง, ทีนี้เวลาคนขับรถ 120 กม./ชม.(เกินความเร็วขั้นสูงตามกฎหมายแน่ๆ) ก็เลยกลายเป็นมองป้ายไม่ทัน...

สำหรับ"ทางราบ"นั้น ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ป้ายบอกทางบนถนนวิภาวดีจากดินแดงไปรังสิต มีป้ายเล็กๆบอกโน่นนี่เป็นระยะๆ แล้วบางป้ายก็มีต้นไม้บังอีกต่างหาก... นี่ไม่นับป้ายบนถนนอื่นอีกทั่วประเทศครับ, ก็คือใครก็ตามที่ผ่านมาครั้งแรกต้องหลงก่อนทุกครั้ง...

ส่วนบนทางด่วนก็คือป้ายบอกแยกต่างๆ ที่ไปแปะเอาไว้กับ"ง่ามตัววาย"พอดีเป๊ะ เช่นป้ายบอกแยกไปหลานหลวง ไปสาทร เป็นต้น... เรื่องนี้เคยได้ยินผู้ใหญ่ในประเทศไทยบอกว่าสาเหตุที่รถยนต์"ตก"ทางด่วนก็เพราะไม่ชินเส้นทาง...

นายสมชายเคยขับรถยนต์ที่ต่างประเทศทริปเดียว 20,000 กิโล(สองหมื่น) ก็เคยครับ... เอาที่ USA เขาจะมีป้ายบอกเป็นระยะ"ก่อนถึง"ห่างพอให้คนขับย้ายเลนล่วงหน้าได้ทัน, และหากป้ายบอกสถานที่หลายแห่ง เขาก็จะเรียงตามลำดับ ที่ไหนถึงก่อนจะมีตำแหน่งอยู่ซ้ายมือสุด, สถานที่ห่างออกไปแห่งใหม่จะปรากฎครั้งแรกที่ขวามือสุด แล้วค่อยๆเลื่อนมาทางซ้ายมือเมื่อใกล้ถึงครับ...

สำหรับป้ายบนทางด่วนที่เมืองไทยนั้น คนขับต้องรู้ว่า"หลานหลวงถึงก่อนบางนา"ม่ายงั้นงงเลยครับ... เย้...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 18, 2011, 12:22:20 PM
เวลาสร้างถนน สร้างยูเทิร์น สร้างสะพานลอย ต้องคำนึงถึงบุคคลสามฝ่ายบ้างครับ
รถยนต์
รถมอเตอร์ไซค์
คนข้ามถนน

ต้องสมดุลย์กันอย่าไปเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป จนเสียสมดุลย์ไป อันตรายมันจะตามมาภายหลัง
เวลานี้ผมเห็นว่าเอาใจแต่บุคคลแรกมากเกินไป จนสองคนหลังแทบไม่มีที่โผล่หัวในสังคมคนใช้รถใช้ถนนกันแล้ว

ต่างประเทศให้ความสำคัญกับจักรยานด้วยนะ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 18, 2011, 12:23:28 PM


ทุบเกาะกลาง เป็นช่อง สักหน่อย ก็ไปกันได้แล้ว

งงอยู่ครับ คุณยอด ทุบเกาะกลางแบบไหนครับ
จินตนาการไม่ออกจริงๆ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ มกราคม 18, 2011, 01:07:40 PM
พูดแล้วก็เหมือนเดิม คือทุกเรื่องของประเทศไทยนายสมชายว่ามันเกิดจาก... 1) คนโง่มันแยะเกินไป คิดมักง่าย(ตรงนี้คนออกแบบถนนก็ต้องช่วยแก้ด้วย แต่คนออกแบบก็ส่วนใหญ่โง่ - โดยเฉพาะป้ายบอกทางไม่ค่อยได้ผล), และ 2) คนบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ มักอ้างว่าเข้มเกินไปก็โดนบ่น โดนชาวบ้านด่า แล้วก็เลยกลายเป็นปล่อยเลย หรือไม่ก็ประชดด้วยการหาเรื่องแกล้งจับ ไม่เคยพอดี...
อืม..ถ้าคิดว่าคนออกแบบส่วนใหญ่โง่..ทำไมถึงคิดแบบนั้นละครับ ถ้างั้นรบกวนพี่แนะนำข้อมูลหน่อย ผมจะได้ไปบอกข้อมูลพี่ๆที่ออกแบบให้ พอดีผมพอรู้จักหลายคนอยู่ครับ :VOV:
ส่วนเรื่องทางกลับรถ ทางหลวงสาย32นั้นต้องมีเพราะการขยายช่องทางจราจรมากขึ้น การกลับรถตรงเกาะกลางถนนนั้นอันตรายมาก โดยเฉพาะรถขนาดใหญ่เช่นรถบัสโดยสาร หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่
 การวิ่งย้อนทิศทางจราจรนั้นผมว่าเป็นเรื่องของความมักง่ายและเห็นแก่ตัวมากกว่า ผมเคยไปช่วยคนที่ประสบเหตุเพราะขับรถย้อนศร ทั้งที่ที่กลับรถห่างไปไม่ถึง100เมตร ถ้าทำตามกฏสักนิดวันนั้นคนที่ย้อนศรคงไม่ตาย คนที่ขับมาตามทาง
ก็ไม่ต้องบาดเจ็บ ดีที่รถที่วิ่งมาตามทางคาดเข็มขัดนิรภัยมาทั้งคันไม่งั้นแย่แน่ ... คนมันจะมักง่ายที่กลับรถห่างบ้านแค่ไม่กี่เมตรมันยังย้อนศรเลย
ถ้าจะปรับปรุงผมว่าน่าจะเป็นเรื่องวินัยจราจรและการบังคับใช้กฏหมายที่ควรต้องปรับปรุงมากกว่าครับ ::014::

เรื่องออกแบบตำแหน่งว่าตรงไหนควรจะมีสะพานลอยคนข้ามถนน หรือสะพานลอยสำหรับมอเตอร์ไซค์นั้น ท่านอื่นบอกไปแล้วครับ... มีที่นายสมชายพูดบ่อยและยังไม่ได้รับการแก้ไขคือเรื่องทางโค้งรัชดาหน้าศาลอาญา กับเรื่องป้ายบอกทาง"ก่อน"ถึงทางแยะน่ะครับ...

เรื่องทางโค้งรัชดาหน้าศาลอาญา มีการคุยกันไปแล้วว่าเป็นเพราะส่วนโค้งของถนนมันมี"หัก"ซ้อนข้างในโค้งครับ ทำให้รถยนต์มุ่งหน้าเข้าแยกรัชโยธินที่เลี้ยงแรงเหวี่ยงพอดีกับแรงเสียดทานที่พื้นถนนแบบเป๊ะๆ พอถึงโค้งแล้วต้องหักโค้งซ้อนในโค้ง เลยมักหลุดโค้งครับ, ตรงนี้ในกระทู้เก่าเคยคุยกันว่าออกแบบไม่ดี ทหารช่างมาสร้างแล้วพบว่าไม่ถูกต้องขอแก้ไข แต่ทางคนออกแบบไม่ได้แก้แบบครับ... เรื่องนี้คนประมาทมันก็ขับกันเร็วเกิน แต่คนออกแบบน่าจะเผื่อคนประมาทเอาไว้ด้วยครับ...

เรื่องป้ายบอกทางทั่วไป... คือมาตรฐานประเทศไทยกับต่างประเทศแตกต่างกันมาก, ของประเทศไทยบอกก่อนถึงแยกกระชั้นชิดเกิน โดยนายสมชายเข้าใจว่าคนออกแบบใช้ความเร็วมาตรฐานไม่เกิน 90 กม./ชม. เป็นตัวตั้ง, ทีนี้เวลาคนขับรถ 120 กม./ชม.(เกินความเร็วขั้นสูงตามกฎหมายแน่ๆ) ก็เลยกลายเป็นมองป้ายไม่ทัน...

สำหรับ"ทางราบ"นั้น ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ ป้ายบอกทางบนถนนวิภาวดีจากดินแดงไปรังสิต มีป้ายเล็กๆบอกโน่นนี่เป็นระยะๆ แล้วบางป้ายก็มีต้นไม้บังอีกต่างหาก... นี่ไม่นับป้ายบนถนนอื่นอีกทั่วประเทศครับ, ก็คือใครก็ตามที่ผ่านมาครั้งแรกต้องหลงก่อนทุกครั้ง...

ส่วนบนทางด่วนก็คือป้ายบอกแยกต่างๆ ที่ไปแปะเอาไว้กับ"ง่ามตัววาย"พอดีเป๊ะ เช่นป้ายบอกแยกไปหลานหลวง ไปสาทร เป็นต้น... เรื่องนี้เคยได้ยินผู้ใหญ่ในประเทศไทยบอกว่าสาเหตุที่รถยนต์"ตก"ทางด่วนก็เพราะไม่ชินเส้นทาง...

นายสมชายเคยขับรถยนต์ที่ต่างประเทศทริปเดียว 20,000 กิโล(สองหมื่น) ก็เคยครับ... เอาที่ USA เขาจะมีป้ายบอกเป็นระยะ"ก่อนถึง"ห่างพอให้คนขับย้ายเลนล่วงหน้าได้ทัน, และหากป้ายบอกสถานที่หลายแห่ง เขาก็จะเรียงตามลำดับ ที่ไหนถึงก่อนจะมีตำแหน่งอยู่ซ้ายมือสุด, สถานที่ห่างออกไปแห่งใหม่จะปรากฎครั้งแรกที่ขวามือสุด แล้วค่อยๆเลื่อนมาทางซ้ายมือเมื่อใกล้ถึงครับ...

สำหรับป้ายบนทางด่วนที่เมืองไทยนั้น คนขับต้องรู้ว่า"หลานหลวงถึงก่อนบางนา"ม่ายงั้นงงเลยครับ... เย้...
เรื่องป้ายบอกทาง...ความเร็วมีผลครับปกตติตามมาตราฐาน (เราก็ใช้มาตราฐานกับสากลนะครับ) จะติดบอกกันประมาณ 1 กม.. 500 เมตร และประมาณ150เมตร เป็นระยะก่อนถึงทางแยกออกแต่บางครั้งรถวิ่งเร็วเกิน>120ย่อมดูไม่ทัน แต่ก็มีเหมือนกันที่ติดไม่ได้ระยะ อยู่จนเกือบจะถึงทางแยกก็มี
อีกทั้งบางแห่งป้ายมีมาก จนดูแล้วไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องต้นไม้บังป้ายนั้น อยู่ที่เจ้าของพื้นที่แล้วครับ เรื่องการดูแล 
ผมเดินทางบ่อยเหมือนกัน (ในประเทศนะครับ) ต้องดูแผนที่ก่อนวางแผนก่อนไม่งั้นก็หลงเอาดื้อๆเหมือนกันเพราะ ถนนในเมืองไทย
มีหลายเจ้าภาพครับ...หลักๆสายใหญ่ๆก็กรมทางหลวง...ระหว่างหรือภายในจังหวัดก็ทางหลวงชนบท...ที่เหลือก็เทศบาล อบต. กรมชลฯ
เวลาเดินทางผมจะดูหมายเลขถนนเป็นหลัก(ของกรมทางหลวง)เพราะจะตรงกับแผนที่ เพราะปัจจุบันถนนเกิดใหม่และที่ขยายเพิ่มก็เยอะครับ ป้ายบอกให้เลี้ยวซ้าย
พอจะเลี้ยว อ้าว..ผิดแยกซะแล้ว มีทางมาเชื่อมใหม่ ก่อนทางแยก ก็งงกันไป  ::011::
แต่ที่หน้าศาลอาญา โค้งนั้นน่ากลัวครับ...แต่ถ้าปิดเส้นนั้นปรับโค้งใหม่ผมว่ายิ่งน่ากลัวกว่าอีก :~) รถน่าจะติดแบบ...แต่ถ้าขับความเร็วปกติก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
แต่ส่วนใหญ่เหตุ ที่เกิดกลางคืน คนขับจะเมามาแล้วขับเร็วมากๆเพราะกลางคืน สถานบันเทิงเลิก ดึกๆรถจะโล่งมากๆ ก็มาสาดโค้งแบบ F1 กันเล่นๆ  คนเมา+คึกคะนอง=เรื่องเศร้าครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: ต้นหนาว ที่ มกราคม 18, 2011, 01:09:06 PM
ตอนนี้มานั่งอยู่ที่ สำนักแผนงาน กรมทางหลวง อยู่สองอาทิตย์กว่าแล้ว....และยังต้องอยู่ต่ออีกเป็นเดือน...
มีผู้ใหญ่ในกรม มาอธิบายให้ฟังในหลายๆ เรื่อง...ก็เข้าใจปัญหาในหลายๆอย่าง

ปัญหาต่างๆที่ถกกันอยู่นี้  สมาชิกบางท่านก็พูดถูก  บางท่านก็พูดเอาแต่ใจ...

ถ้าให้อธิบายด้วยเหตุ ด้วยผล....คงว่ากันยาว....

แค่ปัญหาจะสร้างเกือกม้าไว้ตรงหน้าบ้านใครก็เรื่องใหญ่...แล้ว...ไม่มีใครอยากได้หรอก

ปัญหาของกระทู้นี้...คือความมักง่ายของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ครับ....


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 18, 2011, 01:55:32 PM
เรื่องป้ายบอกทาง...ความเร็วมีผลครับปกตติตามมาตราฐาน (เราก็ใช้มาตราฐานกับสากลนะครับ) จะติดบอกกันประมาณ 1 กม.. 500 เมตร และประมาณ150เมตร เป็นระยะก่อนถึงทางแยกออกแต่บางครั้งรถวิ่งเร็วเกิน>120ย่อมดูไม่ทัน แต่ก็มีเหมือนกันที่ติดไม่ได้ระยะ อยู่จนเกือบจะถึงทางแยกก็มี
อีกทั้งบางแห่งป้ายมีมาก จนดูแล้วไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องต้นไม้บังป้ายนั้น อยู่ที่เจ้าของพื้นที่แล้วครับ เรื่องการดูแล  
ผมเดินทางบ่อยเหมือนกัน (ในประเทศนะครับ) ต้องดูแผนที่ก่อนวางแผนก่อนไม่งั้นก็หลงเอาดื้อๆเหมือนกันเพราะ ถนนในเมืองไทย
มีหลายเจ้าภาพครับ...หลักๆสายใหญ่ๆก็กรมทางหลวง...ระหว่างหรือภายในจังหวัดก็ทางหลวงชนบท...ที่เหลือก็เทศบาล อบต. กรมชลฯ
เวลาเดินทางผมจะดูหมายเลขถนนเป็นหลัก(ของกรมทางหลวง)เพราะจะตรงกับแผนที่ เพราะปัจจุบันถนนเกิดใหม่และที่ขยายเพิ่มก็เยอะครับ ป้ายบอกให้เลี้ยวซ้าย
พอจะเลี้ยว อ้าว..ผิดแยกซะแล้ว มีทางมาเชื่อมใหม่ ก่อนทางแยก ก็งงกันไป  ::011::
แต่ที่หน้าศาลอาญา โค้งนั้นน่ากลัวครับ...แต่ถ้าปิดเส้นนั้นปรับโค้งใหม่ผมว่ายิ่งน่ากลัวกว่าอีก :~) รถน่าจะติดแบบ...แต่ถ้าขับความเร็วปกติก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
แต่ส่วนใหญ่เหตุ ที่เกิดกลางคืน คนขับจะเมามาแล้วขับเร็วมากๆเพราะกลางคืน สถานบันเทิงเลิก ดึกๆรถจะโล่งมากๆ ก็มาสาดโค้งแบบ F1 กันเล่นๆ  คนเมา+คึกคะนอง=เรื่องเศร้าครับ  ::014::

เอาเรื่องป้ายบอกทาง กับเรื่องทางโค้งรัชดานะครับ... ส่วนเรื่องมีหลายเจ้าภาพ หรือเรื่องอื่นที่อาจพาดพิงถึงนั้นเดี๋ยวมันหลุดไปไกลครับ... เย้...

เรื่องป้ายบอกทางนั้นโจทก์มันมีอยู่ว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดอุบัติเหตุน่ะครับ, หากยึดมาตรฐาน(ที่ว่า)สากลแล้ว แต่มันยังเกิดอุบัติเหตุอยู่(ตกทางด่วน หรือชนเสาไฟฟ้า) หรือยังมีคนบ่นหลงทางอยู่ แสดงว่ามาตรฐานที่ว่าดีนั้นยังดีไม่พอครับ... มีที่น่าสังเกตว่าบริเวณไหนมีอุบัติเหตุบ่อย จะไม่ว่ายึดมาตรฐานใดก็ตาม แสดงว่ามาตรฐานของ"ตรงบริเวณนั้น"มันไม่ถูกต้องแล้วครับ, เพราะถ้ามันถูกต้องจะต้องมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยเหมือนที่อื่น...

มาตรฐานป้ายบอกทางนั้นนายสมชายไม่มีอาชีพด้านนี้ เลยไม่ทราบรายละเอียดครับ... แต่ที่เห็นแน่ๆคือสมมติว่าป้ายบอกทางไปหลายสถานที่ สถานที่ไหนใกล้สุดจะต้องไปอยู่บนราวแขวนป้ายซ้ายมือสุด สถานที่ไกลสุดจะอยู่ขวามือสุด(ตรงนี้ประเทศไทยมีป้ายสารพัดขนาด อยู่หลากตำแหน่ง), แล้วเมื่อจะเข้าแยกนั้นจะต้องมีลูกศรบอกช่องทางชี้ลงที่พื้นถนน(ตัวอย่างตรงนี้ที่ถนนวิภาวดี บริเวณรังสิตฯ ชวนสับสน)...

สำหรับเรื่องโค้งรัชดานั้น ไม่น่ากลัวรถติดเสียจนไม่กล้าปรับปรุง... เพราะถึงไม่ปรับปรุงถนน มันก็มีปรับปรุงอย่างอื่นให้รถติดอยู่ดีครับ เช่นทำผิวสะพานลอยรัชโยธิน รถก็ติดอีกอยู่ดี, ดังนั้นเรื่องนี้มันอยู่ที่"อยากจะแก้ไขหรือไม่"น่ะครับ...

แล้วถ้าบอกว่าสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุตรงโค้งนั้นเพราะคนเมาออกจากสถานบันเทิง เลยสาดโค้งแบบ F1 + คึกคะนอง = เรื่องเศร้านี่, มันต้องแยกประเด็นน่ะครับ คนเมาก็ผิดกฎจราจร สาดโค้งแบบ F1 กฏผิดกฏจราจร แต่ความผิดแบบนั้นมันไม่ถึงกับต้องตายนี่ครับ... มันก็ต้องกลับมาที่เดิมว่าโจทย์ของคนออกแบบถนนต้องหาวิธีแก้ไขรักษาชีวิตพวกประมาท พวกเมา พวกคะนองนี่ด้วยเหมือนกันแหละครับ...

ประเด็นคือการออกแบบจะต้องมุ่งป้องกันเผื่อคนประมาท คนมักง่าย คนโง่ ฯลฯ ซึ่งสรุปคือป้องกันความเสียหายน่ะครับ... แล้วหากมันยังอุตส่าห์เกิดความเสียหายขึ้นอีก ก็ต้องล้อมคอกกันต่อไป(อาจเกินมาตรฐานฯ)ครับ...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Eka นายเอกา+รักในหลวง ที่ มกราคม 18, 2011, 03:07:37 PM
น่าเห็นใจครับต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลครับ แม้แต่พวกที่ย้อนศรเขาก็ยังอ้างเพื่อความปลอดภัยและประหยัดทั้งที่รู้ว่ามันผิด

และขออาศัยกระทู้นี้สอบถามท่านผู้รู้หรือมีความเกี่ยวข้องด้วยครับผมสงสัยมานาน .. ตรงจุดกลับรถใต้สะพานตอนออกจากสนามยิงปืนบางบัวทองทำไมมันถึงต้องไปโผล่ในหมู่บ้าน/โครงการแถวนั้นแทนที่จะกลับออกถนนใหญ่ครับ  หรือว่ามันไม่ใช่จุดกลับรถแต่เป็นทางเข้าโครงการของเอกชนครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ มกราคม 18, 2011, 03:48:37 PM
เรื่องป้ายบอกทาง...ความเร็วมีผลครับปกตติตามมาตราฐาน (เราก็ใช้มาตราฐานกับสากลนะครับ) จะติดบอกกันประมาณ 1 กม.. 500 เมตร และประมาณ150เมตร เป็นระยะก่อนถึงทางแยกออกแต่บางครั้งรถวิ่งเร็วเกิน>120ย่อมดูไม่ทัน แต่ก็มีเหมือนกันที่ติดไม่ได้ระยะ อยู่จนเกือบจะถึงทางแยกก็มี
อีกทั้งบางแห่งป้ายมีมาก จนดูแล้วไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องต้นไม้บังป้ายนั้น อยู่ที่เจ้าของพื้นที่แล้วครับ เรื่องการดูแล  
ผมเดินทางบ่อยเหมือนกัน (ในประเทศนะครับ) ต้องดูแผนที่ก่อนวางแผนก่อนไม่งั้นก็หลงเอาดื้อๆเหมือนกันเพราะ ถนนในเมืองไทย
มีหลายเจ้าภาพครับ...หลักๆสายใหญ่ๆก็กรมทางหลวง...ระหว่างหรือภายในจังหวัดก็ทางหลวงชนบท...ที่เหลือก็เทศบาล อบต. กรมชลฯ
เวลาเดินทางผมจะดูหมายเลขถนนเป็นหลัก(ของกรมทางหลวง)เพราะจะตรงกับแผนที่ เพราะปัจจุบันถนนเกิดใหม่และที่ขยายเพิ่มก็เยอะครับ ป้ายบอกให้เลี้ยวซ้าย
พอจะเลี้ยว อ้าว..ผิดแยกซะแล้ว มีทางมาเชื่อมใหม่ ก่อนทางแยก ก็งงกันไป  ::011::
แต่ที่หน้าศาลอาญา โค้งนั้นน่ากลัวครับ...แต่ถ้าปิดเส้นนั้นปรับโค้งใหม่ผมว่ายิ่งน่ากลัวกว่าอีก :~) รถน่าจะติดแบบ...แต่ถ้าขับความเร็วปกติก็ไม่น่ากลัวเท่าไหร่
แต่ส่วนใหญ่เหตุ ที่เกิดกลางคืน คนขับจะเมามาแล้วขับเร็วมากๆเพราะกลางคืน สถานบันเทิงเลิก ดึกๆรถจะโล่งมากๆ ก็มาสาดโค้งแบบ F1 กันเล่นๆ  คนเมา+คึกคะนอง=เรื่องเศร้าครับ  ::014::

เอาเรื่องป้ายบอกทาง กับเรื่องทางโค้งรัชดานะครับ... ส่วนเรื่องมีหลายเจ้าภาพ หรือเรื่องอื่นที่อาจพาดพิงถึงนั้นเดี๋ยวมันหลุดไปไกลครับ... เย้...

เรื่องป้ายบอกทางนั้นโจทก์มันมีอยู่ว่าทำอย่างไรไม่ให้เกิดอุบัติเหตุน่ะครับ, หากยึดมาตรฐาน(ที่ว่า)สากลแล้ว แต่มันยังเกิดอุบัติเหตุอยู่(ตกทางด่วน หรือชนเสาไฟฟ้า) หรือยังมีคนบ่นหลงทางอยู่ แสดงว่ามาตรฐานที่ว่าดีนั้นยังดีไม่พอครับ... มีที่น่าสังเกตว่าบริเวณไหนมีอุบัติเหตุบ่อย จะไม่ว่ายึดมาตรฐานใดก็ตาม แสดงว่ามาตรฐานของ"ตรงบริเวณนั้น"มันไม่ถูกต้องแล้วครับ, เพราะถ้ามันถูกต้องจะต้องมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยเหมือนที่อื่น...

มาตรฐานป้ายบอกทางนั้นนายสมชายไม่มีอาชีพด้านนี้ เลยไม่ทราบรายละเอียดครับ... แต่ที่เห็นแน่ๆคือสมมติว่าป้ายบอกทางไปหลายสถานที่ สถานที่ไหนใกล้สุดจะต้องไปอยู่บนราวแขวนป้ายซ้ายมือสุด สถานที่ไกลสุดจะอยู่ขวามือสุด(ตรงนี้ประเทศไทยมีป้ายสารพัดขนาด อยู่หลากตำแหน่ง), แล้วเมื่อจะเข้าแยกนั้นจะต้องมีลูกศรบอกช่องทางชี้ลงที่พื้นถนน(ตัวอย่างตรงนี้ที่ถนนวิภาวดี บริเวณรังสิตฯ ชวนสับสน)...

สำหรับเรื่องโค้งรัชดานั้น ไม่น่ากลัวรถติดเสียจนไม่กล้าปรับปรุง... เพราะถึงไม่ปรับปรุงถนน มันก็มีปรับปรุงอย่างอื่นให้รถติดอยู่ดีครับ เช่นทำผิวสะพานลอยรัชโยธิน รถก็ติดอีกอยู่ดี, ดังนั้นเรื่องนี้มันอยู่ที่"อยากจะแก้ไขหรือไม่"น่ะครับ...

แล้วถ้าบอกว่าสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุตรงโค้งนั้นเพราะคนเมาออกจากสถานบันเทิง เลยสาดโค้งแบบ F1 + คึกคะนอง = เรื่องเศร้านี่, มันต้องแยกประเด็นน่ะครับ คนเมาก็ผิดกฎจราจร สาดโค้งแบบ F1 กฏผิดกฏจราจร แต่ความผิดแบบนั้นมันไม่ถึงกับต้องตายนี่ครับ... มันก็ต้องกลับมาที่เดิมว่าโจทย์ของคนออกแบบถนนต้องหาวิธีแก้ไขรักษาชีวิตพวกประมาท พวกเมา พวกคะนองนี่ด้วยเหมือนกันแหละครับ...

ประเด็นคือการออกแบบจะต้องมุ่งป้องกันเผื่อคนประมาท คนมักง่าย คนโง่ ฯลฯ ซึ่งสรุปคือป้องกันความเสียหายน่ะครับ... แล้วหากมันยังอุตส่าห์เกิดความเสียหายขึ้นอีก ก็ต้องล้อมคอกกันต่อไป(อาจเกินมาตรฐานฯ)ครับ...
;D นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง เรื่องรถติดมันเป็นมุขนะครับแต่ พี่คงจะไม่ขำ  :~) จริงๆแล้วผู้รับผิดชอบเขาคงหาทางแก้ไขอยู่นะครับโค้งที่รัชดานะครับ
เพราะที่เห็นก็มีอุปกรณ์ในการเตือน เช่นป้าย ไฟกระพริบ แถบสีเตือนบนถนน เพิ่มมาจนชัดเจนแล้ว  ::002::
แต่ผู้ใช้ทางต้องเตือนตัวเองด้วย ยกตัวอย่างที่ ทางหลวงหมายเลข4 ช่วงกม.ที่500-530 จะมีโค้งอันตรายมากแต่การขยายถนนทำได้ยากด้วยสภาพพื้นที่
แต่ก่อนถึงโค้งจะมีป้ายเตือน ป้ายความเร็ว แถบสีเตือนบนถนนหลายสิบเมตร  ถ้าผู้ขับปฏิบัติตามกฏ อุบัตเหตุก็มีโอกาสเกิดน้อยมาก
แต่ยังไงก็มีอีกหลายจุดที่เป็นจุดบอดบนทางหลวงสายต่าง ๆ โดยผู้ใช้ทางย่อมต้องไม่ประมาท ต้องช่วยกัน ถ้าพบก็โทรแจ้งได้ตามเลขสายด่วนต่างๆเช่น 1123 สายตรงกระทรวงคมนาคม  ,1555 สายด่วน กทม. (สอบถามข้อมูล หรือ ร้องเรียนร้องทุกข์),1586 กรมทางหลวง ,1146 กรมทางหลวงชนบท ถ้าพบจุดอันตรายในพื้นที่รับผิดชอบเรื่องของใคร ก็โทรไปหน่วยงานนั้น ระบุชื่อผู้แจ้งสักนิดเรื่องจะไวขึ้น
 แต่หลายๆครั้งเรื่องป้ายมันก็ดูแล้วขัดลูกตา แบบ พี่ว่าเหมือนกัน  :~) ส่วนที่กลับรถใต้สะพานแล้วแถวๆบางบัวทองไปเข้าที่เอกชนที่เปิดเป็นตลาดขายของนั้น(น่าจะตัวเดียวกัน) ผมก็เคยผ่านงงเหมือนกัน หรือเขาให้ไปวนดูร้านขายของก็ไม่รู้ ::008::
อาจจะเป็นที่เอกชน ขอเปิดทางเข้านะครับ เพราะสังเกตเขตทางอีกด้านมันน่าจะสุดแล้ว จะไปลองถามๆดู ให้ครับ ;)



หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มกราคม 20, 2011, 11:04:26 PM
งานออกแบบกับงานก่อสร้างจริงๆ ไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ เหมือนทำโมเดลครับ  อย่าได้ด่วนสรุปว่าใครโง่ใครฉลาดเลย สภาพหน้างานจริงไม่ได้จบง่ายเหมือนในกระดาษ เรื่องป้ายก็เหมือนกัน ข้อบกพร่องมันต้องมีอยู่แล้ว อย่าเอาเมืองไทยไปเปรียบกับเมืองนอกเลย ป้ายบอกทางทำมาแค่เพื่อส่วนกลาง เขาไม่รู้หรอกคุณจะไปไหนบ้าง ถ้าจะทำละเอียดขนาดนั้น คงจะไม่มีที่ให้ติดป้ายครับ
ผมเห็นอ.สมชายบ่นบ่อย ๆ เรื่องคนไทยโง่ คนโน้นโง่คนนี้โง่ ทั้งที่คนไทยทุกวันนี้เรียนสูงกว่าแต่ก่อนมาก จนทำให้ผมสงสัยว่าการศึกษาหรือการสอนตามหลักสูตรทุกวันนี้มันไม่ได้ผลหรืออย่างไร ปัญหาอยู่ที่ผู้เรียนหรืออยู่ที่ใครครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 21, 2011, 08:31:52 AM
งานออกแบบกับงานก่อสร้างจริงๆ ไม่ได้ทำได้ง่าย ๆ เหมือนทำโมเดลครับ  อย่าได้ด่วนสรุปว่าใครโง่ใครฉลาดเลย สภาพหน้างานจริงไม่ได้จบง่ายเหมือนในกระดาษ เรื่องป้ายก็เหมือนกัน ข้อบกพร่องมันต้องมีอยู่แล้ว อย่าเอาเมืองไทยไปเปรียบกับเมืองนอกเลย ป้ายบอกทางทำมาแค่เพื่อส่วนกลาง เขาไม่รู้หรอกคุณจะไปไหนบ้าง ถ้าจะทำละเอียดขนาดนั้น คงจะไม่มีที่ให้ติดป้ายครับ
ผมเห็นอ.สมชายบ่นบ่อย ๆ เรื่องคนไทยโง่ คนโน้นโง่คนนี้โง่ ทั้งที่คนไทยทุกวันนี้เรียนสูงกว่าแต่ก่อนมาก จนทำให้ผมสงสัยว่าการศึกษาหรือการสอนตามหลักสูตรทุกวันนี้มันไม่ได้ผลหรืออย่างไร ปัญหาอยู่ที่ผู้เรียนหรืออยู่ที่ใครครับ ::014::

ขอบคุณครับ+รับทราบครับ...

เรื่องออกแบบทางนั้นมันไม่ง่ายอยู่แล้ว แต่ถ้าบอกว่างานมันยากแล้วยอมรับโดยไม่หาวิธีแก้... มันก็จะมีคนเกิดอุบัติเหตุถึงตายอยู่เรื่อยแหละครับ(เช่นโค้งรัชดา)...

เรื่องป้ายบอกทาง ที่ว่าอย่าเอาไปเปรียบกับเมืองนอกนั่นจะว่าใช่ก็ได้ ไม่ใช่ก็ได้, คือมันต้องมีวิธีคิดเช่นเอาเมืองนอกมาเป็นจุดเริ่มต้นแล้วปรับใช้(เช่นที่บอกว่าติดระยะใกล้ไกลแค่ไหนก่อนถึงแยก)... โดยมีวัตถุประสงค์ว่าต่อให้มา"ครั้งแรก"แล้วก็ไม่หลงทาง ถึงแม้ว่าคนทำป้ายไม่รู้ว่าคนขับรถจะไปไหนก็ตามครับ(ตรงนี้ใครที่ชอบขับรถท่องเที่ยวจะรู้)...

เรื่องป้ายบอกทางบางทีมีข้อบกพร่องบ้าง แต่ถ้าข้อบกพร่องนั้นทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก(ตัวอย่างเช่นป้ายบอกทางบนทางด่วน - ทำรถตกง่ามตัววายบริเวณกระทรวงการคลังฯ) มันก็ต้องหาวิธีแก้ไขไม่ให้คนตายเพิ่มน่ะครับ... ส่วนเรื่องที่ว่าจะทำป้ายบอกทางละเอียดแค่ไหนนั้น ถ้าให้ชาวบ้านแบบนายสมชายคิด ก็ต้องบอกว่า มันมีกี่แยกต้องบอกก่อนถึงทางแยกเสีย"ทุกแยก"แหละครับ แล้วจะใช้พื้นที่ตรงไหนติดป้าย ก็ต้องแก้โจทย์เอา แต่มันต้องติดสำหรับ"ทุกแยกที่เป็นถนนสำคัญ"...

เรื่องคนไทยโง่และใครโง่บ้าง แล้วปัญหาอยู่ที่ไหนนั้น เรื่องนี้คุยหาข้อยุติไม่ได้ง่ายครับ, โดยสถิติเกิดอุบัติเหตุบนถนนของไทยส่วนใหญ่เกิดจากการทำผิดกฎจราจรเช่นเมาแล้วขับ ใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด ฯลฯ ซึ่งพวกนี้คนฉลาดเขาไม่ทำกัน... ทีนี้คนออกแบบทางก็ต้องคุ้มครองคนพวกนี้ด้วย (เทียบได้กับกับคนโง่ยอมเสี่ยงขี่มอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อค จะบอกว่าเขาเต็มใจยอมตายแล้วปล่อยเลยก็ไม่ได้ - คนออกกฎหมายก็ต้องคุ้มครองด้วยการบังคับให้สวมหมวกเสีย)...

ในส่วนคนออกแบบมีหน้าที่ต้องลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุในบางจุดที่เกิดซ้ำซาก ให้เหลือเท่าเฉลี่ยทั่วไปครับ... หากสถิติ"ตรงนั้น"เท่ากับกับ"เฉลี่ยทั่วไป"ของทุกโค้งทั่วประเทศแล้วยังเกิดอุบัติเหตุได้อยู่ อย่างนั้นเรียกว่า"Act of God"(เหตุสุดวิสัย) แล้วครับ...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มกราคม 21, 2011, 08:50:34 AM

คือ หมายถึงว่า เกาะกลางถนน
ช่วงมันยาวไป คนเลยมักขับย้อนศร
เพื่อประหยัดเวลา ( แต่ไม่ประหยัดชีวิต )
และย่นระยะทาง
ซึ่งถ้าคนในพื้นที่ ก็มักจะมีก้อนอิฐ
ไปวางพอให้ขึ้นเกาะกลางข้ามไปอีกฝั่ง
เมื่อธรรมชาติของคน เป็นอย่างนั้น
ก็ ตัดช่องขั้น ระหว่าง เกาะ
ตีเส้นนูน เตือนก่อนถึง  ติดไฟกระพริบบอกเตือน
ก็จะลดการขับย้อนศร
เพราะมีทางสะดวก
ขนาดมีคูกั้น พวกยังตีไม้กระดานพาดเลย
ส่วนมาก วินมอเตอร์ไซด์จะรู้ดี


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ มกราคม 21, 2011, 11:19:06 AM
จริงๆแล้วถนนในปัจจุบันนั้น เส้นทางหลักๆที่มีช่องจราจรมากกว่า 6 ช่องจราจรขึ้นไปจะมีผลกระทบค่อนข้างมากในกรณีที่ผ่านชุมชน
แต่ทางแก้ก็คือทำ ทางคู่ขนาน และต้องสวนทางกันได้เพื่อลดการวิ่งย้อนศร บนถนนหลัก 
แต่การทำจุดกลับรถนั้น ส่วนใหญ่ก็จะทำตรงจุดที่สำรวจก็จะดูปริมาณจราจรที่ประชาชนใช้มากสุด แต่บางที่ชาวบ้านก็ไม่เอาเพราะคิดว่ามาบังหน้าที่ดินตนเอง ทั้งๆที่ก็มีทางคู่ขนานผ่านหน้าที่ดินอยู่แล้ว... :~) การจะหาจุดลงตัวเรื่องความถูกต้องกับความพอใจเป็นเรื่องที่ยากมาก อีกทั้งปัจจัยด้านงบประมาณก็มีส่วนครับ
เรื่องมอเตอร์ไซด์ตัดผ่านเกาะกลางนั้นเยอะครับ ที่กลับรถไกลแล้วย้อนศรพอเข้าใจครับ แต่บางที่จุดกลับรถห่างไปเพียงไม่ถึง100เมตร ก็ยังมีทำผิดกฏกันก็ทำกันมาก
พวกหลังนี่ผมว่าเป็นที่สามัญสำนึกมากกว่า เอาสบายเข้าว่า หลายคนตายเพราะประพฤติแบบนี้ เพราะคนขับรถส่วนมากใกล้ๆจุดกลับรถคงคิดว่าไม่มีใครผ่าเกาะกลางมา
ข้ามถนน แต่ตามต่างจังหวัดพบได้มากครับ บางครั้งจุดกลับรถห่างแค่ไม่กี่ สิบเมตรด้วยซ้ำ  :<><>



หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 21, 2011, 05:12:48 PM
 ขออนุญาตดึงกระทู้ครับ

วันเสาร์ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.45

ณ ยูเทืร์นเกือกม้าที่นิคมฯไฮเทค ( อยุธยา ) ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ

ขึ้นยูเทิร์นไปได้เกือบจะถึงช่วงตัวยู

มอเตอร์ไซด์ข้างหน้าหักจากชิดซ้ายมาอยู่ตรงหน้ารถผมกระทันหัน

เพราะ

หลบคน ( 2คนพ่อลูก ) เดินลงมาจากยูเทิร์น  ::011::

สะพานลอยมีแต่ไม่ข้าม มาข้ามทางยูเทิร์นเกือกม้า

ท่านใดมีโอกาสใช้ยูเทิร์นเกือกม้าบริเวณดังกล่าวในเวลาค่ำคืนก็ระวังด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: แอบดูที่รูเดิม ที่ มีนาคม 21, 2011, 05:41:35 PM
ขออนุญาตดึงกระทู้ครับ

วันเสาร์ที่ผ่านมาเวลาประมาณ 19.45

ณ ยูเทืร์นเกือกม้าที่นิคมฯไฮเทค ( อยุธยา ) ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ

ขึ้นยูเทิร์นไปได้เกือบจะถึงช่วงตัวยู

มอเตอร์ไซด์ข้างหน้าหักจากชิดซ้ายมาอยู่ตรงหน้ารถผมกระทันหัน

เพราะ

หลบคน ( 2คนพ่อลูก ) เดินลงมาจากยูเทิร์น  ::011::

สะพานลอยมีแต่ไม่ข้าม มาข้ามทางยูเทิร์นเกือกม้า

ท่านใดมีโอกาสใช้ยูเทิร์นเกือกม้าบริเวณดังกล่าวในเวลาค่ำคืนก็ระวังด้วยนะครับ

คุณNattapol  หมายถึงออกจากนิคมขึ้นสะพานกลับเข้ากรุงเทพหรือเปล่าครับ
ผมใช้ยูเทิร์นนี้ตลอดครับตั้งแต่สร้างเสร็จ

อีกที่ที่ควรระวังคือเกือกม้าคู่ตรงม.กรุงเทพรังสิตครับ มีอุบัติเหตุบ่อย
เมื่อก่อนทำงานแถวนั้นเวลาขึ้นยูเทิร์นต้องระวังครับ แถมต้องคอยระวังรถมอเตอไซค์ขับสวนเลนส์มาด้วยเวลาลงมาแล้ว

ใครผ่านไปแถวนั้นระวังด้วยนะครับ อุบัติเหตุบ่อยมากครับ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 21, 2011, 05:45:20 PM

ไม่ใช่ครับ เป็นเกือกม้าตรงเลยซอย "วัดสุคันธาราม" ไปหน่อยครับ



หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Pter ที่ มีนาคม 21, 2011, 06:07:15 PM
ขับรถ สมัยนี้ เวียนหัวเอาง่ายๆ ครับ ต้องคอยหันคอ-สอดส่ายสายตาไปมา มากกว่าปกติ

เพราะต้องระวังเผื่อชีวิตคนอื่น (ที่มักหยิบยื่นความซวยมาให้เราหลบอยู่เสมอๆ)   ::004::

สาระขันธ์แลนด์ ดินแดนแห่งความ... :~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Glock Jumper ที่ มีนาคม 21, 2011, 07:49:56 PM
 ::014::เรื่องคงต้องแก้และปลูกฝังการขับขี่จากคนในครอบครัวก่อนครับ บางที่เด็กก็เห็นมาจากความมักง่ายของพ่อแม่พี่น้องเราเอง ::014::  ::008::"จากนั้นเขาก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร นิดเดียวเองหน่า ... เอี๊ยดดดดด  ... ตูม!" :OO


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มีนาคม 21, 2011, 07:52:38 PM
อาจจะไม่เกี่ยวกับยูเทิร์นครับ แต่อยากทราบว่าหากเราข้ามทางม้าลาย รถที่วิ่งไปมาต้องหยุดให้เราข้ามใช่ไหมครับ หากเขาไม่หยุดแล้วชนเรา เขามีความผิดและได้รับโทษอย่างไรบ้างครับ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: krajong ที่ มีนาคม 21, 2011, 08:03:19 PM
เคยได้ยินไหมครับว่าวางเงินจำนวนหนึ่ง ลงไปแล้ว สะพานลอยเคลื่อนที่ได้ หรือใช้ เส้นใครคนหนึ่ง สามารถเปิดหรือปิดช่อง u-turn ได้


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: uncle_oud-รักในหลวง ที่ มีนาคม 21, 2011, 09:46:51 PM
หน้า ม.กรุงเทพผมเคยเกือบชนคนครั้งหนึ่งวิ่งข้ามถนนใต้สะพานลอยคนข้าม
นักศึกษาหญิงจูงพ่อแก่แม่เฒ่าวิ่งข้ามผมขับมาเลนขวาสุดเค้าวิ่งมาจนถึงเลน
ที่สามผมบีบแตรยาวเพราะเบรคไม่อยู่แน่นอนดีที่ทั้งสามคนชะงักและหยุดที่
เส้นประผมลงไหล่ทางแล้วเกือบเบียดกำแพงเหล็กถ้าไม่หยุดวันนั้นผมเหมา
หมดแน่ๆ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Ki-jang-aey ที่ มีนาคม 21, 2011, 10:41:04 PM
เอามาให้ชมกันก่อนหนึ่งภาพ
(http://i1135.photobucket.com/albums/m627/Umpol_Teeravas/Picture178-1.jpg)
เป็นป้ายที่ติดตั้งอยู่ข้างๆ เสาตอม่อของดอนเมืองโทล์เวย์ ทั้งขาเข้าและขาออก...มีจำนวนค่อนข้างมาก
ความเห็นของผม ผมว่าไม่รู้ว่าจะติดทำไม เปลืองเงินโดยใช่เหตุ..ค่อนข้างจะไร้สาระ ความเร็วนี่คืออะไร? ให้ขับที่ความเร็วนี้เท่านั้น,หรือความเร็วสูงสุด?
ลองให้ความเห็นกันดูนะครับ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Ki-jang-aey ที่ มีนาคม 21, 2011, 11:03:42 PM
ต่อด้วยอีกภาพ
(http://i1135.photobucket.com/albums/m627/Umpol_Teeravas/4f3dcc89.jpg)
ภาพนี้ถ่ายเก็บไว้เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว บนเส้นทางระหว่างแพร่-อุตรดิตถ์ (ช่วงก่อนถึงอุตรดิตถ์) หรือระหว่างอุตรดิตถ์-พิษณุโลก (ก่อนถึงพิษณุโลก) สองช่วงนี้ ช่วงใดช่วงหนึ่่งผมไม่แน่ใจนะครับ ขอให้จำลักษณะของเสาป้ายนะครับ (ไม่ใช่ข้อความ) ดูดีมีมาตรฐานมาก (แน่นอนก็ต้องให้งบประมาณมากด้วย) ที่ทำให้ผมติดใจถึงขนาดต้องถ่ายรูปมาเพราะช่วงดังกล่าวมีป้ายลักษณะดังกล่าวติดกันถี่ๆ มากเป็นพิเศษ (เกือบจะทุกๆ กม. ถ้ากะไม่ผิดนะครับ ) และเป็นระยะทางกว่าสิบกม. โดยข้อความบนป้ายบอกว่า "กลับรถชิดขวา"

วันเวลาดังกล่าว ผมเป็นคนต่างถิ่นขับรถผ่านไป เจอป้าย "กลับรถชิดขวา" แบบอลังกาลติดๆ กันกว่าสิบกม. นับเป็นสิบๆ ป้าย ก็ทำให้งงเลยครับว่า มันแปลกเหรอ ที่จุดกับรถบนถนนต่างจังหวัด จะอยู่บนเกาะกลางถนนอยู่แล้ว ทำไมจะต้องแจ้งผู้ขับรถซะถี่ขนาดนั้น น่าจะแจ้งเพียงว่า จุดกลับรถ 2 กม.ข้างหน้า....1 กม.ข้างหน้า ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

แต่ถ้าจะมีสะพานกลับรถแบบเกือกม้า (แบบจุดที่จขกท.ระบุ) ในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งมันไม่น่าจะมี เพราะมันผิดปรกติมาก การติดป้ายเยอะๆ แล้วมีข้อความ "สะพานกลับรถ.ชิดซ้าย..อีก 2 กม...1 กม."  มันน่าจะสมเหตุสมผลมากกว่าทีเป็นอยู่นะครับ

ถ้ามองในแง่ดี ก็ดีครับที่นายช่างผู้ออกแบบท่านออกแบบให้มีเยอะ..แต่มันเป็นป้ายที่ไม่ประเทืองปัญญาซะเลย..... สู้เอางบไปติดป้ายก่อนถึงทางร่วมทางแยกให้มันละเอียดละออกว่านี้ดีกว่า.....


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 22, 2011, 08:42:37 AM
เอามาให้ชมกันก่อนหนึ่งภาพ
(http://i1135.photobucket.com/albums/m627/Umpol_Teeravas/Picture178-1.jpg)
เป็นป้ายที่ติดตั้งอยู่ข้างๆ เสาตอม่อของดอนเมืองโทล์เวย์ ทั้งขาเข้าและขาออก...มีจำนวนค่อนข้างมาก
ความเห็นของผม ผมว่าไม่รู้ว่าจะติดทำไม เปลืองเงินโดยใช่เหตุ..ค่อนข้างจะไร้สาระ ความเร็วนี่คืออะไร? ให้ขับที่ความเร็วนี้เท่านั้น,หรือความเร็วสูงสุด?
ลองให้ความเห็นกันดูนะครับ

ก็ถึงขนาดเขามีป้ายแยะขนาดนี้ พวกขับช้าแช่ขวายังอุตส่าห์มีแยะนะครับ... สำหรับความเร็วที่ว่าน่ะ คือความเร็วต่ำสุดที่สมควรขับน่ะครับ สูงกว่านี้ก็ไม่ปลอดภัย ต่ำกว่านี้ก็เกะกะชาวบ้านไงครับ...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 22, 2011, 08:49:10 AM
ต่อด้วยอีกภาพ
(http://i1135.photobucket.com/albums/m627/Umpol_Teeravas/4f3dcc89.jpg)
ภาพนี้ถ่ายเก็บไว้เป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว บนเส้นทางระหว่างแพร่-อุตรดิตถ์ (ช่วงก่อนถึงอุตรดิตถ์) หรือระหว่างอุตรดิตถ์-พิษณุโลก (ก่อนถึงพิษณุโลก) สองช่วงนี้ ช่วงใดช่วงหนึ่่งผมไม่แน่ใจนะครับ ขอให้จำลักษณะของเสาป้ายนะครับ (ไม่ใช่ข้อความ) ดูดีมีมาตรฐานมาก (แน่นอนก็ต้องให้งบประมาณมากด้วย) ที่ทำให้ผมติดใจถึงขนาดต้องถ่ายรูปมาเพราะช่วงดังกล่าวมีป้ายลักษณะดังกล่าวติดกันถี่ๆ มากเป็นพิเศษ (เกือบจะทุกๆ กม. ถ้ากะไม่ผิดนะครับ ) และเป็นระยะทางกว่าสิบกม. โดยข้อความบนป้ายบอกว่า "กลับรถชิดขวา"

วันเวลาดังกล่าว ผมเป็นคนต่างถิ่นขับรถผ่านไป เจอป้าย "กลับรถชิดขวา" แบบอลังกาลติดๆ กันกว่าสิบกม. นับเป็นสิบๆ ป้าย ก็ทำให้งงเลยครับว่า มันแปลกเหรอ ที่จุดกับรถบนถนนต่างจังหวัด จะอยู่บนเกาะกลางถนนอยู่แล้ว ทำไมจะต้องแจ้งผู้ขับรถซะถี่ขนาดนั้น น่าจะแจ้งเพียงว่า จุดกลับรถ 2 กม.ข้างหน้า....1 กม.ข้างหน้า ก็น่าจะเพียงพอแล้ว

แต่ถ้าจะมีสะพานกลับรถแบบเกือกม้า (แบบจุดที่จขกท.ระบุ) ในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งมันไม่น่าจะมี เพราะมันผิดปรกติมาก การติดป้ายเยอะๆ แล้วมีข้อความ "สะพานกลับรถ.ชิดซ้าย..อีก 2 กม...1 กม."  มันน่าจะสมเหตุสมผลมากกว่าทีเป็นอยู่นะครับ

ถ้ามองในแง่ดี ก็ดีครับที่นายช่างผู้ออกแบบท่านออกแบบให้มีเยอะ..แต่มันเป็นป้ายที่ไม่ประเทืองปัญญาซะเลย..... สู้เอางบไปติดป้ายก่อนถึงทางร่วมทางแยกให้มันละเอียดละออกว่านี้ดีกว่า.....

ป้ายแบบนี้เหมือนประจานคนแถวนั้นครับ แสดงว่าคนแถวนั้นชอบขับต้วมเตี้ยมเลนซ้ายสุด แล้วเลี้ยวกลับรถตัดเลนจากซ้ายสุดข้ามพรวดอย่างน้อยหนึ่งเลนเข้าช่องกลับรถ, ทีนี้รถยนต์ที่วิ่งเลนขวามาไม่ทันระวัง โดนตัดหน้าปุ๊บ เลยโครมปั๊บไงครับ... เขาเลยบอกกกกกกกก เสียถี่ยิบบบบบบบบบ... ฮา...

ลองนึกถึงสะพานลอยข้ามถนนตรงขนส่งหมอชิตเก่าที่หน้าสวนจตุจักร เมื่อสมัยก่อนครับ... สมัยโน้นคนเดินข้ามถนนชอบทิ้งขยะบนสะพานลอยฯ กทม. เลยเอา"ถังขยะ"มาวางเสียถี่ยิบแบบที่คนจะทิ้งขยะให้ไม่ลงถัง ยังยากกว่าทิ้งให้ลงถังฯ เลยครับ... เย้...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 22, 2011, 08:53:24 AM
ขับรถ สมัยนี้ เวียนหัวเอาง่ายๆ ครับ ต้องคอยหันคอ-สอดส่ายสายตาไปมา มากกว่าปกติ

เพราะต้องระวังเผื่อชีวิตคนอื่น (ที่มักหยิบยื่นความซวยมาให้เราหลบอยู่เสมอๆ)   ::004::

สาระขันธ์แลนด์ ดินแดนแห่งความ... :~) :~) :~)

::014::เรื่องคงต้องแก้และปลูกฝังการขับขี่จากคนในครอบครัวก่อนครับ บางที่เด็กก็เห็นมาจากความมักง่ายของพ่อแม่พี่น้องเราเอง ::014::  ::008::"จากนั้นเขาก็เลยคิดว่าไม่เป็นไร นิดเดียวเองหน่า ... เอี๊ยดดดดด  ... ตูม!" :OO

คนพวกนี้บอกยาก สอนยาก จะเปลี่ยนพฤติกรรมกันก็เมื่อเกิดเรื่องไปแล้วถึงจะรู้ตัวครับ... ใครไปบอกตรงๆก็จะหาว่าดูถูกหาว่าโง่ บอกอ้อมๆก็ไม่รู้ พูดมากก็จะทะเลาะกันอีตรงบอกนั่นแหละครับ...


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: แอบดูที่รูเดิม ที่ มีนาคม 22, 2011, 09:16:47 AM
คนพวกนี้บอกยาก สอนยาก จะเปลี่ยนพฤติกรรมกันก็เมื่อเกิดเรื่องไปแล้วถึงจะรู้ตัวครับ... ใครไปบอกตรงๆก็จะหาว่าดูถูกหาว่าโง่ บอกอ้อมๆก็ไม่รู้ พูดมากก็จะทะเลาะกันอีตรงบอกนั่นแหละครับ...

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

ขับรถต้องทำใจครับเราระวังเค้าไม่ระวัง เมื่อเช้าขับรถออกจากบ้าน(คลองสามธัญญะบุรี)
ทั้งโดนปาด โดนเบียด ขนาดตีห้าครึ่งนะครับ รถก็ไม่ค่อยมี แต่ไม่รู้รีบไปไหนกัน
รถติดในคลองบ้านผมเพราะคนขับรถกันแบบนี้แหล่ะครับ ต้องทำใจจริงๆ


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: vboaw1 ที่ มีนาคม 22, 2011, 09:37:12 AM
มีข่าวมาบอก ช่วงเดือนนี้ถึงวันสงการนต์  ทางรัฐบาบรนรงค์ให้ใสหมวกกันน๊อกกัน และมีโครงการแจกหมวกกันน็อกสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ฟรี และของผู้ใหญ่ขายใบละ 199 บาทจาก 500 ทางเจ้าหน้าที่จะจับจริงหลังจากมีการตักเตือนแล้วมีกฎหมาใหม่ค่าปรับเพิมขึ้นเป็น 2 เท่า คือคนขับไม่ใส่หมวกกันน๊อกปรับ 500 คนซ้อนไม่ใส่หมวกกันน๊อกปรับ 1000 (ปรับคนขับฐานให้คนซ้อนที่ไม่ใส่หมวกกันน๊อกซ้อนท้าย)  หังว่าพวกย้อนศร คงจะโดนไปด้วย นะครับ (ให้ไปลงชื่อที่ผู้ใหญบ้านที่ท่านมีทะเบียนบ้านอยู่เพื่อขอหมวกกันน๊อกนะครับ)


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: แอบดูที่รูเดิม ที่ มีนาคม 22, 2011, 10:33:32 AM
คุณตำรวจแถวบ้านยังขับย้อนศรมาเลยครับ ไม่รู้จะจับแกปรับยังไงดี


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ มีนาคม 22, 2011, 10:54:38 AM
มีข่าวมาบอก ช่วงเดือนนี้ถึงวันสงการนต์  ทางรัฐบาบรนรงค์ให้ใสหมวกกันน๊อกกัน และมีโครงการแจกหมวกกันน็อกสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ฟรี และของผู้ใหญ่ขายใบละ 199 บาทจาก 500 ทางเจ้าหน้าที่จะจับจริงหลังจากมีการตักเตือนแล้วมีกฎหมาใหม่ค่าปรับเพิมขึ้นเป็น 2 เท่า คือคนขับไม่ใส่หมวกกันน๊อกปรับ 500 คนซ้อนไม่ใส่หมวกกันน๊อกปรับ 1000 (ปรับคนขับฐานให้คนซ้อนที่ไม่ใส่หมวกกันน๊อกซ้อนท้าย)  หังว่าพวกย้อนศร คงจะโดนไปด้วย นะครับ (ให้ไปลงชื่อที่ผู้ใหญบ้านที่ท่านมีทะเบียนบ้านอยู่เพื่อขอหมวกกันน๊อกนะครับ)


เป็นเรื่องที่ไร้สาระพอสมควร... มันเป็นเรื่องของวินัย และหน้าที่ของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ที่จะต้องสวมใส่หมวกกันน๊อค... ตอนสมัยที่ผมอยู่เนปาล..คนขับมอเตอร์ไซค์ทุกคนสวมหมวกกันน๊อคกันหมดรวมทั้งคนซ้อนท้ายด้วย ซึ่งในขณะที่วินัยการขับขี่แย่มาก..เห็นช่องเป็นต้องมุด..บีบแตรกันทุกๆครั้ง...

วินัยของเราแย่มาก...............................ตั้งกฎตั้งระเบียบมาอีกเท่าไหร่ ก็สู้ความไร้วินัยไม่ได้หรอกครับ................


หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: Pter ที่ มีนาคม 22, 2011, 01:55:30 PM

เป็นเรื่องที่ไร้สาระพอสมควร... มันเป็นเรื่องของวินัย และหน้าที่ของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ที่จะต้องสวมใส่หมวกกันน๊อค... ตอนสมัยที่ผมอยู่เนปาล..คนขับมอเตอร์ไซค์ทุกคนสวมหมวกกันน๊อคกันหมดรวมทั้งคนซ้อนท้ายด้วย ซึ่งในขณะที่วินัยการขับขี่แย่มาก..เห็นช่องเป็นต้องมุด..บีบแตรกันทุกๆครั้ง...

วินัยของเราแย่มาก...............................ตั้งกฎตั้งระเบียบมาอีกเท่าไหร่ ก็สู้ความไร้วินัยไม่ได้หรอกครับ................[/u]

ขออนุญาตเน้นบรรทัดสุดท้ายครับ  ::014::

เมื่อกี้นี้ก็เพิ่งเจอมาหยกๆ  เรื่องวินัยจราจรที่แหละครับ

จะเลี้ยวก็ไม่ให้สัญญาญไฟ กับอีกรายหนึ่ง วิ่งตรงในเลนบังคับเลี้ยว

ขับรถวันไหน เจอวันนั้น  ;D  แต่ผมทำใจให้ชินกับสิ่งไม่ถูกต้องไม่ได้จริงๆครับ   :D




หัวข้อ: Re: ยูเทิร์นเกือกม้าเสร็จ แทนที่จะสบายเวลากลับรถ
เริ่มหัวข้อโดย: vboaw1 ที่ มีนาคม 23, 2011, 12:11:48 PM
มีข่าวมาบอก ช่วงเดือนนี้ถึงวันสงการนต์  ทางรัฐบาบรนรงค์ให้ใสหมวกกันน๊อกกัน และมีโครงการแจกหมวกกันน็อกสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ฟรี และของผู้ใหญ่ขายใบละ 199 บาทจาก 500 ทางเจ้าหน้าที่จะจับจริงหลังจากมีการตักเตือนแล้วมีกฎหมาใหม่ค่าปรับเพิมขึ้นเป็น 2 เท่า คือคนขับไม่ใส่หมวกกันน๊อกปรับ 500 คนซ้อนไม่ใส่หมวกกันน๊อกปรับ 1000 (ปรับคนขับฐานให้คนซ้อนที่ไม่ใส่หมวกกันน๊อกซ้อนท้าย)  หังว่าพวกย้อนศร คงจะโดนไปด้วย นะครับ (ให้ไปลงชื่อที่ผู้ใหญบ้านที่ท่านมีทะเบียนบ้านอยู่เพื่อขอหมวกกันน๊อกนะครับ)


เป็นเรื่องที่ไร้สาระพอสมควร... มันเป็นเรื่องของวินัย และหน้าที่ของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ที่จะต้องสวมใส่หมวกกันน๊อค... ตอนสมัยที่ผมอยู่เนปาล..คนขับมอเตอร์ไซค์ทุกคนสวมหมวกกันน๊อคกันหมดรวมทั้งคนซ้อนท้ายด้วย ซึ่งในขณะที่วินัยการขับขี่แย่มาก..เห็นช่องเป็นต้องมุด..บีบแตรกันทุกๆครั้ง...

วินัยของเราแย่มาก...............................ตั้งกฎตั้งระเบียบมาอีกเท่าไหร่ ก็สู้ความไร้วินัยไม่ได้หรอกครับ................
ทางรัฐเขาช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วน ดีกว่าต้องออกเองทั้งหมดนะครับ สำหรับคนหาเช้ากินค่ำนะครับ อย่างมีคำพูดกันเล่นๆว่ามีปัญญาซื้อรถ แต่ไม่มีปัญญาเติมน้ำมัน ขำๆนะครับอย่าไปคิดมาก ::007:: ::007:: ::007::