หัวข้อ: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มกราคม 26, 2011, 08:18:51 AM เดลินิวส์
ดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้านเสี่ยชิปปิ้งฉกนกปรอดหัวจุกราคาแพง คนเฝ้าบ้านตื่นมาเห็นคว้าปืนยิงใส่ดับคาที่ 1 หนีรอดไปได้ 1 เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 25 ม.ค. พ.ต.ต.บุญเลิศ อาคมวัฒนะ สารวัตรเวร สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักหรู ภายในหมู่บ้านเมืองทองธานี จึงรุดไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 50/947 ซอย A 3 ภายในหมู่บ้านเมืองทองธานี หมู่ 9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านสไตล์โมเดิรน์ 2 ชั้น พื้นที่ประมาณ 150 ตารางวา บริเวณริมรั้วภายในบ้าน พบศพคนร้ายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 27 ปี สวมเสื้อยืดแขนยาวสีส้ม กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ รองเท้าแตะ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.ที่กลางหลัง 2 นัด กระสุนทะลุหน้าอกด้านหน้า นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน พธธ 187 กทม. จอดอยู่ที่ริมรั้วหน้าบ้านที่เกิดเหตุ สอบปากคำนายประดิษฐ์ โพนปลัด อายุ 32 ปี คนดูแลบ้านหลังดังกล่าวให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนายชัยรัตน์ จูประจักษ์ อายุ 41 ปี มีอาชีพเป็นชิปปิ้งของบรัทไทยกาเม้นท์ ทำธุรกิจเสื้อผ้าส่งออก ส่วนตนเองทำหน้าที่เป็นคนดูแลบ้านและรับใช้นายชัยรัตน์มาสิบปีกว่า โดยก่อนเกิดเหตุกำลังนอนเล่นอยู่ที่ห้องรับแขกชั้นล่างของบ้าน ช่วงเวลาประมาณตีสามกว่า ๆ สังเกตเห็นคนร้ายกำลังยกเอากรงนกปรอดหัวจุกลงมาจากที่แขวนกรงนก บริเวณเทอเรสหน้าบ้าน จึงหยิบอาวุธปืนพกของนายชัยรัตน์ที่วางไว้บนโต๊ะ ย่องออกมาเพื่อจะจับคนร้าย ปรากฏว่าคนร้ายเมื่อเห็นตนเปิดประตูออกมาจึงทิ้งกรงนกราคาแพงเพื่อจะหลบหนี โดยมีคนร้ายอีกคนหนึ่ง ยืนรอดูต้นทางอยู่ที่ริมรั้วด้านนอก ตนเองจึงยิงขู่ใส่คนร้ายไปสองนัด ปรากฏว่ากระสุนปืนถูกเข้าที่กลางตัวคนร้ายที่กำลังจะปีนรั้วหนี ล้มฟุบลงไปนอนกับพื้นทันที ส่วนคนร้ายที่อยู่ข้างนอกรั้วได้ทิ้งรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งหลบหนีไป ก่อนที่ตนเองจะโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ นายประดิษฐ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่าก่อนหน้านี้เมื่อประมาณต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นกปรอดหัวจุกสีเทาที่มีราคาหลายหมื่นบาทพร้อมกรงนกอีกประมาณหนึ่งแสนบาทได้ถูกคนร้ายปีนเข้ามาขโมยไปแล้ว 3 ครั้ง ทำให้นายชัยรัตน์เจ้าของบ้านไม่พอใจและเสียดายนกปรอดหัวจุกที่ถูกขโมยไปแต่ด้วยความชอบจึงซื้อนกปรอดหัวจุกมาเลี้ยงต่อ ก็ยังถูกคนร้ายย่องเข้ามาขโมยไปอีกทั้ง 3 ครั้ง จนมาในครั้งที่ 4 ที่เกิดเหตุครั้งนี้ นายชัยรัตน์ได้ให้ตนเองนอนเฝ้ากรงนกอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ก็เป็นจังหวะที่คนร้ายสองคนกำลังย่องเข้ามาเพื่อที่จะขโมยกรงนกปรอดหัวจุกอีก จึงคว้าอาวุธปืนออกมายิงใส่คนร้ายจนเสียชีวิต ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจสอบพร้อมกับควบคุมตัวนายประดิษฐ์ไปตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือ พร้อมกับแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อน แม้นายประดิษฐ์จะอ้างว่าเป็นการปกป้องทรัพย์สินก็ตาม พร้อมกับตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ถูกจอดทิ้งอยู่ เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุแล้วหลบหนีอีกรายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป. . คมชัดลึก > อาชญากรรม > ข่าวทั่วไป "เสี่ยชิปปิ้ง"ชักปืนยิงหัวขโมยนกปรอดหัวจุกดับคาที่ Share Share คมชัดลึก :ยิงดับหัวขโมยย่องเข้าบ้านเสี่ยชิปปิ้ง ฉกนกปรอดหัวจุกราคาแพง ดับคาที่ โฆษณาโดย Google ลองใช้ Google Chrome เบราว์เซอร์ของ Google ที่ให้คุณใช้ Apps ออนไลน์ได้แม้คุณไม่ได้ออนไลน์ www.google.co.th/chrome (http://www.google.co.th/chrome) (25ม.ค.) เวลา 03.30 น. พ.ต.ต.บุญเลิศ อาคมวัฒนะ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุมีคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักหรูภายในหมู่บ้านเมืองทองธานี จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมรายงาน พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ร.ต.ท.ชนาธิป พานทอง รอง สวป.สภ.ปากเกร็ด และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ที่บ้านเลขที่ 50 / 947 ซอย A 3 ภายในหมู่บ้านเมืองทองธานี หมู่ 9 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านสไตล์โมเดิรน์ 2 ชั้น พื้นที่ประมาณ 150 ตารางวา ที่บริเวณริมรั้วภายในบ้านพบศพคนร้ายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 27 ปี สวมเสื้อยืดแขนยาวสีส้ม กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ รองเท้าแตะ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าที่กลางหลัง 2 นัด กระสุนทะลุออกทางหน้าอกด้านหน้า นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน พธธ 187 กทม. จอดอยู่ที่ริมรั้วหน้าบ้านที่เกิดเหตุ สอบปากคำนายประดิษฐ์ โพนปลัด อายุ 32 ปี คนดูแลบ้านหลังดังกล่าวให้การว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านของนายชัยรัตน์ จูประจักษ์ อายุ 41 ปี มีอาชีพเป็นชิปปิ้งของบรัทไทยกาเม้นท์ ทำธุรกิจเสื้อผ้าส่งออก ส่วนคนเองทำหน้าที่เป็นคนดูแลบ้านและรับใช้นายชันรัตน์มาสิบปีกว่า โดยก่อนเกิดเหตุตนเองซึ่งนอนเล่นอยู่ที่ห้องรับแขกชั้นล่างของบ้าน ช่วงเวลาประมาณตีสามกว่า ๆ สังเกตเห็นคนร้ายกำลังยกเอากรงนกปรอดหัวจุกลงมาจากที่แขวนกรงนก บริเวณเทอเรสหน้าบ้าน จึงหยิบอาวุธปืนพกของนายชัยรัตน์ที่วางไว้บนโต๊ะ ย่องออกมาเพื่อจะจับคนร้าย ปรากฏว่าคนร้ายเมื่อเห็นตนเปิดประตูออกมาจึงทิ้งกรงนกราคาแพงเพื่อจะหลบหนี โดยมีคนร้ายอีกคนหนึ่ง ยืนรอดูต้นทางอยู่ที่ริมรั้วด้านนอก ตนเองจึงยิงขู่ใส่ไปคนร้ายไปสองนัด ปรากฏว่ากระสุนปืนถูกเข้าที่กลางตัวคนร้ายที่กำลังจะปีนรั้วหนี ล้มฟุบลงไปนอนกับพื้นทันที ส่วนคนร้ายที่อยู่ข้างนอกรั้วได้ทิ้งรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งหลบหนีไป ก่อนที่ตนเองจะโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ นายประดิษฐ์ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นกปรอดหัวจุกสีเทาที่มีราคาหลายหมื่นบาทพร้อมกรงนกอีกประมาณหนึ่งแสนบาทได้ถูกคนร้ายปีนเข้ามาขโมยไปแล้ว 3 ครั้ง ทำให้นายชัยรัตน์เจ้าของบ้านไม่พอใจและเสียดายนกปรอดหัวจุกที่ถูกขโมยไป แต่ด้วยความชอบจึงซื้อนกปรอดหัวจุกมาเลี้ยงต่อ ก็ยังถูกคนร้ายย่องเข้ามาขโมยไปอีกทั้ง 3 ครั้ง จนมาในครั้งที่ 4 ที่เกิดเหตุครั้งนี้ นายชัยรัตน์ได้ให้ตนเองนอนเฝ้ากรงนกอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ก็เป็นจังหวะที่คนร้ายสองคนกำลังย่องเข้ามาเพื่อที่จะขโมยกรงนกปรอดหัวจุกอีก จึงคว้าอาวุธปืนออกมายิงใส่คนร้ายไปจนเสียชีวิต ทางด้าน พล.ต.ต.สุรชัย สืบสุข ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า คนร้ายที่ถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ น่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกันกับที่ลงมือก่อเหตุขโมยนกปรอดหัวจุกมาแล้ว 3 ครั้ง และเกิดความประมาทย่ามใจกลับมาหวังก่อเหตุขโมยนกปรอดจุกในครั้งที่ 4 โดยไม่เอะใจว่า ทางเจ้าของบ้านจะมีคนดูแลเฝ้าระวังกรงนกอยู่ จึงแอบปีนเข้ามาเพื่อหวังขโมยนกไปอีก โดยมีคนร้ายอีกคนหนึ่งคอยดูต้นทางอยู่ข้างนอก แต่ก็มาเจอนายประดิษฐ์คนดูแลบ้าน ตื่นมาพบเข้าเสียก่อนจึงถูกยิงเสียชีวิตไปหนึ่งรายและหนีรอดไปหนึ่งราย ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุเพื่อนำไปตรวจสอบพร้อมกับควบคุมตัวนายประดิษฐ์ไปตรวจคราบเขม่าดินปืนที่มือ พร้อมกับแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาไว้ก่อน แม้นายประดิษฐ์จะอ้างว่าเป็นการปกป้องทรัพย์สินก็ตามพร้อมกับตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ถูกจอดทิ้งอยู่ เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุแล้วหลบหนีอีกรายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มกราคม 26, 2011, 08:33:07 AM วิสามัญฯโจ๋พัทยาพกปืนซิ่งแหกด่านวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 08:05:15 น.
แบ่งปันข่าวนี้บน facebook Share เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 มกราคม ร.ต.ท.วิรัตน์ เทศทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตอยู่บริเวณใต้สะพานข้ามคลอง ถนนเลียบทางรถไฟ หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานพบศพนายศราวุธ รัตนพาหิระ หรือฉายา "เจ๊ก วัดธรรม"อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148/56 หมู่ 13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ถูกอาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด และกลางหน้าอก 1 นัด โดยมีอาวุธปืนออโตเมติคขนาด 9 มม. บรรจุกระสุนเกือบเต็ม และปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีกจำนวน 4 ปลอก ตกอยู่ข้างศพ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ร.ต.ท.ณรงค์ ประจิม รอง สวป.สภ.บางละมุง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ร่วมกับ ร.ต.ท.รัตติ วงศ์เวช รอง สวป. นำกำลังตำรวจและตำรวจอาสา ตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายอยู่บริเวณสามแยกซอยบุนนาค ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร นายศราวุธ ผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟเอส สีเทา-ดำ ทะเบียน ขลษ 831 ชลบุรี ผ่านมาโดยมีนายไจรายุ หลวงศักดา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/14 หมู่ 4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง นั่งซ้อนท้าย ทางตำรวจจึงเรียกให้จอดเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่านายศราวุธ กลับซิ่ง จยย.เผ่นหนี และไปประสบอุบัติเหตุรถล้ม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถจับกุมตัวนายไจรายุ ไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ 1 กระบอก และกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด แต่ภายหลังนายศราวุธได้วิ่งหนีไปหลบใต้สะพานข้ามคลอง พร้อมกับเปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงใส่หลายนัดแต่โชคดีไม่โดนใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงสวนกระสุนถูกนายศราวุธ เสียชีวิตคาที่ หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มกราคม 26, 2011, 08:35:48 AM ภาค5วิสามัญแก๊งลักจยย.3ศพ เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 25 ม.ค. พ.ต.ท.ถาวร นันติเสน สารวัตรเวรสภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุ มีตำรวจชุดศปร. กก.1 สส.บก.สส.ภ.5 วิสามัญแก๊งลักรถจักรยานยนต์ 3 ศพ ข้างป่าช้าหมู่บ้านศรีบัวเงิน หมู่ 2 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ดุลเดชา อาชวะสมิตระกูล ผกก.สภ.แม่ปิง พ.ต.ท.สัมพันธ์ ศิริมา รองผกก.สส. พร้อมทั้งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.มหาราชนครเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่อัยการจังหวัดเชียงใหม่ และฝ่ายปกครอง ที่เกิดเหตุพล.ต.ต.สุวรรณ เอกโพธิ์ ผบก.สส.ภาค 5 พ.ต.อ.ธนะรัชต์ ชุมสวัสดิ์ ผกก.สส.1 บก.ศสส.ภ.5 และพ.ต.ท.ธวัชชัย อยู่มาก รองผกก.ปดส.ภ. 5 พร้อมกับชุดสืบสวน อยู่ในที่เกิดเหตุจุดปะทะ ซึ่งเป็นถนนข้างป่าช้า บริเวณกลางถนนและข้างถนนพบศพชาย 3 คน มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 2 คัน รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม สีแดง 1 คัน และรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายอีก 1 คัน รวม 4 คัน ศพแรกคือ นายยอดชาย ปวงคำ หรือ แจ๊ค สันป่าตอง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ 4 ต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ เป็นหัวหน้าแก๊ง ขโมยรถจักรยานยนต์มาแล้ว 48 คัน ถือปืนขนาด 9 ม.ม. มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ลำตัวและใบหน้าแห่งละ 1 นัด ห่างไปประมาณ 10 เมตร พบศพนายพลวัฒน์ ใจปวน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 348 หมู่ 25 ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ในมือถือปืน ขนาด .38 มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่แสกหน้า 1 นัด ห่างออกไปประมาณ 3 เมตร พบศพนายศักดา จุ่มปาดง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 2 ต.ดอยหล่อ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ถูกยิงกลางหน้าอก 2 นัด ในมือข้างขวามีปืนลูกซองถือไว้ จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 24 ม.ค. ขณะที่ พ.ต.อ.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ ผกก.สส.1 บก.สส.ศสส.ภ.5 พร้อมกำลังออกสืบสวนและเฝ้าติดตามกลุ่มแก๊งลักรถจักรยานยนต์ พบว่าแก๊งแจ๊ค สันป่าตอง นัดส่งรถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาไปขาย โดยนัดมารับของบริเวณจุดเกิดเหตุ ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุม แต่ทั้ง 3 คนชักปืนยิงใส่ ตำรวจจึงยิงต่อสู้และเข้าเคลียร์พื้นที่พบว่ามีคนร้ายเสียชีวิต 3 ศพ ขณะที่ลูกปืนของทั้งฝ่ายตำรวจและคนร้ายนั้น พบปลอกกระสุนตกในที่เกิดเหตุนับสิบปลอก ทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจสอบว่าเป็นของคนร้ายกี่ปลอกและของตำรวจกี่ปลอก เพื่อดำเนินการขยายผลการจับกุมต่อไป (กรอบบ่าย) หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: kundum ที่ มกราคม 26, 2011, 08:39:48 AM นี่คือข่าวดีครับ
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มกราคม 26, 2011, 08:42:07 AM เมื่อไหร่มันจะหมดๆสะที ::012::
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: naylex ที่ มกราคม 26, 2011, 09:52:23 AM บางครั้งความตาย
อาจเป็นการยุติเรื่องราวที่เลวร้ายบางประการ หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: SW GLOCK 19 ที่ มกราคม 26, 2011, 10:18:36 AM ไปลงนรกให้หมด บ้านเมืองจะได้สูงขึ้น
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 26, 2011, 10:28:32 AM ข่าวแรกตายเพราะนกตัวเดียวแท้ ๆ ::005::
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Hariwake ที่ มกราคม 26, 2011, 10:32:15 AM ชดใช้กรรมกันไปครับ :OO
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Marcuechio ที่ มกราคม 26, 2011, 10:42:18 AM อยากทราบว่า อย่างคดีแรก คนยิงจะโดนอะไรมั้ย ครับเพราะว่า โจรกำลังปีนหนี แต่ เราไปยิงอ่ะครับ ซึ่งเหมือนว่าทำเกินกว่าเหตุรึป่าวครับ ::004::
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: cadet38 -รักในหลวง- ที่ มกราคม 26, 2011, 11:42:03 AM หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มกราคม 26, 2011, 11:53:02 AM ข่าวแรกตายเพราะนกตัวเดียวแท้ ๆ ::005:: ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ มกราคม 26, 2011, 12:02:38 PM วิสามัญให้มากที่สุดยิ่งดีครับ จับติดคุกเสียข้าวสุกเปล่าๆ พอออกมาจากคุกพวกนี้ยิ่งหนักกว่าเก่า....
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: kanburom ที่ มกราคม 26, 2011, 12:11:47 PM ทำไมต้องแสดงความแตกแยกในบอร์ดด้วยครับ นานาจิตตัง ต่างคนต่างความคิด รู้ว่ามันไม่ดี เราก็ต้องทำเป็นตัวอย่างสิครับ ทำแบบนี้มีแต่ความแตกแยกครับ ไม่ดี
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ มกราคม 26, 2011, 12:23:10 PM ข่าวแรกยิงขู่ แต่โดนทุกเม็ด ::007::
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Thanapong รักในหลวง ที่ มกราคม 26, 2011, 12:26:13 PM ข่าวแรกตายเพราะนกตัวเดียวแท้ ๆ ::005:: ::007:: ::007:: ::007:: ก็ราคามันแพงนี่ครับ จริงไหมครับ ท่านศักดา หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ มกราคม 26, 2011, 01:17:45 PM ข่าวแรกยิงขู่ แต่ถ้าโดนทั้ง 2 เยี่ยมเลยครับ พี่แกฝีมือใช้ได้เลย
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มกราคม 26, 2011, 01:47:10 PM ข่าวแรกตายเพราะนกตัวเดียวแท้ ๆ ::005:: สี่ตัวต่างหากครับ... ::005:: หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: RUGER SR9 ที่ มกราคม 26, 2011, 01:51:29 PM ข่าวแรกยิงขู่ แต่โดนทุกเม็ด ::007:: แม่นครับหัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มกราคม 26, 2011, 02:13:44 PM ทำไมต้องแสดงความแตกแยกในบอร์ดด้วยครับ นานาจิตตัง ต่างคนต่างความคิด รู้ว่ามันไม่ดี เราก็ต้องทำเป็นตัวอย่างสิครับ ทำแบบนี้มีแต่ความแตกแยกครับ ไม่ดี คืออะไร? อธิบายด้วยครับ หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 26, 2011, 02:42:03 PM อยากทราบว่า อย่างคดีแรก คนยิงจะโดนอะไรมั้ย ครับเพราะว่า โจรกำลังปีนหนี แต่ เราไปยิงอ่ะครับ ซึ่งเหมือนว่าทำเกินกว่าเหตุรึป่าวครับ ::004:: ข่าวแรกถือว่าเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุครับ คนยิงจะต้องถูกแจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา แต่เมื่อเป็นการป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุแล้ว ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ครับ หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Rath72 รักในหลวง ที่ มกราคม 26, 2011, 02:44:30 PM ผมคิดว่ากฎหมายไทยให้สิทธิในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินค่อนข้างน้อยครับ บางครั้งต้องรอให้ภัยมาจวนตัวจริงๆก่อน เช่นถือมีดวิ่งเข้ามาใกล้ในระยะสองสามเมตรแล้วยิงต่อสู้จึงจะถือว่าสมควรแก่เหตุ แต่ไม่ได้คำนึงว่า ถ้าถึงตอนนั้นเราตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูกล่ะ หรือถ้าพบว่าอาวุธปืนมีการติดขัดในตอนนั้น ก็คงจะตายทันที
คนบริสุทธิ์ที่ถูกอาชญากรเล่นงานในประเทศไทย มีหน้าที่ต้องเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว จิตใจมั่นคงและมีสติในทุกสถานการณ์ครับ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพทางจิตใจของคนบริสุทธิ์ หรือสถานการณ์ปลีกย่อยอื่นๆนัก เหมือนกฎหมายยึดถือหลักว่าผู้ยิงทุกคนมีสติมั่นคงไม่หวั่นไหว มีฝีมือการยิงปืนแม่นยำเข้าเป้า 100% โดยไม่มีข้อผิดพลาด อีกทั้งยังดูแลรักษาสภาพปืนให้เตรียมพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ::001:: ผมยังคิดว่าถ้าตัวเองต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้คงจะรีบยิงขู่ก่อน(แต่ไม่ใช่ขู่แบบในข่าว แม่นเกิน :) เพื่อทดสอบไปในตัวด้วยว่าอาวุธปืนของเราใช้งานได้ตามปรกติ เพราะถ้ามีปัญหายังอาจจะแก้ได้ทันท่วงที (ตอนที่เคยเจอโจรขึ้นบ้านสมัยก่อนนั้น ยังไม่มีอาวุธปืนครับ ไม่มีอะไรจะให้ยิงขู่) ผมเห็นข่าวต่างประเทศบางข่าว ที่เจ้าของบ้านยิงโจรที่เข้ามาในบ้าน แล้วไม่มีความผิดแล้วก็อิจฉาอยู่เหมือนกัน เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากอาชญากรเป็นผู้ก่อเหตุนี่ครับ เหตุการณ์อื่นเป็นผลต่อเนื่องที่จะไม่เกิดหากไม่มีการเริ่มการล่วงละเมิดกฎหมายก่อน อยู่ดีๆ คงไม่มีใครเที่ยวเอาปืนไปไล่ยิงคนอื่นเล่นถ้าไม่มีมูลเหตุจูงใจ หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 26, 2011, 02:48:55 PM ข่าวดีครับ
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: tum5260 ที่ มกราคม 26, 2011, 03:07:48 PM บ้านเมืองยังไม่ปลอดภัย ต้องป้องกันตัวเอง ::002::
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: telekbook - รักในหลวง ที่ มกราคม 26, 2011, 03:42:36 PM ตายเพราะนก ;D
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: ชิริว ที่ มกราคม 26, 2011, 03:59:52 PM ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::สะใจครับ ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ มกราคม 26, 2011, 04:07:12 PM ผมคิดว่ากฎหมายไทยให้สิทธิในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินค่อนข้างน้อยครับ บางครั้งต้องรอให้ภัยมาจวนตัวจริงๆก่อน เช่นถือมีดวิ่งเข้ามาใกล้ในระยะสองสามเมตรแล้วยิงต่อสู้จึงจะถือว่าสมควรแก่เหตุ แต่ไม่ได้คำนึงว่า ถ้าถึงตอนนั้นเราตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูกล่ะ หรือถ้าพบว่าอาวุธปืนมีการติดขัดในตอนนั้น ก็คงจะตายทันที คนบริสุทธิ์ที่ถูกอาชญากรเล่นงานในประเทศไทย มีหน้าที่ต้องเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว จิตใจมั่นคงและมีสติในทุกสถานการณ์ครับ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพทางจิตใจของคนบริสุทธิ์ หรือสถานการณ์ปลีกย่อยอื่นๆนัก เหมือนกฎหมายยึดถือหลักว่าผู้ยิงทุกคนมีสติมั่นคงไม่หวั่นไหว มีฝีมือการยิงปืนแม่นยำเข้าเป้า 100% โดยไม่มีข้อผิดพลาด อีกทั้งยังดูแลรักษาสภาพปืนให้เตรียมพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ::001:: ผมยังคิดว่าถ้าตัวเองต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้คงจะรีบยิงขู่ก่อน(แต่ไม่ใช่ขู่แบบในข่าว แม่นเกิน :) เพื่อทดสอบไปในตัวด้วยว่าอาวุธปืนของเราใช้งานได้ตามปรกติ เพราะถ้ามีปัญหายังอาจจะแก้ได้ทันท่วงที (ตอนที่เคยเจอโจรขึ้นบ้านสมัยก่อนนั้น ยังไม่มีอาวุธปืนครับ ไม่มีอะไรจะให้ยิงขู่) ผมเห็นข่าวต่างประเทศบางข่าว ที่เจ้าของบ้านยิงโจรที่เข้ามาในบ้าน แล้วไม่มีความผิดแล้วก็อิจฉาอยู่เหมือนกัน เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากอาชญากรเป็นผู้ก่อเหตุนี่ครับ เหตุการณ์อื่นเป็นผลต่อเนื่องที่จะไม่เกิดหากไม่มีการเริ่มการล่วงละเมิดกฎหมายก่อน อยู่ดีๆ คงไม่มีใครเที่ยวเอาปืนไปไล่ยิงคนอื่นเล่นถ้าไม่มีมูลเหตุจูงใจ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๙ วางหลักไว้ดังนี้นะครับ ในกรณีการป้องกันที่เกินสมควรแก่เหตุ ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความตกใจ หรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้ ความจริงแล้วเรื่องการป้องกันตัวที่เกินกว่าเหตุหากเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น หรือตกใจ เช่นคนร้ายมีเพียงแค่มือเปล่าแต่มีพฤติการณ์วิ่งเข้าชาร์จ สวนปืนเข้ามา หากเรายิงปืนใส่ไปโดยไม่เลือกจุดไปสัก ๒ - ๓ นัด เช่นนี้ก็น่าจะถือว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวได้ครับ แม้จะเกินกว่าเหตุ แต่ใครที่เจอ พฤติการณ์เช่นนี้ก็ย่อมตกใจและยิงสวนออกไปโดยไม่ได้สังเกตหรอกครับว่าคนร้ายจะมีอาวุธหรือไม่ เป็นผมก็คงเลือกยิงสวนออกไปเช่นกัน ซึ่งในกรณี เช่นนี้ศาลอาจใช้ดุลพินิจไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้ หรือหากเป็นชั้นพนักงานอัยการก็อาจใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องก็ได้ แต่ตามข่าวเห็นได้ชัดครับว่าคนร้าย หันหลังหนีไปแล้ว และไม่มีพฤติการณ์จะหันกลับมาสู้ จะอ้างว่าตื่นเต้น ตกใจ หรือกลัว คงไม่ได้หรอกครับ หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Rath72 รักในหลวง ที่ มกราคม 26, 2011, 04:17:23 PM ผมคิดว่ากฎหมายไทยให้สิทธิในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินค่อนข้างน้อยครับ บางครั้งต้องรอให้ภัยมาจวนตัวจริงๆก่อน เช่นถือมีดวิ่งเข้ามาใกล้ในระยะสองสามเมตรแล้วยิงต่อสู้จึงจะถือว่าสมควรแก่เหตุ แต่ไม่ได้คำนึงว่า ถ้าถึงตอนนั้นเราตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูกล่ะ หรือถ้าพบว่าอาวุธปืนมีการติดขัดในตอนนั้น ก็คงจะตายทันที คนบริสุทธิ์ที่ถูกอาชญากรเล่นงานในประเทศไทย มีหน้าที่ต้องเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว จิตใจมั่นคงและมีสติในทุกสถานการณ์ครับ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพทางจิตใจของคนบริสุทธิ์ หรือสถานการณ์ปลีกย่อยอื่นๆนัก เหมือนกฎหมายยึดถือหลักว่าผู้ยิงทุกคนมีสติมั่นคงไม่หวั่นไหว มีฝีมือการยิงปืนแม่นยำเข้าเป้า 100% โดยไม่มีข้อผิดพลาด อีกทั้งยังดูแลรักษาสภาพปืนให้เตรียมพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ::001:: ผมยังคิดว่าถ้าตัวเองต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้คงจะรีบยิงขู่ก่อน(แต่ไม่ใช่ขู่แบบในข่าว แม่นเกิน :) เพื่อทดสอบไปในตัวด้วยว่าอาวุธปืนของเราใช้งานได้ตามปรกติ เพราะถ้ามีปัญหายังอาจจะแก้ได้ทันท่วงที (ตอนที่เคยเจอโจรขึ้นบ้านสมัยก่อนนั้น ยังไม่มีอาวุธปืนครับ ไม่มีอะไรจะให้ยิงขู่) ผมเห็นข่าวต่างประเทศบางข่าว ที่เจ้าของบ้านยิงโจรที่เข้ามาในบ้าน แล้วไม่มีความผิดแล้วก็อิจฉาอยู่เหมือนกัน เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากอาชญากรเป็นผู้ก่อเหตุนี่ครับ เหตุการณ์อื่นเป็นผลต่อเนื่องที่จะไม่เกิดหากไม่มีการเริ่มการล่วงละเมิดกฎหมายก่อน อยู่ดีๆ คงไม่มีใครเที่ยวเอาปืนไปไล่ยิงคนอื่นเล่นถ้าไม่มีมูลเหตุจูงใจ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๙ วางหลักไว้ดังนี้นะครับ ในกรณีการป้องกันที่เกินสมควรแก่เหตุ ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนด ไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้ แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความตกใจ หรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้ ความจริงแล้วเรื่องการป้องกันตัวที่เกินกว่าเหตุหากเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น หรือตกใจ เช่นคนร้ายมีเพียงแค่มือเปล่าแต่มีพฤติการณ์วิ่งเข้าชาร์จ สวนปืนเข้ามา หากเรายิงปืนใส่ไปโดยไม่เลือกจุดไปสัก ๒ - ๓ นัด เช่นนี้ก็น่าจะถือว่าเป็นการยิงเพื่อป้องกันตัวได้ครับ แม้จะเกินกว่าเหตุ แต่ใครที่เจอ พฤติการณ์เช่นนี้ก็ย่อมตกใจและยิงสวนออกไปโดยไม่ได้สังเกตหรอกครับว่าคนร้ายจะมีอาวุธหรือไม่ เป็นผมก็คงเลือกยิงสวนออกไปเช่นกัน ซึ่งในกรณี เช่นนี้ศาลอาจใช้ดุลพินิจไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้ หรือหากเป็นชั้นพนักงานอัยการก็อาจใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องก็ได้ แต่ตามข่าวเห็นได้ชัดครับว่าคนร้าย หันหลังหนีไปแล้ว และไม่มีพฤติการณ์จะหันกลับมาสู้ จะอ้างว่าตื่นเต้น ตกใจ หรือกลัว คงไม่ได้หรอกครับ ขอบคุณครับท่าน Yoshiki :D กรณีในข่าวนี้ผมเห็นด้วยครับว่า ไม่เข้าลักษณะการป้องกันตัวแน่นอน เพราะคนร้ายทิ้งของที่ขโมยวิ่งหันหลังไปแล้ว น่าจะเป็นการยิงด้วยความโกรธแค้นมากกว่า หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: ณัฏฐ์ ที่ มกราคม 26, 2011, 07:54:05 PM ข่าวแรกคนยิงงานเข้าข้อหายิงแม่น ข่าวสองสามเจ้าหน้าที่เยี่ยมครับ
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มกราคม 26, 2011, 08:05:39 PM นโยบายลดอาชญากรรมและยาเสพติดเริ่มเข้มข้นแล้ว
หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ มกราคม 26, 2011, 08:52:55 PM ผมคิดว่ากฎหมายไทยให้สิทธิในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินค่อนข้างน้อยครับ บางครั้งต้องรอให้ภัยมาจวนตัวจริงๆก่อน เช่นถือมีดวิ่งเข้ามาใกล้ในระยะสองสามเมตรแล้วยิงต่อสู้จึงจะถือว่าสมควรแก่เหตุ แต่ไม่ได้คำนึงว่า ถ้าถึงตอนนั้นเราตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูกล่ะ หรือถ้าพบว่าอาวุธปืนมีการติดขัดในตอนนั้น ก็คงจะตายทันที แต่ผมว่ากฏหมายก็ดีอยู่แล้วนะครับ อย่างนายคนที่ขโมยนก ผมว่าทำเกินกว่าเหตุครับ ที่โน้นอาจจะไม่ติดคุกยัดเงินได้คนบริสุทธิ์ที่ถูกอาชญากรเล่นงานในประเทศไทย มีหน้าที่ต้องเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว จิตใจมั่นคงและมีสติในทุกสถานการณ์ครับ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพทางจิตใจของคนบริสุทธิ์ หรือสถานการณ์ปลีกย่อยอื่นๆนัก เหมือนกฎหมายยึดถือหลักว่าผู้ยิงทุกคนมีสติมั่นคงไม่หวั่นไหว มีฝีมือการยิงปืนแม่นยำเข้าเป้า 100% โดยไม่มีข้อผิดพลาด อีกทั้งยังดูแลรักษาสภาพปืนให้เตรียมพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ::001:: ผมยังคิดว่าถ้าตัวเองต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้คงจะรีบยิงขู่ก่อน(แต่ไม่ใช่ขู่แบบในข่าว แม่นเกิน :) เพื่อทดสอบไปในตัวด้วยว่าอาวุธปืนของเราใช้งานได้ตามปรกติ เพราะถ้ามีปัญหายังอาจจะแก้ได้ทันท่วงที (ตอนที่เคยเจอโจรขึ้นบ้านสมัยก่อนนั้น ยังไม่มีอาวุธปืนครับ ไม่มีอะไรจะให้ยิงขู่) ผมเห็นข่าวต่างประเทศบางข่าว ที่เจ้าของบ้านยิงโจรที่เข้ามาในบ้าน แล้วไม่มีความผิดแล้วก็อิจฉาอยู่เหมือนกัน เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากอาชญากรเป็นผู้ก่อเหตุนี่ครับ เหตุการณ์อื่นเป็นผลต่อเนื่องที่จะไม่เกิดหากไม่มีการเริ่มการล่วงละเมิดกฎหมายก่อน อยู่ดีๆ คงไม่มีใครเที่ยวเอาปืนไปไล่ยิงคนอื่นเล่นถ้าไม่มีมูลเหตุจูงใจ เป็นที่นี่ก็คุกแน่นอน ถ้าเกิดมีกฏหมายอนุญาตให้ยิงคนที่เข้ามาในบ้านได้ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ก็คงกลายเป็นแดนเถื่อนกันล่ะครับ ต่างความเห็นนะครับไม่ได้ชวนทะเลาะ หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Rath72 รักในหลวง ที่ มกราคม 27, 2011, 12:07:09 AM ผมคิดว่ากฎหมายไทยให้สิทธิในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินค่อนข้างน้อยครับ บางครั้งต้องรอให้ภัยมาจวนตัวจริงๆก่อน เช่นถือมีดวิ่งเข้ามาใกล้ในระยะสองสามเมตรแล้วยิงต่อสู้จึงจะถือว่าสมควรแก่เหตุ แต่ไม่ได้คำนึงว่า ถ้าถึงตอนนั้นเราตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูกล่ะ หรือถ้าพบว่าอาวุธปืนมีการติดขัดในตอนนั้น ก็คงจะตายทันที แต่ผมว่ากฏหมายก็ดีอยู่แล้วนะครับ อย่างนายคนที่ขโมยนก ผมว่าทำเกินกว่าเหตุครับ ที่โน้นอาจจะไม่ติดคุกยัดเงินได้คนบริสุทธิ์ที่ถูกอาชญากรเล่นงานในประเทศไทย มีหน้าที่ต้องเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว จิตใจมั่นคงและมีสติในทุกสถานการณ์ครับ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพทางจิตใจของคนบริสุทธิ์ หรือสถานการณ์ปลีกย่อยอื่นๆนัก เหมือนกฎหมายยึดถือหลักว่าผู้ยิงทุกคนมีสติมั่นคงไม่หวั่นไหว มีฝีมือการยิงปืนแม่นยำเข้าเป้า 100% โดยไม่มีข้อผิดพลาด อีกทั้งยังดูแลรักษาสภาพปืนให้เตรียมพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา ::001:: ผมยังคิดว่าถ้าตัวเองต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้คงจะรีบยิงขู่ก่อน(แต่ไม่ใช่ขู่แบบในข่าว แม่นเกิน :) เพื่อทดสอบไปในตัวด้วยว่าอาวุธปืนของเราใช้งานได้ตามปรกติ เพราะถ้ามีปัญหายังอาจจะแก้ได้ทันท่วงที (ตอนที่เคยเจอโจรขึ้นบ้านสมัยก่อนนั้น ยังไม่มีอาวุธปืนครับ ไม่มีอะไรจะให้ยิงขู่) ผมเห็นข่าวต่างประเทศบางข่าว ที่เจ้าของบ้านยิงโจรที่เข้ามาในบ้าน แล้วไม่มีความผิดแล้วก็อิจฉาอยู่เหมือนกัน เรื่องทั้งหมดมันเริ่มจากอาชญากรเป็นผู้ก่อเหตุนี่ครับ เหตุการณ์อื่นเป็นผลต่อเนื่องที่จะไม่เกิดหากไม่มีการเริ่มการล่วงละเมิดกฎหมายก่อน อยู่ดีๆ คงไม่มีใครเที่ยวเอาปืนไปไล่ยิงคนอื่นเล่นถ้าไม่มีมูลเหตุจูงใจ เป็นที่นี่ก็คุกแน่นอน ถ้าเกิดมีกฏหมายอนุญาตให้ยิงคนที่เข้ามาในบ้านได้ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ก็คงกลายเป็นแดนเถื่อนกันล่ะครับ ต่างความเห็นนะครับไม่ได้ชวนทะเลาะ ครับพี่ ขอบคุณที่ออกความเห็นครับ :D ::014:: ผมชอบเว็บนี้ตรงนี้แหละครับ เห็นต่างกันก็คุยกันได้ บางที่ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย ::002:: หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ มกราคม 27, 2011, 06:25:02 AM ทำไมต้องแสดงความแตกแยกในบอร์ดด้วยครับ นานาจิตตัง ต่างคนต่างความคิด รู้ว่ามันไม่ดี เราก็ต้องทำเป็นตัวอย่างสิครับ ทำแบบนี้มีแต่ความแตกแยกครับ ไม่ดี ??? ??? หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: สาละวิน_รักในหลวง ที่ มกราคม 27, 2011, 10:46:56 AM เดี๋ยวนี้ การที่ จนท.วิสามัญฯ คนร้าย ไม่ได้ง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ
เผลอๆอาจโดนทำเกินกว่าเหตุด้วย ห่วง จนท.ที่ปฏิบัติงาน ทั้งอันตรายจากคนร้าย+อันตรายจากนักสิทธิมนุษยชน... หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ มกราคม 27, 2011, 11:29:17 AM วิสามัญฯโจ๋พัทยาพกปืนซิ่งแหกด่านวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 08:05:15 น. แบ่งปันข่าวนี้บน facebook Share เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 25 มกราคม ร.ต.ท.วิรัตน์ เทศทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีคนร้ายถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตอยู่บริเวณใต้สะพานข้ามคลอง ถนนเลียบทางรถไฟ หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณใต้สะพานพบศพนายศราวุธ รัตนพาหิระ หรือฉายา "เจ๊ก วัดธรรม"อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148/56 หมู่ 13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี สภาพศพนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ถูกอาวุธปืนขนาด 11 มม. ยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ 1 นัด และกลางหน้าอก 1 นัด โดยมีอาวุธปืนออโตเมติคขนาด 9 มม. บรรจุกระสุนเกือบเต็ม และปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีกจำนวน 4 ปลอก ตกอยู่ข้างศพ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ร.ต.ท.ณรงค์ ประจิม รอง สวป.สภ.บางละมุง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ร่วมกับ ร.ต.ท.รัตติ วงศ์เวช รอง สวป. นำกำลังตำรวจและตำรวจอาสา ตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายอยู่บริเวณสามแยกซอยบุนนาค ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร นายศราวุธ ผู้ตาย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟเอส สีเทา-ดำ ทะเบียน ขลษ 831 ชลบุรี ผ่านมาโดยมีนายไจรายุ หลวงศักดา อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/14 หมู่ 4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง นั่งซ้อนท้าย ทางตำรวจจึงเรียกให้จอดเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่านายศราวุธ กลับซิ่ง จยย.เผ่นหนี และไปประสบอุบัติเหตุรถล้ม ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถจับกุมตัวนายไจรายุ ไว้ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก อาวุธปืนขนาด .38 ซุปเปอร์ 1 กระบอก และกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 4 นัด แต่ภายหลังนายศราวุธได้วิ่งหนีไปหลบใต้สะพานข้ามคลอง พร้อมกับเปิดฉากใช้อาวุธปืนยิงใส่หลายนัดแต่โชคดีไม่โดนใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงสวนกระสุนถูกนายศราวุธ เสียชีวิตคาที่ http://www.SharkerNews.com ข้นทุกประเด็น เน้นคุณภาพ ชาร์กเกอร์นิวส์ ตำรวจบางละมุงปิดคดี รวบแก๊งยิงสาวนิรนาม ซัดทอด เจ็ก วัดธรรม ที่ถูกตำรวจวิสามัญฯ เป็นคนวางแผนและใช้อาวุธปืนซัลโว 3 นัดซ้อน ทิ้งศพบนถนนสายเปลี่ยว สาเหตุเพราะผู้ตายทำตัวเป็นสายให้กับตำรวจ กรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงหญิงนิรนาม 3 นัดซ้อน เสียชีวิตอยู่ริมถนน สายโป่ง-ฮอร์สชูพ้อยท์ หมู่ 9 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกของวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ลงพื้นที่หาข่าวจนทราบชื่อผู้ตายคือ น.ส.สุกัญญา เม่นโต อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 661 หมู่ 7 ต.เจริญผล อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ซึ่งเบื้องต้นได้ตั้งประเด็นการสังหารโหดว่าน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว, ความแค้นส่วนตัว หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด ตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น ความคืบหน้าของคดีนี้เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 26 ม.ค.54 พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พ.ต.ท.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.นิตย์ วิธินันทกิตต์ สว.สส. ร.ต.อ.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง สว.สส. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนจับกุมนายมารุต ขันทองดี หรือเอก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42/98 หมู่ 2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง ผู้ต้องหายิง น.ส.สุกัญญา ขณะนั่งอยู่ในบ้านเช่า 2 ชั้น ไม่มีเลขที่ ใกล้เคียงสะพานต่างระดับโป่ง พื้นที่หมู่ 7 ต.โป่ง อ.บางละมุง ตรวจค้นในบ้านพบของกลางโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย และอาวุธปืนขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน สอบปากคำนายมารุต ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับนายศราวุธ รัตนพาหิระ หรือฉายา เจ็ก วัดธรรม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาอีกคนที่พกอาวุธปืน 3 กระบอก ขับรถ จยย.แหกด่านตรวจ จนถูกตำรวจ สภ.บางละมุง วิสามัญฆาตกรรมไปเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ (25 ม.ค.) วางแผนลวง น.ส.สุกัญญา ซ้อนท้ายรถ จยย.ไปกับตนและนายศราวุธ โดยอ้างว่าจะพาไปซื้อยาไอซ์ กระทั่งไปถึงบริเวณถนนสายเปลี่ยวติดกับไร่สับปะรด ห่างจากฮอร์สชูพ้อยท์ ประมาณ 2 กม. นายศราวุธ จึงชักอาวุธปืนขนาด 9 มม. ออกมาจ่อยิง 3 นัดซ้อน จนเสียชีวิต ถึงแม้ น.ส.สุกัญญา จะยกมือไหว้ร้องขอชีวิตแล้วก็ตาม ซึ่งภายหลังก่อเหตุตนจึงได้ขับรถ จยย.พานายศราวุธ หลบหนี ส่วนสาเหตุมาจากนายศราวุธ แค้น น.ส.สุกัญญา ที่ชอบทำตัวเป็นสายให้กับตำรวจ จึงวางแผนลวงไปสังหารโหดดังกล่าว ด้าน พ.ต.อ.สมนึก จันทร์เกตุ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงหาข่าว จนทราบข้อมูลสำคัญจากปากภรรยาของนายสราวุธ ผู้ต้องหาที่ถูกตำรวจวิสามัญฯ ว่าสามีของตัวเองได้ร่วมกับนายมารุต หรือเอก วางแผนลวง น.ส.สุกัญญา ไปสังหารจริง จึงนำกำลังไปจับกุมนายมารุต ได้ที่บ้านพัก ส่วนการที่นายสราวุธ ถูกตำรวจยิงตายนั้น เป็นคนละกรณีกัน อย่างไรก็ตาม คดีนี้ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดทำงานประสบความสำเร็จ สามารถปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน ส่วนอีก 1 คนถูกวิสามัญฯ ไปชดใช้กรรมในปรโลก ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติของทั้งคู่พบว่ามีส่วนพัวกับการค้ายาเสพติดในพื้นที่ และนายสราวุธ จะเป็นคนชอบสะสมอาวุธปืนเป็นชีวิตจิตใจ เพราะตรวจสอบภายในห้องพักไม่มีเลขที่ ริมถนนเลียบทางรถไฟ หลังวัดธรรมสามัคคี พบว่ามีรูปภาพอาวุธปืนชนิดต่างๆ ติดอยู่ตามฝาผนังห้องเป็นจำนวนมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายมารุต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบ้านพักของนายสราวุธ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้วางแผน ระหว่างนั้นพบนายอิทธิพล กาดนอก อายุ 20 ปี กับนายศักดา อินสะอาด อายุ 23 ปี นั่งอยู่ภายในบ้านท่าทางมีพิรุธ ตรวจค้นพบอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ จึงควบคุมตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด จากนั้นจึงเดินทางไปทำแผนฯ ยังจุดที่นายสราวุธ ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.สุกัญญา โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: ฅนบ้านนอก ที่ มกราคม 27, 2011, 01:26:55 PM วิสามัญให้มากที่สุดยิ่งดีครับ จับติดคุกเสียข้าวสุกเปล่าๆ พอออกมาจากคุกพวกนี้ยิ่งหนักกว่าเก่า.... คำกล่าวนี้เห็นด้วยครับ ผมเจอบ่อยคนพวกนี้เข้าออกคุกจนเป็นเพื่อนกับผู้คุมและในที่สุดมันก็ตายครับแต่ไม่ได้โดนวิสาฯ...มันเป็นเอดส์ตายไปเองครับ ;D ::014:: หัวข้อ: Re: ยิงดับหัวขโมยย่องขึ้นบ้าน / วิโจ๋แหกด่าน / วิแก๊งลักรถ เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ มกราคม 27, 2011, 03:38:56 PM ทำไมต้องแสดงความแตกแยกในบอร์ดด้วยครับ นานาจิตตัง ต่างคนต่างความคิด รู้ว่ามันไม่ดี เราก็ต้องทำเป็นตัวอย่างสิครับ ทำแบบนี้มีแต่ความแตกแยกครับ ไม่ดี คืออะไร? อธิบายด้วยครับ |