เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

              ก็ไม่เชิงไปเที่ยว พอดีที่กองผมรับผิดชอบเกี่ยวกับการเดินทางไปศึกษาอยุธยาประวัติศาสตร์อยุธยา   พอดีเจ้าหน้าที่ถ่ายภาพที่ทำงานไม่ว่าง  ผมเลยต้องไปถ่ายภาพเอง สนุกดีครับ อากาศก็เป็นใจ (ร้อนมาก ๆ ๆ )  ก่อนออกเดินทางก็สักการะพระภูมิเจ้าที่ก่อน ผอ.เดินทางเป็นผู้กล่าวสักการะ

 .

..

           ขึ้นรถออกเดินทาง

          เดินทางถึงศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา

              อ้อ ก่อนอื่นต้องแนะนำผู้บรรยาย ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทย-พม่า(ไทยรบพม่า) ท่านคือ  อาจารย์ สด  แดงเอียด  ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการศาสนา  ถือเป็นมือ ๑ ของประเทศไทยในเรื่องประวัติศาสตร์ก็ว่าได้

       ท่านก็บรรยายไปเรื่อย ผมก็เดินถ่ายภาพไปเรื่อย

...

รอชมต่อครับ  ขอบคุณครับ  ::014::

ปล. ถ้าใช้วิธีฝากภาพ จะลงรูปได้ใหญ่ และเร็วกว่า สามารถลงทีละหลายรูปได้ด้วยครับ  ;)

ถ้าจากเวป http://image.ohozaa.com/ (http://image.ohozaa.com/)

(http://image.ohozaa.com/i/455/x4ylz.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=a6a26d2a6937f2bffc34b74d62612118)


หรือว่า


ไม่ต้องสมัครอะไรให้ยุ่งยากเลยครับแค่ เปิดเวป  http://www.imageshack.us/ (http://www.imageshack.us/)
แล้ว
-กดช่องที่กรอบสีแดง เลือกรูปที่จะโพสต์
-กด อัพโหลด ช่อง สีแดง 2

(http://img257.imageshack.us/img257/1048/001no.jpg)


-รอซักประเดี๋ยวประด๊าว มาแล้วอีกหน้า ให้copyก๊อปปี้ที่ไฮไลท์สีฟ้าไว้

(http://img231.imageshack.us/img231/4801/002jl.jpg)


-จากนั้นคลิกขวาแล้วสั่งคำสั่ง paste ในหัวข้อที่ตั้งกระทู้ แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ

(http://img215.imageshack.us/img215/1436/dsc1906.jpg)

ปล.หากสงสัยว่าโพสต์รูปขึ้นรึเปล่า ให้กดปุ่มแสดงตัวอย่างก่อน หากรูปขึ้น ก็กด ตั้งกระทู้ได้เลย


แต่ผมชอบเวปนี้ ฝากได้เร็วและทีละหลายๆรูปครับ http://image.ohozaa.com/ (http://image.ohozaa.com/)

           ขอบคุณครับพี่ Sig228-kolok   :D

       เสร็จจากศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา  ก็มาต่อที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา  ท่านนี้เป็น ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยาครับ  อาจารย์สุบงกช   ธงทองทิพย์  ท่านก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์

                พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา สร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  เสด็จพระราชดำเนินมาทอดพระเนตรโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 ทรงมีพระราชปรารภกับรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการและอธิบดีกรมศิลปากรในสมัยนั้นว่า “ โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุที่พบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะนี้ สมควรจะได้มีพิพิธภัณฑสถานเก็บรักษา และตั้งแสดงให้ประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยานี้ หาควรนำไปเก็บรักษา และตั้งแสดง ณ ที่อื่นไม่”  กรมศิลปากรจึงได้สร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ขึ้นเพื่อเก็บรักษาจัดแสดงโบราณวัตถุที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ และโบราณวัตถุพบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  อาคารก่อสร้างด้วยเงินบริจาคจากประชาชน  ซึ่งผู้บริจาคได้รับพระพิมพ์ที่พบจากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะเป็นการสมนาคุณ  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระนามสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) ผู้ทรงสร้างพระปรางค์วัดราชบูรณะเป็นนามพิพิธภัณฑ์
            พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2504

               ภายในพิพิธภัณฑฯ มีพระพุทธ  ให้ไว้ศึกษามากมาย

          อาจารย์ สดฯ  บรรยายเกี่ยวกับเศียรพระพุทธรูปองค์นี้  ผมจำไม่ได้ว่าท่านว่าอย่างไรบ้างมัวแต่ถ่ายรูปอยู่

             ต่อมาขึ้นมาด้านบนชั้นที่ ๒  มาที่ห้องเครื่อง  ห้องนี้เก็บรวบรวมสิ่งของมีค่าไว้มากมาย ถ้ามีโอกาสห้องนี้ไม่ควรพลาดเข้าชม

    ต่อครับ

              ทุกชิ้นเป็นทองคำที่หาค่ามิได้ครับ

            ฝีมือของช่างทองสมัยโบราณ  สวยมาก ๆ ครับ

               ต่อครับ

            ต่อครับ

                 ต่อครับ

             ..

       พระเจดีย์จำลองที่เมื่อก่อนหุ้มด้วยทองทั้งองค์  แต่โดนขโมยไปตอนกรุแตก  เหลืออยู่แค่นี้  คิดดูซิครับถ้าเต็มทั้งองค์จะสวยขนาดไหน

            ต่อครับ

                   พระแสงดาบ ครับ  ::014::

              ถ้าได้เข้าไปดูใกล้ ๆ จะเห็นถึงความวิจิตบรรจง  ::014::

           เครื่องทรงต่าง ๆ

             ต่อครับ

            ต่อครับ

                เสร็จจากพิพิธภัณฑฯ  ก็ไปวัดพระศรีสรรเพชญ์  อาจารย์ สดฯ  ก็เดินบรรยายให้นักศึกษาฟังเกี่ยวกับเจดีย์ต่างๆ และสถานที่ภายใน

           ต่อครับ

                ต่อครับ

                   เสร็จจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ ก็ เกือบบ่ายโมงแล้ว  ได้ลงเรือรับประทานอาหารที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์  บรรดาเหล่านักศึกษาและเจ้าหน้าที่ก็รับประทานอาหาร  อาจาย์ก็บรรยายให้ฟังเกี่ยวกับสองฝั่งแม่น้ำ  อาจารย์บรรยายอยู่ตรงหัวเรือโน้น

            บรรยายกาศบ้านเรือนและวัดสองฝั่งแม่น้ำ

             ต่อครับ

            ต่อครับ  วัดนักบุญยอแซป

           ต่อครับ

                 ต่อครับ

                 ประวัติเจดีย์พระศรีสุริโยทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยู่ในเกาะเมืองด้านทิศตะวันตกเป็นโบราณสถานที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เพราะสถานที่นี้มิได้เป็นเพียงอนุสรณ์สถานของวีรสตรีไทยพระองค์แรกเท่านั้น
     หากแต่ยังหมายถึงการยืนยันเกียรติแห่งสตรีไทยได้รับการยกย่องจากสังคมไทยมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลอีกด้วย เรื่องมีอยู่ว่าในขณะที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิขึ้นครองราชย์ได้เพียง 7 เดือน เมื่อ พ.ศ.2091 พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้และบุเรงนอง ยกทัพเข้ามาล้อมกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก  โดยผ่านมาทางด้านด่านพระเจดีย์สามองค์จังหวัดกาญจนบุรี และตั้งค่ายล้อมพระนคร การศึกครั้งนั้นเป็นที่เลื่องลือถึงวีรกรรมของสมเด็จพระสุริโยทัยซึ่งไสช้างพระที่นั่งเข้าขวางพระเจ้าแปร ด้วยเกรงว่าสมเด็จพระมหาจักรพรรดิพระราชสวามีจะเป็นอันตรายจนถูกพระแสงของ้าวฟันพระอังสาขาดสะพายแล่ง สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง
    เมื่อสงครามยุติลง สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ปลงพระศพของพระนางและสถาปนาสถานที่ปลงพระศพขึ้นเป็นวัด ขนานนามว่า “วัดสบสวรรค์” (หรือ วัดสวนหลวงสบสวรรค์) ต่อมาในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีการสอบสวนหาตำแหน่งสถานที่ต่างๆ ที่กล่าวมาถึงในพระราชพงศาวดารเพื่อเรียบเรียงเป็นหนังสือประชุมพงศาวดารขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย จึงเป็นเหตุให้ทราบตำแหน่งของวักสบสวรรค์ ซึ่งยังคงพบเจดีย์แบบย่อไม้สิบสองสูงใหญ่ ปรากฏตามที่ตั้งในปัจจุบันนี้ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงขนานนามเรียกเจดีย์ว่า “เจดีย์พระศรีสุริโยทัย”
     ในปี พ.ศ. 2533 รัฐบาลได้มอบให้กรมศิลปากร และกรป.กลาง ดำเนินการบูรณะซ่อมแซมเสริมรูปทรงพระเจดีย์ที่ชำรุดให้อยู่ในสภาพเดิมเป็ฯที่น่ายินดีว่า ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2533 กรมศิลปากรได้พบศิลปวัตถุโบราณ เช่น พระพุทธรูปผลึกแก้ว สีขาวปางมารวิชัย พระเจดีย์จำลอง ผอบทองคำบรรจุพระธาตุ เป็นต้น ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา

             เสร็จจากการล่องเรือชมเกาะอยุธยา ก็ขึ้นมาที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์  นักศึกษากล่าวขอบคุณอาจารย์ สด

               ผอ.เดินทาง   มอบของที่ระลึกให้กับอาจารย์ สดฯ

               อาจารย สดฯ  ท่านก็กล่าวกับคณะฯ  ว่าพวกเราไม่ใช่จะศึกษาประวัติศาสตร์กันแต่ในห้องเรียน  ต้องออกมาสัมผัสกับสถานที่จริงบ้าง จะได้รู้ว่าอะไรตั้งอยู่ที่ไหน สถานที่ไหนมีความสำคัญอย่างไร    สุดท้ายขอบคุณครับที่ติดตามชม

+1 ครับ... :D