หัวข้อ: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ มกราคม 31, 2011, 05:11:09 PM แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ โดนTriple trapเข้าไป แต่ตอนยิงตำรวจนายนี้คุมปืนดีมากเหมือนไม่ดีดเลย
ยิงดับ (http://www.youtube.com/watchบนี้เกินกว่?v=o77oqTuGNfQ#) หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: janeorchid33 love the king ที่ มกราคม 31, 2011, 05:20:33 PM ไม่เกินกว่าเหตุหรอกครับ คนร้ายถือมีดเดินอาดๆ จะไปแทงคนเสื้อแดง ตำรวจบอกให้หยุดก็ไม่หยุด กำมีดซะแน่นขนาดนั้น ::014::
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: TakeFive ที่ มกราคม 31, 2011, 05:29:54 PM ไม่เกินหรอกครับ เพราะมันเป็นโฆษณา
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: steam.รักในหลวง ที่ มกราคม 31, 2011, 05:31:43 PM :OO
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ มกราคม 31, 2011, 06:03:07 PM ไม่เกินหรอกครับ เพราะมันเป็นโฆษณา คงเป็นไปได้ครับ ที่ผมไม่ได้สังเกตุให้ดีหัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: คนส่องกล้อง ที่ มกราคม 31, 2011, 06:55:58 PM ถ้าเป็นเมืองไทยเกินกว่าเหตุ ครับ เพราะจะต้องมีไอ้พวกนักสิทธิฯหน้าไหนสักคนออกมาให้ข่าวว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มกราคม 31, 2011, 07:13:52 PM กฎหมายที่ต่างกัน ของแต่ละประเทศ ครับ
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Pol.Sgt.Thongphet ที่ มกราคม 31, 2011, 08:42:25 PM กฎหมายอเมริกา ตำรวจสั่งให้ยกมือขึ้น แล้วไม่ยก ก้อยิงได้แล้วครับ
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ มกราคม 31, 2011, 09:00:46 PM กฎหมายอเมริกา ตำรวจสั่งให้ยกมือขึ้น แล้วไม่ยก ก้อยิงได้แล้วครับ ขนาดนั้นเลยหรอครับหัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: JoeyTank2k ที่ มกราคม 31, 2011, 09:02:37 PM ถ้าเป็นเมืองไทยเกินกว่าเหตุ ครับ เพราะจะต้องมีไอ้พวกนักสิทธิฯหน้าไหนสักคนออกมาให้ข่าวว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ พวกนักสิทธิฯ ไม่มีประโยชน์ต่อสังคมไทยเลย เป็นองค์กรที่เข้าข้างแต่คนร้าย ปล. เรื่องยิงคนถือมีด ถ้าไม่ใช่หนังโฆษณา ผมว่าเกินไปหน่อยครับ ที่ว่าเกินน่ะใจคนถือมีดครับ เพราะ คนเสื้อแดงนั่นก็มีปืน ข้างหลังก็มี ข้างซ้ายก็มี ห้าวเหลือๆ . หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 31, 2011, 09:22:41 PM คนร้ายคงเมายา ... เห็นช้างตัวเท่ามด หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Pol.Sgt.Thongphet ที่ มกราคม 31, 2011, 09:24:28 PM กฎหมายอเมริกา ตำรวจสั่งให้ยกมือขึ้น แล้วไม่ยก ก้อยิงได้แล้วครับ ขนาดนั้นเลยหรอครับหัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ มกราคม 31, 2011, 09:28:21 PM นึกว่าโฆษณาซะอีก เพราะถ้าเอาของจริงมาออก น่าจะโดนฟ้อง
เข้าไปที่ youtube ตำรวจโดนด่าเพียบ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: TakeFive ที่ มกราคม 31, 2011, 10:00:49 PM เป็นโฆษณาของ vidmic ครับ เป็นกล้องไว้ติดที่ไหล่
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: youngboy ที่ มกราคม 31, 2011, 10:22:16 PM ถ้าเป็นเมืองไทยเกินกว่าเหตุ ครับ เพราะจะต้องมีไอ้พวกนักสิทธิฯหน้าไหนสักคนออกมาให้ข่าวว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ โดนใจอย่างแรงเลยพี่ท่านหัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: CHAWALIT2009 ที่ มกราคม 31, 2011, 10:33:23 PM ::005:: ::005::
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ มกราคม 31, 2011, 10:51:35 PM กฎหมายอเมริกา ตำรวจสั่งให้ยกมือขึ้น แล้วไม่ยก ก้อยิงได้แล้วครับ ขนาดนั้นเลยหรอครับแต่ตอบตรงแค่ว่าสั่งให้ยกมือแล้วไม่ยกก็ยิงได้แล้วนี่ไม่จริงครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: อู๋ รักในหลวง ที่ มกราคม 31, 2011, 11:02:28 PM ::005:: ::005:: หนังโฆษณาครับ มุมกล้องสวยเชียว
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ มกราคม 31, 2011, 11:57:15 PM เอาเป็นว่าอย่าไปสนใจครับว่าเป็นโฆษณาหรือไม่ เรามาดูถึงลักษณะเหตุการ์ที่เกิดขึ้นดีกว่าจะเกินกว่าเหตุหรือไม่เท่านั้นเอง เดี๋ยวจะเถียงกันยาวเปล่าๆครับ
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: sab_ensave@รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 12:01:57 AM นักสิทธิฯไม่รู้มีแล้วดีหรือไม่มีแล้วจะดีกว่า....
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 12:31:07 AM 555 เปิดดูแล้วครับ นั่งอ่านฝรั่งมันเถียงกัน ขำกลิ้ง บางคนดันไม่ดูให้ดีว่าเป็นหนังโฆษณา
อุปกรณ์เรียกว่า Video mic www.vidmic.com (http://www.vidmic.com) ตำรวจจะมี ไมค์เกี่ยวไว้ที่หน้าอก บริษัทนี้หัวใสทำกล้องใส่ในไมค์ ไว้บันทึกภาพและเสียง เอาไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีที่ตำรวจต้องยิงคนร้าย ที่จริงในรถก็จะมีกล้องอยู่แล้ว แต่ก็จับภาพได้แค่หน้ารถ กล้องนี้ทำให้ตำรวจติดคุกและโดนไล่ออกมาก็เยอะ และในทางตรงกันข้ามช่วยให้ตำรวจรอดพ้นจากข้อหาก็เยอะเช่นกัน และที่เศร้าที่สุดบันทึกภาพตำรวจถูกยิงเสียชีวิตก็หลายครั้ง ตอนที่ผมเรียนหลักสูตร Sheriff Deputy จะมีการเอา clips ที่ตำรวจถูกยิงตายในหน้าที่มาให้ นร. ดูกัน มีอยู่อันนึง ตำรวจหยุดรถคนแก่สติเสีย ตามปกติพอหยุดรถตำรวจจะตรวจป้ายทะเบียน ด้วยการพิมพ์เข้าเครื่องคอม laptop ในรถซึ่งต่อเข้ากับศูนย์รวมข้อมูลอาชญากรรมด้วยระบบไร้สาย ในช่วงนั้นคนแก่ลงรถถือปืน M1 Carbine เดินถือปืนเข้าหาตำรวจ ตำรวจตะโกนบอกให้ทิ้งปืน แต่แกไม่ยอมแล้วยกปืนขึ้นยิงตำรวจ ตำรวจยิงสู้แต่ก็ไม่ไหวเพราะโดนเข้าไปก่อนแล้ว ที่บริเวณหัวและลำคอ ตนแกหลังจากยิงตำรวจแล้ว ตกใจสติกลับมา ก็ร้องขอให้พระเจ้าช่วย( เวร..) แล้วหยิบไมค์ในรถบอกว่าตำรวจถูกยิงให้ส่งคนมาช่วย กล้องในรถบันทึกเหตุการณ์ไว้หมด ได้ยินแม้กระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้ายของตำรวจคนนั้น ในห้องเรียนเงียบกริบในช่วงนั้น วกกลับมาที่เหตุการณ์จำลองในหนังโฆษณา ถ้าเป็นเหตุการณ์จริง สั่งให้ทิ้งมีดแล้ว แต่ยังไม่ทิ้งแถมเดินเข้าใส่ตำรวจ ขั้นต่อไป ก็จะยิงด้วย Taser gun แต่ในหนังคนร้ายสวมเสื้อ Jacket หนามาก ยิงด้วย taser ถ้าไม่โดนเข้าเนื้อ ก็ไม่มีประโยชน์ และคนร้ายเดินเข้าเกือบถึงตัวตำรวจแล้ว จึงสามารถยิงได้เลย แต่ถ้าแค่สั่งให้ยกมือแล้วไม่ยก แต่ตำรวจยิงคนร้ายนี่ ตำรวจเองก็ยาวล่ะครับ ลงท้ายก็คงติดคุก จนท รักษากฏหมายที่นี่จะมี กฏ ข้อบังคับ ในการใช้กำลังจับกุมคนร้ายเรียกว่า Force Continuum หมายถึงว่า จะสามารถใช้กำลังได้ตาม สถานการณ์ที่คนร้ายสร้างขึ้นมา ไม่ใช่นึกจะยิงจะตีด้วยกระบองก็ทำได้ ถ้าไม่ฟังคำสั่งครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 08:55:38 AM 555 เปิดดูแล้วครับ นั่งอ่านฝรั่งมันเถียงกัน ขำกลิ้ง บางคนดันไม่ดูให้ดีว่าเป็นหนังโฆษณา อุปกรณ์เรียกว่า Video mic www.vidmic.com (http://www.vidmic.com) ตำรวจจะมี ไมค์เกี่ยวไว้ที่หน้าอก บริษัทนี้หัวใสทำกล้องใส่ในไมค์ ไว้บันทึกภาพและเสียง เอาไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีที่ตำรวจต้องยิงคนร้าย ที่จริงในรถก็จะมีกล้องอยู่แล้ว แต่ก็จับภาพได้แค่หน้ารถ กล้องนี้ทำให้ตำรวจติดคุกและโดนไล่ออกมาก็เยอะ และในทางตรงกันข้ามช่วยให้ตำรวจรอดพ้นจากข้อหาก็เยอะเช่นกัน และที่เศร้าที่สุดบันทึกภาพตำรวจถูกยิงเสียชีวิตก็หลายครั้ง ตอนที่ผมเรียนหลักสูตร Sheriff Deputy จะมีการเอา clips ที่ตำรวจถูกยิงตายในหน้าที่มาให้ นร. ดูกัน มีอยู่อันนึง ตำรวจหยุดรถคนแก่สติเสีย ตามปกติพอหยุดรถตำรวจจะตรวจป้ายทะเบียน ด้วยการพิมพ์เข้าเครื่องคอม laptop ในรถซึ่งต่อเข้ากับศูนย์รวมข้อมูลอาชญากรรมด้วยระบบไร้สาย ในช่วงนั้นคนแก่ลงรถถือปืน M1 Carbine เดินถือปืนเข้าหาตำรวจ ตำรวจตะโกนบอกให้ทิ้งปืน แต่แกไม่ยอมแล้วยกปืนขึ้นยิงตำรวจ ตำรวจยิงสู้แต่ก็ไม่ไหวเพราะโดนเข้าไปก่อนแล้ว ที่บริเวณหัวและลำคอ ตนแกหลังจากยิงตำรวจแล้ว ตกใจสติกลับมา ก็ร้องขอให้พระเจ้าช่วย( เวร..) แล้วหยิบไมค์ในรถบอกว่าตำรวจถูกยิงให้ส่งคนมาช่วย กล้องในรถบันทึกเหตุการณ์ไว้หมด ได้ยินแม้กระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้ายของตำรวจคนนั้น ในห้องเรียนเงียบกริบในช่วงนั้น วกกลับมาที่เหตุการณ์จำลองในหนังโฆษณา ถ้าเป็นเหตุการณ์จริง สั่งให้ทิ้งมีดแล้ว แต่ยังไม่ทิ้งแถมเดินเข้าใส่ตำรวจ ขั้นต่อไป ก็จะยิงด้วย Taser gun แต่ในหนังคนร้ายสวมเสื้อ Jacket หนามาก ยิงด้วย taser ถ้าไม่โดนเข้าเนื้อ ก็ไม่มีประโยชน์ และคนร้ายเดินเข้าเกือบถึงตัวตำรวจแล้ว จึงสามารถยิงได้เลย แต่ถ้าแค่สั่งให้ยกมือแล้วไม่ยก แต่ตำรวจยิงคนร้ายนี่ ตำรวจเองก็ยาวล่ะครับ ลงท้ายก็คงติดคุก จนท รักษากฏหมายที่นี่จะมี กฏ ข้อบังคับ ในการใช้กำลังจับกุมคนร้ายเรียกว่า Force Continuum หมายถึงว่า จะสามารถใช้กำลังได้ตาม สถานการณ์ที่คนร้ายสร้างขึ้นมา ไม่ใช่นึกจะยิงจะตีด้วยกระบองก็ทำได้ ถ้าไม่ฟังคำสั่งครับ ชัดเจนครับ หายข้องใจทุกกรณี หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: คนตัวอ้วน+ผมรักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 09:32:34 AM กล็อกอีกแล้วหรือนี่ที่เป็นผู้ต้องหาที่กระทำเกินกว่าเหตุ
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 09:42:16 AM 555 เปิดดูแล้วครับ นั่งอ่านฝรั่งมันเถียงกัน ขำกลิ้ง บางคนดันไม่ดูให้ดีว่าเป็นหนังโฆษณา อุปกรณ์เรียกว่า Video mic www.vidmic.com (http://www.vidmic.com) ตำรวจจะมี ไมค์เกี่ยวไว้ที่หน้าอก บริษัทนี้หัวใสทำกล้องใส่ในไมค์ ไว้บันทึกภาพและเสียง เอาไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีที่ตำรวจต้องยิงคนร้าย ที่จริงในรถก็จะมีกล้องอยู่แล้ว แต่ก็จับภาพได้แค่หน้ารถ กล้องนี้ทำให้ตำรวจติดคุกและโดนไล่ออกมาก็เยอะ และในทางตรงกันข้ามช่วยให้ตำรวจรอดพ้นจากข้อหาก็เยอะเช่นกัน และที่เศร้าที่สุดบันทึกภาพตำรวจถูกยิงเสียชีวิตก็หลายครั้ง ตอนที่ผมเรียนหลักสูตร Sheriff Deputy จะมีการเอา clips ที่ตำรวจถูกยิงตายในหน้าที่มาให้ นร. ดูกัน มีอยู่อันนึง ตำรวจหยุดรถคนแก่สติเสีย ตามปกติพอหยุดรถตำรวจจะตรวจป้ายทะเบียน ด้วยการพิมพ์เข้าเครื่องคอม laptop ในรถซึ่งต่อเข้ากับศูนย์รวมข้อมูลอาชญากรรมด้วยระบบไร้สาย ในช่วงนั้นคนแก่ลงรถถือปืน M1 Carbine เดินถือปืนเข้าหาตำรวจ ตำรวจตะโกนบอกให้ทิ้งปืน แต่แกไม่ยอมแล้วยกปืนขึ้นยิงตำรวจ ตำรวจยิงสู้แต่ก็ไม่ไหวเพราะโดนเข้าไปก่อนแล้ว ที่บริเวณหัวและลำคอ ตนแกหลังจากยิงตำรวจแล้ว ตกใจสติกลับมา ก็ร้องขอให้พระเจ้าช่วย( เวร..) แล้วหยิบไมค์ในรถบอกว่าตำรวจถูกยิงให้ส่งคนมาช่วย กล้องในรถบันทึกเหตุการณ์ไว้หมด ได้ยินแม้กระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้ายของตำรวจคนนั้น ในห้องเรียนเงียบกริบในช่วงนั้น วกกลับมาที่เหตุการณ์จำลองในหนังโฆษณา ถ้าเป็นเหตุการณ์จริง สั่งให้ทิ้งมีดแล้ว แต่ยังไม่ทิ้งแถมเดินเข้าใส่ตำรวจ ขั้นต่อไป ก็จะยิงด้วย Taser gun แต่ในหนังคนร้ายสวมเสื้อ Jacket หนามาก ยิงด้วย taser ถ้าไม่โดนเข้าเนื้อ ก็ไม่มีประโยชน์ และคนร้ายเดินเข้าเกือบถึงตัวตำรวจแล้ว จึงสามารถยิงได้เลย แต่ถ้าแค่สั่งให้ยกมือแล้วไม่ยก แต่ตำรวจยิงคนร้ายนี่ ตำรวจเองก็ยาวล่ะครับ ลงท้ายก็คงติดคุก จนท รักษากฏหมายที่นี่จะมี กฏ ข้อบังคับ ในการใช้กำลังจับกุมคนร้ายเรียกว่า Force Continuum หมายถึงว่า จะสามารถใช้กำลังได้ตาม สถานการณ์ที่คนร้ายสร้างขึ้นมา ไม่ใช่นึกจะยิงจะตีด้วยกระบองก็ทำได้ ถ้าไม่ฟังคำสั่งครับ ขอบคุณครับ ::014:: หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Pol.Sgt.Thongphet ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 12:09:26 PM 555 เปิดดูแล้วครับ นั่งอ่านฝรั่งมันเถียงกัน ขำกลิ้ง บางคนดันไม่ดูให้ดีว่าเป็นหนังโฆษณา ขอบคุณครับอุปกรณ์เรียกว่า Video mic www.vidmic.com (http://www.vidmic.com) ตำรวจจะมี ไมค์เกี่ยวไว้ที่หน้าอก บริษัทนี้หัวใสทำกล้องใส่ในไมค์ ไว้บันทึกภาพและเสียง เอาไว้เป็นหลักฐาน ในกรณีที่ตำรวจต้องยิงคนร้าย ที่จริงในรถก็จะมีกล้องอยู่แล้ว แต่ก็จับภาพได้แค่หน้ารถ กล้องนี้ทำให้ตำรวจติดคุกและโดนไล่ออกมาก็เยอะ และในทางตรงกันข้ามช่วยให้ตำรวจรอดพ้นจากข้อหาก็เยอะเช่นกัน และที่เศร้าที่สุดบันทึกภาพตำรวจถูกยิงเสียชีวิตก็หลายครั้ง ตอนที่ผมเรียนหลักสูตร Sheriff Deputy จะมีการเอา clips ที่ตำรวจถูกยิงตายในหน้าที่มาให้ นร. ดูกัน มีอยู่อันนึง ตำรวจหยุดรถคนแก่สติเสีย ตามปกติพอหยุดรถตำรวจจะตรวจป้ายทะเบียน ด้วยการพิมพ์เข้าเครื่องคอม laptop ในรถซึ่งต่อเข้ากับศูนย์รวมข้อมูลอาชญากรรมด้วยระบบไร้สาย ในช่วงนั้นคนแก่ลงรถถือปืน M1 Carbine เดินถือปืนเข้าหาตำรวจ ตำรวจตะโกนบอกให้ทิ้งปืน แต่แกไม่ยอมแล้วยกปืนขึ้นยิงตำรวจ ตำรวจยิงสู้แต่ก็ไม่ไหวเพราะโดนเข้าไปก่อนแล้ว ที่บริเวณหัวและลำคอ ตนแกหลังจากยิงตำรวจแล้ว ตกใจสติกลับมา ก็ร้องขอให้พระเจ้าช่วย( เวร..) แล้วหยิบไมค์ในรถบอกว่าตำรวจถูกยิงให้ส่งคนมาช่วย กล้องในรถบันทึกเหตุการณ์ไว้หมด ได้ยินแม้กระทั่งลมหายใจเฮือกสุดท้ายของตำรวจคนนั้น ในห้องเรียนเงียบกริบในช่วงนั้น วกกลับมาที่เหตุการณ์จำลองในหนังโฆษณา ถ้าเป็นเหตุการณ์จริง สั่งให้ทิ้งมีดแล้ว แต่ยังไม่ทิ้งแถมเดินเข้าใส่ตำรวจ ขั้นต่อไป ก็จะยิงด้วย Taser gun แต่ในหนังคนร้ายสวมเสื้อ Jacket หนามาก ยิงด้วย taser ถ้าไม่โดนเข้าเนื้อ ก็ไม่มีประโยชน์ และคนร้ายเดินเข้าเกือบถึงตัวตำรวจแล้ว จึงสามารถยิงได้เลย แต่ถ้าแค่สั่งให้ยกมือแล้วไม่ยก แต่ตำรวจยิงคนร้ายนี่ ตำรวจเองก็ยาวล่ะครับ ลงท้ายก็คงติดคุก จนท รักษากฏหมายที่นี่จะมี กฏ ข้อบังคับ ในการใช้กำลังจับกุมคนร้ายเรียกว่า Force Continuum หมายถึงว่า จะสามารถใช้กำลังได้ตาม สถานการณ์ที่คนร้ายสร้างขึ้นมา ไม่ใช่นึกจะยิงจะตีด้วยกระบองก็ทำได้ ถ้าไม่ฟังคำสั่งครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Glock Jumper ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 01:02:13 PM กฎหมายอเมริกา ตำรวจสั่งให้ยกมือขึ้น แล้วไม่ยก ก้อยิงได้แล้วครับ แล้วถ้าเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ใช่อเมริกาแล้วเค้าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องล่ะครับ ประมาณว่าภาษาไม่ค่อยแข็งแรงไม่โดนยิงตายหรอครับ เพราะสำเนียงฝรั่งแต่ล่ะฟังยากเหลือเกินครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 01:15:39 PM กฎหมายอเมริกา ตำรวจสั่งให้ยกมือขึ้น แล้วไม่ยก ก้อยิงได้แล้วครับ แล้วถ้าเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ใช่อเมริกาแล้วเค้าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องล่ะครับ ประมาณว่าภาษาไม่ค่อยแข็งแรงไม่โดนยิงตายหรอครับ เพราะสำเนียงฝรั่งแต่ล่ะฟังยากเหลือเกินครับ อย่างน้อย ท่ายกมือขึ้นสูงๆ ยอมแพ้หรือไม่สู้ ยอมจำนนต่อเจ้าหน้าที่ ก็เป็นท่าสากลนะครับ นอกจากทำตัวกวนส้นเท้าเจ้าหน้าที่เท่านั้นถึงไม่รู้เรื่องครับ :D หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Marcuechio ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 01:21:02 PM :OO ปืนไม่ดีด เลย เหมือนยิงด้วยกระสุนปลอม ที่มีแต่เสียง เลือดก็ไม่ออกหัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Omsin ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 01:21:23 PM บอกให้หยุดก็ไม่หยุด
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: Marcuechio ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 01:22:48 PM กฎหมายอเมริกา ตำรวจสั่งให้ยกมือขึ้น แล้วไม่ยก ก้อยิงได้แล้วครับ แล้วถ้าเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ใช่อเมริกาแล้วเค้าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องล่ะครับ ประมาณว่าภาษาไม่ค่อยแข็งแรงไม่โดนยิงตายหรอครับ เพราะสำเนียงฝรั่งแต่ล่ะฟังยากเหลือเกินครับ ปกติ เจอคนเอาปืนจี้ ผมก็ยกมือแล้วครับ คงไม่ต้องให้ พูดหรอกครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ กุมภาพันธ์ 01, 2011, 01:40:54 PM :OO ปืนไม่ดีด เลย เหมือนยิงด้วยกระสุนปลอม ที่มีแต่เสียง เลือดก็ไม่ออกหัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: khwanphet_NAVY 39 ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2011, 10:42:11 AM ...............................มีดเจอแค่กระบองก็พอแล้วครับไม่ต้องถึงปืนหรอก.................. ::014::
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2011, 11:05:15 AM เหอะๆๆ มันเป็นหนังโฆษณาครับ
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: moog-รักในหลวง-รักแผ่นดินไทย ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2011, 11:15:23 AM ::007:: นึกว่าจริงซะอีก แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ไม่หน้ายิงที่ลำตัวควรยิงที่ขาเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของคนร้ายมากกว่า ::010::
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: RTCO ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2011, 10:20:38 AM กฎหมายอเมริกา ตำรวจสั่งให้ยกมือขึ้น แล้วไม่ยก ก้อยิงได้แล้วครับ แล้วถ้าเป็นชาวต่างชาติที่ไม่ใช่อเมริกาแล้วเค้าฟังไม่ค่อยรู้เรื่องล่ะครับ ประมาณว่าภาษาไม่ค่อยแข็งแรงไม่โดนยิงตายหรอครับ เพราะสำเนียงฝรั่งแต่ล่ะฟังยากเหลือเกินครับ เคยมีคนญี่ปุ่นถูกยิงตายเพราะเข้าใจผิดระหว่างคำว่า Freeze กับ please คนยิงไม่ติดคุกด้วย หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: KENG 92FS ที่ กุมภาพันธ์ 04, 2011, 07:45:26 PM เมืองไทยมีนักสิทธิ คอยช่วยโจรอยู่ครับ.. ;D ;D ;D ที่อเมริกา (LA.) แค่ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่ยอมจอด ตำรวจก็เอา ฮ. ไล่ตามแล้วครับ...... (เพื่อนที่เรียนอยู่นั่นเคยโดน ขี้หดตดหายเลย) ::012:: หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: cadet38 -รักในหลวง- ที่ กุมภาพันธ์ 05, 2011, 08:19:19 AM ถ้าเป็นเมืองไทยเกินกว่าเหตุ ครับ เพราะจะต้องมีไอ้พวกนักสิทธิฯหน้าไหนสักคนออกมาให้ข่าวว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ โดนใจอย่างแรงเลยพี่ท่านโดนครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: at75 ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2011, 11:37:36 AM มีดยาวขนาดศอก นึง ถ้าเจอคนบ้าๆเข้า ปืนหยุดไม่อยู่ คนยิงอาจตายไปด้วยอีกคน การประเมิณ สถานการผิด ทำให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจเสียชีวิตในหน้าที่มาเยอะแล้วครับ
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: SigPro-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 01:08:46 AM มีดยาวขนาดศอก นึง ถ้าเจอคนบ้าๆเข้า ปืนหยุดไม่อยู่ คนยิงอาจตายไปด้วยอีกคน การประเมิณ สถานการผิด ทำให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจเสียชีวิตในหน้าที่มาเยอะแล้วครับ ตำรวจบ้านเรานั่นละครับตัวดีเลย กับไอ้เรื่องประเมิณสถานการผิด ที่เมกาหากถือมีดเดินเข้าหา...พอห่างกัน 14 ฟุตก็ยิงได้แล้วครับ ไม่ให้เข้าใกล้กว่านั้นเพราะระยะแค่นั้น วิ่งสาม สี่ก้าวก็จ้วงได้แล้ว ตำรวจไม่มีโอกาสแม้แต่จะดึงปืนออกจากซอง หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 01:15:16 AM มีดยาวขนาดศอก นึง ถ้าเจอคนบ้าๆเข้า ปืนหยุดไม่อยู่ คนยิงอาจตายไปด้วยอีกคน การประเมิณ สถานการผิด ทำให้เจ้าหน้าที่ ตำรวจเสียชีวิตในหน้าที่มาเยอะแล้วครับ ตำรวจบ้านเรานั่นละครับตัวดีเลย กับไอ้เรื่องประเมิณสถานการผิด ที่เมกาหากถือมีดเดินเข้าหา...พอห่างกัน 14 ฟุตก็ยิงได้แล้วครับ ไม่ให้เข้าใกล้กว่านั้นเพราะระยะแค่นั้น วิ่งสาม สี่ก้าวก็จ้วงได้แล้ว ตำรวจไม่มีโอกาสแม้แต่จะดึงปืนออกจากซอง บ้านเราที่พลาดๆกันก็เพราะประเมิณผิดนี่แหละครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 01:22:59 AM safe distance ของตำรวจเมื่อก่อนจะอยู่ที่ 21 ฟุต
แต่ตอนนี้เพิ่มเป็นที่ 30 ฟุตแล้วครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 01:32:18 AM safe distance ของตำรวจเมื่อก่อนจะอยู่ที่ 21 ฟุต คือถ้ามีอาวุธที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตเช่น ไม้ มีด หรือ ปืน สามารถป้องกันตัวได้เลยใช่ไหมครับแต่ตอนนี้เพิ่มเป็นที่ 30 ฟุตแล้วครับ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: at75 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 01:41:39 AM สิ่งหนึ่งที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ของเราพลาดบ่อยๆคือ การคิดว่าตัวเองเก่ง หรือเป็น เจ้าหน้่าที่ นั้นต้อง เก่งกว่าคนอื่น และมองแค่ รูปร่างหน้าตาภายนอก ของผู้ต้อง สงสัย บางครั้ง คนเรามองแค่หน้าตาภายนอก ของคนไม่ได้ บางทีหน้าตาซื่อ ดูออน่ กลับ มีความสามารถ ทั้งร่างกาย และสติปัญญา สูงมากๆก็มี ทั้ง บางคนมีความสามรถในการต่อสู้ และใช้อาวุธ สูงมาก ก็มีเคยเห็น ตำรวจ สองนาย พยายามจับ คนร้าย แค่คนเดียวไม่ได้ เพราะ คนร้ายแข็งแรงกว่ามาก พูด ตรงๆว่า กระดูก คนละเบอร์ ดูภาย นอก ก็คิดว่าแค่ ว่า คนบ้านนอกแต่งตัวมอมๆตัวเล็กๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ คนละเรื่อง กว่าจะ จับได้ ต้อง ตาม ร.ป.ภ ห้างมาช่วยอีก2 เรื่อง คือ นายคนนี้ มาจากบ้านนอก หางานทำไม่ได้ แถมอดข้าว หลายมื้อ ต้องการหาเงินกลับ บ้านจึง ขโมย แต่ โดนแจ้งตำรวจจับ ตำรวจมาทัน คนร้ายพยายามหนี จึงเกิดการต่อสู้ กัน แต่ คนร้ายแค่ต้องการหนี เท่านั้น ไม่ได้ต้องการสู้ แต่ตำรวจเอง ก็พยายามจับ แต่สู้แรงไม่ได้ เห็นแล้วรู้เลยว่า นายคนนี้เก่ง แต่ไม่สู้ แค่้ต้องการหนี ร.ป.ภ ห้างเลยเข้ามาช่วย จึงจับได้ สุดท้าย เมื่อโดนจับได้จึงรับ สารภาพ ว่า พอปลด จากทหารมาก็ อยากหางานทำ จึงเก็บเงินก้อนนึง เข้ามาหางานในกรุงเทพฯ แต่หางานทำไม่ได้ เงินก็หมดแถมโดนล้วงกระเป๋า ค่ารถ ก็ไม่มี ติดต่อใครก็ไม่ได้ และไม่มีคนช่วยเหลือ เลยตัดสินใจขโมย จริงๆ ไม่อยากสู้ตำรวจ แค่ไม่อยากโดนจับ อยากกลับบ้านเท่านั้นเอง จริงๆแล้ว นายคนนี้ เคยอยู่ในหน่วยรบมา ก่อนที่จะปลดประจำการด้วย ผมอดนึกไม่ได้ว่า ถ้าวันนั้น คนร้านเกิดแย่งปืนตำรวจ และคิดสู้ จะเกิด อ่ะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ มัก ประเมินคนจาก แค่ภายนอก โดยไม่ระมัดระวัง แค่เห็น ว่าเป็น คนบ้านนอก ตัวเล็กๆ คงไม่มีอ่ะไร ถ้าวันนั้น นายคนนี้คิดสู้ขึ้นมา ผมว่า คงเกิดการสูญเสียขึ้นมาแน่นอน
หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 01:49:11 AM safe distance ของตำรวจเมื่อก่อนจะอยู่ที่ 21 ฟุต คือถ้ามีอาวุธที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตเช่น ไม้ มีด หรือ ปืน สามารถป้องกันตัวได้เลยใช่ไหมครับแต่ตอนนี้เพิ่มเป็นที่ 30 ฟุตแล้วครับ ถ้าคนร้ายมีปืน ไม่ก้ี่ยวกับกฏข้อนี้ ถ้าคนร้ายมีปืน บอกให้ทิ้งปืนแล้วไม่ทิ้งและยกขึ้นเล็งไปที่ตำรวจ ก็ยิงได้ทันทีไม่จำเป็นว่าอยู่ที่ 30' หรือไม่ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 02:01:51 AM safe distance ของตำรวจเมื่อก่อนจะอยู่ที่ 21 ฟุต คือถ้ามีอาวุธที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตเช่น ไม้ มีด หรือ ปืน สามารถป้องกันตัวได้เลยใช่ไหมครับแต่ตอนนี้เพิ่มเป็นที่ 30 ฟุตแล้วครับ ถ้าคนร้ายมีปืน ไม่ก้ี่ยวกับกฏข้อนี้ ถ้าคนร้ายมีปืน บอกให้ทิ้งปืนแล้วไม่ทิ้งและยกขึ้นเล็งไปที่ตำรวจ ก็ยิงได้ทันทีไม่จำเป็นว่าอยู่ที่ 30' หรือไม่ หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: USP40 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 02:17:57 AM safe distance ของตำรวจเมื่อก่อนจะอยู่ที่ 21 ฟุต คือถ้ามีอาวุธที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตเช่น ไม้ มีด หรือ ปืน สามารถป้องกันตัวได้เลยใช่ไหมครับแต่ตอนนี้เพิ่มเป็นที่ 30 ฟุตแล้วครับ ถ้าคนร้ายมีปืน ไม่ก้ี่ยวกับกฏข้อนี้ ถ้าคนร้ายมีปืน บอกให้ทิ้งปืนแล้วไม่ทิ้งและยกขึ้นเล็งไปที่ตำรวจ ก็ยิงได้ทันทีไม่จำเป็นว่าอยู่ที่ 30' หรือไม่ สองนัดแล้วยังไม่อยู่ก็ต้อง ยิงจนอยู่ จะเรียกว่า until the threat is no longer a threat. เรื่องนี้เพิงมีการสอนไปเมื่อวาน ( ผมมีการฝึกต่อตอนที่สองหลังจากเดือนที่แล้ว) มีการพูดถึง safe distances พูดถึงการตัดสินใจใช้อาวุธ การใช้ non lethal weapons. ครูฝึกนอกจากอยู่ในหน่วยเดียวกันแล้ว ยังเป็น Swat team member ของ Police Department ด้วย ครูเล่าให้ฟังว่า มีคนเสียสติไปชั่วขณะ ถือมีดอาลาวาด หน่วย Swat ถูกเรียกออกไปจัดการ ครูผมเป็น team leader สั่งให้ทิ้งมีด แต่คนร้ายไม่ยอมทิ้ง แถมเดินเข้าใส่ คนในทีมบอกให้เลย แต่ครูผมไม่ต้องการยิงด้วยปืนจริง เลยยิงด้วยลูกซองที่ใส่ beans bag แทน คนร้ายจุกทิ้งมีด ทีมสวาทกรูเจ้าไปจับ หลังจากนั้นเดือนกว่าๆ คนที่ถูกยิงมาหาครูผมถึงที่ Department มาขอบคุณที่ไม่เค้าด้วยกระสุนจริง ขอบคุณที่ไม่เอาชีวิตเค้า นี่เป็นตัวอย่างว่ามันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย หัวข้อ: Re: แบบนี้เกินกว่าเหตุหรือเปล่าครับ???? เริ่มหัวข้อโดย: BeEr(รักในหลวง) ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2011, 02:43:01 AM safe distance ของตำรวจเมื่อก่อนจะอยู่ที่ 21 ฟุต คือถ้ามีอาวุธที่ทำให้ถึงแก่ชีวิตเช่น ไม้ มีด หรือ ปืน สามารถป้องกันตัวได้เลยใช่ไหมครับแต่ตอนนี้เพิ่มเป็นที่ 30 ฟุตแล้วครับ ถ้าคนร้ายมีปืน ไม่ก้ี่ยวกับกฏข้อนี้ ถ้าคนร้ายมีปืน บอกให้ทิ้งปืนแล้วไม่ทิ้งและยกขึ้นเล็งไปที่ตำรวจ ก็ยิงได้ทันทีไม่จำเป็นว่าอยู่ที่ 30' หรือไม่ สองนัดแล้วยังไม่อยู่ก็ต้อง ยิงจนอยู่ จะเรียกว่า until the threat is no longer a threat. เรื่องนี้เพิงมีการสอนไปเมื่อวาน ( ผมมีการฝึกต่อตอนที่สองหลังจากเดือนที่แล้ว) มีการพูดถึง safe distances พูดถึงการตัดสินใจใช้อาวุธ การใช้ non lethal weapons. ครูฝึกนอกจากอยู่ในหน่วยเดียวกันแล้ว ยังเป็น Swat team member ของ Police Department ด้วย ครูเล่าให้ฟังว่า มีคนเสียสติไปชั่วขณะ ถือมีดอาลาวาด หน่วย Swat ถูกเรียกออกไปจัดการ ครูผมเป็น team leader สั่งให้ทิ้งมีด แต่คนร้ายไม่ยอมทิ้ง แถมเดินเข้าใส่ คนในทีมบอกให้เลย แต่ครูผมไม่ต้องการยิงด้วยปืนจริง เลยยิงด้วยลูกซองที่ใส่ beans bag แทน คนร้ายจุกทิ้งมีด ทีมสวาทกรูเจ้าไปจับ หลังจากนั้นเดือนกว่าๆ คนที่ถูกยิงมาหาครูผมถึงที่ Department มาขอบคุณที่ไม่เค้าด้วยกระสุนจริง ขอบคุณที่ไม่เอาชีวิตเค้า นี่เป็นตัวอย่างว่ามันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วย |