เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

นักวิจัยเผย ปี 2014 โลกจะก้าวเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง “Little Ice Age”

หลัง จากที่เกิดสัญญาณของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับโลกตลอดหลายปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ซึ่งนั่น เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาโลกร้อน แต่นักวิทยาศาสตร์บางส่วนเชื่อว่า อีกไม่นานโลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง หรือยุค “Little Ice Age”ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว มีการคาดการณ์ว่า หลังจากที่จุดดับบนดวงอาทิตย์มีจำนวนถึงขีดสุดในปี 2042 จะส่งผลให้ปี 2014 เริ่มเป็นยุคน้ำแข็ง และจะเย็นถึงขีดสุดในปี 2055-2060
ดร.ฮา บิบูลโล แอ๊บดัซซามาโทฟ หัวหน้าทีมวิจัยอวกาศแห่งหอดูดาวและอวกาศ เซนต์ปีเตอร์เบิร์ก เคยกล่าวในการประชุมภาวะโลกร้อนนานาชาติ ที่จัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมปีที่ผ่านมาว่า สาเหตุที่แท้จริงของภาวะโลกร้อนนั้นไม่ใช่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บน โลก แต่เกิดจากรังสีจากดวงอาทิตย์

โดยมีการแสดงจุด ดับของดวงอาทิตย์ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เพื่อโต้แย้งงานวิจัยอื่น ๆ พร้อมทั้งแสดงหลักฐานสนับสนุนที่ว่า นักดาราศาสตร์  วอลเตอร์ มอนเดอร์ สรุปข้อมูลจุดดับของดวงอาทิตย์ตั้งแต่ปี 1645 – 1715 พบมีจำนวนเพิ่มขึ้น นั่นเป็นสาเหตุของอุณภูมิโลกที่ลดลง ในแวดวงวิทยาศาสตร์เรียกช่วงเวลานี้ว่า“Little Ice Age”นั่นเอง
ดร.ฮา บิบูลโล ยังได้อธิบายเพิ่มเติมว่า จุดดับ หมายถึง พื้นที่ส่วนหนึ่งของดวงอาทิตย์ขนาดแตกต่างกันไป  ตั้งแต่ 3,600 กิโลเมตรไปจนถึง 50,000 กิโลเมตร โดยมีอุณหภูมิต่ำกว่าบริเวณโดยรอบ หากมีจำนวนมากขึ้นแล้ว จะทำให้ห้รังสีจากดวงอาทิตย์มีปริมาณลดลง

http://news.mthai.com/world-news/102973.html (http://news.mthai.com/world-news/102973.html)

กำลังงงกับฝรั่ง เดี๋ยวบอกสภาวะโลกร้อน เดี๋ยวบอกสภาวะโลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง  ตกลงเอาไงแน่   สรุปที่ผ่านมาหลอกแหลก เรื่องโลกร้อนเหมือนคราว y2kใช่มะ 

   อ้าว....แล้วภาวะโลกร้อนที่พูดๆกันอยู่ทุกวันนี้ล่ะครับ...?   ตกลงมันร้อน หรือเย็นกันแน่

งงด้วย เตรียมตัวไม่ถูกอีกสามปีที่บ้านว่าจะติดแอร์ดีหรือฮีทเตอร์ดี

ผมก็โคตะระงงครับเดี๋ยวแผ่นน้ำแข็งละลายน้ำจะท่วมโลก      เดี่ยวหิมะปกคลุมไปทั่ว เอาไงแน่

เดาว่าโลกปกติครับ  เพราะถึงแม้นแสงแดดจากดวงอาทิตย์จะเย็นลง  แต่ชั้นโอโซนเราเหลือน้อยมาก

แล้วอุณหภูมิเราก็เหมือนเดิมหรืออาจจะร้อนขึ้นด้วยซ้ำ  เพราะปริมาณก๊าซคาร์บอนเพิ่มมาขึ้นทำให้โลกเก็บความร้อนไว้   ;D

เย็นขึ้นก็ดีครับ ประเทศไทยคงอยู่สบายขึ้น

ฟังหู ไว้หูครับลุง โลกร้อนไว้หูซ้าย โลกเย็นไว้หูขวาครับ  ;D

เมกา หิโมะตกอ่าสิครับ  งานนี้คงได้ดิ้นหาน้ำมันตาตั้ง

โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง แต่อากาศจะร้อน..แค่นี้ทำไมไม่เข้าใจ

อ๊าก............อ่านแล้วอยากเอาหัวโขกกำแพง

แล้วผมจะอยู่ไหน ดีเนี้ย  ::012::

 ::008:: ::008:: ::008:: ::005::

วิ่งกันพ่านแหละ

 :OO ::007:: ::007:: ::007::

นักวิจัยอีกแล้วเหรอ

พักหลัง ๆ นี่ นักวิจัยโนเนม ออกอัลบั้มกันเยอะจัง วันก่อนทีแล้ว  บอกว่า ดาวบีเทนจูส ที่กลายเป็นดาวยักษ์แดง แล้วเกิดระเบิดเป็นซูปเปอร์โนวา จะมองเห็นปลายปีนี้

นักเรียนในห้อง เชื่อกันจัง  ขนาดผมพยายามบอกว่า นาซ่ายังไม่รับรอง สถานีอวกาศฮับเบิ้ลก็ยังไม่ประกาศ ก็ยังไม่วาย

แสงซูปเปอร์โนวานั่น มาถึงโลกแน่ แต่ไม่น่าจะยุคเรา...  เพราะดาวบีเทนจูส ระเบิดสมัยพ่อขุนรามคำแหง "อาจจะ"มองเห็นในศตวรรษที่ 21

นี่มันเพิ่งเริ่มศตวรรษได้สิบกว่าปีเอง  ถ้าจับพลัดจับผลู มันมาถึงเร็วอย่างนักวิจัยโนเนมว่า แกก็ดังระเบิดเถิดเทิง รับงานปาถกฐาอื้อไปเท่านั้น

แต่ถ้าไม่ แกก็ไม่มีอะไรจะเสีย....

ตอนนี้ร้อนก็ติดแอร์ครับ ถ้าหนาวขึ้นก็กลับทาง เอาคอนเดนเซอร์เข้ามาไว้ข้างในแทน  ::005::

จริงซิ ทางแก้ง่ายนิดเดียวเอง ;D ;D

โลกร้อนขึ้นเป็นสาเหตุให้เกิดความหนาวเย็นครับพี่

ลองหาหนังเรื่อง The day After Tomorrow มาดูครับพี่ หนังเรื่องนี้สร้างโดยอิงทฤษฎีที่ว่า

The Day After Tomorrow (http://www.youtube.com/watch?v=SnvqsWVluCE#ws)
ชักเหมือนในหนังเข้าไปทุกทีแล้วครับ

                   เก่งสู้หมอเดาไทยที่ออกมาที่ออกมาเห่าหอนแล้วหายหัวมุดผ้าถุงไม่ได้สักกะผีก   ::009:: ::009::

กุโบเด่ะ... :DD :DD ::010:: ::010::

นึกถึงหนังเรื่อง An Inconvenient Truth
 :D

ถ้าให้เอาเรื่องหมอเดามาเผานะพี่  สี่หน้ากระดาษก็ไม่พอให้เขียนครับ

็Ha Ha  ฮา  ยายชอบความเห็นของพี่ โบทสกี  น๊ะคร๊า  ฮา

การตลาดเต็มขั้น   คิดนอกกรอบ  ฮา  มีความเห็นแปลกๆบ่อยๆน๊ะคร๊า
มีโอกาสได้  ตังค์ ใช้   555555 ฮา  เอาไปหา"จิตแพทย์" คร๊า  ฮา

เหมือนอย่างไอ้นักวิทยาศาสตร์ของ เมกา  มันหาทางเอา ปากกา ไปใช้ใน อวกาศ
คิดตั้งนาน  แก้เรื่องแรงดึงดูด  ไม่ได้เสียที  ฮา

ไอ้รัสเซีย  มันบอก  ก็ใช้"ดินสอ" เด่ะ  ยากอะไร  ฮา

ข้างบนเรื่องตลกน๊ะจ๊ะ  ฮา

พอเริ่มปี คศ.2001 เขาก็เรียกว่าเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 กันแล้วไม่ใช่เหรอครับ ?  

แบบนี้ต้องเตรียม เฮลบูลบอย กับ น้ำข้นหวานไว้แล้วแบบนี้  ;D

(http://img412.imageshack.us/img412/5373/201218099294.jpg)
(http://3.bp.blogspot.com/_wJ4AFA93pxY/SPcBHjn33VI/AAAAAAAAA-Q/kV736kPve4I/s320/%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99.jpg)

ถูกต้องครับ เริ่มมาได้ 11 ปีแล้วครับ

งานวิจัยถ้าไม่น่าสนใจจะไม่ได้เงินทุนสนับสนุน และนักวิจัยจะมาค้าขายอย่างชาวบ้านเขาคงหามีไม่ ดังนั้นต้องทำงาน เพื่อหาเงินตามแบบแผนที่ถนัด

ก็มีโอกาสเกิดได้ ฟังไว้ ไม่เสียหลาย

ใช่ครับ... ภาพยนตร์เรื่องนี้... อธิบายปรากฏการณ์นี้ได้ชัดเจนครับ... ::002:: ::002:: ::002::

ใช่ครับครูต้น  เรื่อง น้ำตาลแดงก็ทำให้โลกร้อนได้เหมือนกันครับ โดยเฉพาะ  พากษ์ลาว ครับ ;D

สำเนาเสร็จแล้วห้าชุด... แต่คาดว่าคิวบังจะอยู่ลำดับที่หกขึ้นไป... ::005:: ::005:: ::005::

::014::

 :OO :OO    :~) :~) :~)

ไม่ได้เล่นมุขครับ อิอิ  ::005::
ตอนเรียนถ้าจำไม่ผิด หลักการของแอร์ฮีตเตอร์มันก็คือเอาคอนเดนเซอร์มาไว้ในบ้าน แล้วเอาส่วนปรับอากาศ(เรียกอีแวปโพเรเตอร์รึเปล่าไม่มั่นใจ)ไปไว้ข้างนอกครับ  :D

ก๊าก ::005:: ::005:: ::005:: จำไม่ผิดหรอก เล่นๆน่ะ ได้เอาจริงไม่เวอร์คหรอกครับเพราะ อีแวบพอเรเตอร์ ต้องดึงความร้อนจากอากาศในห้อง
เพื่อไปทำให้น้ำยาแอร์ระเหย เมือความร้อนจากห้องถูกดึงไปเยอะห้องก็เลยเย็น

 ทีนี้พอหน้าหนาวแบบเมืองหนาวที่หนาวมากๆต่ำกว่า 10 หรือใกล้ 0 องศา คอมเพรสเซอร์ก็หยุดทำงานเพราะไม่มีความร้อนให้ดึงอีกแล้ว
จากนั้นก็มีแต่ หนาว หนาว และก็หนาว ที่เมืองหนาวเขาเลยติดฮีทเตอร์ไง ไม่ติดแอร์กลับข้าง

 ;D ;D ;D

ขอบคุณครับผม ก่อนมาตอบก็ลองหาดูพวกไดอะแกรม แต่ก็ไม่เห็นใครใช้ระบบแบบนี้  :~)
ตอนเรียน อาจารย์ผมก็ชอบพูดเล่นว่าเมืองหนาวก็ให้เอาคอนเดนเซอร์มาไว้ในห้องนอนแทนบ่อยๆ อิอิ  ::005::

แต่ผมมีเเอร์และฮีทเตอร์ ในตัวเดียวกันนะครับ เป็นของ MITSUBISHI รุ่น Mr Slim ที่สำคัญทำในไทยครับ  เมืองไทยร้อนแต่ที่บอสตันปีนี้โดนพายุหิมะเยอะกว่าปีก่อนๆมาก อากาศติดลบทุกวัน Beerซื้อมาลืมเอาลงจากรถเย็นจนละเบิดหมดเลย :~)

เสี่ยนิ๊คใช้ Heat pump เหรอครับ  หรือว่า Gas heater

  เวร.....ถ้าจริงขึ้นมา เจ็บใจตัวเอง  บ้านพึ่งปลูกสั่งแอร์ไป5เครื่องหลายตังส์อยู่   :~) :~) :~)

ไม่ยากนี่ครับ  ทำเตาผิงซิครับ  อิอิ

 จึ๋ยยย!!!.......

 เตาถ่านหมูกะทะก็มีครับ คงพอได้ เหมือนกัน
  ::005:: ::005:: ::005::

พี่เจษฏ์เคยเอาเบียร์แช่หิมะไม๊ครับ เมื่อก่อนผมคิดว่าแค่หยอกกันเล่นสนุกๆ

แต่เมื่อเดือนธันวาที่ผ่านมาผมได้ไป นูเร็มเบิร์ก / เยอรมัน อากาศหนาวมากหิมะตกหนักไปทุกที่

ผมเลยเหมาเบียร์เป็นแพ็คมาวางไว้ที่นอกหน้าต่างโรงแรมตกเย็นมา หิมะท่วมขวดเบียร์มาค่อนขวด

เปิดดื่มเย็นชื่นใจเบียร์เป็นเกล็ดหิมะเลยครับ ::002:: ::002:: ::002::

ไม่เคยครับ  แต่เป็นอย่างที่เสี่ยนิ๊คบอก   โค้กกระป๋องนี่ไม่ต้องแช่เลย  เป็นวุ้นเลยครับถ้าทิ้งไว้ในรถค้างคืน

อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถิดครับ ทุกวันนี้ ชีวิตหลายๆคนก็เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายอยู่แล้ว  ::014::

บางครั้ง ผลงานของ นักวิชาการ/นักวิจัย คือ ทำใหเผู้คน ตื่นตระหนก สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ::014::

ระวังไว้ซักหน่อยก็ดีครับ... นึกถึงกรณีซึนามิเข้าไว้ครับ... ::014::

ลืมนึกไป ครับ  ::014:: ;D มัวนึกถึง Y2K อยู่ครับ  ;D :~)

Y2K เป็นกรณีที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นครับ ไม่ได้ระบุว่าต้องเกิดแน่ๆ และดีแล้วครับที่มันไม่เกิด

ตอนนั้นเค้าพูดกันว่านักวิชาการบอกว่า โลกจะแตกปี 2000 ตอนนี้มาปี 2012 อีกแล้ว  :~) :~)

ไม่มีนักวิชาการที่ได้รับการยอมรับออกมาป่าวประกาศว่าปี2000โลกจะแตก มีแต่พวกนักวิชาเกินคลั่งนอสตราดามมุสที่จับนู่นผสมนี้
ออกมาเป็นคำทำนายว่าปี2000จะมีเหตุรุนแรงล้างโลกเกิดขึ้น

ส่วนปี2012 มันก็แค่กระแสโปรโมทหนังเรื่อง2012เท่านั้น ที่อ้างปฎิทินอินคามาก็เท่านั้นไม่ได้สลักสำคัญอะไร
เพราะปฏิทินมันก็ต้องคำนวนใหม่กันอยู่แล้ว แต่ในเมื่อชาวอินคาสาปสูญไปหมดแล้วใครจะมานั่งคำนวนใหม่อยู่ล่ะครับ

ขอบคุณครับพี่ความรู้ใหม่ครับ  ;D ::014::

วันนี้อ่าน นสพ.เจอรัสเซียฟันธงวันสิ้นโลก2036 เมื่ออุกกาบาตที่ชื่อ อะโพฟิส รหัส 99942 มฤตยูที่จะเดินทางมาชนโลก จะเข้ามาใกล้โลกที่ระยะ 37,000-38,000 กิโลเมตร ในวันที่ 13 เม.ย.2029 และมีแนวโน้มจะเข้ามาชนโลกในวันที่ 13 เม.ย.2036

ลองอ่านข่าวย่อครับ
ข่าวเต็มจิ้มที่ลิงค์
http://www.konmun.com/NewsUpdate1/99942-Apophis-id12196.aspx (http://www.konmun.com/NewsUpdate1/99942-Apophis-id12196.aspx)

"อะโพฟิสอาจชนโลก ??"

          นอกจากนี้ ยังมีการระบุอีกว่า...แม้อะโพฟิสจะไม่ชนโลกในปี พ.ศ. 2572 แต่เมื่อมันเข้าใกล้โลกมาก ๆ แล้ว แรงโน้มถ่วงของโลกจะเบนวงโคจร ซึ่งจะส่งผลให้การคาดหมายวงโคจรในอนาคตแม่นยำน้อยลง จากนั้นก็มีผลการคำนวณออกมาอีกว่า... วันที่ 13 เม.ย. ปี พ.ศ. 2579 ซึ่งก็ตรงกับวันสงกรานต์ของไทยเช่นเดียวกับครั้งแรก อะโพฟิสที่หากไม่ชนโลกในปี พ.ศ. 2572 จะโคจรย้อนมาทางโลกอีกครั้งในปี พ.ศ. 2579 นี้ และ "อะโพฟิสมีโอกาสชนโลก ??" ในรอบนี้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดต้นปีนี้มีรายงานที่ไม่มีการยืนยัน ว่าถ้าไม่ชนโลกในปี พ.ศ. 2572 ก็อาจชนในปี พ.ศ. 2575 ไม่ถึงปี พ.ศ. 2579

          แม้เรื่องการชนโลกของดาวเคราะห์น้อย "อะโพฟิส" จะยังไม่เคยมีการยืนยันชัดเจน 100% จากนักดาราศาสตร์-นักวิทยาศาสตร์สาขาที่เกี่ยวข้องมาก่อน เช่นเดียวกับกรณีจะโคจรวนกลับมาชนในปี พ.ศ. 2575 อย่างไรก็ตามพลันที่ทางรัสเซียมีการเคลื่อนไหวดำเนินการเกี่ยวกับอะโพฟิส ก็ทำให้อะโพฟิสเป็นข่าวฮือฮาอีกครั้ง
   
          "อะโพฟิสอาจชนโลก ??" เขย่าขวัญชาวโลกอีกครั้ง

          ช่วงส่งท้ายสิ้นปี พ.ศ. 2552 ต่อเนื่องถึงต้นปี พ.ศ. 2553 มีรายงานข่าวว่า ในขณะที่ทาง องค์กรการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา หรือนาซา ยังแค่เฝ้าติดตามจับตาอะโพฟิส ทาง สำนักงานอวกาศรัสเซีย ได้ตัดสินใจจะพิจารณา "ส่งยานอวกาศไปยังดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส" ซึ่งอยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 350 เมตร (ข้อมูลบางแหล่งก็ว่า 250-270 เมตร บางแหล่งก็ว่า 300 เมตร) ซึ่งคาดว่าจะโคจรผ่านใกล้โลก หรืออาจชนปะทะทำความเสียหายร้ายแรงให้โลก โดยการจะส่งยานอวกาศของรัสเซียครั้งนี้ภารกิจคือ "ชนปะทะให้อะโพฟิสหลุดจากเส้นทางโคจร ป้องกันความเป็นไปได้ที่อาจพุ่งชนโลก !!"

          ฟังดูเหมือนหนังอวกาศ...แต่อะโพฟิสมันมีอยู่จริง !!!

          ทั้งนี้แม้จะมีรายงานข่าวว่าทางองค์การนาซาระบุว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ที่อะโพฟิสจะชนโลกในปี พ.ศ. 2572 และการโคจรกลับมาในรอบต่อ ๆ ไป ทั้งในปี พ.ศ. 2579 และรวมถึงปี พ.ศ. 2611 ทางนาซาก็แสดงท่าทีปฏิเสธที่จะระบุเรื่องโอกาสชนโลกอีก แต่กระนั้นเรื่องการชนโลกของอะโพฟิสก็ยังอยู่ในความสนใจอย่างหวาด ๆ ในทุกมุมโลก   

รีบไปบอกสาวๆดีกว่าว่าดาวอะโพฟิสจะชนโลกแล้วให้รีบตัดสินใจจะทำอะไรก็รีบทำ

 ::008:: ::008:: ::008::

มันจะเป็นจริงละ