เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: ลุมพินี08 ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:40:44 AM



หัวข้อ: เวียดนามลดค่าเงิน 8.5%
เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:40:44 AM
ชาวนาเตรียมตัวครับ ข้าวคงถูกกดราคาอีกแน่เลยเพราะเวียดนามลดค่าเงินอีก 8.5% ทำให้ข้าวเวียดนามราคาถูกลงไปกว่าเดิมอีกเยอะ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554
ธนาคารกลางเวียดนามประกาศลดค่าเงินดองลง 8.5% สู่ระดับ 20,693 ดองต่อดอลลาร์ จากระดับ 18,932 ดองต่อดอลลาร์ในวันนี้ พร้อมกับลดช่วงการซื้อขายเงินดองเมื่อเทียบกับดอลลาร์ลงเหลือ 1% จากเดิมที่ 3%


หัวข้อ: Re: เวียดนามลดค่าเงิน 8.5%
เริ่มหัวข้อโดย: Minton ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 09:26:27 PM
เห็นไทยรัฐว่าส่งออกไทยจะอ่วม  ::004::


หัวข้อ: Re: เวียดนามลดค่าเงิน 8.5%
เริ่มหัวข้อโดย: เจ็บ ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:42:55 PM
ส่งออกสู้เค้าไม่ได้ บริโภคในประเทศอย่างเดียวก็พอละมั้งครับ   ::012::


หัวข้อ: Re: เวียดนามลดค่าเงิน 8.5%
เริ่มหัวข้อโดย: indojeen@รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2011, 10:46:20 PM
มีแววว่าฟองสบู่ที่เวียดนามำลังโป่งพองครับ

เห็นบอกตอนนี้ใช้เงินดอล  กับทองคำแลกเปลี่ยนสินค้า

ถ้าเกิดแตก     :~)


หัวข้อ: Re: เวียดนามลดค่าเงิน 8.5%
เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 09:08:17 AM
คงไม่มีประเทศ ไหน ในโลกที่ไม่จำเป็น ก็ลดค่าเงินของตัวเอง ยกเว้นประเทศที่มีเงินเฟ้อสูง อย่าง เวียดนาม

คำว่า “ภาวะเงินเฟ้อ” ถือสภาวการณ์ที่ระดับราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่สามารถหาภาวะหยุดนิ่งได้ การสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูลค่าของเงินลดลง ส่งผลในทางบวกต่อสภาวะเศรษฐกิจ เพราะจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการลงทุน ให้เกิดการจ้างงาน และการนำเอาปัจจัยการผลิตต่างๆ มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ แต่ต้องเป็นสภาวะเงินเฟ้ออย่างอ่อน คือมีภาวะเงินเฟ้อเกิดขึ้นได้ไม่เกินร้อยละ 5 ถ้าหากเพิ่มขึ้นมากและผันผวนก็จะสร้างความไม่แน่นอนและก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจ รัฐบาลไม่สามารถควบคุมระดับราคาสินค้าในท้องตลาดได้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น โดยเฉพาะการครองชีพของประชาชน รวมทั้งการขาดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งจะ

สัมพันธ์กับอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย จะผันผวนเช่นกัน  ดังนั้น เป็นปัจจัยในการตัดสินใจในการลงทุนการค้า เพราะ เงินทุนทุกแหล่งจะมีต้นทุนทั้งสิ้น เช่น การกู้ยืมเงินจะต้องชำระดอกเบี้ย จะต้องพิจารณาว่าเมื่อนำเงินไปผลิตสินค้า และจะได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาเพียงพอที่จะชำระเงินคืนทุนหรือไม่ ถ้ามีโอกาสสูงต้นทุนของเงินก็อาจจะต่ำ ความเสี่ยงที่จะได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นคืน เสี่ยงสูงต้นทุนเงินก็จะสูงตามไปด้วย คาดว่าอัตราเงินเฟ้อในอนาคตจะสูงขึ้น ต้นทุนของเงินจะสูงตามไปด้วย  การกู้เงินจะต้องมีการจ่ายชำระดอกเบี้ยด้วยซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะเป็นตัวกลางในการกำหนดว่า ต้นทุนของเงินจะเป็นเท่าไร จะถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทานของเงินในตลาดต่างๆ ถ้าผู้กู้มีฐานะการเงินดี อัตราดอกเบี้ยจะต่ำ เพราะมีความเสี่ยงน้อย โดยปกติอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมักจะต่ำในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจดี อัตราดอกเบี้ยมักจะสูง เนื่องจากความต้องการเงินทุนมีมาก อัตราเงินเฟ้อจะสูงตามไปด้วย แต่อาจมีเหตุผลอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงอย่างมาก ทำให้มีการคาดการณ์ว่า ภาวะเงินเฟ้อในอนาคตจะลดลง จึงมีผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลง แม้ว่าในขณะนั้นภาวเศรษฐกิจจะดีก็ตาม หรือบางครั้งช่วงภาวะเงินเฟ้อลดลงแต่อัตราดอกเบี้ยไม่ลดลง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในอนาคต ดังนั้นอัตราเงินเฟ้อจึงเป็นตัวชี้นำอัตรา ดอกเบี้ย


หัวข้อ: Re: เวียดนามลดค่าเงิน 8.5%
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 09:25:28 AM
ชาวนาเตรียมตัวครับ ข้าวคงถูกกดราคาอีกแน่เลยเพราะเวียดนามลดค่าเงินอีก 8.5% ทำให้ข้าวเวียดนามราคาถูกลงไปกว่าเดิมอีกเยอะ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554
ธนาคารกลางเวียดนามประกาศลดค่าเงินดองลง 8.5% สู่ระดับ 20,693 ดองต่อดอลลาร์ จากระดับ 18,932 ดองต่อดอลลาร์ในวันนี้ พร้อมกับลดช่วงการซื้อขายเงินดองเมื่อเทียบกับดอลลาร์ลงเหลือ 1% จากเดิมที่ 3%

ราคาข้าวเจ้าของเราที่ตกต่ำอยู่คงจะตกลงไปอีกแน่ๆ...แต่ข้าวเหนียวไม่กระทบครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: เวียดนามลดค่าเงิน 8.5%
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 01:25:27 PM
   น่าคิดครับ ::002::


หัวข้อ: Re: เวียดนามลดค่าเงิน 8.5%
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ กุมภาพันธ์ 13, 2011, 01:27:38 PM
บ้านเราเห็นบ้านจัดสรรคอนโดสร้างใหม่เยอะๆ   ถอยรถใหม่เป็นว่าเล่น....ชักเสียวครับ