เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

จากช่อง3ครับ ดูมากี่รอบผมก็ไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร
3 Miti 100254 3 จับ TorrentMove (http://www.youtube.com/watch?v=ziI8OVUDYSs#)

คนจับมั่วจะอ้างเอาผลงานมากกว่าครับ จับเวปบิทปลอดภัยกว่าจับไอซ์ตั้งเยอะไม่เจอตอด้วย

พันทิพ คลองถม ทำไมลูกเสือเขา ไม่ยอมไปจับ

โชคดีผมไม่มีล็อกอินเว็บที่โดนปิดเว็บนี้ อิอิ

มันเกี่ยวกันตรงไหนเนี่ย

 :) เวปบิทที่โดนจับนี้มันโจ่งแจ้งเกินไปครับ

ผมไม่ได้ยินว่า "กุ้ง" ซักคำ ??? ???

เจ้าของเวบซวยตรงที่มีนักข่าวไปด้วย

ไม่ได้ซวยเรื่องโดนบุกค้นบ้าน

ถ้าไม่มีนักข่าวไปด้วยก็ ... ::010:: ::010:: ::010::






้Happy ending  :<><>

เว็บพวกนี้มันก็โจ่งแจ้งทุกเว็บแหละครับ   ;D

ลองไปขอดูมือถือตำรวจที่จับสิครับ  ถ้ามีเพลงอยู่ในมือถือก็ถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์เหมือนกัน   :<<
ค่ายหนัง ,ค่ายเพลงลองทำแผ่นที่ออกมาขายให้ถูกสิครับ  แผ่นละไม่เกิน ๕๐ บาท
ขายเน้นจำนวนมากเข้าว่า  คนทุกชนชั้นก็ซื้อของแท้มาดูมาฟังได้เท่ากันหมด

"นิ้วมือคนเราไม่เท่ากันฉันใด  เงินในกระเป๋าก็ไม่เท่ากันฉันนั้น"   ::014::

ตรงนาทีที่๓ครับ ตรงที่ตำรวจพูดเรื่องการบอยคอตสินค้าของเรา เช่นการส่งออกกุ้ง

เห็นฝรั่งเขาเคยใช้เทคนิคนี้มานานแล้ว   แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังไงนะครับ

อย่างสมัยก่อนโน้น เรื่องลิขสิทธิ์ในไทยยังไม่มี หรือจริงจังเท่าไหร่  ฝรั่งที่เป็นผู้ประกอบการ จะเข้ามาจับหรือโวยอะไรก็ลำบาก  เขาเสียผลประโยชน์ตรงนี้ไปมาก เพราะไทยเราก๊อปแหลกจริงๆ  เรียกว่าแถวหน้าเลยครับ (ตอนนั้นจีนยังปิดประเทศอยู่เลยมั้ง)  รัฐบาลเขาคุ้มครองคนของเขา  ก็เลยใช้เทคนิคนี้ คือ บอกว่าเราเป็นคนไม่ดี  ไม่ค่อยอยากจะค้าขายด้วย  ถึงจะค้าขายก็บีบให้มันขายยากๆหรือจำกัดโคต้าอะไรแบบนี้  รัฐบาลไทยก็ต้องมาจริงจังกวาดล้างซักพัก ให้ฝรั่งเขาเห็นว่าได้ทำแล้ว  และจัดอันดับเราใหม่  เราก็ค้าขายกับเขาสะดวกขึ้น

แต่พี่ไทยเราก็ทำเหมือนหลับตาข้างนึง  เพราะถ้าทำถูกต้อง ๑๐๐% นี่ ประเทศเราคงจ่ายเงินซื้อของพวกนี้จากฝรั่งมากจริงๆ

 :) ซื้อแพงจากมูลค่าความเป็นจริงด้วยครับ สังเกตุได้จากพวกที่ติดอันดับมหาเศรษฐีก็ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับซอฟแวร์และการสื่อสาร

 ;D

trade barrier อะไรทำนองนี้กระมังครับ
เป็นเครื่องมือทางการค้าประเภทหนึ่ง
ไม่ว่ากำแพงภาษี มาตราฐานทางสิ่งแวดล้อม อื่นๆ
เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมหรือสินค้าเกษตร ของประเทศตนเอง กับประเทศอื่น...

แต่กับประเทศใหญ่ๆ เช่นอเมริกาก็นำมาใช้ทางอื่นด้วย เช่นกรณีนำเข้ากุ้งกุลาจากไทย หรือการบังคับให้ประเทศเราเปิดรับบุหรี่นอกเมื่อหลายปีก่อน โดยอาจจะแลกกับสิทธิพิเศษทางการส่งออกบางอย่าง

ปล.เคยเรียนสมัยมหาวิทยาลัย...แต่ลืมไปหมดแล้วครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ก่อน

ลองขายวินโดส์เซเว่นอัลติเมตของแท้ซักแผ่น500สิ ผมยอมซื้อของแท้เลย

ผมใช้เวปนี้อยู่เวปเดียวครับแย่จังโดนปิดซะแล้ว

แนวคิดนี้เป็นไปไม่ได้และแก้ปัญหาผิดจุดด้วยครับ

เพราะถึงให้ของแท้ขายแผ่นละ 5-10 บาท มันก็ยังมีคนจำพวกหนึ่งที่ทำตัวเป็นปรสิตคอยคัดลอกไปเผยแพร่บนระบบอินเตอร์เนตอยู่ดี ด้วยถือว่าตัวข้าเก๋า (เก๋าเจ๊งละไม่ว่า  ::006:: )  ทั้งที่การกระทำของมันสำแดงถึงระดับสติปัญญาและมโนธรรมของมันเอง ขนาดเพลงหรือซอฟต์แวร์ที่แจกฟรีหรือให้ดาวน์โหลดฟรี มันก็คัดลอกไปลงเนตหรือปล่อยบิตกันเลย จะให้เครดิตแก่ทางผู้ผลิตสักนิดก็ไม่มี มิหนำซ้ำยังเอาไปไรต์ลงแผ่นขายอีกต่างหาก

งานนี้เลยสรุปไม่ได้ว่า ระหว่างคนโหลดกับคนซื้อใครโง่กว่ากันครับ  :P ???

แน่ใจหรือครับ ว่าต่อให้ Windows 7 Ultimate ขายราคา 500 บาทนี้แล้วจะมีคนซื้อจริงๆ

ขนาดโปรแกรมพจนานุกรมแค่ 200 กว่าบาท พวกยังไม่อยากจะควักเงินออกมาซื้อเลย แถมพอซื้อไปเสร็จก็เอาไปคัดลอกแล้วปล่อยในบิตทอร์เรนต์อีก สรุปว่าของแท้ CD-Key ชุดเดียวแต่มีคนใช้ร่วมกันเป็นร้อยๆเครื่องเลย งานนี้คนเขียนโปรแกรมได้แต่มึน มึน มึน แล้วก็มึนสถานเดียวครับ  ::012::

ผมว่าวิธีแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุดคือแก้ที่ต้นเหตุคือ "คน" ครับ ไม่ใช่ไปแก้ที่ปลายเหตุคือ "ราคา" เพราะถึงให้แจกฟรีก็เถอะมันก็ยังจะมีคนไปปล่อยให้โหลดกันอยู่ดี ทั้งๆที่พอคิดค่าไฟ+ค่าเนต+ค่าจิปาถะแล้ว มันแพงกว่าตั้งหลายเท่าตัวเชียว  ::009::

เอวังด้วยประการฉะนี้แลครับ ประเทศไทย  ::014::

จริงๆถ้าวินโดว์ 7 ขายในราคา 500 บาท และหาซื้อง่ายเหมือนมันฝรั่งทอดกรอบตามเซเว่นผมก็จะซื้ออยู่นะครับ ดีกว่าไปยุ่งยากโหลดไฟล์ หรือพวกแคร็ค เสี่ยงกับการติดไวรัสของแถมด้วย ผมว่าการกระจายสินค้าก็เป็นอีกปัญหาที่ทำให้คนไม่อยากซื้อแผ่นแท้นะครับ  ::014::

ถ้าของแท้ราคาถูกคนสวนใหญ่จะหันมาซื้อของแท้ใช้ครับ   ถ้าถูกผมก็ซื้อของแท้มาใช้   :VOV:
ลองคิดดูสิ  คอมฯ ๑ เครื่อง  ต้องเสียเงินซื้อซอฟต์แวร์ของแท้ราคากี่บาทต่อเครื่องครับ
ไอ้ที่มีขายกันเครื่องละหมื่นถึงสองหมื่นกว่าบาทนั้นใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนทั้งนั้นครับ   
ถ้าเอาขอแท้ทั้งหมดจะมีกี่คนที่มีปัญญาซื้อคอมฯ  ที่ลงซอฟต์แวร์แท้ ๆ มาใช้กันครับ   :D   

ไม่สนับสนุนให้ใช้ของเถื่อน   แต่   เคยคิดคร่าวๆคอม 1 เครื่องที่เด็กสายนิเทศกับวิศวะใช้  ค่าซอฟแวร์ที่ต้องใช้ทำงานส่งเครื่องนึงตกเจ็ดหมื่นถึงแสน  เด็กม.ปลายแต่ก่อนใช้แค่ office แต่เดี๋ยวนี้สอน photoshopตัวแพงให้ทำงานส่งเช่นกัน   โดยฐานะของคนไทยส่วนใหญ่ไม่มีปัญญาหรอกครับ

ราคาขายซอฟแวร์ของแท้เค้าบวกไว้เยอะเพื่อชดเชยส่วนที่ถูกละเมิดครับมันถึงได้แพง  แล้วการจับลิขสิทธิ์ซอฟแวร์แต่ละครับถ้าเป็นบริษัทเล็กๆคอมสัก 10 เครื่อง ค่าเสียหายไม่ล้านก็ใกล้ๆล้าน  บริษัทแม่แค่ปล่อยใบมอบอำนาจแทนนั้นเอง  ที่เหลือก็นั่งรอคนไปจับแล้วเรียกค่าเสียหายแบบ 10 เท่า ถึงขายได้น้อยกว่าเป้าแต่รีดได้มากกว่าขาย 

ส่วนใบมอบอำนาจก็มีการขายต่อเป็นทอดๆแต่ละช่วงก็บวกเข้าไป  ตรงนี้เป็นต้นทุนพอใบมอบอำนาจใกล้ๆหมดอายุจับกันแหลกจับไม่ได้จัดฉากก็ยัดข้อ  เรื่องส่วนใหญ่ก็จบก่อนถึงศาล  อาชีพตัวแทนลิขสิทธิ์ทำเงินปีนึงอื้อซ่า  ตัวจริงตัวปลอมเอกสารของจริงของปลอมนี่เพียบ  จนท. ก็ชอบเพราะพวกนี้พาไปจับก็ได้ส่วนแบ่ง  บางทีปลอมทั้งคณะทั้งตร.ที่ไปจับก็ตัวปลอมแต่สามารถหิ้วขึ้นไปเคลียรบนโรงพักได้  ตรงนี้แหละน่าห่วง

ผมคิดว่า ถ้าราคาของถูกลิขสิทธิ์มีราคาที่ถูกลง  ยังไงแล้วก็ต้องมีคนซื้อเพิ่มขึ้น  แต่ก็ยังมีคนที่ซื้อของ copy หรือโหลดบิทอยู่  แม้แต่ฝรั่งเอง  ก็มีบางคนที่มาเดินซื้อบ้านเราบ้าง  เมืองจีนบ้าง  เรื่องพวกนี้จะทำยังไงก็ไม่หมดไปได้  แต่สามารถทำให้ลดลงได้

ผมว่าตรรกะแบบนี้ไม่ถูกต้องครับ อย่างน้อยถ้ามีปัญญาหาซื้อคอมพิวเตอร์ได้ราคา10,000-20,000 กว่าบาทได้ ก็ต้องพอที่จะเจียดเงินไปซื้อซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ (Operating System ;OS) ของแท้ไว้สักตัวนึงได้ ถ้าบอกว่ามีงบน้อยก็ใช้แค่รุ่น Windows 7 Starter ราคา 1,500 บาทก็พอ หรือไม่ก็ไปใช้ Linux เป็น OS ประจำเครื่องเลยก็ได้ เดี๋ยวนี้มันพัฒนาจนมีศักยภาพใกล้เคียงกับ Windows แล้ว ไม่ใช่ว่าพอใช้คอมพิวเตอร์ราคาแค่ 10,000-20,000 กว่าบาทเลยใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนยกเครื่อง ผมว่าตรรกะแบบนี้เป็นทัศนคติอันตรายและหาฟังขึ้นไม่ครับ  ::014::
 
เคยมีงานวิจัยเกี่ยวกับการใช้ซอฟต์แวร์ของคนไทยพบว่า คนไทยส่วนใหญ่มีนิสัยตามเทรนด์และใช้ซอฟต์แวร์ฟุ่มเฟือย เลยพาลต้องดิ้นรนหาของใหม่ทันสมัยมาใช้อยู่ตลอด ทั้งที่บางคนใช้ซอฟต์แวร์ตัวเก่ายังไม่คุ้มค่าเลย เอาง่ายๆอย่าง Windows XP มีใครบ้างที่เคยใช้ Hot Keys หรือใช้คำสั่งในวินโดวส์ได้ครบถ้วนบ้าง ผมเชื่อว่า 10 คนมีไม่ถึง 1 คนหรอกครับที่ใช้งาน Windows XP ได้ครอบคลุมหรือเกือบจะครอบคลุมทั้งหมด บางคนทำเป็นแค่เปิดเครื่องเล่นเกม พิมพ์งาน เล่นเนต แล้วปิดเครื่อง แบบนี้ Windows XP ก็เหลือแหล่แล้ว ไม่ต้องไปถึงระดับ Windows Vista หรือ Windows 7 หรอกครับ

นี่ยังไม่ต้องไปลงลึกถึงพวกโปรแกรมเฉพาะทางอย่าง Photoshop , Illustrator พวกนั้นนะครับ บางคนตั้งแต่ติดตั้งลงเครื่องมายังไม่เคยใช้งานเลยด้วยซ้ำ แถมที่ลงก็เป็นเวอร์ชันล่าสุดด้วยซ้ำไป (เพื่อนของผมเองก็หนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย) ::012::

ใช่ว่าลงแต่วินโดว์แล้ว  จะใช้โปรแกรมอย่างอื่นได้นี่ครับ (พูดถึงของแท้)  ราคาซอฟแวร์อย่างอื่นโคตรแพงเลย  ;D

TorrentMove  เปิดให้บริการแล้วครับ   :D

จริงๆร้านคอมพิวเตอร์ทุกร้านสั่งซื้อให้ได้ครับ โดยเฉพาะร้านที่เป็นแฟรนไชน์อย่าง JIB , Hardware House , Big IT ซึ่งร้านพวกนี้จะมีของในสต๊อกพร้อมขายอยู่แล้ว สามารถเช็คราคาได้ทุกวันครับ

แต่ก็น่าแปลกว่าส่วนใหญ่ลูกค้าพอได้ยินราคาก็ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่าทุกที ทั้งๆที่บางคนมีปัญญาใช้ iPhone 4 หรือ Black Berry ตอนมาซื้อด้วยนะครับ :OO คุณว่ามันแปลกดีไหมละครับ  :~)

จัดราคาขายให้เป็นธรรม  จำนวนคนซื้อของแท้มาใช้ก็จะเพิ่มขึ้นเองครับ   ;)

Freeware หลายตัวสามารถทำงานทดแทนโปรแกรมเสียเงินได้นี่ครับ อยู่ที่ว่าคุณได้พยายามค้นหาและยอมรับความเสี่ยงได้หรือเปล่า เช่น โปรแกรมมี ฺีBug แถมมาด้วย เป็นต้น

ยกตัวอย่างโปรแกรมกู้ข้อมูล ผมไม่จำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ราคาแพงมากู้ไฟล์นี่ครับ แค่ฟรีแวร์อย่างโปรแกรม Recuva ก็เหลือใช้สำหรับผมแล้ว กู้คืนไม่ได้ก็ช่างมัน แต่ส่วนใหญ่ก็เอาคืนมาได้ประมาณ 80-90 % กว่าอยู่แล้ว

ไม่ใช่ว่าต้องใช้ซอฟต์แวร์ราคาแพงแล้วงานจะออกมาดีเสมอไป บางทีซื้อมาราคาเป็นพันเป็นหมื่นบาทแต่ใช้ไม่ถึง 10% ของความสามารถที่มันมี พอมีรุ่นใหม่ออกก็เปลี่ยนไปใช่รุ่นใหม่อีก แบบนี้เขาเรียกว่าใช้ซอฟต์แวร์ฟุ่มเฟือยครับ  :)

คุณ Sitthipong ลองยกตัวอย่างซอฟต์แวร์ที่กำหนดราคาเป็นธรรมมาสัก 1-2 ตัวอย่าง แล้วยกเกณฑ์ที่ใช้กำหนดราคาขายมาประกอบด้วยครับ  ::014::

สำหรับผม ต่อให้ลดราคาของแท้ลงมาถูกจนจะเท่าของเถื่อน ผมว่ามันก็แก้ปัญหาไม่ได้สำหรับเมืองไทย ณ ขณะนี้ ดูแค่แผ่นซีดีเพลงสิครับ ทุกวันนี้ของแท้ตั้งราคาขาย 155 บาทแต่ขายจริงแค่ 110-130 บาท บางบริษัทยังขายแทบจะไม่ออกเลย ทุกวันนี้ขายได้แค่ 100,000 แผ่น บริษัทก็เลี้ยงฉลองแล้วครับ  ::014::

 :) ใช้ของถูกต้องก็ย่อมดีครับ หลีกเลี่ยงปัญหาเครื่องรวนได้ครับ แต่บางครั้งการกระทำของเจ้าของซอฟแวร์มันก็น่าจะให้ละเมิท เช่นกลยุทธิ์การตลาด บริจาคซอฟแวร์วินโดว์ให้โรงเรียนฟรีๆ เป็นแสนชุด หรือขายให้กับนักศึกษาในราคาที่ถูก ดูเหมือนจะดี แต่ถามหน่อยว่าเด็กพวกนี้เรียนแต่ระบบปฏิบัติการวินโดว์มา จบมาก็ต้องทำงานได้แต่วินโดว์ ใช้อย่างอื่นไม่เป็น บริษัทฯ ก็มาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์โดยการขายซอฟแวร์ในราคาที่แพงกว่าที่เป็นจริง

เราเป็นประเทศเล็กครับ อำนาจต่อรองต่ำ แต่บางครั้งเราก็ต้องการเทคโนโลยี่มาพัฒนา หลายประเทศที่เจริญเริ่มจากการลอกเลียนแบบ จนทุกวันนี้เป็นชาติมหาอำนาจได้เพราะประชาชนมีความสำนึกในความเป็นชาติครับ  

 :) แล้วทราบหรือเปล่าครับว่าลิขสิทธิ์เพลงนั้นเขาเก็บเท่าไหร่? รายได้จากการทำเพลงไม่ได้มาจากการขายแผ่นอย่างเดียวนะครับ 

Photoshop CS4  The One Soft จัดราคาพิเศษ 28,000 บาท    

เอาแค่โปรแกรมเดียว  ที่ รร. สอนเด็กให้ใช้แล้วกันครับ   ;D  ดูราคาสิครับ  คุณรพินทรนาถ คงคิดว่าเราไม่ต้องใช้ก็ได้
ใช้โปรแกรมอย่างอื่นแทน  แต่ความสามรถมันจะเหมือนกันรึเปล่าครับ  เอามาทำงานได้ดีเหมือนโปรแกรมที่ยกมามั้ย
ทั้งโลกนี้ขายซักแสนซักล้านแผ่นเป็นเงินเท่าไหร่ครับ  ราคามันไม่เป็นธรรมเอาเลยครับ   ;D

Adobe Acrobat 9  แค่โปรแกรมดูเอกสารก็ราคาจิ๊บ ๆ แค่  14,300.- บาท  เองครับ   :<<

http://www.software.co.th/productlist.asp?c=105&brand=Adobe&p=Acrobat+9 (http://www.software.co.th/productlist.asp?c=105&brand=Adobe&p=Acrobat+9)

 :) เอาค่าจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงมาให้ชมกันครับ

http://www.ipthailand.go.th/ipthailand/dmdocuments/songprice.doc (http://www.ipthailand.go.th/ipthailand/dmdocuments/songprice.doc)

ไม่ได้ต่อต้านสินค้าลิขสิทธิ์นะครับ  แค่อยากให้ราคาเป็นธรรมแค่นั้นเองครับ   ::014::

ก็เล่นใช้ Photoshop CS4 มาสอนแบบนี้ ขืนซื้อของแท้มาลงแค่ 10 ชุดก็ซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ให้โรงเรียนได้ยกห้องแล้วครับ ก็รู้กันอยู่ว่าซอฟต์แวร์ค่าย Adobe ราคามันก็แพงเอาเรื่องขนาดไหน

แต่เอาตามที่สอนกันตามโรงเรียน  ผมไม่เห็นสอนการใช้เทคนิคเชิงลึกมากเลย ส่วนมากแค่เน้นการทำกรอบ ตัดต่อรูป ปรับแสง ปรับเฉดสี แล้วก็มีสอนการทำการใช้ Layer บ้างนิดหน่อยแค่นี้เอง ไม่เคยเห็นว่าทำสอนถึงขั้นใช้เทคนิคชั้นสูงอะไรเลย ซึ่งฟรีแวร์บางตัวก็ตอบสนองงานเหล่านี้ได้เทียบเท่ากันแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่เอาเพราะเด็กกับคนสอนบางทีก็ไม่คุ้นเคย บางทีถ้าเปลี่ยนโปรแกรมครั้งนึง แทบจะต้องไปนั่งนับหนึ่งกันใหม่เลยทีเดียวครับ  

ป.ล. Adobe Acrobat ไม่เหมือนกับ Adobe Acrobat Reader นะครับ โปรแกรม Adobe Acrobat สามารถอ่านและใช้แก้ไขไฟล์เอกสาร PDF ได้ด้วย แต่ Adobe Acrobat Reader ใช้ดูไฟล์ PDF ได้อย่างเดียวครับ

เรื่องจัดเก็บลิขสิทธิ์ลึกๆลงไป ผมไม่ทราบหรอกครับ คุณวัฒน์ แต่ทราบเพียงว่าต้องจ่ายกันเป็นรายปี

ส่วนรายได้เพลงส่วนหนึ่งมาจากการดาวน์โหลด MP3 และ Ringtong รวมถึงระบบเสียงรอสาย Calling Melody ครับ เรื่องรายได้จากการขายแผ่น CD กับ VCD เดี๋ยวเป็นตัวรองไปแล้วครับ

ตอนที่ Windows2000 ออกมาใหม่ๆ คนรูจักกับผมก็แห่กันไปลงหลายคนครับ... ลงตัว Server ซะด้วย... หารู้ไม่ว่ามันเอามาใช้งาน WorkStation ไม่ได้เรื่อง...

...ตอนนี้ทาง สพฐ. ซื้อ Windows7 แจก... แต่ผมไม่สนใจจะใช้... เพราะยังใช้ XP ยังไม่เต็มที่เลยครับ... ขี้เกียจปรับตัวใหม่...

 :) ถ้างบน้อยๆ ก็ค่อยๆ เรียนรู้ไปครับ แต่อย่าลืมหัดใช้ตัวที่เป็นพวกที่เปิดซอสโค๊ตด้วยนะครับ เพื่อพัฒนาซอฟแวร์ของเราอนาคตไม่ต้องพึ่งพาชาติอื่น   

ตอนนี้ที่ทำงานผมก็กำลังพยายามใช้ซอฟต์แวร์ Open Source แทนซอฟต์แวร์ของทาง Microsoft เช่นกันครับ เพราะว่ารายจ่ายค่าซอฟต์แวร์ปีหนึ่งตกหลายแสนอยู่ อย่างโปรแกรมชุด Microsoft Office นี่เปลี่ยนทีนึงก็ใช้งบประมาณจำนวนมาก นี่ขนาดเจรจาลดราคาไปหลายเปอร์เซ็นต์แล้วนะครับ

ไม่นานนี้ก็เพิ่งทำระบบเซิร์ฟเวอร์เป็น Linux แทน Windows 2000 ครับ แต่ยังมีปัญหาเรื่องเข้ากันระหว่างเครื่อง Client ซึ่งเป็น Windows XP กับตัวเซิร์ฟเวอร์อยู่ เห็นว่าทาง Admin กำลังแก้ไขปัญหาให้อยู่ครับ  ::014::