เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ::014::ขอให้ทุกคนเดินทางกลับประเทศไทยอย่างปลอดภัยครับ ข่าวว่ามีการปล้นแค้มป์แรงงานต่างชาติแล้ว  ::012::

ลิเบียระอุ! "กัดดาฟี" ประกาศเดินหน้าสู้-ยอมตายเพื่อชาติ ปลุกระดม ปชช.บดขยี้ผู้ประท้วง วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 10:23:37 น.





พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ปฏิเสธที่จะก้าวลงจากตำแหน่ง ท่ามกลางกระแสการประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เขาเคยกล่าวไว้ว่า ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศ


นี่เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของนายกัดดาฟีนับตั้งแต่เกิดเหตุวุ่นวาย โดยเขากล่าวว่า ทั้งโลกกำลังจับตามองลิเบียและกลุ่มประท้วงกำลัง"รับใช้ปีศาจ" พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนออกไปจัดการพวก"แมลงสาบ" ที่แสดงการต่อต้านเขา และประกาศจะเดินหน้าสู้ต่อไปและพร้อมสละชีพ


พ.อ.กัดดาฟี ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมงในการปราศรัยด้านนอกบ้านพักของเขาในกรุงทริโปลี โดยระบุว่าตนเองเป็นนักรบและนักปฏิวัติที่นำความรุ่งโรจน์มาสู่ประเทศ ที่ต้องการเห็นลิเบียยิ่งใหญ่เป็นเสาหลักแห่งภูมิภาค และหากว่าตนเองต้องก้าวลงจากตำแหน่งจริง เขาจะยังคงเป็นผู้นำเพื่อการปฏิวัติ เขาพร้อมจะสู้ต่อไปเพื่อประเทศชาติและจะยอมสละชีพเพื่อความสงบสุขของประเทศ


"นี่คือประเทศของผม ผมจะสู้จนกระทั่งเลือดหยดสุดท้าย" พ.อ.กัดดาฟีประกาศด้วยความโกรธเกรี้ยว นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่า "เขาจะยอมตายเยี่ยงผู้กล้าในแผ่นดินของบรรพบุรุษ" และเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาเดินขบวนในวันนี้ (23 ก.พ.)


เขากล่าวโทษว่า "พวกขี้ขลาดและคนทรยศ"เป็นต้นเหตุของเหตุวุ่นวาย ซึ่งพยายามทำให้ลิเบียกลายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยความโกลาหล และสร้างความอับอายขายหน้าให้แก่ชาวลิเบียทั่วไป


พ.อ.กัดดาฟี ระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วงเป็นเพียงวัยรุ่นที่ถูกมอมเมาและปลุกปั่นให้หลงผิด และเรียกร้องให้ประชาชนชาวลิเบียที่สนับสนุนในตัวเขาออกมารวมตัวตามท้องถนน ขับไล่กลุ่มผู้ประท้วง และจัดการกับแกนนำที่สร้างความเสียหายให้ประเทศ


"จับตายหนูพวกนั้นให้หมด" เขากล่าว "ออกมาจากบ้านและถล่มพวกมันไม่ว่ามันจะอยู่ที่ไหนก็ตาม"


"หากถึงจุดจุดหนึ่ง เราอาจจำเป็นต้องใช้กำลังตามข้อกฏหมายนานาชาติและรัฐธรรมนูญของลิเบีย" และกล่าวเตือนว่าประเทศอาจตกอยู่ในสภาพสงครามกล่างเมือง หรือถูกครอบงำโดยสหรัฐฯการการประท้วงยังดำเนินต่อไป ใครก็ตามที่พยายามเล่นเกมกับความเป็นภราดรภาพของประเทศจะต้องถูกสังหาร"

 

โดยเขายกตัวอย่างที่รัฐบาลจีนใช้กำลังเข้าปราบปรามกลุ่มนักศึกษาที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ว่าความสามัคคีของคนในชาติ "สำคัญยิ่งกว่ากลุ่มผู้ประท้วงเพียงเล็กน้อย" ซึ่งเขาระบุว่าเป็นเพียง 1% ของประชากรทั้งประเทศเท่านั้น


นอกจากนั้นเขายังแสดงการต่อต้านชาติตะวันตก อย่างอังกฤษและสหรัฐฯที่พยายามจะสร้างความร้าวฉานให้เกิดขึ้นในลิเบีย


โดยระหว่างการแถลงการณ์ มีรายงานถึงเหตุการยิงกันตามท้องถนนในกรุงทริโปลี ขณะที่เมืองเบงกาซี ประชาชนจำนวนมากปารองเท้าด้วยความไม่พอใจ หลังจากที่ได้ชมการถ่ายทอดสดการกล่าวแถลงการณ์ดังกล่าว


ขณะที่กระทรวงมหาดไทยลิเบีย เปิดเผยตัวเลขยอดผู้เสียชีวิตรวมอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่เหตุประท้วงก่อตัวขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ว่าอยู่ที่ 300 ราย โดยเป็นพลเรือน 189 คน และทหารอีก 111 นาย โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่เมืองเบงกาซี เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ อย่างไรก็ดี กลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจพุ่งสูงถึง 400 ราย


ขณะที่ กัดดาฟี ได้จ้างทหารรับจ้างชาวต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่มาจากทวีปแอฟริกาออกปราบปรามผู้ชุมนุมแทน โดยมีรายงานว่าทหารรับจ้างกลุ่มดังกล่าวได้กราดยิงสังหารประชาชนที่เดินตามท้องถนนทุกคนจนซากศพเกลื่อนเมือง ซึ่งกัดดาฟี ได้ออกมากล่าวว่าประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องให้ติดสัญลักษณ์สีเขียวไว้ที่แขนเพื่อความปลอดภัยของตน
 
Muammar Gaddafi addresses the nation (http://www.youtube.com/watch?v=FRbV8HO4AnQ#ws)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1298431719&grpid=00&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1298431719&grpid=00&catid=&subcatid=)

กต.บอก"ลิเบีย"แรงขึ้น เผยเช่าเรือรอขนคนไทยไปมอลตา
   
 23 กพ. 2554 18:37 น.


กต.รับสถานการณ์"ลิเบีย"แรงขึ้นเรื่อยๆ เผยคนไทยอยู่ในจุดเสี่ยงกว่า 9,000 คน กำลังเช่าเรือเตรียมอพยพไปมอลตา ก่อนส่งต่ออิตาลี+กรีซ ต่อเครื่องบินกลับไทย ระบุประสานการบินไทย-ทอ. พร้อมแล้ว แต่ซี-130 ทอ.ขนได้ครั้งละ 90-110 คน

นายเจษฎา กตเวทิน รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมการอพยพคนไทยในประเทศลิเบียว่า สถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงตริโปลี ก็รายงานมาว่า มีความรุนแรงอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ขณะที่แรงงานไทยยังพักอยู่ในแคมป์คนงานที่กระจายอยู่นอกเมือง ทั้งบริเวณที่ใกล้กับการสร้างสนามบิน และโซนการก่อสร้างอาคารใหญ่ ซึ่งในส่วนของแผนที่กระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมการอพยพคนไทยนั้นเห็นว่า การอพยพคนไทยทางเรือมีความเหมาะสมที่สุด เพราะสามารถอพยพคนได้เป็นจำนวนมาก โดยขณะนี้มีจุดที่จะอพยพคนไทยออกจากลิเบียไปยังประเทศมอลตา ซึ่งอยู่ใกล้ลิเบียที่สุด ใช้เวลาเดินทาง 8-10 ชั่วโมง นอกจากนี้ ทางสถานทูตไทยได้ประสานไปยังประเทศอิตาลี และกรีซ ให้ช่วยยกเว้นการตรวจดวงตราคนเข้าเมือง 2-3 วันเพื่ออำนวยความสะดวกให้ด้วย

รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กล่าวอีกว่า ส่วนกรุงโรมกับกรุงเอเธอนส์ ซึ่งเป็นจุดที่มีการต่อเครื่องกลับประเทศ ทางกระทรวงได้ประสานไปยังบริษัทการบินไทย และกองทัพอากาศ(ทอ.) ซึ่งจัดเตรียมเครื่องบินซี 130 จำนวน 2 ลำ เตรียมพร้อมรับคนไทยไว้แล้ว หากได้รับคำสั่งก็พร้อมบินได้ทันที แต่ข้อจำกัดของเครื่องบินลำเลียงซี-130 คือ เครื่องจะต้องจอดแวะพักทุก 7 ชั่วโมง ซึ่งในการเดินทางไปลิเบียต้องใช้เวลาถึง 17-18 ชั่วโมง และต้องแวะพัก 2 จุด ขณะที่เครื่องซี 130 ยังบรรทุกคนได้เพียงครั้งละ 90-110 คน ซึ่งเรื่องนี้ก็ขึ้นกับการพิจารณาของรัฐบาล

รองอธืบดีกรมสารนิเทศ กล่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีรายงานว่าบริษัทของจีนได้ขนแรงงานไปมอลตา 3,000 คน โดยมีคนไทยรวมอยู่ด้วย 28 คน ซึ่งไม่แน่ชัดว่าจะเดินทางกลับประเทศหรือไม่ และมีรายงานว่ามีคนไทย 600 คน เดินทางทางถนนไปยังประเทศตูนิเซีย ซึ่งอยู่ติดกับประเดทศลิเบีย และทั้งหมดไม่มีความประสงค์ที่จะะเดินทางกลับประเทศไทย โดยในลิเบียมีแรงงานไทยประมาณ 23000 คน โดยคนไทยประมาณ 10,400 คน ทำงานอยู่ในพื้นที่ปกติ ส่วนอีก 9,000 กว่าคนอยู่ในพื้นที่มีความเสี่ยง และกำลังพิจารณาที่จะอพยพ
 
 
 
 

ญาติผมที่ไปทำงานที่โน่นโทรมาบอกครอบครัวว่ากำลังขึ้นเรือไปอียิปต์... เพื่อต่อเครื่องบินที่นั่นครับ... เนื่องจากในลิเบียนั้นได้ปิดน่านฟ้าทั้งหมดแล้ว...

ขอให้คนไทยปลอดภัยครับ........ ::014::

                        เป็นธรรมชาติอยู่แล้วที่คนมีอำนาจไม่อาจสละทุกสิ่งอย่างง่ายดาย ........ ...... ควรมีวิจารณญานที่เหมาะสมเพื่อเอาตัวรอด  8) 

ขอให้คนไทยทุกคนกลับบ้านด้วยความปลอดภัยครับ.....

ได้ข่าวมาเช่นเดียวกันครับ

ดูเหมือนแก เป็นคนที่โหดมาก เรียก พวกประท้วงว่า "Bad People"


ให้กำลังใจคนไทย ขอให้ปลอดภัยทุกคนครับ

 ::010:: ::010::



ลิเบียระอุ ! "  กัดดาฟี  " ประกาศเดินหน้าสู้ - ยอมตายเพื่อชาติ  ปลุกระดม   บดขยี้ผู้ประท้วง  !


 
หึ  หึ  หึ  ........     



อเมริกา  เคยเอาเครื่องบิน  ไปทิ้งระเบิดใส่  ที่พัก  ของ  กัดดาฟี  .....  เมื่อหลายปีก่อน


แต่  เขาโชคดี  ที่รอดมาได้  ...... 


เมื่อเกิดเรื่องครั้งนี้   อเมริกา  คงได้โอกาส  จัดการ  อีกครั้ง




 ::008::

การชุมนุมของประชาชนใน แอฟริกา และ ตะวันออกกลาง เพื่อขับไล่รัฐบาลเผด็จการที่ผูกขาดอำนาจมายาวนาน และเต็มไปด้วยการทุจริตคอรัปชันจนผู้นำร่ำรวย แต่ประชาชนในประเทศกลับยากจน เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย กำลังขยายวงไปอย่างรวดเร็ว

มีการปราบปรามที่รุนแรงคือ ลิเบีย ของจอมเผด็จการ โมอัมมาร์ กัดดาฟี สำนักข่าวต่างประเทศรายงานตัวเลขล่าสุดว่า มีผู้เสียชีวิตในลิเบียกว่า 200 คน เฉพาะวันอาทิตย์วันเดียวประชาชนถูกสังหารไป 60 คน

นายซีอีฟ อัล-อิสลัม กัดดาฟี ลูกชายกัดดาฟี ได้ออกแถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันอาทิตย์ ประกาศว่า เขาพร้อมที่จะทำสงครามกลางเมืองกับผู้ขับไล่ "เราไม่ใช่ ตูนิเซีย หรือ อียิปต์ โมอัมมาร์ กัดดาฟี คือผู้นำของเรา ท่านผู้นำกำลังนำการต่อสู้อยู่ที่กรุงทริโปลี กองทัพของเราอยู่กับท่าน กองกำลังนับหมื่นกำลังเดินทางมาที่นี่เพื่ออยู่กับท่าน เราจะสู้จนกว่าจะเหลือผู้ชายคนสุดท้าย เหลือผู้หญิงคนสุดท้าย และกระสุนนัดสุดท้าย"

ประเทศไม่ใช่สมบัติส่วนตัวของใคร ผมขอส่งกำลังใจไปให้ชาวลิเบีย

นับตั้งแต่ ตูนิเซีย และ อียิปต์ ลุกฮือขึ้นขับไล่ผู้นำขี้โกงลงจากเก้าอี้ได้สำเร็จ จนต้องหอบสมบัติลี้ภัยไปอยู่นอกประเทศ ก็เป็นตัวอย่างให้อีกหลายประเทศในแอฟริกาและตะวันออกกลางเอาเป็นแบบอย่าง ลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาลเผด็จการ เรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย เช่น แอลจีเรีย ลิเบีย โมร็อกโก ในแอฟริกา และ บาห์เรน อิหร่าน จอร์แดน เยเมน ในตะวันออกกลาง เป็นต้น

ประเทศเหล่านี้ ส่วนใหญ่ยากจน ประชาชนมีความรู้น้อย จึงถูกปกครองอย่างกดขี่ และไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้ปกครองก็มุ่งแต่ "การคอรัปชัน" เป็นงานหลัก เหมือนประเทศในแถวบ้านเรานี่แหละ ไม่สนใจที่จะปกครองบ้านเมืองให้เกิดความสงบสุข ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ได้รับความเป็นธรรม

แต่หน้าด้านอยู่ในอำนาจไปเรื่อยๆ ไม่ยอมเปลี่ยนมือ จนกลายเป็นเผด็จการ แม้บางประเทศจะมีการเลือกตั้ง แต่ก็เป็นประชาธิปไตยจอมปลอม จึงทำให้ประชาชนที่มีความรู้น้อย แต่เดือดร้อนจนทนไม่ไหว ต้องลุกฮือขึ้นเรียกร้องความเป็นธรรม เรียกร้องสิทธิเสรีภาพ เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างไม่กลัวตาย

มาลองดูกันครับว่า รายได้ต่อหัวของประเทศเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้าง

ตูนิเซีย ที่ผู้นำจอมโกง เบน อาลี ถูกโค่นล้มไปแล้ว ครองอำนาจยาว

นานถึง 23 ปี แต่รายได้ต่อหัวของคนตูนิเซียปีที่แล้วอยู่ที่ 4,160 เหรียญ จนกว่าคนไทยกว่าเท่าตัว อียิปต์ ที่ ฮอสนี มูบารัค ครองอำนาจยาวนานถึง 30 ปี แต่รายได้ต่อหัวของคนอียิปต์ เมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ 2,771 เหรียญ หรือ 83,130 บาทต่อปี จนกว่าคนไทย 3 เท่าครึ่ง แม้แต่ อิหร่าน ประเทศเศรษฐีน้ำมัน แต่ผู้นำเอาเงินไปสร้างอาวุธสงครามและนิวเคลียร์ ทำให้คนอิหร่านยังมีรายได้แค่ 4,484 เหรียญต่อปี จนกว่าคนไทยหนึ่งเท่าตัว

หรือ เยเมน เรียกว่าจนสุดๆ มีรายได้ต่อหัวปีที่แล้ว 1,231 เหรียญ หรือ 36,930 บาท ตกเดือนละ 3,000 บาทเท่านั้นเอง

ประเทศรวยสุดที่ประชาชนลุกฮือขึ้นขับไล่รัฐบาล เพราะไม่พอใจการปกครองบ้านเมืองก็คือ บาห์เรน เศรษฐีน้ำมันในตะวันออกกลาง มหามิตรของสหรัฐฯ แม้จะมีการปราบผู้ประท้วงอย่างรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต ทำให้สหรัฐฯต้องออกโรงเรียกร้องให้บาห์เรนปฏิรูปการเมืองทันที แต่ประชาชนก็ไม่ยอมถอย ก็ต้องดูว่า  กษัตริย์บาห์เรน  จะยอมถอยหรือไม่ หรือสู้ตายแบบลิเบีย

สงครามเพื่อประชาธิปไตย กำลังเกิดขึ้นแล้วในแอฟริกาและตะวันออกกลาง......

http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/150842 (http://www.thairath.co.th/column/pol/thai_remark/150842)

 ;D ;D `เอาใจช่วยแรงงานไทยอีกแรงหนึ่ง บางคนก็กู้เงินไปทำงานแล้วมาเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นอีก น่าเห็นใจพวกเขาครับ

เด็กหนุ่มในหมู่บ้านผมสองคน... เพิ่งไปถึงยังไม่ได้เริ่มงานเลยครับ... ไม่ถูกปล่อยลอยแพ... ก็เหมือนโดนลอยแพครับ...

เป็นกำลังใจให้ครับ...หากใครไม่เคยไปแถวโน้นไม่ทราบหลอกครับว่าคนแถวโน้นบ้าพลังขนาดไหน เห็นลิเบียแล้วบ้านเราจิ๊บๆไปเลย

ข่าวมาว่า คนที่ออกมาได้มากันแต่ตัว+วีซ่านะครับ ของที่เหลือโดนปล้นหมด

ประเทศใหญ่ มีน้ำมันเกรดเอมาหาศาล  ::003::

(http://upicy.com/image-125D_4D665718.jpg) (http://upicy.com/share-125D_4D665718.html)

(http://upicy.com/image-3180_4D665686.jpg) (http://upicy.com/share-3180_4D665686.html)

(http://upicy.com/image-F280_4D665686.jpg) (http://upicy.com/share-F280_4D665686.html)

ข่าวคืบหน้า หัวหน้าผู้ก่อการร้าย ใหม่ คิดโค่นหัวหน้าก่อการร้ายเก่า
ผู้นำลิเบียโบ้ย'บินลาดิน'ชักใยผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้าน
จาก ผู้จัดการ on line
 เอเอฟพี - มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ปราศรัยเมื่อวันพฤหัสบดี(24) กล่าวหาชาวบ้านในอัซ-ซอวิเยาะห์ เมืองตะวันตกของกรุงตริโปลี ซึ่งมีการปะทะกันดุเดือดระหว่างทหารและกลุ่มกบฏ มีความเชื่อมโยงและถูกชักใยโดยอุซามะห์ บินลาดิน แกนนำอัลกออิดะห์
      
       นอกจากนี้ในถ้อยแถลงทางโทรศัพท์ที่ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ กัดดาฟี ยังกล่าวหาผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านเขาด้วยว่าอยู่ในสภาพติดยา
      
       เขาระบุว่าผู้ชุมนุมประท้วงไม่ได้มีความต้องการอย่างแท้จริงที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศ แต่พวกเขาถูกกำกับควบคุมโดยผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ อย่างบิน ลาดิน
      
       "บิน ลาดิน นี่คือศัตรูซึ่งควบคุมอยู่เบื้องหลังประชาชนของเรา อย่าไปหลงเชื่อบิน ลาดิน" ผู้นำลิเบีย กล่าวและว่า "มันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า การประท้วงครั้งนี้ถูกดำเนินการณ์โดยอัล-เคด้า เหล่าเยาวชนลูกหลานของเราที่กลายเป็นกองกำลังติดอาวุธ ถูกยุยงปลุกปั่นโดยกลุ่มคนซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของอเมริกาและโลกตะวันตก"
      
       กัดดาฟีแถลงว่าผู้ถูกยุยงปลุกปั่นเหล่านั้นถือเป็นประชาชนจำนวนน้อย และรัฐบาลจะต้องจับตัวคนกลุ่มนี้มาให้ได้ เขายังระบุอีกว่ากลุ่มเยาวชนที่ออกมาประท้วงโค่นล้มเขา ถูกล่อลวงให้มีความสุขและก่อความรุนแรงด้วยยาเสพติด
      
       เขากล่าวว่าสถานการณ์ในลิเบียไม่เหมือนกับอียิปต์และตูนิเซีย ที่สุดท้ายคนเป็นผู้นำประเทศต้องถูกขับไล่ออกจากตำแหน่ง เพราะประชาชนชาวลิเบียมีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของพวกเขาอยู่ในมือของตนเอง และจะใช้อำนาจดังกล่าวผ่านคณะผู้ปกครองประเทศ
      
       "นี่คือประเทศของพวกคุณ และมันขึ้นอยู่กับพวกคุณว่าจัดการเรื่องนี้อย่างไร"
      
       นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ผู้นำรายนี้ปรากฏตัวผ่านสถานีโทรทัศน์ นับตั้งแต่ผู้ชุมนุมต่อต้านการปกครองอันยาวนาน 41 ปีของเขา ลุกฮือขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์
      
       เมื่อวันอังคาร(22) ในท่าทีที่แข็งกร้าวและพูดวกเวียนในบางครั้ง กัดดาฟี ปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ประกาศว่าเขายังอยู่ในลิเบียในฐานะผู้นำการปฏิวัติ พร้อมบอกด้วยว่าเขายอมตายในฐานะผู้เสียสละเพื่อปกป้องแผ่นดินเกิดและจะต่อสู้จนเลือดหยดสุดท้าย
      
       นอกจากนี้เขายังออกคำสั่งทหารและตำรวจออกบดขยี้พวกก่อจลาจลต่อต้านการปกครองของเขา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายร้อยคน
      
       กลุ่มมวลชนในเมืองทางภาคตะวันออกที่เวลานี้อยู่ในความควบคุมของฝ่ายต่อต้าน ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี(24) ได้ออกมาประกาศว่า จะจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ในกรุงตริโปลีในวันพฤหัสบดี (24) “จุดหมายปลายทางของเราคือที่ตริโปลี” ผู้ประท้วงรายหนึ่งกล่าว “หากตริโปลีปลดปล่อยตนเองเป็นอิสระไม่ได้”
      
       สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐรายงานว่าผู้ก่อการร้าย 3 รายได้เล่นงานเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรายหนึ่งซึ่งประจำอยู่ในอัซ-ซอวิเยาะห์ และปาดคอตำรวจ 3 นายเมื่อวันพฤหัสบดี(24) ท่ามกลางรายงานข่าวถึงการปะทะกันอย่างดุเดือดในเมืองแห่งนี้
      
       อัซ-ซอวิเยาะห์ ตั้งอยู่แถบเมดิเตอร์เรเนียน ห่างจากกรุงตริโปลี ไปทางตะวันตกเพียง 50 กิโลเมตร ขณะที่การต่อสู่รอบๆเมืองหลวงหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ หลังจากพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกของประเทศตกอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ประท้วงต่อต้านระบอบกัดดาฟี อย่างไรก็ตามเวลานี้ยังไม่สามารถระบุถึงจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตที่แน่ชัดได้

ผู้นำลิเบียเครียด สูญเสีย 3 เสาหลัก
   
 25 กพ. 2554 15:05 น.


เว็บไซท์อัล จาซีร่า รายงานว่า พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี่ ของลิเบีย ได้สูญเสียเสาหลักที่เป็นโครงสร้างสำคัญที่ค้ำจุนฐานอำนาจของเขา อันได้แก่ ชนเผ่า , กองทัพและการทูต ซึ่งสังเกตได้จากถ้อยแถลงของเขาเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่ดูเหมือนเขาจะเสียสติ หรือไม่ก็เกิดความกลัวจับขั้วหัวใจขึ้นมาแล้วก็เป็นได้ ดังนั้น จึงเหลือเพียงคำถามเดียวเท่านั้น คือ ระบอบของเขาจะล่มสลายลงเมื่อใด

ในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา พันเอกกัดดาฟี่ มีรากฐานที่มั่นคงจากความระมัดระวังในการสร้างความสมดุลย์ในหมู่ชนเผ่ากว่า 100 กลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่มีอิทธิพล 30 กลุ่ม ที่ค้ำจุนเขาอยู่ และชนเผ่าเหล่านี้ ก็ภาคภูมิใจมาโดยตลอดที่มีบทบาทสำคัญในการปลดปล่อยลิเบียออกจากการเป็นอาณานิคม

การปฏิบัติต่อชนเผ่าของกัดดาฟี่ มีหลากหลาย เช่น ให้สินบนบ้างถ้าเป็นไปได้ หรืออาจใช้วิธีแบล็คเมล หรือข่มขวัญให้หวาดกลัวถ้าจำเป็น เพื่อเป็นหลักประกันว่า ชนเผ่าเหล่านี้ จะภักดีต่อระบอบของเขา หรืออย่างน้อยก็มีความเป็นกลาง แต่ในช่วงไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ได้มีชนเผ่าทะยอยประกาศยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับระบอบกัดดาฟี่ และเทการสนับสนุนและภักดีให้กับ" ขบวนการปฏิวัติ 17 กุมภาพันธ์ "