เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ::014:: ผมมีครอบครัวแล้ว ภรรยาและลูกอีก ๒ คน เริ่มจะโตขึ้นมาแล้ว  ทำไมใจอยากไปไหนมาไหนคนเดียว แบบสันโดษ
เคยคิดอยากเข้าป่า ท่องป่า  เอาปืนติดไปด้วยสัก ๒,๓,๔ กระบอก+กระสุน  นอนเต้นท์ กลางธรรมชาติ ความมืดและเงียบสงัด
( แค่คิดแต่ยังไม่เคยทำ )  

ผมผิดปกติหรือเปล่า  มีใครเป็นบ้าง  ::014:: ::014::

 กำลังเครียดกับอะไรหรือเปล่า  หรือมีเรื่องอะไรอยู่ลึกๆในใจ  ถ้ามีพยายามแก้ให้ได้  แล้วคงจะเลิกคิดไปได้เอง 

เมียและลูก คงไม่อยากให้ท่านทำอย่างนั้นหรอกครับ ครอบครัวจะอบอุ่นได้ ต้องพร้อมหน้าพร้อมตากัน มีปัญหาอะไรก็ค่อยๆคุยกัน และที่สำคุญ ลูกที่กำลังโต ต้องการความใกล้ชิดพ่อแม่ มากกว่าปรกติด้วยซ้ำ

ถ้ารักธรรมชาตก็ไปทั้งครอบครัวครับ อย่าไปคนเดียว

ผมก็คนหนึ่ง ดูลายเซ็นต์ ซิครับ บอกนิสัย สันดานผม หมดเลย .. ;D

ผมเริ่มรู้สึกแบบนี้ ตั้งแต่เมื่อ ปี ๒๕๓๙ ซึ่งขณะนั้น รถยนต์ขับสี่กำลังเริ่มบูม เป็นที่นิยม และปีนั้นในรอบ ๘ เดือนผมเลือกรถยนต์ขับสี่
สำหรับตัวผม ๓ คัน และเที่ยวอยู่ทั้งปี เกือบไม่ทำงานกันเลยละครับ ต้งแต่กาญฯ ยังไม่วางท่อแก๊ส .  

ปืนที่นำเข้าป่าด้วย ก็ Sig ๒๒๖, Colt.๓๘  super,Glock ๑๙, Marlin cs .๓๕๗, Mossberg M ๙๒๐๐ ลำกล้อง ๑๔.๕ นิ้ว ติดไปด้วยอย่างน้อย ๒ กระบอก  :D

ล่าสุด เมื่อกลางปีกลาย ในรอบ ๗๐ วัน ผมไปกางเต้นท์นอน คนเดียว คันเดียวที่ อช.ตาดหมอก อ.เืมืองเพชรบูรณ์ ๓ ครั้ง

ไม่มีปืนก็เป็นครับ 

 ผมว่าท่าน จขกท. คงอยากจะใช้ชีวิตแบบผจญภัยมากกว่า   :VOV: มี อวป.ติดตัวไปด้วยเพื่อความสบายใจ  ::008::และการที่ท่าน จขกท.อยากไปคนเดี่ยวน่าจะเป็นเพราะท่านเป็นห่วงความปลอดภัยของครอบครัวมากกว่า.  ::014::

ปรกติครับ 

ผมว่า..ผมมีโอกาศเป็นเหมือนพี่แล้วล่ะ เพราะตอนนี้เริ่มอยากอยู่คนเดียว :(

บางครั้งชีวิตมันก็เกิดความเบื่อในสิ่งแวดล้อมที่เคยเป็นอยู่แบบซ้ำๆจำเจทั้งที่ทำงานและบ้าน
ผมว่าอาการแบบนี้ทุกคนน่าจะมีคิดกันบ้างครับ..บางครั้งขับรถผ่านเจอคนเสียสติไม่มีบ้านพักนอนริมถนนต่างๆนานๆร้อนก็ไม่เป็นไรน้ำมันแพงก็ไม่ทุกข์ร้อนมีก็กินไม่มีก็นอน..เห็นแล้วก็อยากเป็นแบบนั้นบ้างจะได้ไม่ต้องคิดอะไรให้ทุกข์ใจ

ความอยากจะทำอะไรต่างๆเป็นกันได้ทุกคน แต่ทุกคนต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆอย่าง ต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วยครับ

เหมือนจ่าบ๊อบลี ในเรื่อง shooter รึปล่าวครับ

อยู่กับหมาตัวนึง กระสุนปั้มเอง  :)

ผมรู้สึกแบบเดียวกับท่านครับ เรื่องของเรื่องคืออยากผจญภัยแต่ห่วงครอบครัวเลยอยากไปคนเดียวมากกว่า ::014::

ผมก็เป็นครับ.........แต่ไม่เคยได้ไปคนเดียวเลยคนข้างๆกลัวไปไม่ถึงป่า :~)

ผมเคยทำแบบนั้นครับ กะว่าจะไปเขาใหญ่คนเดียว แต่ไปได้แค่นครนายกเอง แม่โทรไปตามให้กลับบ้าน แถมกลับมาโดนบ่นเป็นกระบุง ทำนองว่า "อยากตายไงไปทำไมเข้าป่าเข้ารกคนเดียวอะ" ::004:: แต่หลังจากนั้นก็ไปจนได้  ::008:: แต่พาสาวๆไปด้วยคนนึง

               ผมทำตามใจตัวเองมานานแล้วครับ   ไม่ชอบรอใคร เบื่อพวกตีนแดงแค่เที่ยวน้ำตกหรือทะเลแล้วกรี๊ดกร๊าดดัดจริต

ปกติครับ.....บางทีเบื่อกรุงเทพก็อยากไปต่างจังหวัด บางทีเบื่อต่างจังหวัดก็อยากเข้าเมืองกรุง.....บางทีเบื่อออโตก็อยากใช้ลูกโม่.....บางทีเบื่อเกียร์ออโต ก็อยากขับเกียร์ธรรมดา.....บางทีเบื่อรถเก๋ง ก็อยากมีโฟร์วีลบ้าง.....เบื่อๆ/อยากๆ  ;D.....และสำหรับคนชอบปืน แค่ได้ลูบคลำ ได้พกก็มีความสุขแล้ว ;D

เค้าเรียกว่าเข้าถึงธรรมชาติครับพี่ PU45  ;D ..... อุ๊ย นั่นทะเล อุ๊ยนั่นภูเขา อุ๊ยนั่นน้ำตก อุ๊ยนั่นต้นไม้ใหญ่จัง สวยจังเลยยย  ;D

[คิดว่าตอนช่วงที่เป็นวัยรุ่นไม่ค่อยได้ออกเทียวตามป่าตามเขานะครับ   สำหรับผมๆสมัยตอนเป็นวัยรุ่นผมทำงานอยู่ต่างจังหวัดเกิบ 20 ปี  งานที่ผมทำจะอยู่แค้มป์    และบ่อยครั้งที่ผมต้องเข้าป่าเพื่อเช็คอุปกรณ์ก่อสร้างเวลาที่ผู้รับเหมาทิ้งงานแล้วทิ้งอุปกรณ์ให้ปตามเช็คคืน   พอมาถึงเวลานี้มันเลิกรู้สึกเฉยๆเวลาใครช่วนไปต่างจังหวัดหรือไปเทียวเขา   ผมเคยเข้าไปป่าดิบทางภาคใต้ล่าสัตว์โดยความคะนองตามวัยใช้เวลาอยู่ในป่าเป็นอาทิตย์ๆก็ไม่รู้ว่าอยูในป่าได้อย่างไรทั้งวันทั้งคืน    เห็นสัตว์แปลกๆที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนก็มี  ป่าทางภาคเหนือผมก็เคยไปหลายที่เหมือนกันแต่สัตว์ไม่ชุกชุมเหมือนกับป่าทางภาคใต้...

คนทุกคนย่อมมีความเป็นส่วนตัว มากบ้าง น้อยบ้างแล้วแต่ปัจเจกบุคคลครับ
คนมีครอบครัวแล้วจะเสียความเป็นส่วนตัวไปเยอะ ยิ่งแต่งงานมานานๆ
ความเป็นส่วนตัวที่เสียไปมันสะสม

การที่ธรรมชาติของเราเรียกร้องให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้บ้างในเรื่องที่ชอบเป็นการส่วนตัว
ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ  ทั้งคนเล่นปืน เล่นรถ ยันคนสะสมแสตมป์ หรือไม่มีฮ้อบบี้อะไรเลยก็เป็น

เป็นเหมือนกันครับ ได้ซัก2-3ปีมาแล้ว ;D แต่ไม่ใช่เพราะมีปืนแล้วถึงเป็นนะครับ มันเบื่อความวุ่นวาย เบื่อสังคมที่มีแต่ผลประโยชน์ เห็นแก่ตัว ::014::

ลองอ่าน อาศรมสี่ ในหลักอายุรเวช นี้ดูครับว่าเรื่องของท่านพี่จะเข้าข่ายหรือเปล่า ;D
 
 เราคงเคยได้ยินอาศรม 4 ซึ่งในหลักอายุรเวท “พรหมจรรย์” จะเป็นอาศรมที่หนึ่ง ไม่ได้หมายถึงการดำรงชีวิตที่ประเสริฐแบบพระ แต่หมายถึงการที่ยังไม่มีลูกไม่มีเมีย การที่ยังไม่มีครอบครัว เป็นวัยแห่งการศึกษาเรียนรู้ ตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งอายุประมาณ 16 ปี ในช่วงนี้ต้องมุ่งในการศึกษาเรียนรู้อย่างเดียวไม่ไปยุ่งกับการมีชีวิตครอบครัว หรือเรื่องทางเพศเด็ดขาด หลังจากนั้นเมื่อร่ำเรียนสำเสร็จประกอบอาชีพการงาน มีครอบครัวเขาเรียกว่าอาศรมที่สอง คือ “คฤหัสถ์” หมายถึงผู้ที่ครองเรือนอายุประมาณ 16-40 ปี ตอนช่วงครองเรือนก็จะต้องมีหน้าที่ต่อครอบครัว ต่อเพื่อนมนุษย์ต่อสังคม ในช่วงที่สามคือ “วนปรัถ” คือช่วงที่เตรียมพร้อมที่จะเข้าป่า หรือ วนา หมายถึงช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มมีการศึกษาการสนใจในเรื่องที่จะแสวงหาความสุขส่วนตัวในทางจิตใจ ช่วงนี้เป็นช่วงที่อายุประมาณเลย 40 ปีไปแล้ว พอถึงขั้นปลายอายุสัก 60 ปี เหมือนกับเกษียณของเรา เป็น “สัญญาสี” มอบสมบัติให้ลูกหลาน และผู้สืบสกุลตัวเอง ก็ไปธุดงค์เข้าป่า ซึ่งคนอินเดียสมัยก่อนเขาจะทำอย่างนี้

ที่มา เว็บไซต์ปัญญาไทย

ผมชอบป่าครับ
แต่ต้องมีเพื่อนรู้ใจกินเหล้าด้วย(ไม่ใช่ภรรยา ไม่ใช่กิ๊ก)
ไม่งั้นเหมือนขาดอะไรสักอย่างหนึ่ง
 ::002:: ::002::
(http://)

ยินดีต้อนรับท่านเจ้าของกระทู้ ที่เริ่มมีรสนิยมดีๆแบบนี้ครับ

เมื่อก่อนตอนเด็กๆถูกส่งไปอยู่กรุงเทพ....ผมอยากกลับมาอยู่บ้านต่างจังหวัดมาก    พอเริ่มเข้าวัยรุ่นอยู่กรุงเทพจนติด  ทั้งสังคม เพื่อน งาน ความสะดวกสบาย   ...ก็มีเหตุจำเป็นให้ต้องกลับมาอยู่บ้านซึ่งเป็นไร่เป็นสวน   (เหมือนอยู่ป่า ต้นไม้เยอะมาก)   แรกๆอยู่แทบไม่ได้ครับ  ขับรถเข้ากรุงเทพทุกอาทิตย์ .....จนถึงตอนนี้  ถ้าไม่จำเป็นผมไม่อยากเข้ากรุงเทพหรือตัวเมืองใหญ่ๆเลย   รู้สึกว่าทำไมมันวุ่นวายจังคนเค้าทนอยู่กันได้อย่างไร

แต่ตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่าคนอื่น  ...ด้วยหน้าที่การงาน   ที่ต่างกันสุดขั้ว   อาชีพหนึ่งอยู่กับความวุ่นวายของคน  ฆ่ากันตายบ้าง โกงกันบ้าง ....ส่วนอีกอาชีพหนึ่งเป็นอาชีพที่พ่อกับแม่มอบให้   อยู่กับความสงบ อยู่กับต้นไม้ใบหญ้า         บางครั้งเจองานเหนื่อยๆกลับมาขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวในไร่แป๊บเดียว  หายเหนื่อยเลย

---- บางครั้งคนเราต้องแสวงหาสิ่งแปลกๆใหม่ๆมาเติมกิเลสให้ตัวเองบ้างครับ...แม้จะสนองไม่ได้ตลอด  แต่ลองแค่ให้หายอยากก็พอ   ^^

ปรกติครับ
ผมเองยังเสียดายที่ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดไม่ได้  ไม่เช่นนั้นทำไปแล้ว แต่คิดว่าไปแค่ใกล้ ๆ  มารถรับรู้ข่าวสารครอบครัวได้ กลับไปช่วยแก้ปัญหาได้ทัน  น่าจะมีความสุขมาก :~)

เป็นเหมือนกันเลยครับ บางทีก็เบื่อกับสังคมในเมือง ความวุ่นวาย การแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น ออกไปค้นหาตัวเองดูครับ ;D

ผมก็ชอบธรรมชาติ ป่าเขา  ซื้อเต้นท์ ขนาดนอนสองคน กับ สี่คน มาหลายปีแล้ว  แต่ไปได้ 2 ครั้งเอง

ซื้อเต้นมากางนอนคนเดียวที่หลังบ้านดูก่อนครับ ฝึกตัวเองให้เคยชิน
 ::007::ผมซื้อเต้นซื้อที่นอนมาเรียบร้อย ถึงเวลาจะไปกางนอนหลังบ้านจริงๆ ดันรู้สึกกลัว
ต้องกลับเข้ามานอนในบ้านเหมือนเดิม ตอนแรกก็คึกมาก เตรียมเตา กระทะ หม้อต้มกาแฟ
กะว่าจะนอนหลายๆวัน ทำให้เหมือนนอนในป่า พอดึกๆเริ่มหนาวนอนไม่หลับ เข้าไปนอนเบียดเมียในบ้านอุ่นสบายดีกว่ากันมาก ;D

ผมว่าความรู้สึกแบบนี้มันมีกันทุกคนครับที่เป็นผู้ชาย มันคือความรู้สึกของลูกผู้ชายครับ(ยิงนก ตกปลา เข้าป่า ล่าสัตว์) มันฝังอยู่ในความรู้สึกของเราตั้งแต่เกิด ::008::มันอยู่ที่ว่าเรามีโอกาศสนองตอบมันเมื่อไร พอได้ทำส่วนมากจะหลุ่มหลงกับสิ่งที่ได้ทำครับ ::007:: ::007::มันคือความปรกติครับผม ::014::คำเตือน อย่าสนุกกับมันจนลืมคนข้างหลังที่เรียกว่า ครอบครัวครับผม(สาธุ) ::014:: ::014::

                     ส่งเต็นท์ให้ผมเลยครับลุงบุญ    ::005::

        ลุงปูไม่กลัวหนาวตอนดึก ๆ                                                                                                                                                                            เพราะไม่ได้นอนคนเดียว
เหมือนพี่บุญ  ใช่ใหม ครับ... ::014::

สองปีก่อนผมก็ทำแบบพี่บุญครับ....ปรากฏว่าตกดึกเจอแมงป่องตัวเล็กๆใสๆต่อยเข้าทีเดียวเลิกเลยครับ  ::007::

แปลก   ของผม พอมีเมียแล้วอยากอยู่คนเดียวครับ... ::005:: ::005:: ::005::

ผมอยากอยู่2คน แต่ไม่ใช่กับเมีย ::007::

ผมนึกว่าผมเป็นคนเดียวซะอีกนะเนี่ย....

 ::007:: ::007:: ::007::

        แต่ผมอยากอยู่กับ   เมีย  ๒ คน :OO :OO :OO :OO

แค่คนเดียวชะตาจะขาดมะรอมมะร่ออยู่แล้ว ยังหาญๆ   ::008:: ::008::

      ไม่รู้วันใหน 
จะต้องวิ่งแจ้นออกจากเรือนเวียงวิมาน ::004:: ::004:: ::004::
        เคยชวนไปอยู่แถวเหนือ
สักสี่ซ่าห้าปี  เขาก็ไม่ยอมไป... ::004:: ::004::

 ::014::  ขอบคุณทุกท่านมากครับ ที่เข้าใจและเห็นเป็นเรื่องปกติ  เพราะความเบื่อสังคม วุ่นวาย คนรอบข้างในบางครั้ง จนคิดว่า  ไม่มีความสุขใดเสมอความสงบเป็นไม่มี
แบบคำพระท่านว่า  แต่ในความเป็นจริงเรามีครอบครัว ที่ต้องรับผิดชอบเขา เราจะตะลอนไปไหนมาไหนลำพังโดยไม่ห่วงหรือคิดถึงเขาก็คงทำไม่ได้

แต่ยอมรับอยู่อย่างว่าการมีปืน  ทำให้จิตใจเย็นลง  อยากใช้ชีวิตสันโดษกับปืน เพราะเชื่อมั่นว่ามันคือสิ่งที่ป้องกันภัยให้เราได้แน่ แม้แต่ผีสางที่เคยกลัวหรือความมืดเงียบสงัด
ก็ไม่เคยกลัวเมื่อมีอาวุธปืนอยู่ข้างกาย  จนอยากใช้ชีวิตสันโดษท่องไปลำพังคนเดียวบ้างกับปืน  .. มันเป็นสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึกครับ เพราะเมือมีภัยก็แค่ตัวเราคนเดียวที่ต้องเจอและรับผิดชอบกับมัน .. คนอื่นเราก็ไม่ต้องห่วงกังวลในสถานการณ์นั้นๆ  

เพียงอยากระบายความรู้สึกในใจ  ขอบพระคุณมากครับ  ::014:: ::014:: :D

        คงได้ประเดี๋ยวครับ
กลับมาก็เจอสภาพเดิม ๆ
ต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ-เข้าใจปัญหา
บางอย่างที่มันไม่สามารถจะไปเปลี่ยนแปลงได้ก็ทำใจ
สำคัญที่สุดคือบ้านและคนข้างกาย ครับ
ผมทำเรือนเวียงวิมานให้เป็นวิมานสำหรับตัวผม
แม้มันจะไม่หรูหราเหมือนคฤหาสน์ใหญ่โต
แต่เลิกงานแล้วอยากจะกลับบ้าน  อยู่บ้าน
ถ้าไม่น่าอยู่หรือไม่เข้าใจกันนี่คงเซ็งแย่  เพราะผมไม่มีลูก ครับ

.ผมว่า ถึงไม่มีปืน ก็อาจจะอยากอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตสันโดษ เรียบง่าย แต่ก็คงอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล. บางคนอาจอยู่คนเดียวไม่ได้เลย ต้องมีแฟน มีภริยาหลายคนด้วย  แต่บางคนเช่นผม ชอบอยู่คนเดียว จึงไม่มีภริยา ไม่มีลูก.จนถึงทุกวันนี้อายุเกิน ๓๐ปีก็ไม่มีพันธะผูกพันใดๆกับใคร .... แต่ก็อย่างว่า ถ้าใครมาถามเราบอกไปว่ายังโสด ไม่มีแฟน ไม่มีลูก เขาจะไม่เชื่อครับ..

ผมว่าในสังคมตอนนี้มีคนคิดเหมือน จขกท. หลายอยู่ อาจเป็นเพราะความวุ่นวายในสังคมปัจจุบัน
.........ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนั้นแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นการหนีเอาตัวรอดคนเดียว โดยทิ้งคนข้างหลังไว้......
ผมเลยเพิ่มสีสันให้ชีวิต โดยการหาเพื่อนที่ชอบเที่ยวป่า ตกปลา ยิงปืน ทำให้ความคิดเดิมๆเริ่มจางหายไป ทุกวันนี้เลยมีความสุขมากครับ

 ;Dเป็นธรรมชาติครับ  ;D เสาร์อาทิตย์กลับบ้านทีไรต้องแอบแบกปืนเดินเท้าเป็น สองสามชั่วโมง ไม่ได้ไปยิงอะไรหรอกครับ เดินดูไปเรี่อยๆตามธรรมชาติ อยู่ในเมืองมากไปก็อยากเปลี่ยนบรรยากาศคลายเครียดบ้าง ได้เดินป่าเงียบๆคนเดียวก็ทำให้จิตใจสงบขึ้นมาก เคยซื้อเต๊นท์นอน แต่ก็ได้กลางนอนอยู่หลังบ้านล่ะครับ แม่บ้านไม่ยอมให้ไปไหนไกล ::005::

สำหรับผมการไปเที่ยวป่าสนุกดีครับ  ต้นไม้  สายน้ำ  เสียงสัตว์  และอากาศที่สดชื่นทำให้เราผ่อนคลายได้  แต่ถ้าให้ไปอยู่เลย  ผมว่ามันไม่สะดวกหลายๆอย่างครับ

เห็นการได้ใช้ชีวิตที่สันโดษ เรียบง่าย  เป็นอะไรที่สบายๆ ไม่วุ่นวายดีครับ  ::002:: ::014:: :D :D

เพิ่มการเดินป่า เดินจากจุดที่จอดรถ เอาเต้นท์ ถุงนอน อาหารทำกินง่าย ๆ ๒ - ๓ มื้อ + ปืนสั้น (สำหรับผมเป็นลูกซองกึ่งออโต ลำ ๑๔.๕ นิ้ว)
กะน้ำหนัก  ๖ กก +/- หรือให้พอแบกไปได้  แล้วหาที่ปักเต้นท์นอนคนเดียว ก่อกองไฟ หน้าเต้นท์..

เลือก วันขึ้น ๑๕ ค่ำ+/- นอนอาบแสงจันทร์..  หรือจะเลือกแรม ๔ ค่ำ +/- ดวงจันทร์ขึ้นราว ๕ ทุ่ม แสงเหลืองแก่ๆ จะเพิ่มบรรยากาศ ผจญภัย ไม่น้อยเชียวละครับ  :D

ผมเป็นอีกคนหนึ่งครับ ที่ชอบเที่ยวป่ากางเต็นตามอุทยานครับ เคยไปค้างที่อุทยานแก่งกระจาน
แล้วเจอช้างเดินเข้ามาตามถนน ใกล้ที่พักเวลาตี 1 เจ้าหน้าที่ยิงปืนไล่ช้าง แล้วตะโกนบอกนักท่องเที่ยว
ให้หลบไปอยู่ในห้องน้ำให้หมด ผมก็ได้ปืนสั่นนี่แหละครับ ถือเป็นเพื่อนให้อุ่นใจ ว่าถ้าช้างบุกเข้ามาก็จะยิงให้
เสียงดังเพื่อให้ช้างไปทางอื่น แถมคนที่มาหลบยังบอกผมใจชืนเลยที่เห็นพี่มีปืนมาด้วย  :D


   ปล.ตอนนี้ไม่ได้เที่ยวยังงั้นมา3-4 ปีแล้วครับมีลูกเล็ก 2 คน เดี๋ยวกะว่าลูกสัก 6-7 ขวบ
จะพากันเที่ยวป่าใหม่ ทีนี้ไปทั้งครอบครัวเลย :D ::014::

ผมก็อีกคนหนึ่งครับ ที่ชอบไปนอนเต็นที่สุด
แต่ก่อน ชอบไปคนเดียว ตั้งแต่มีลูกสาวคนเล็กเนี่ย
ต้องไปเป็นครอบครัวครับ เพราะเจ้าตัวเล็กไม่ยอม

ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่บางครั้งชอบอยู่คนเดียวทำให้มีเวลา
ทบทวนเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตและเป็นการ
เตรียมตัวไว้บ้างว่าเราเกิดมา,เติบโตแล้วก็แก่และจาก
ไปคนเดียวเป็นปกติ

เหมือน คุณพี่ เลยครับ ไม่มีปืน ผม ก็อยากใช้ ชีวิต ในป่า แต่ก็ ยัง ไม่ละสันโดษ ยังไงขอพา แฟน และลูก กับเพื่อน ไปด้วย

 ::014:: น่าจะมีคนเป็นแบบนี้เยอะนะครับ ผมก็ด้วย..

ผมก็ชอบใช้ชีวิตแบบนี้ครับเคยไปที่นำ้ตกเจ็ดคต..ทับกวางมีเจ้าหน้าที่นำทางเข้าไปนอนในป่าสุดยอดมาครับ
นอนเปลนะครับ ::002::

ผมก็เคยคิดแค่ไปกางเต้นท์นอนคนเดียวสัก3-4วัน แต่ถ้าไปทำประโยชน์ด้วยยิ่งดีเช่นช่วยทำฝายแม้ว ถ้าสมาชิกในที่นี้มาชวนผมรีบลางานไปทันทีและพร้อมช่วยเพิ่มงบให้ด้วย

  ตั้งใจไว้ว่าหากเกษียณหรือรีไทร์แล้ว จะท่องเที่ยวไปทั่วไทย ค่ำไหนนอนนั่น รถลุยได้สักคัน ปืนคู่กายสามสี่แบบ ทั้งสั้นและยาว เที่ยวให้คุ้มตามลำพังสักสิบปี พอเริ่มหมดแรงแล้วก็จะกลับมารอวันตายที่ใดที่หนึ่งโดยไม่เป็นภาระใคร  ::014::

เคยอยู่แบบ ไม่มีไฟฟ้าใช้  ใช้ส้วมหลุม  อยู่ประมาณเดือนหนึ่ง  พอกลับเข้ามาในเมือง  โอ้โห   ดูทีวี ขนาดแค่โฆษณา ยังสนุกเลยครับ  ::005::

กินอะไรก็จืดชืด  ลิ้นเสียหมด เพราะอยู่ในนั้นเมนูเดิมๆ ปรุ่งซ้ำๆก็เริ่มใส่พริกใส่เกลือเข้าไปเยอะๆ  กลายเป็นคนกินรสจัด หวานจัด  เผ็ดจัด เค็มจัด 

หากมีเวลา โอกาส กำลังทรัพย์แลความพร้อมทุกๆด้าน ที่จะแสวงหาความสงบและความตื่นเต้นในป่า(จริงๆ)
ให้รีบทำเถิดครับ เพราะทุกวันนี้ป่า(จริงๆ)แทบจะไม่มีแล้ว  ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

ปล. ในป่า(จริงๆ)อย่าไปคนเดียวเลยครับ คืบก็ป่า ศอกก็ป่า อันตรายครับ  ::014::

เป็นปกติ.....ที่ใจนั้นอยากเป็นอิสระ
เรามาแต่ตัว มาจากไหนก็ไม่รู้ จะไปไหนต่อก็ไม่รู้


ปุตโต คีเว ธนัง ปาเท ภริยา หัตเถ   
วันนี้ติดบ่วงแล้ว คงหลุดเองได้ยาก

แม้ท่องไปลำพัง ..... ถือตามพุทธภาษิต นัตถิ สันติ ปะรัง สุขัง สุขกว่าความสงบไม่มี 
ที่สงบนั้นคือใจ อยู่ในความวิเวกกลางลำเนาไพร ก็ยังทุกข์  ::014::

เคยทำงานอยู่ที่ อ.เมือง จ.นครศรีฯ  มีโอกาสขับรถคนเดียวจากตัวเมืองไปเที่ยวน้ำตกแถวตีนเทือกเขาหลวง ซึ่งมีอยู่หลายน้ำตก พอจอดรถที่ลานจอดรถ เจ้าหน้าที่ก็เดินเข้ามาเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน (มีด่านตรวจก่อนเข้า แต่ไม่ได้เก็บเงิน) รถที่จอดข้างกันหลายคัน แต่ละคันก็ไปกันหลายคนเต็มกระบะหลัง

พอเจ้าหน้าที่มาถึงรถผม ก็ถามว่ามากันกี่คน เพื่อจะได้เก็บเงินได้ถูกต้องครบถ้วนตามจำนวนคน ผมก็ตอบว่ามาคนเดียว เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าตาไม่เชื่อว่าผมมาคนเดียว พยายามสอดส่ายสายตาว่ามีสมาชิกคนอื่นที่มากับรถผมแอบหลบอยู่ที่ไหน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่จนแล้วจนรอด เจ้าหน้าที่ก็ไม่พบว่ามีใครแอบอยู่ ก็เก็บค่าธรรมเนียมผมคนเดียว

เจ้าหน้าที่เองก็คงคุ้นเคยกับ "ฉิ่งฉับทัวร์" เสียจนไม่เคยคิดว่ามีคนรักธรรมชาติ ที่ท่องเดียวคนเดียวก็มีเยอะแยะไปในโลกนี้

ใช่ครับ จริงแท้แน่นอนเป็นสัจธรรม อย่างที่พี่ธำรงว่า... ::014:: :D :D

6ปีสำหรับงานที่เชียงใหม่ ผมบินเดี่ยวไปทั่วภาคเหนือกับเพื่อนตายอย่างNAA.380+mag3ตัวเเละHarley-Davidson(Roadking) คือมนุษย์ทุกคนมีนิสัยสันโดษ เเต่พอมีเพื่อนที่ไม่บ่นเเละงอเเงอย่างปืนเเละพร้อมที่จะตามใจเรา ก็เลยทำให้เราอบอุ่นใจเเละพร้อมที่จะสันโดษครับ :VOV: :VOV:

สมัยเด็กๆถึงหนุ่ม ผมอยู่ในสวน สวนสมัยก่อนสภาพเหมือนป่า เพราะมีต้นไม้ใหญ่และเงียบมากๆ
เรียนจบทำงานก็กางเต้นนอนอยู่ในเขา(เขาอีด่าง) ย้ายตัวเองมาอยู่ในเมืองใหม่ๆก็รับสภาพเสียงและแสงไฟไม่ค่อยได้
อยู่ในเมือง20กว่าปี พอกลับไปบ้านสวน กลัวกับความเงียบวังเวง นอนที่บ้านสวนคิดไปสารพัด กลัวขโมยมาปล้นแล้วใครจะช่วย
บ้านแต่ละหลังก็อยู่ไกลๆกัน แปลกดีเหมือนกัน

เมื่อประมาณปี 2530-2536  ผมไปช่วยพี่สาวลูกของป้าไปดูแลไร่มะขามหวานที่เพชรบูรณ์   วันๆไม่เคยเจอผู้คน มีหมา มีเป็ด มีไก่เป็นเพื่อนเลี้ยงหมาไว้ 5 ตัว  และที่อยู่ใกล้กายตลอดก็ คือปืนยาว CZ M2E .22 และปืนลูกซองยาวลูกเลื่อน 3 นัดเบอร์ 12  มอสเบิรกส์ 2กระบอกนี้รับใช้ผมอยู่ที่เพชรบูรณ์มาหลายปี  จะได้มีโอกาศพูดคุยกับผู้คนก็ตอนที่เข้าตลาดไปหาซื้อเสียงซื้อของมาใช้ในไร่เท่านั้นเอง   ตอนนี้ผมมานั่งไค้มานั่งๆคิดดู   เมื่อก่อนอยู่เข้าไปได้อย่างไรว๊ะคนเดียวในไร่ตั้ง 3-4 ปี :OO :OO :OO    

ไปเมืองกาญจน์ เห็นแพเท็ค แล้วผมรู้สึกว่าเขา LOW ยังไงไม่รู้
ขออภัย นี่คือความรู้สึกจริงๆ

+1ครับ สุดยอด

.......... ;D ตามนั้นครับ  ;D

      ผมเข้าเที่ยวป่าคนเดียวเกือบๆตลอดตั้งแต่เป็นวันรุ่น คนอื่นเข้าอาจชอบดื่มเหล้า เข้าเทค เข้าผับ  ผมไม่ เข้าป่าเป็นกิจ ถึงวันนี้มีครอบครัวแล้วก้ยังพยามทำเหมือนเดิม เพียงแต่มีครอบครัวติดไปด้วยบ่อยครั้ง  :VOV:

...ไปป่าผมเอาสามแปดไปกระบอกเดียว  ลูกกระสุน 4 โม่   นอกนั้นเป็นเบ็ด เครื่องนอน อาหาร เครื่องดื่มและมิตรภาพ ครับ

ตอนยังไม่มีครอบครัวนี่ผมเป็นหนักเลยครับ... แต่พอมีครอบครัว... มีภาระมากขึ้น... มีลูกที่ต้องดูแล... โอกาสในการไปสัมผัสธรรมชาติก็ค่อยๆ ห่างหายไป... คงต้องรอให้ลูกๆ โตกว่านี้อีกหน่อย... ถึงจะพาลุยได้ครับ... ;D ;D ;D

ผมก็เหมือนกันครับ  อยู่กับป่ามันสงปดี ยิงนกตกปลา รอดวัยรุ่นมาได้ก็เพราะป่า  ถ้าตอนนั้นชอบแสงสีเสียง ตามเพื่อนไปก็คงได้เป็น นช กะเพื่อนแล้วละครับ

  มาไทยอีก เดี๋ยวผมจัดเต้นท์บนยอดเขาให้ครับพี่  ::002:: ::008:: :VOV: ::014::

ไม่ทราบว่าพกยังไงครับ เวลาขับมอเตอร์ไซด์ แล้วเจอตำรวจบ้างหรือเปล่าครับ พอดีสนใจอยากจะซื้อมอเตอร์ไซด์มาใช้บ้าง เลยอยากทราบวอธีนำพาปืนไปกับมอเตอร์ไซด์

ขอบคุณครับ

ผมว่าค่อนข้างเสี่ยงครับ

ผมว่าปกติครับ ผมก็เคยคิดแบบนี้บ่อย ๆ ผลสุดท้ายซื้อเต็นท์มากางนอนแบบพี่บุญ
แต่ที่หนักกว่าใครคือเอา เรมิงตัน 870 กับปืนสั้นไปนอนในเต็นท์ด้วย อยากเอาบรรยากาศนอนป่า
ตกลงไม่ได้นอนทั้งคืน รู้สึกไม่ชิน ทั้งที่ห่างประตูบ้านแค่ 15 เมตรเองครับ :D

..........................   ::005::  ผม ก็อยากทำเหมือนกันครับ .. ติดปัญหาตรงที่ เลี้ยงสุนัขไว้ เฝ้าบ้าน-เฝ้ารถ ไว้ ๗ ตัว นี่ละ ตัวดี เลย

เมื่อมันมาแสดงความเป็นเจ้าของ หวงพื้นที่  อาจนอนไม่หลับทั้งคืน ละยุ่งเลย ครับ   ::005::

                                (http://upic.me/i/np/l1102.gif) (http://upic.me/show/25403)

ขออนุญาต  ครับผม.........

" สันโดษ "   ตามที่ท่าน จขกท.  กล่าวมานั้นน่าจะเป็น  " วิเวก "  หรือเปล่า

ผิดผลาดอย่างไรขออภัย   นะครับ    ::014::

ผมก็ชอบเหมือนกันเที่ยวป่า....ชอบธรรมชาติครับ...นี่ไปมาแล้วครับป่าปางสีดาจ.สระแก้วสวยมาก

 ;D

ไปไม่ได้ก็อ่านเพชรพระอุมาครับ

ถามครับ ถามหัวใจ ให้กระจ่าง          คนเคียงข้าง  จะสุข  ทุกข์แค่ไหน
เราอาจสุข สนุกสม เขาตรมใจ          พ่ออยู่ไหน คนข้างหลัง ตั้งตาคอย
เราห่วงเขา  เขาห่วงเรา เข้าใจครับ     ยามเราหลับ คนข้างหลัง อาจนั่งหงอย
ต่างคนต่าง ห่วงใย ใจล่องลอย         ดีเต็มร้อย  ไปไหน  ไปด้วยกัน...ดีกว่านะผมว่า

::002::