เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 บทความสะท้อนสัจธรรม และน้ำใจความรักต่อเพื่อนพ้องมนุษย์  

« เมื่อ: สิงหาคม 16, 2010, 09:22:02 PM »

การที่เราเป็นคนดีนั้นมักพบเจอเสมอมาคือ ถูกรังแกและมักถูกรังควานจากคนไม่ดี         

          เราต้องอดทนเสมอ คนดีนั้นเรามีเป้าหมายตั้งเอาไว้ก่อน สิ่งนี้ไม่ต้องบอกใครหรอก เพราะคนที่มีจิตใจดีจะตั้งเป้าหมายบอกแก่ตนเองเอาไว้ก่อน         

          คนที่เป็นคนดีด้วยน้ำเนื้อจิตใจนิสัยแท้ของเขานั้นปรารถนาอย่างยิ่งที่จะได้ช่วยเหลือคนอื่นแม้แต่เพียงสักนิดก็ยังดี ถือว่านั่นคือจิตใจให้ และไม่สบายใจเมื่อคนอื่น คนใกล้ชิดได้รับความเดือดร้อน จะพยายามอาสาแก้ไขปัญหาให้ จนดูไปว่าเขาเป็นคนเสือกและแส่
          จงอย่าแยแสกับคนทั่วไปที่มักกังขาในพฤติกรรมดีของคุณ คนเหล่านี้เรารู้แต่หน้าและไม่รู้ใจ ถ้าคิดจะทำความดีนั้น เป้าหมายที่สอนบอกตัวเองไว้ นั่นแหละคุณควรจำ และทำให้ได้ตามเป้าหมายมากที่สุด   
          เพราะโลกใบนี้มันทำให้คนดีคนมีคุณธรรมมักอยากจะเป็นพระเตเมีย์ใบ้ด้วยอำนาจความไม่ชอบธรรมที่ตนเองไม่ชอบถูกคนชั่วยิ่งใหญ่กว่านั้น ไปขยายความนำไปเล่าสู่ต่อคนอื่น ส่งผลร้ายเข้าหาตัวเอง และด้วยความรักสงบเสงี่ยมเจียมตัวคนที่วางตัวเป็นคนดี เขาจะไม่อยากยุ่งเรื่องที่ชั่วๆ                 
       คนชั่วนี้มักจะเสียงดังกว่าคนดีเพราะเป็นการข่มเพื่อสร้างอำนาจให้คนอื่นหงอยลงไม่กล้าหือ คนดีเองนั้นก็ไม่พยายามจะเข้าไปก้าวก่ายหรอก เพราะในจิตใจของคนดีนั้นมีทางเลือกเป็นหนึ่งเดียวคือ ชอบก็คือชอบส่วนไม่ชอบก็คือไม่ชอบ
          ส่วนคนที่ชั่วนั้นแบ่งเป็นสองฝักสองฝ่ายลังเลไม่แน่ใจ
ระหว่างชอบหรือไม่ชอบ จะเอ่ยออกไปเมื่อสถานการณ์เข้าข้างตนเอง เอาเล่ห์เหลี่ยมให้ตัวเองรอดอย่างเดียว ฉะนั้นคำว่าจะชอบหรือไม่ชอบจะตอบได้ทั้งสองอย่าง เพราะไม่ยึดถือความแน่นอนซื่อสัตย์ต่อใจตนเองอยู่แล้ว คิดแต่เพียงว่าเมื่อหมากเข้าข้างตนเองก็จะเลือกเอาคำนั้น
          การเป็นคนดีมันค่อนข้างยาก ยากเหมือนที่เขาว่าเข็นครกขึ้นภูเขา จงอย่าใจอ่อนยอมแพ้หรือใจเสาะง่ายๆเมื่ออำนาจความชั่วเข้าครอบงำ เมื่อยืนหยัดคงมั่นที่จะทำความดีต่อไปแล้ว จงทำอย่างนั้นไปเถอะเสมอต้นเสมอปลายเป็นกิจวัตร ถึงแม้ไม่มีใครชื่นชมคุณ แต่เทวดาฟ้าดินย่อมสรรเสริญชื่นชมคุณเอง เห็นไหม? กลุ่มคนเหล่านั้นสูงส่งกว่ามนุษย์ธรรมดาเสียอีก

          คนเรานั้นมีหนึ่งชีวิตเมื่อเกิดมาในโลกนี้ ควรอย่างยิ่งที่ต้องใส่ใจในการกระทำของตัวเองและปฏิบัติตนเองต่อผู้อื่น
          ในสังคมปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านความรู้สึกวัฒนธรรม จุดมุ่งหมายเป้าหมาย และเพื่อหาเลี้ยงตนเองพร้อมครอบครัว
          แต่สิ่งที่ไม่ควรขาดหายคือ ความมีน้ำจิตน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน สมกับคำว่าสยามเมืองยิ้ม ที่บรรพบุรุษรุ่นปู่รุ่นย่าของเขาสร้างวัฒนธรรมดีงามเอาไว้ ให้เราเจริญรอยตามสิ่งที่ดีเหล่านั้น
             ความสุขของมนุษย์ นั้นช่างหายากยิ่งนัก

เหตุที่พูดเช่นนี้ดูจากสังคมในปัจจุบัน ความสุขที่ได้รับช่างฉาบฉวยยิ่งนัก คำตรัสของพระพุทธองค์ท่านเคยพูดว่า ชีวิตของคนที่เกิดมาบนโลกนี้เป็นมนุษย์ย่อมมีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกัน ไม่มีความสุขถาวร เพราะสุขถาวรแท้ของพระพุทธองค์ท่านหมายถึงไปสู่นิพพาน
          นั่นความสุขนิรันดร์ที่ใครๆก็ปราถนา
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ก๊อปปี้มาจากเว็ปอื่นครับ

อ่านได้...อ่านดี  ::014:: สวัสดีครับ...pasta  :VOV:

พระพุทธเจ้าแบ่งคนออกเป็น 4 เหล่าครับ... เหล่าที่ 4 คือแหล่งรวมผู้คนชั่ว เพราะพัฒนาตนเองไม่ได้ ผู้อื่นพัฒนาให้ก็ไม่ได้ จึงเหมือนบัวใต้น้ำ ฟาดฟันกันเองในระหว่างบัวใต้น้ำ และ เต่า กับปลาที่จะมากินบัว...

แล้วสุภาษิตไทยก็บอกเอาไว้ว่าอย่าคบคนชั่วเป็นมิตร... คนชั่วในที่นี้รวมถึงผู้ที่ประพฤติชั่ว, และผู้ที่เขลาประพฤติชั่วโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำให้ผู้อื่นรอบข้างเดือดร้อน(เช่นคนเขลาเล่นปืน ก็มักทำปืนลั่นใส่คนรอบข้าง)...

คนเหล่านี้ล้วนคบไม่ได้ และต้องพยายามอยู่ห่างครับ...

                                   ขอบคุณครับน้าอรรถ

 " บ้านเมืองเรานั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี
ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด
การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติ สุขเรียบร้อย
จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี..

หากอยู่ที่การส่งเสริมให้คนดี ให้ได้ปกครองบ้านเมือง
และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ
ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้.. "


พระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 ::014::

ถ้าดีเงียบๆอยู่คนเดียวแล้วโดนรังควาญ งั้น....ก็ให้เป็นคนดีที่มีความ"กล้าหาญในธรรม"ด้วยสิครับ คนกล้าหาญในธรรม คือตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวในการทำความดี ไม่พรั่นที่จะเดินหน้าเข้าชนกับเรื่องชั่วๆฯลฯ

เมื่อทำสม่ำเสมอ เมื่อตั้งมั่นไว้เช่นนี้ จะกลายเป็นคนที่ฝึกฝนเคี่ยวกรำตัวเองไปในอีกรูปแบบหนึ่ง คนประเภทนี้คนชั่วมันกลัวครับ แค่เห็นรังสีที่ฉายออกจากตัว มันก็หลบเข้าข้างทางกันจ้าละหวั่นแล้ว

อันนี้ผู้ใหญ่ท่านล้างสมองมาอีกทีครับ ผมไม่ได้คิดเอง  :D

::002::

อ่านแล้วนึกถึงตัวเอง เห็นเพื่อนขาดอุปกรณ์ถ่ายรูปดีๆ ไอ้เราก็ส่งไปให้ ราคาไม่ต่ำกว่าสองหมื่น ตกลงว่าให้มันออกค่าส่ง มันก็ยินยอม
แล้วผมก็ต้องนั่งแท็กซี่ ต่อรถเมล์อีกสองต่อ เพื่อไปส่งของให้มัน รวมค่าส่งสี่ร้อยกว่าบาท(ส่งแบบโลจิสติกโพสต์) ถ้ารวมค่านั่งรถไปก็เกือบหกร้อย
ผมยังใจดีคิดกับมันแค่ 400 ถ้วน เพราะเห็นว่าเป็นเงินเล็กๆน้อยๆ ไม่อยากเอากับมัน

ผ่านไปตอนนี้ห้าเดือนแล้ว มันยังไม่คิดจะจ่ายเลย ตอนไปทวงก็อ้างว่าไม่มีตังค์ แต่ดันมีเงินซื้อเหล้า แต่งรถ ซื้อฮาร์ดดิสค์ 1TB  ::004::

มองโลกในแง่ดี 400 บาทแลกกับการได้เห็นธาตุแท้ของคน มันก็คุ้ม  ::014::

เป็นเรื่องปกติชนครับ น้อยคนนักที่จะสำนึกเรื่องเหล่านี้ได้

 ::014:: ขอบคุณทุกท่านครับผม  :VOV:

อย่า...ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
                     มิฉะนั้นคนชั่วก็จะได้ใจก่อกรรมทำเข็ญ กับคนดีๆต่อไปครับ ::002::