หัวข้อ: แนะนำเว็บไซต์ดีๆเอามาให้อ่านกันครับ เริ่มหัวข้อโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ เมษายน 10, 2011, 01:33:58 PM ผมทำลิงค์ไม่เป็น http://angkul007.wordpress.com (http://angkul007.wordpress.com)
ยกตัวอย่างเรื่องมันส์ๆสักเรื่อง อภินิหารอาจารย์เสริฐ ตอนที่ ๑ มีนาคม 1, 2011 โดย donglahoma พวกชอบไสยศาสน์น้อยคนที่จะไม่รู้จักอาจารย์เสริฐ ผมเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ วันหนึ่งเพื่อนผมมาเล่าถึงความมหัศจรรย์ของอาจารย์เสริฐ ผมอยากพิสูจน์ วันนั้นเพื่อนผมจึงพาไปที่บ้านอาจารย์เสริฐที่หลังสถานทูตจีน ผู้คนเข้าคิวคอยพบอาจารย์ เพื่อนผมขาใหญ่แซงเข้าพบก่อน คนที่ไปหาอาจารย์เสริฐล้วนแต่มีปัญหา ขอโน่น ขอนี่ เรื่องคู่ครองบ้าง เรื่องการลงทุนบ้าง จิปาถะ สำหรับผมไม่มี บอกกับอาจารย์ตรงๆว่าอยากมาดูว่าอาจารย์เสกอะไรได้บ้าง อาจารย์เสริฐรู้ว่าผมเป็นตำรวจ มาลองของ นิ่งไม่ออกอาการ พูดว่า ไม่เห็นกับตาก็หาว่าเล่นกล สงสัยอะไรก็ตรวจได้ งานแรกอาจารย์ให้ผมหยิบไพ่ที่คว่ำไว้ เหลือเชื่อ ไม่ว่าผมจะหยิบสักกี่ครั้งก็ได้แต่ไพ่ใบเดิม หยิบไปประมาณ ๑๐ ครั้ง ผมให้อาจารย์หงายไพ่ให้ดูทั้งสำรับมันก็เป็นไพ่ปกติมีทุกหน้า เอาละ มันอาจจะบังเอิญก็ได้ งานที่สอง อาจารย์มีหัวกะโหลกค่าง ๑ หัว ลอกหนังออกหมดเหลือแต่กระดูกขาวโพลนแห้งสนิท อาจารย์เรียกเจ้าหัวกะโหลกว่า หนุมาน อาจารย์เอาหัวกะโหลกมาวางตรงหน้าผมแล้วอาจารย์ก็ถามคำถามให้ หนุมาน ตอบ หลายคำถาม คำตอบจะเป็น ใช่ กับ ไม่ใช่ ถ้าจะต้องตอบว่า ใช่ หนุมาน ก็จะพยักหน้า ผมหยิบเจ้ากะโหลกขึ้นมาดูมันก็กระดูกธรรมดาๆวางบนพื้นกระดาน อาจารย์พูดย้ำ ถ้าไม่มาดูกับตาก็หาว่าเล่นกล แล้วอาจารย์เสริฐก็สั่งเจ้า หนุมาน ว่า ตอบให้มันชัดๆหน่อย ทันใดนั้น หนุมานก็กระโดดลอยหมุนขึ้นไปบนอากาศ ๒-๓ รอบแล้วลงมากองบนพื้นตามเดิม ยังไม่พอ อาจารย์เสริฐหยิบดินสำดำแท่งหนึ่งวางกับพื้นแล้วบอกว่า เจ้างู วิ่งไปกัดหนุมาน (ดินสอดำที่วางไปนั้นก็คืองู) สิ้นคำสั่ง ดินสอดำแท่งนั้นก็พุ่งตรงไปยังหัวกะโหลกอย่างรวดเร็ว ผมกับเพื่อนนั่งดูอยู่ใกล้ๆห่างไม่เกิน ๑ เมตร กลางวันสว่างๆ ผมจับดินสอ หัวกะโหลกค่างขึ้นดูก็ไม่เห็นมีอะไร ไม่มีอุปกรณ์กลไกเหมือนกับพวกที่เล่นกลใช้ ลาอาจารย์กลับ ขากลับแอบไปสำรวจใต้พื้นห้อง (อาจารย์แสดงอภินิหารบนพื้นบ้านชั้นที่ ๒ ) ผมตรวจพื้นกระดานชั้นล่างใต้จุดที่แสดง ปกติไม่มีอะไร กลับไปด้วยความงุนงง วันต่อมาไปเล่าให้คุณณรงค์ เสวลักษณ์ กับ เสธ.น้อยฯ (นายทหารนักปฏิวัติ) ฟัง สองคนนี่ไม่เชื่ออีกหาว่าผมเหลวไหล ผมเลยต้องพาสองคนนี่ไปหาอาจารย์เสริฐ ทั้งสองคนก็จะต้องผ่าน ๒ ด่านเช่นเดียวกับที่ผมเจอมา ต่างก็เป็นงง คราวนี้อาจารย์เสริฐบอก เสธ.น้อยฯให้เอาพระเลี่ยมกรอบทองซึ่งแขวนสร้อยที่คอออกมา เสธ.น้อยฯเอาพระส่งให้ เป็นพระสมเด็จฯ อาจารย์เสริฐเอาพระวางใส่ในแก้วน้ำเปล่าๆไม่มีน้ำ อาจารย์ถามพระว่า มีพุทธคุณทางด้านไหนบ้าง อยู่ยงคงกระพันมีไหม พระสมเด็จกระดิกเล็กน้อย อาจารย์ถามใหม่ เมตตา มหานิยมมีไหม คราวนี้พระสมเด็จกระดิกแรงจนกรอบที่เลี่ยมตีกับข้างถ้วยแก้วดัง เพี๊ยบๆๆประมาณ ๓ ครั้ง อาจารย์ถามอีก บูชาด้วยอะไรจะดี มะลิดีไหม พระสมเด็จกระดิกนิดหน่อย หรือบูชาด้วยดอกกุหลาบ คราวนี้พระสมเด็จตีกับข้างถ้วยเสียงดังลั่น ๒-๓ ครั้งจนผมกลัวแก้วจะแตก อาจารย์เสริฐสั่งอีก เอาให้มันชัดเจนหน่อยซิ ทันใดนั้นพระสมเด็จที่อยู่ในแก้วก็ดีดตัวขึ้นไปบนอากาศสูงขึ้นไปเกือบเมตร หมุนควงหลายรอบ เสธ.น้อยฯต้องรีบกระโดดคว้ารับไว้เพราะกลัวล่วงลงมาแตก นี่เป็นความมหัศจรรย์ของอาจารย์เสริฐซึ่งป่านนี้ผมก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ ผมไปเล่าให้ใครต่อใครฟังแรกๆก็ไม่เชื่อและขอให้พาไปดู ผมก็ต้องพาไปอีก พอพาไปพบคนเหล่านั้นก็กลายเป็นศิษย์อาจารย์เสริฐ ตามไปขอโน่น ขอนี่ อาจารย์เสริฐกลายเป็นที่พึ่งทางใจ สิ่งที่อาจารย์เสริฐทำสำเร็จได้ผลก็คือเรื่องของความรัก ทำให้คู่รักได้รักกันและแต่งงานกันไปหลายคู่ ไม่ใช่ดังเฉพาะในเมืองไทย โน่นไปถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ ผมศึกษาและติดตามพฤติกรรมของอาจารย์เสริฐด้วยความฉงนสนเท่ห์ กระทั่งได้พบกับ พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเศรฐ นายตำรวจนักสร้างภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเพื่อนกับผม ปัจจุบันหันไปเอาดีทางการเมือง พ.ต.ท.อดุลย์ฯเล่าให้ฟังถึงความมหัศจรรย์พันลึกของอาจารย์เสริฐ บุกป่าเข้าถ้ำพาไปเอาเหล็กไหลที่ถ้ำผาบ่อง จังหวัดเชียงราย ผจญภัยกับงูยักษ์ลำตัวโตเท่าคนโอบนอนเฝ้าเหล็กไหล ฟัง พ.ต.ท.อดุลย์เล่าการผจญภัยเหมือนกับนิยายขายดีเรื่อง เพชรพระอุมา ของ พนมเทียน พ.ต.ท.อดุลย์ฯบอกว่าถ้าไม่เชื่อให้ไปถาม พล.ต.ต.เวทย์ เพชรบรมซึ่งไปเอาเหล็กไหลด้วยกัน ผมไม่ยอมหยุดเพราะต้องการค้นคว้าหาความจริง ดั้นด้นไปพบ พล.ต.ต.เวทย์ฯซึ่งขณะนั้นรับราชการเป็นผู้บังคับการตำรวจ ๑๙๑ พล.ต.ต.เวทย์ เพชรบรมเล่าเหตุการณ์ตอนประจันหน้ากับงูยักษ์เกล็ดใหญ่เท่าฝ่ามือ ในตาแดงเหมือนแสงไฟ พล.ต.ต.เวทย์ฯเล่า นึกว่าต้องเอาชีวิตไปทิ้ง แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ สั่งตำรวจ ๑๙๑ สี่นาย พร้อมอาวุธปืน M.16 คนละกระบอกประทับเล็งที่งูยักษ์ หากงูทำอันตรายผู้การเวทย์ฯพลแม่นปืนก็พร้อมลั่นไกสังหารเจ้างูทันที ติดตามอภินิหารอาจารย์เสริฐ ตอนที่ ๒ ตามล่าหาเหล็กไหล ผจญงูยักษ์แห่งถ้ำผาบ่อง อภินิหารอาจารย์เสริฐ ตอนที่ ๒ มีนาคม 10, 2011 โดย donglahoma ตามล่าหาเหล็กไหล ตอน ผจญงูยักษ์แห่งถ้ำผาบ่อง การผจญกับงูยักษ์ที่นำมาเล่านี้ได้มาจากบุคคลที่เชื่อถือและบางคนยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะอาจารย์เสริฐเจ้าของตำนานเดี๋ยวนี้ยังพำนักอยู่หลังสถานทูตจีน บางครั้งอาจารย์เสริฐต้องหลบหนีผู้คนที่ไปรบกวนจนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข ผมเคยตามล่าหาอาจารย์เสริฐโดยลงทุนเช่าเวลาสถานีวิทยุออกอากาศตามหา จึงได้ทราบว่ามีจำนวนมากที่ทราบถึงอภินิหารนี้ ในที่สุดก็ตามได้ หนีไปบวชอยู่ที่วัดดอนยานนาวา ผมเอาเรื่องไปออกอากาศผู้คนแห่ไปหาที่วัดดอนจนอาจารย์เสริฐต้องหนีอีก ที่ต้องตามหาอาจารย์เสริฐก็เพราะมีเรื่องต้องไปขอความช่วยเหลือทั้งนั้น หลายคนประสบความสมหวังจากอาจารย์เสริฐถึงขนาดซื้อบ้านพร้อมที่ดินให้เป็นรางวัลตอบแทน ส่วนมากเป็นเรื่องคู่ครอง บางรายอุ้มอาจารย์เสริฐไปทำพิธีกรรมที่บ่อนในมาเก๊า เล่นบาการ่าจนร่ำรวย แต่สำหรับผมไม่ประสบความสำเร็จ มีเหตุให้ งอนกันไปพัก เรื่องอะไรติดตาม เรื่องของเหล็กไหลที่ถ้ำผาบ่องผู้ที่จะยืนยันได้คือ พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเศรษฐ์ กับคุณมานิตย์อดีตผู้บริหารระดับสูงของธนาคารแห่งหนึ่งผมจำนามสกุลไม่ได้ ส่วน พล.ต.ต.เวทย์ เพชรบรมท่านเสียชีวิตไปแล้ว ข้อมูลที่ผมจะเล่าต่อไปนี้จากคำบอกกล่าวของ พล.ต.ต.เวทย์ เพชรบรม ผู้บังคับการตำรวจ ๑๙๑ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๐ ฟังให้จบก่อนนะครับแล้วจะรู้ว่าผมติดตามล่าพิสูจน์หาความจริงในเรื่องนี้เพียงใด ติดตามไปได้ระยะหนึ่งก็ถอดใจ ไม่ได้ประโยชน์อะไร ท่านผู้อ่านอาจจะทำต่อจากผมก็ได้ ผู้การเวทย์ฯเล่า ทราบจากอาจารย์เสริฐฯว่ามีเหล็กไหลอยู่ในถ้ำผาบ่อง จังหวัดเชียงใหม่ สมัยนั้นเมื่อเอ่ยถึง เหล็กไหล เป็นความเชื่อของคนบางกลุ่มว่ามันมีอยู่จริงและมีค่ามาก มีตำนานเรื่องเหล็กไหลเล่าขานกันมาหลายเรื่อง หลายสถานที่ และ ที่มีหลอกต้มตุ๋นกันจนเสียเงินเป็นร้อยๆล้านบาทก็มีเพราะมีคนไปเชื่อว่าเหล็กไหลมีอานุภาพ อยู่ยงคงกระพัน มีอภินิหารดลบันดาลให้เกิดอะไรก็ได้ ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ เชื่อกันว่าเหล็กไหลมันจะไหลไปเรื่อยๆ ไม่อยู่เป็นที่ เรื่องเหล็กไหลเคลื่อนที่ได้จึงเกิดเป็นตำนานที่หาจุดจบไม่ได้ ดังที่ผมจะเล่าต่อไป ผู้การเวทย์ฯมีความต้องการเหล็กไหลเมื่อไปเจอกับ พ.ต.ท.อดุลย์ บุญเศรษฐ์ นักจินตนาการเข้าก็ไปกันใหญ่ และยังมีคุณมานิตย์ฯอดีตนายธนาคารเข้าร่วมจึงเป็นสามเกลอจับมือกันตามล่าหาเหล็กไหล คณะล่าศึกษาเส้นทางไปเอาเหล็กไหล เตรียมหาอุปกรณ์ป้องกันหากเกิดภัยอันตราย ถ้ำผาบ่องอยู่ในป่าลึกต้องลุยป่าปีนเขา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือมีงูใหญ่ยักษ์นอนเฝ้าอยู่ อาจารย์ฯรับจัดการกับงูยักษ์ด้วยคาถาอาคม ส่วนผู้การเวทย์ฯบอกว่าอาคมสู้ปืนไม่ได้จึงได้เตรียมตำรวจ ๑๙๑ จำนวน ๔ นาย พร้อมอาวุธปืน M.16 บรรจุกระสุนเต็มแม็ก ติดตามผู้การเวทย์เป็นองครักษ์ โดยสั่งไว้ว่าหากงูยักษ์เข้ามาทำร้ายฉกกัดอาวุธ M.16 ทั้งสี่กระบอกต้องระดมกระหน่ำจนหมดกระสุน ความมีค่าของเหล็กไหลกับเรื่องต้องการพิสูจน์ทำให้คณะตามล่าตัดสินใจ ตายเป็นตาย ผู้การเวทย์ฯกับตำรวจลูกน้องแต่งเครื่องแบบ พ.ต.ท.อดุลย์ฯพกปืนรีวอลเวอร์ขนาด. 38 คู่กายไปด้วย อาจารย์เสริฐฯในชุดนุ่งขาวห่มขาวถือพานธูปเทียน รวมคณะแล้วประมาณ ๑๐ คน ระหว่างทางที่เดินลุยป่าทุ่งหญ้าเพื่อบุกเข้าถ้ำผาบ่องผ่านบ้านมีผู้คน พอชาวบ้านรู้ว่าจะไปถ้ำผาบ่องต่างนั่งลงยกมือไหว้ท่วมหัว ร้องขอ เจ้าประคุ้น อย่าไปเลย มันอันตาย งูมันใหญ่จริงๆ ผู้การเวทย์ฯนึกเสียวสันหลัง สงสัยจะเอาชีวิตไปทิ้ง ต้องเป็นข่าวใหญ่แน่ เมื่อไปถึงถ้ำซึ่งต้องขึ้นเนินเขาไป มีทางลงเข้าปากถ้ำค่อนข้างแคบ เมื่อลงไปประมาณ ๓๐ เมตรจะเป็นลานกว้าง อาจารย์เสริฐฯให้ผู้การเวทย์ฯลงไปกับอาจารย์เพียง ๒ คน ที่เหลือให้ยืนรอที่ปากถ้ำ จากปากถ้ำมองลงไปยังลานที่จะต้องทำพิธีเรียกเหล็กไหลค่อนข้างมืดสลัว อาจารย์เสริฐฯสั่งไม่ให้ใช้แสงสว่างเพราะจะทำให้งูตกใจ ผู้การเวทย์ฯสั่งเสียลูกน้องเป็นครั้งสุดท้าย ถ้างูทำอะไรผม พวกคุณยิงได้เลย พลแม่นปืนจาก ๑๙๑ เชื่อมั่นในความแม่นยำยืนเปิดระยะห่างประทับปืนเตรียมพร้อม ก่อนลงไปในถ้ำอาจารย์เสริฐฯให้ผู้การเวทย์ฯถือบาตรพระเอาผ้าแดงคลุมแล้วมัดผ้าอย่างแน่นหนา บอกว่าบาตรนี้จะเป็นที่รองรับเหล็กไหล ผ้าแดงที่ปิดคลุมเป็นผ้ายันศักดิ์สิทธิ์ห้ามแกะ เมื่อได้เหล็กไหลมาแล้วจะอยู่ในบาตร์ไม่สามารถจะไหลออกไปได้ ผู้การเวทย์ฯรับบาตรมาเขย่าๆเป็นบาตรเปล่าๆไม่มีอะไรอยู่ภายใน อาจารย์เสริฐฯถือพานธูปเทียนเดินนำหน้า ผู้การเวทย์ฯถือบาตรพระห่อด้วยผ้ายันสีแดงเดินตามลงไปในถ้ำ คณะผู้ติดตามรออยู่ปากถ้ำด้วยใจระทึก อีกไม่กี่นาทีอะไรจะเกิด ไม่อาจารย์เสริฐฯหน้าแตกก็ผู้การเวทย์โดนงูขบตาย เมื่อไปถึงลานพักในถ้ำอาจารย์เสริฐฯจุดธูปกำใหญ่ปักที่พื้นแล้วบริกรรมคาถาเป็นภาษาเขมร ผู้การเวทย์บอกว่าขนลุกซู่เลยเพราะมีลมจากในถ้ำเป็นลมเย็นๆปะทะออกมา ธูปที่จุดไว้โดนกระแสลมทำให้ลุกสว่างแดงโชน ทันใดนั้นก็มีเสียงดังเหมือนมีสิ่งเคลื่อนที่ออกมาจากในถ้ำ ผู้การเวทย์เพ่งสายตามองตามเสียง เสียงดังใกล้เข้ามาๆๆ มองเห็นเป็นลำตัวงูยักษ์ดำมะเมื่อม มีเกล็ดมันปราบ ลำตัวโตเท่ากระบุง(ผู้การเวทย์ใช้คำพูดนี้จริงๆ) คำว่า กระบุง ก็คือภาชนะใส่ของๆคนชนบท มีความโตขนาดเล็กกว่าคนโอบ เส้นผ่าศูนย์กลางคงประมาณ ๑ ฟุตกว่าๆ นัยตางูยักษ์สองข้างสีแดงเพลิงโตขนาดฝ่ามือ งูยักษ์เลื้อยมาใกล้ๆจนลมเข้ามาปะทะ ผู้การเวทย์นึกในใจ เป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แน่ นายพลตำรวจถูกงูกัดตาย อาจารย์ร่ายคาถาเป็นภาษาเขมรดังขึ้นๆพร้อมสั่งผู้การเวทย์ ชูบาตรขึ้นๆ ผู้การเวทย์ทำตามที่อาจารย์สั่งพร้อมหลับตาปี๋เพราะงูยักษ์ประชิดตัวแล้ว คราวนี้อาจารย์เสริฐเปลี่ยนเป็นออกคำสั่งชัดเจนด้วยถ้อยคำภาษาไทย ผู้การเวทย์ต้องการเหล็กไหลเพื่อไปแจกจ่ายลูกน้องติดตัว ให้แคล้วคลาดจากภยันตรายในการรักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง สิ้นคำพูดทุกอย่างเงียบเฉย งูยักษ์ยังอยู่ข้างหน้าในระยะห่างไม่ถึงเมตร ชูหัวแผ่แม่เบี้ยสูงขึ้นไปเป็นวา อาจารย์เสริฐเปลี่ยนคำพูดใหม่ ผู้การเวทย์ต้องการเอาเหล็กไหลไปขาย เอาเงินไปทำนุบำรุงบ้านเมือง สิ้นคำพูดลมเย็นเข้ามาปะทะจนผู้การเวทย์ต้องลืมตาขึ้น เห็นกลุ่มธูปไฟแดงโชนเนื่องจากโดนลม อาจารย์เสริฐสั่งผู้การเวทย์ ชูบาตรขึ้นสูงๆๆ ผู้การทำตาม ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงสิ่งของเป็นโลหะมีน้ำหนักล่วงสู่ก้นบาตรดัง แคล๊ง มีความรู้สึกว่างูยักษ์กำลังเคลื่อนตัวกลับเข้าถ้ำไป อาจารย์เสริฐบอกว่างูยักษ์คายเหล็กไหลออกมาจากปากให้ ผู้การเวทย์เขย่าบาตรอย่างแรง น่าอัศจรรย์มีวัตถุผ่านผ้าแดงที่มัดคลุมเข้าไปได้อย่างไร เสียงดังแคล๊งๆแสดงว่าเหล็กไหลยังอยู่ อาจารย์เสริฐสั่งห้ามเปิดผ้ายันเด็ดขาดมิฉะนั้นเหล็กไหลจะหายไป คณะก็เพียงรับรู้ว่ามีโลหะอะไรสักอย่างอยู่ในบาตรแต่มองไม่เห็นว่าเป็นอะไรแน่ (ที่ผมบอกตอนแรกว่าเหล็กไหลมันไหลได้ มันจึงเกิดตำนานเล่าขาน ไม่รู้เรื่องจริงหรือหรอก ถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วยผมต้องเอาไป X-RAY แน่นอน) เป็นอันว่าผู้การเวทย์รอดตาย คณะพากันเดินออกมาพ้นปากถ้ำ พ.ต.ท.อดุลย์ฯไวกว่าเพื่อนเอาบาตรวางกับพื้นหยิบปืนพกรีวอลเวอร์ขนาด.๓๘ ออกมายิงไปที่บาตรดังกล่าวทันที กระสุนด้านยิงไม่ออก ทุกคนเฮ (ทำไมไม่เอา M.16 กดเข้าไปสักชุดให้มันรู้เรื่องรู้ราวไปเลย) ผมไม่ได้พูดปดมดเท็จว่าไปตาม พ.ต.ท.อดุลย์เล่า ตอนนี้เจ้าตัว(พ.ต.ท.อดุลย์)ก็ยังอยู่ที่จังหวัดพิจิตร ใกล้เลือกตั้งแล้วใครเจออย่าลืมถามเรื่องนี้ด้วยนะครับ คณะติดตามหาเหล็กไหลพากันเดินทางกลับ เหล็กไหลอยู่ในบาตรพระมีผ้ายันสีแดงผูกมัดมองไม่เห็น สัมผัสได้เพียงเขย่าบาตรแล้วมีเสียง แล้วมันจะแบ่งกันยังไง ใครๆก็อยากได้โดยเฉพาะ ๓ ท่าน ๑ พล.ต.ต.เวทย์ ๒ พ.ต.ท.อดุลย์ ๓ คุณมานิตย์ จะเปิดผ้าแดงเอาเหล็กไหลออกมาเฉาะก็ไม่ได้เพราะมันจะไหลหายไปทันที ปัญหาเรื่องแบ่งเหล็กไหลหมดไปโดยอาจารย์เสริฐบอกว่า ต้องแบ่งด้วยอาคม อาจารย์เสริฐสั่งให้คนช่วยกันหาลูกมะพร้าวซึ่งมีตาเดียว (มะพร้าวตาเดียวหายากมากเพราะส่วนมากที่มีอยู่จะเป็น ๓ ตา) ต้องหาลูกมะพร้าวตาเดียวมาให้ได้ ๓ ลูกแล้วอาจารย์เสริฐถึงจะใช้อาคมแบ่งเหล็กไหลเป็น ๓ ชิ้นเก็บไว้ในลูกมะพร้าว ผมเกิดอาการลุ้นหนัก มันจะหามะพร้าวตาเดียวที่ไหน เมื่อได้มะพร้าวแล้วมันจะแบ่งกันยังไง จับต้องก็ไม่ได้เพราะมันจะไหลหายไปทันที ตอนนี้คณะตามล่าหาเหล็กไหลหยุดพักเรื่องเหล็กไว้ก่อน ต้องแบ่งกำลังไปหามะพร้าวตาเดียวก่อน ระหว่างรอมะพร้าวตาเดียวจะทำอะไรกับเหล็กไหลดี พ.ต.ท.อดุลย์บอกว่าถ้าศักดิ์สิทธิ์จริง สั่งอะไรก็ได้ ลองเอาไปสะกดลูกเหล็กที่ใช้ปั่นรูเลทดูจะเป็นยังไง การเปิดบ่อนเถื่อนก็เกิดขึ้น ท่านผู้อ่านที่อายุรุ่นเดียวกับผมคงจะได้ยินเรื่องมีคนเอาเรือสัญชาติรัสเซียมาลอยลำแล้วเปิดคาสิโนในเรือ นี่แหละผลงานเจ้านี้เขาละ ไม่สำเร็จอีก เหล็กไหลสั่งลูกเหล็กให้ไปตกในช่องตัวเลขที่ต้องการแทงไม่ได้ วิธีการก็คือให้อาจารย์เสริฐอุ้มบาตรเหล็กไหลอยู่ใกล้ห้องพนันรูเลทแล้วบริกรรมคาถา ออกคำสั่งด้วยอาคมบังคับลูกเหล็กกลิ้งไปตกตามตัวเลขที่ต้องการ ผลปรากฏทำไม่ได้ คณะตามล่าเหล็กไหลเจ๊งกันเป็นแถว อาจารย์เสริฐโดนซักฟอกหนักเรื่องประสิทธิภาพเหล็กไหล อาจารย์เสริฐรอดตัวอีกบอกว่า เรือมันไม่ค่อยหยุดนิ่ง มันไหวได้ ไม่มีสมาธิบังคับลูกเหล็ก ไปได้อีกนะอาจารย์ อย่ากระนั้นเลยอาจารย์เสริฐขอเอาเหล็กไหลไปเก็บรักษาไว้ก่อน ห้ามใครยุ่ง เมื่อแบ่งกันแล้วใครจะเอาไปทำอะไรก็เป็นเรื่องของคนนั้น ติดตามตอนต่อนะครับ จะแบ่งเหล็กไหลกันได้ไหม เหล็กไหลบันดาลให้เกิดอภินิหารอะไรบ้าง หรือเป็นเรื่องหลอกลวง แล้วเดี๋ยวนี้เหล็กไหลไปอยู่ที่ไหน ไม่ใช่ผมงมงายนะครับ ผมรู้อะไรต้องพิสูจน์ เมื่ออ้างถึงใครผมต้องไปสอบถามเพื่อหาความจริง เล่าให้ลูกเมียฟังเขาว่าผมบ้า ลูกผม อัษฎา อาทรไผท นักเรียนนอกคนสมัยใหม่บอกให้ผมเอาอาจารย์เสริฐไปออกรายการ ตีสิบของคุณวิทวัส เอ..ถ้าจะดีเหมือนกัน ยังไม่ต้องไปถึงรายการ ตีสิบหรอกครับ แค่ท่านตามผมไปพิสูจน์ก็พอจะวินิจฉัยได้ มันเป็นอะไรกันแน่ ติดตามตอนต่อไป เหล็กไหลบุกมาเก๊า หัวข้อ: Re: แนะนำเว็บไซต์ดีๆเอามาให้อ่านกันครับ เริ่มหัวข้อโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ เมษายน 10, 2011, 01:35:47 PM อภินิหารอาจารย์เสริฐฯ (ตอนที่ ๓) เหล็กไหลบุกมาเก๊าท์
มีนาคม 29, 2011 โดย donglahoma หลายๆคนคงจะเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับอภินิหารของเหล็กไหล ส่วนมากเล่าต่อกันมาจริงเท็จไม่รู้ ผู้ที่ใกล้ชิดเหตุการณ์คือบุคคลที่ผมได้กล่าวถึงในอภินิหารอาจารย์เสริฐ ตอนที่ ๑, ๒ บางคนได้เสียชีวิตไปแล้ว บางคนยังมีชีวิตอยู่แต่ก็ไม่มีใครได้สัมผัสหรือเห็นสภาพจริงๆของเหล็กไหล ส่วนมากจะมีภาชนะหุ้มห่อ ผู้ที่เป็นต้นตอความลับนี้ก็คือ อาจารย์เสริฐ ผมไม่เชื่ออะไรง่ายๆถ้าไม่ได้เห็นกับตา จึงต้องตามพิสูจน์หาความจริง อีกบุคคลหนึ่งที่ผมได้ติดตามหาข้อมูลเพื่อพิสูจน์ความจริง คือ คุณสุทธิพร และคุณนวลตา กรรณสูต สามีภรรยา คุณสุทธิพรฯเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของบริษัทการบินไทย ตอนที่ผมรู้จักคุณสุทธิพรฯเป็นหัวหน้าเขตพื้นที่โซนเอเชีย ผมมีโอกาสพบคุณสุทธิพรและคุณนวลตาฯ ทั้งสองท่านรู้จักอาจารย์เสริฐฯดี เคยพาไปเอาเหล็กไหลที่ถ้ำผาบ่องแต่เอามาไม่ได้ คุณสุทธิพรฯไปกับคุณนวลตาฯ คุณสุทธิพรฯเข้าไปในถ้ำกับอาจารย์เสริฐฯ ยืนยันว่าเห็นงูตัวใหญ่มากเพียงเลื้อยผ่านเข้ามาในระยะใกล้ งูมีเกล็ดใหญ่เท่าฝ่ามือ เกล็ดงูได้บาดที่ลำตัวคุณสุทธิพรฯจนปรากฏเป็นรอย (ผมเริ่มสงสัยว่างูทำไมมีเกล็ด และเกล็ดแข็งถึงกับบาดลำตัวเป็นรอยได้ไง) ผมไม่ได้ซักอะไรคุณสุทธิพรฯมากนักเพราะผมรู้จักอาจารย์เสริฐฯดีอยู่แล้ว ต้องตามหาความจริงให้ได้ (ปัจจุบันคุณนวลตาถึงแก่กรรม ส่วนคุณสุทธิพรฯป่วยโรคหลอดเลือดสมองแตก ไม่สามารถพูดจาได้) ย้อนมาถึงเรื่องการแบ่งเหล็กไหล ในที่สุดก็สามารถหามะพร้าวซึ่งมีตาเดียวมาได้ ๓ ใบ นำผลมะพร้าวมาสดๆไม่ต้องปอกเปลือก อาจารย์เสริฐฯทำพิธีแบ่งเหล็กไหลด้วยอาคม นำบาตรที่ผูกผ้าแดงวางแล้วเอามะพร้าว ๓ ลูกวางใกล้ เขย่าบาตรยังได้ยินเสียงโลหะกลิ้งไปมา ขณะทำพิธีทีมงานที่เดินทางไปเอาเหล็กไหลจากถ้ำผาบ่องคอยจ้องดูไม่กระพริบตา อาจารย์เสริฐฯร่ายคาถาเป็นภาษาเขมรนานหลายนาทีแล้วเป่าไปที่บาตรผูกผ้าแดง อาจารย์เสริฐฯตบมือ ๑ ครั้งเป็นสัญญาณบอกว่าเสร็จพิธี ผู้ร่วมพิธีเขย่าบาตรเสียงวัตถุในบาตรหายไป แต่เมื่อไปเขย่ามะพร้าวทั้ง ๓ ลูกจะมีเสียงเหมือนมีของแข็งอยู่ภายในซึ่งก่อนทำพิธีจะไม่มี พล.ต.ต.เวทย์ฯ พ.ต.ท.อดุลย์ฯและคุณมานิตย์ฯเอามะพร้าวบรรจุเหล็กไหลไปคนละลูก อาจารย์ฯเสริฐฯมีวิธีการที่แยบยลซึ่งวิธีนี้ทำให้ไม่มีใครได้เห็นเหล็กไหล ถ้าจะผ่ามะพร้าวออกมาดูอย่าลืมนะครับอาจารย์เสริฐฯย้ำนักย้ำหนาว่า เมื่อไม่มีภาชนะหุ้มห่อเหล็กไหลจะหายไปทันที ทั้งสามคนก็ได้นำเหล็กไหลกลับไป ผมติดตามเหล็กไหลของ พล.ต.ต.เวทย์ฯว่าไปอยู่ที่ใด ได้ความว่ามีคณะบุคคลพาอาจารย์เสริฐฯนำเหล็กไหลบุกคาสิโนที่มาเก๊าท์ จุดประสงค์เพื่อสะกดลูกเหล็กที่หมุนอยู่ในวงล้อรูเลตให้ตกลงในช่องที่ต้องการ โดยทีมงานนั่งประจำที่โต๊ะรูเลตเตรียมแทงเชื่อว่าอำนาจของเหล็กไหลโดยการใช้อาคมบังคับของอาจารย์เสริฐฯจะสามารถสั่งให้ลูกเหล็กในวงล้อไปตกในช่องที่ทีมงานวางเงินพนัน ทีมงานนั่งประจำโต๊ะเรียบร้อยโดยทางเจ้าหน้าบ่อนคาสิโนไม่ทราบว่ามีการวางแผนที่จะใช้ใช้เวทย์มนต์เพื่อโกงบ่อน ถึงตอนที่อาจารย์เสริฐฯจะต้องทำพิธี อาจารย์เสริฐฯอุ้มลูกมะพร้าวเหล็กไหลเอาผ้าคลุมไหล่บังเดินวนรอบโต๊ะรูเลต ๓ รอบพร้อมกับบริกรรมคาถาเป็นภาษาเขมรเบาๆ การกระทำของอาจารย์เสริฐฯไปรอดพ้นจากสายตาเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของบ่อน ก่อนที่อาจารย์เสริฐฯจะเดินครบ ๓ รอบก็ถูก รปภ.ของบ่อนคุมตัวไปสอบ พบลูกมะพร้าวเหล็กไหลสอบถามอาจารย์เสริฐฯว่ามันคืออะไรและทำไมต้องอุ้มเดินวนรอบโต๊ะรูเลต ถ้าพูดความจริงต้องเป็นเรื่องแน่เพราะเท่ากับวางแผนโกงบ่อน อาจารย์เสริฐฯก็เลยบอกไปว่าเป็นลูกมะพร้าวธรรมดา ที่นำมาเดินวนก็เป็นเรื่องความเชื่อไสยศาสตร์ ชาวต่างประเทศไม่เชื่อไสยศาสตร์อยู่แล้วและเคยเห็นคนไทยพยายามในเรื่องเช่นนี้บ่อยครั้ง รปภ.ปล่อยตัวอาจารย์เสริฐฯไปแต่ยึดลูกมะพร้าวไว้โดยไม่ทราบว่ามีเหล็กไหลอยู่ภายใน คณะเดินทางเลิกล้มเล่นการพนันรีบปลีกตัวออกจากบ่อนแล้วเดินทางกลับ ขืนชักช้าอาจติดคุก จนกระทั่งบัดนี้ไม่มีใครกล้าไปติดตามทวงถามเอาลูกมะพร้าวเหล็กไหลคืนจากบ่อนที่มาเก๊าท์ ผมฟังแล้วเหมือนเรื่องนิยายตลก ไม่ได้ติดตามว่าเหล็กไหลที่เหลืออยู่กับบุคคลอีก ๒ คนจะเป็นไปอย่างไร ยังอยู่หรือไม่ ถึงคราวที่ผมจะต้องเช็คบิลกับอาจารย์เสริฐฯโดยตรง ติดตามตอนต่อไป ลองของอาจารย์เสริฐฯ อภินิหารอาจารย์เสริฐฯ ตอนที่ ๔ ลองของ เมษายน 3, 2011 โดย donglahoma ผมบอกแล้วว่าไม่เชื่ออะไรที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์และอะไรที่พิสูจน์ไม่ได้ ทำไมผมต้องไปยุ่งเรื่องอาจารย์เสริฐฯ ก็เพราะพรรคพวกผมชื่อ เสี่ยกอ(คุณกิติฯ)โฆษณาสรรพคุณว่าอาจารย์เสริฐฯสามารถสั่งให้ พระเครื่องบินได้ ทันทีที่รู้ก็ไปพิสูจน์กันวันนั้นเลย เสี่ยกอฯพาผมไปที่บ้านอาจารย์เสริฐฯหลังสถานฑูตจีน อาจารย์เสริฐฯอยู่บ้าน ไม่ง่ายนักที่อาจารย์เสริฐฯจะว่างลูกค้า วันนั้นว่างพอดี บอกตรงๆเลยว่าผมไม่เชื่อ สิ่งแรกที่อาจารย์เสริฐฯให้ทดลองก็คือการหยิบไพ่ ไพ่ของอาจารย์เสริฐฯใบใหญ่มากโตเท่าฝ่ามือและครบสำรับ ให้ผมสับไพ่ด้วยตนเอง อาจารย์เสริฐฯคลี่ไพ่วางเรียงกับพื้นแล้วให้ผมหยิบขึ้นมา ๑ ใบ ผมหยิบทีไรก็ได้ไพ่ตัวเดิม หยิบถึง ๕ ครั้ง ตรวจสอบไพ่ทั้งสำรับก็ไม่พบว่ามีซ้ำกัน การเล่นกลผมก็มีความถนัดรู้ดีว่าต้องมีอุปกรณ์ แต่ไพ่ของอาจารย์เสริฐฯจับมาพิจารณาดูทีละแผ่นก็ไม่เห็นมีอะไรพิเศษ ตอนนั้นบ้านอาจารย์เสริฐฯยังเป็นบ้านพื้นไม้กระดานสองชั้น เลือกไพ่กันที่ชั้นล่าง ต่อไปอาจารย์เสริฐฯพาขึ้นไปชั้นบน เป็นห้องพระ มีทั้งพระและเทวะรูปปางต่างๆมากมาย ฉากหลังเป็นผ้าสีแดง ไฟก็ใช้โทนสีแดงผสมแสงสว่างจากเทียน กลิ่นธูปซึ่งจุดเป็นกำโชยเข้าจมูก บรรยากาศน่าขนลุก อาจารย์เสริฐฯเรียกเจ้า หนุมาน(กะโหลกค่าง) เจ้าหนุมานพยักหน้าหงึกๆ อาจารย์เสริฐฯสั่งให้ หนุมานตีลังกาโชว์ ทันใดนั้นเจ้าหัวกะโหลกค่างก็สปริงตัวสูงแล้วหมุนควงประมาณ ๒ รอบตกบนพื้นพรม(ปูพื้นห้องด้วยพรมสีแดง) สั่งให้ งู(แท่งดินสอดำ)วิ่งไปกัด หนุมาน สิ้นสั่ง ดินสอดำที่วางราบอยู่กับพื้นก็ไถลไปหาหัวกะโหลกค่างอย่างรวดเร็ว ผมงง มันเป็นได้ยังไง หยิบหัวกะโหลกค่าง หยิบดินสอขึ้นดูก็ปกติไม่มีกลไกอะไร ต่อไปอยากลองเรื่องพระ ผมมีพระสมเด็จบางขุนพรหมเลี่ยมทองอยู่ ๑ องค์ แกะออกจากสร้อยคอส่งให้อาจารย์เสริฐฯ นำใส่แก้วเปล่าวางอยู่พื้นตรงหน้า อาจารย์เสริฐฯป้อนคำถามยังพระเครื่อง ส่วนมากจะเป็นคำถาม จะให้บูชาด้วยอะไรถึงจะดี มีพุทธคุณทางไหน ถ้าพระเครื่องถูกใจก็จะกระดกขึ้นจนกรอบองค์พระตีข้างแก้วดังเพี๊ยะๆแทนคำตอบ ไม่ถูกใจก็จะนิ่งอยู่เฉยๆ คำถามสุดท้ายอาจารย์จะบอกกับพระว่า เอาให้เห็นชัดๆหน่อย ทันใดนั้นพระเครื่องที่อยู่ในแก้วก็กระโดดลอยพลิกตัวกลางอากาศหลายรอบ ผมต้องรีบตะครุบรับไว้กลัวตกพื้นแตก วันแรกกลับไปด้วยความงุนงง ผมไปพบอาจารย์เสริฐฯอีกหลายครั้งเนื่องจากไปเล่าให้ใครๆฟังทุกคนอยากจะลอง ผู้ที่ผมพาไปมี ๑ คุณณรงค์ เสาวลักษ์ (ปัจจุบันบริหารรีสอร์ทอยู่ที่โป่งแยง จังหวัดเชียงใหม่) เสธฯน้อยชื่อจริงจำไม่ได้(นายทหารนักปฏิวัติปัจจุบันเกษียรแล้วในยศพลเอก) รวมทั้ง อาอี๊ที่เปิดร้านขายอาหารซีฟู๊ดแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ก็ไป ทุกคนต่างได้รับประสบการณ์เช่นเดียวกับผม เรื่องของอาจารย์เสริฐฯพูดคุยกันทุกครั้งเมื่อมีการร่วมวงสนทนาในกลุ่มเพื่อนฝูงว่า เล่นกลหรือไสยศาสตร์ จนต้องมีการพิสูจน์กัน ครั้งแรกผมไปกับคุณชินฯ คุณณรงค์ฯ ผมเอาแม่เหล็กแท่งยาวประมาณ ๒ นิ้วฟุตมัดติดข้อมือ สวมเสื้อแขนยาวปิดทับ พากันไปที่บ้านอาจารย์เสริฐฯขอดูหัวกะโหลกค่าง อาจารย์ฯก็คงรู้ว่าพวกเราไปจับผิดแต่ก็ยอมทำให้ดูเพราะรู้ว่าผมเป็นตำรวจ เอาแม่เหล็กจับที่หัวกะโหลกก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ตรวจดูที่พื้นกระดานบ้านก็ไม่พบกลไกอะไร ยังงงอยู่จนถึงทุกวันนี้ ต่อมามีคดีทุจริตเกิดขึ้นที่ธนาคารกรุงเทพฯเงินในความรับผิดชอบของพนักงานหายไปหลายล้าน ผู้เกี่ยวข้องและเป็นที่น่าสงสัยมีด้วยกัน ๔ คน ผมรับผิดชอบคดีเรียกสอบสวนแล้วไม่พบพิรุธ นึกถึงอาจารย์เสริฐฯเคยบอกว่าถ้าอยากจะรู้เรื่องอะไรให้ถามได้ ๓ ข้อ วิญญาณ จะตอบให้ เข้าทางเลยจะลองใช้บริการของอาจารย์เสริฐฯถ้า วิญญาณบอกได้ถูกต้องผมดังแน่ ผมกับคุณชินฯ คุณณรงค์ฯทีมลองของพากันไปที่บ้านอาจารย์เสริฐฯ อาจารย์ฯสั่งให้เขียนคำถามลงในแผ่นทองแดงบางๆไม่เกิน ๓ คำถาม แล้วม้วนให้แน่น เอาแผ่นทองแดงใส่ในคนโท เอาน้ำแช่ ปิดปากคนโทให้แน่น นัดวันมาทำพิธี กลับไปเตรียมสิ่งของอยู่หลายวัน ในใจอยากจะรู้เรื่องคดีถ้างานนี้สำเร็จผมจะต้องก้าวหน้าในหน้าที่การงาน อีกใจหนึ่งคิดว่าถึงเวลาที่จะ ลองของ อาจารย์ซะที ทีมงานปรึกษากันต้องเตรียมของให้มันยุ่งยากถ้าหากอาจารย์เสริฐฯจะเล่นกล แต่ถ้าเป็นเรื่องวิญญาณจริงก็ไม่น่าจะเป็นอะไร หาซื้อคนโทใส่น้ำซึ่งเป็นคนโทดินของเชียงใหม่ ท่านผู้อ่านคงนึกภาพออก ด้านล่างของคนโทป่องๆสำหรับใส่น้ำ ปากคนโทเป็นคอเล็กๆสูงขึ้นไปประมาณคืบมีจุกปิด (มีขายที่เชียงใหม่และตลาดจตุจักร) ลงทุนสั่งกลึงแผ่นทองแดงบางๆโตสองฝ่ามือ ใช้เหล็กแหลมเขียนคำถาม ๓ ข้อลงไป ไม่ลืมที่จะเว้นที่ว่างไว้สำหรับคำตอบ เสร็จแล้วม้วนแผ่นทองแดงจนแน่นเล็กประมาณนิ้วก้อยใส่คนโทได้พอดี เอาน้ำใส่คนโทจนเต็มแล้วปิดจุกแน่น นำไปพบอาจารย์เสริฐฯ คราวนี้อาจารย์เสริฐฯถ้าไม่ใช่จริงเสร็จผมแน่ ทีมลองของคณะเดิมไปด้วยกันทั้งหมด อาจารย์เสริฐฯนัดให้ไปกลางคืน ผมและคณะถึงบ้านอาจารย์เสริฐฯประมาณ ๒ ทุ่ม อาจารย์ฯให้ผมนำคนโทขึ้นไปทำพิธีข้างบนส่วนเพื่อนอีก ๒ คนนั่งคอยข้างล่าง อาจารย์เสริฐฯท่องอาคมเป็นภาษาเขมรผมนั่งพนมมือฟังแบบไม่รู้เรื่อง อาจารย์จุดเทียนทำน้ำมนต์ มีตอนหนึ่งที่อาจารย์เสริฐฯสั่งให้ผมนำน้ำมนต์ไปรดโคนต้นมะยมซึ่งปลูกอยู่หน้าบ้านแล้วให้ผมนั่งดูอย่าให้แมวเดินผ่าน อาจารย์กำชับว่ามันมีแมวสีดำอยู่ตัวหนึ่งอย่าให้มันเดินผ่านบริเวณที่เทน้ำมนต์เด็ดขาดไม่งั้นพิธีเสีย สั่งให้ผมเฝ้าดู ๑๐ นาที ผมปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด ในใจคิดว่าน้ำมนต์ที่เอาไปเทโคนต้นมะยมคงเป็นการเรียกวิญญาณและวิญญาณคงจะกลัวแมวดำ ดูนาฬิกาครบ ๑๐ นาทีแล้วรีบกลับขึ้นไป อาจารย์เสริฐฯยังคงร่ายเป็นภาษาเขมรอยู่ สักพักก็หยุดแล้วส่งคนโทให้ผม สั่งว่า เอาไปบูชาในห้องพระ ครบ ๗ วันจึงเปิด จะมีคำตอบอยู่ในนั้น คณะเดินทางกลับ ระหว่างทางชาวคณะซักถามผมว่าต้องไปทำพิธีอะไรบ้าง ผมบอกว่าอาจารย์เสกคาถาอาคมแล้วสั่งให้ผมลงไปเฝ้าที่ต้นมะยมอย่าให้แมวดำวิ่งผ่านจะเสียพิธีและอาจารย์สั่งให้เก็บคนโทไว้ ๗ วันจึงค่อยเปิดอ่าน ถึงตอนนี้เองคณะเราต้องหยุดรถทะเลาะกัน คุณณรงค์ฯบอกว่าต้องเก็บไว้ ๗ วันถึงเปิดดูถ้าเปิดก่อนนั้นก็จะไม่เห็นคำตอบ คุณชินฯแย้ง ต้องเปิดเดี๋ยวนี้เลย หากพบว่าไม่มีคำตอบ ใส่กลับเข้าไปใหม่ครบ ๗ วันเปิดแล้วถ้ามีคำตอบ จะกลับไปกราบตีนอาจารย์เสริฐฯ คำแนะนำของคุณชินฯมีเหตุผลดี ในที่สุดคณะเราเปิดดูกัน เทแผ่นทองแดงออกจากคนโท แผ่นทองแดงยังม้วนอยู่แน่นกว่าเก่า คลี่แผ่นทองแดงออกมามีคำตอบเป็นภาษาไทยชัดเจนทั้ง ๓ ข้อ เขียนด้วยเหล็กแหลมลายมือสวยมาก สำหรับคำถามที่ผมอยากทราบเกี่ยวกับผู้กระทำผิดโกงธนาคารมีคำตอบว่า วิญญาณไม่สามารถตอบได้ โดยอ้างว่าผิดอะไรสักอย่างซึ่งผมจำไม่ได้ ส่วนคำถามข้ออื่นๆก็เป็นคำตอบแบบกลางๆเหมือนหมอดูทั่วไป คำตอบจะถูกจะผิด ตอบได้ ไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ มันตรงตามเหตุผลของคุณชินฯ ถ้าเปิดดูตอนนี้แล้วไม่มี ครบ ๗ วันแล้วมี ถึงจะของแน่ แต่นี่มันมีอยู่แต่แรกเลย อาจารย์ต้องเล่นกลแน่ คณะเราทบทวนอยู่จนกลางดึก พบข้อพิรุธ ๑ ทำไมผมจึงต้องขึ้นไปทำพิธีคนเดียว คนอื่นนั่งคอยข้างล่าง (เพื่อให้ปลอดคน สะดวกในการที่จะทำอะไรสักอย่างในช่วงที่ผมไม่ได้อยู่ด้วย เช่น ใช้เวลาเขียนคำตอบลงในแผ่นทองแดง) ๒ ทำไมผมต้องไปนั่งเฝ้าที่ต้นมะยม คอยไล่แมวดำที่จะมาทำลายพิธีเป็นเวลาถึง ๑๐ นาที ทำไมไม่ใช้เพื่อนผมซึ่งนั่งอยู่เฉยๆถึง ๒ คน (อาจารย์คงต้องการให้ปลอดคนและใช้เวลาตอนนี้ในการเขียนคำตอบ) แบบนี้เป็นการเล่นกลแน่ เสียเวลาเปล่า ทันใดนั้นคนโทพร้อมแผ่นทองแดงก็ลอยไปอยู่ในคูน้ำข้างถนน เสียดายน่าจะเอาลายมือในแผ่นทองแดงไปตรวจเปรียบกับลายมืออาจารย์เสริฐฯ ผมไม่รู้ว่าจะเอาชนะไปทำไมแค่รู้ว่าโดนหลอกก็พอแล้ว แต่เรื่องกะโหลกค่างตีลังกา พระกระโดดออกจากแก้ว ยังพิสูจน์ไม่ได้ ผมไม่ได้ไปพบอาจารย์เสริฐฯนานกว่า ๑๐ ปี อาจารย์เสริฐฯก็ไม่เคยติดต่อผม ก็คงจะรู้ว่าผมโกรธจึงหายเงียบไป แต่ผมต้องย้อนกลับไปหาอาจารย์เสริฐฯอีกครั้งและได้พบกับความเหลือเชื่ออีก ติดตามตอนที่ ๕ หัวข้อ: Re: แนะนำเว็บไซต์ดีๆเอามาให้อ่านกันครับ เริ่มหัวข้อโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ เมษายน 10, 2011, 01:39:48 PM เนื้อหายาวหน่อยนะครับ
แต่สำหรับผมอ่านแล้วเพลินดี ในเว็บนี้ยังมีอะไรดีๆให้อ่านอีกเยอะ เจ้าของเว็บและผู้เขียน พล.ต.ต อังกูร อาทรไผท |