เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

(http://image.free.in.th/z/it/81389.jpg) (http://image.free.in.th/show.php?id=4d0d7426c3647a17cbd246cb3b24c210)
Thanks: ฝากรูป (http://www.myuppic.com)

ใครบางคนเคยบอกแว่วๆ  ถึงผลการวิจัยจากต่างประเทศไว้ว่า คนไทย เป็นชาติที่ใส่ใจเรื่องปัญหาสุขภาพมากที่สุดชาติหนึ่ง....


และดูท่าจะเป็นเรื่องจริงอย่างที่เขาว่า เพราะระยะช่วง 5-6 ปีหลังมานี้ ดูเหมือนว่า   กระแสรักสุขภาพจะดูมาแรงเป็นพิเศษ สังเกตได้จากอาหารการกิน การใช้ธรรมชาติบำบัดไม่ว่าจะนวด ขัด ถู  การออกกำลังกาย  เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ฟิต แอนด์เฟิร์ม ห่างไกลสารพัดโรคภัย รุมทำร้าย   หรือเปลี่ยนจากใบหน้าสิวเขรอะ  ริ้วรอยตีนกาเหยียบยุ่มย่ามไปหมด  มาเป็นผิวหน้าที่ใส เต่งตึง  เด๋งดั๋ง    เป็นต้น  เรียกว่า ดูแลรักษา บรรเทา สุขภาพกันตั้งแต่หัว หู ตา จมูก ปาก ฟัน  ใบหน้า ร่างกาย  เท้า ฯลฯ กันเลยทีเดียว 


 

 วิชาชีพที่ดูเหมือนจะช่วยเหลือและตอบสนองความบรรเทาความทุกข์ ความเจ็บป่วย ของเพื่อนมนุษย์ได้ครอบจักรวาล(แทบ)ทุกอย่างในการรักษาคงหนีไม่พ้น "แพทย์"   และหากเป็นแพทย์เฉพาะทางด้วยแล้ว  ยิ่งกลายเป็นความต้องการของโรงพยาบาล  สถานพยาบาล หรือคลินิกต่างๆ ทั่วประเทศ อย่างมาก เพื่อรองรับปริมาณของผู้ป่วย ที่นับวันจะทวีคูณเพิ่มขึ้นๆ    ไม่ว่าจะเป็นแพทย์ผิวหนัง   แพทย์จักษุ ทันตแพทย์ ศัลยแพทย์ อายุรแพทย์ วิสัญญีแพทย์ สูตินรีแพทย์ กุมารแพทย์ ฯลฯ


หนังสือพิมพ์ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยประกาศตามหาแพทย์ ต่างๆ  ซึ่งมีความสนใจเข้าไปสังกัดเป็นแพทย์ประจำ หรือ Past Time ในการดูแลรักษาตามคุณสมบัติเฉพาะที่ตัวเองร่ำเรียนมา โดยหากเปิดไปในหน้าโฆษณาย่อย ของหนังสือพิมพ์รายวัน  นอกจากนี้ยังมีตามอินเตอร์เน็ต หนังสือรับสมัครงานต่างๆ ก็ลงทุนซื้อโฆษณากันให้รึ่ม

 

 

มติชนออนไลน์ สำรวจประกาศรับสมัครงานในหน้าน.ส.พ. พบว่า มีการซื้อหน้าโฆษณาแทบจะทั้งหน้า   ที่มีทั้งสถานพยาบาลน้อยใหญ่ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด ซื้อโฆษณาเพื่อตามหาบุคคลากรมาทำหน้าที่รักษา โดยบางรายเสนอราคาค่าตอบแทนการรักษาในโฆษณาประกาศรับสมัครหมอ การันตีรายได้ถึง 8,000 บาท ต่อวัน (ว้าว!!)

 

 

ก่อนหน้านี้ นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผย ตัวเลขน่าตกใจว่า ตามแผนแม่บทกำลังคนด้านสาธารณสุข ปี 2554 ทั่วประเทศ มีความต้องการแพทย์ 40,620 คน โดยในส่วนของ สธ.ต้องการแพทย์ 22,855 คน ปัจจุบันมีแพทย์แล้ว 13,083 คน ยังขาดอีก 9,772 คน โดยขณะนี้แพทย์ 1 คน ดูแลประชากรเฉลี่ย 7,000 คน

 

 

ปัจจุบัน นักเรียนแพทย์ จะต้องทำงานรับใช้ทุน 3 ปี หรือ ถ้าจะไม่อยากใช้ทุน ก็ต้องจ่ายเงิน 400,000 บาท ผลก็คือ พ่อแม่  หรือ โรงพยาบาลต้องยินดีจ่ายเงินแค่ 4 แสนบาท เพื่อไม่ต้องใช้ทุนให้ยากลำบาก

 

 

เพราะความต้องการแพทย์ที่ขาดแคลนเฉียดหมื่นคน ทำให้หมอมีค่าตัวสูงมากขึ้นกว่าทุกวิชาชีพ เพียงออกมา" เมก มันนี่ ) เพียงไม่นานก็มีเงินเป็นล้านแล้ว 

 

 

 

ภาวะสมองไหลของแพทย์ “หนี” การใช้ทุน ที่เพิ่มสูงขึ้นจนน่าวิตก !!! 

 

 

 

ไม่ต้องพูดถึงการขาดแคลนหมอในต่างจังหวัด เพราะหมอฝีมือดีต่างถูกสูบมาอยู่ในโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพ

 

 

 

 ก่อนหน้านี้ น.พ. สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ  เสนอว่า ควรเพิ่มค่าปรับจาก 4 แสนบาท เป็น  10 หรือ 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการใช้ทุนของแพทย์นาน 3 ปี เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตการขาดแคลนแพทย์ภาครัฐ

 

 

จากค่าปรับ 4 แสนเป็น 20 ล้านบาท แก้ปัญหา แพทย์ขาดแคลน ได้หรือไม่ ?

 

 

ใครตอบได้ ช่วยบอกที !!!

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309080929&grpid=01&catid=&subcatid= (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1309080929&grpid=01&catid=&subcatid=)

แค่สี่แสนเอง โหย......น้อยไปมั้ยครับ เคยได้ยินว่าการผลิตหมอ1คน ใช้เงินภาษีนับล้านบาท  ???

เหมือนกับปัญหานักบินของการบินไทยเลยครับ.....(นักบินบางส่วน)  ;D ;D ;D

วันละ ๘,๐๐๐ บาท...

ทำงานแค่สี่วันเท่าเงินเดือนผมทั้งเดือนแล้วครับ... ::005::

โชคดีที่เราไม่ใช่หมอฝีมือดี เลยยังไม่ถูกดูดไป...ฮา... ::007::

 ;D ผมไม่เชื่อหรอก แต่พี่ไม่ไปเองล่ะผมเชื่อ :DD

พี่รุตไม่เก่งหรอก ไม่เชื่อก็ไปถามพวกรายรับวันละ8,000ที่พี่รุตเป็นคนปั้นมากับมือดูดิ  ::005::

                         จำพวกโรงพยาบาลหรือคลินิกเสริมความงามเท่านั้นแหละ ....... แหล่งดูดเงินจากพวกสวยไม่จบ

เพื่อนผมคนนึง เสริมสวยเท่าไรไม่ว่า ไปกันได้ทุกเสาร์อาทิตย์ ไปแล้วชอบมาคุยให้ฟังว่าดีอย่างโน้นดีอย่างงี้ หมดเงินไปเดือนละหลายพัน หมดเครื่องสำอางไปเป็นหมื่นๆ แต่ลูกขอตังค์ซื้อไอติม 20 บาทแกด่าเช็ด ผมเห็นแล้วเซ็งเลยต้องซื้อไอติมให้เด็กไปต่อหน้าเพื่อนคนนี้เลย ด่ามันด้วยวิธีนี้มันยังไม่รู้สึกเลยครับ ไปอบไอน้ำนวดหน้ามาคงเนียนแต่ผิวหน้าแต่จิตใจคงจะด้าน 555

ผมว่าบางคนยิ่งทำยิ่งหน้าแปลก ฉีดตรงนั้นตรงนี้ จนหน้าตาเปลี่ยน ไม่เห็นสวยเลย สู้แบบธรรมชาติไม่ได้ บางคนทำซะจนหน้าแก่ไปเลยก็มี  ::010::

เวทนาสังขารครับ คือมีอาวรณ์ในสังขารบ่ายโมง และไม่สามารถใช้ชีวิตโดยปราศจากการแต่งเติม

หมอ รพ.รัฐบาล  ตจว.   คิดคร่าวๆแล้ว  ขึ้น1เวร   ได้ 4-5,000บาท   
เงินOT + วิชาชีพ + เงินตำแหน่ง ไม่ทราบ....
ถ้าขึ้นเวรกลางคืน ก็แค่นอนรออยู่ที่ห้องพัก   จนกว่าจะมีเคสที่พยาบาลรับไม่ไหวจริงๆ ถึงออกโรง
บางครั้งก็แค่โทรคุยกับพยาบาล ว่าไห้จัดการยังไง..หรือถ้าจัดการไม่ได้จริงๆก็ส่ง รีเฟอร์ ย้ายตัวเข้ารพ.ไหญ่ในตัวเมือง

พยาบาล (ข้าราชการ ระดับ7)   คิดคร่าวๆ ขึ้น1เวร ได้ 750บาท (ถ้าเวรดึก+250 ,  วันหยุด 2 เท่า)  
เงินเดือน+เงินOT+เงินวิชาชีพ+เงินตำแหน่ง(C7)   เบ็ดเสร็จได้ประมาญ 26,000บาท
ทำทุกอย่าง แทบจะแทนหมอเลย  ยกเว้นเวลาผ่าตัด

อัตราส่วนหมอต่อประชากรไทยในปัจจุบันอยู่ที่ เกือบๆ 1: 7000

หมอดีมี หมอห่วยมี หมอไม่ใช่พยาาล และพยาบาลไม่ใช่หมอ

แต่ละอาชีพมีความเชี่ยวาญเฉพาะทาง

กฎหมายใหม่ หมอมีอัตราเสี่ยงสูงมาก

หลายๆท่านเลยผันตัวเองออกไปในสายอื่น

เดินไปร้านทำหน้าที่มีหมอประจำ ท่านรู้ตัวเลขแล้วจะตกใจ

หมอแต้มสิว หมอขายคอร์ส เดือนละสองแสนห้า

หมอราชการเงินเดือนสองหมื่นกว่า ทำผิดติดคุก แล้วหมอจะไปทางไหน ไม่ต้องคิดมากครับ มันมีทางของมัน

เฮ้อ  ปลง.....พูดไม่ออก ไอ แฮบ โน ไอเดีย ::004:: ::004:: ::004::

+ทุกท่านครับ   ;D

เคยดูรายการวู๊ดดี้ คุยกับ1ใน3เจ้าของ เป็นเด็กหนุ่มธรรมดาคนนึง ไม่กี่ปี วันนี้มูลค้าหุ้นของคลีนิคนี้เกิน6พันล้านครับ แสดงว่าธุรกิจนี้ทำเงินจริงๆ


วันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 08:33:58 น. 
บิ๊กร.พ.-แกรมมี่ทาบซื้อ"วุฒิ-ศักดิ์" เทพันล้านต่อยอดธุรกิจความงามShare4


"แกรมมี่-บิ๊กโรงพยาบาล" ทาบซื้อ "วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก" ผู้นำตลาดความงาม มูลค่ากว่าพันล้านบาท หวังต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่ม ขยายฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ คาดดีลจบเร็ว ๆ นี้ หุ้นส่วนใหญ่เผยอยู่ระหว่างเจรจา เตรียมพร้อมเปิดเสรีอาเซียน หลังธุรกิจโตก้าวกระโดด เปิดแล้ว 100 กว่าสาขา สร้างรายได้นับพันล้าน


แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจความงามเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้มีนักธุรกิจรายใหญ่หลายรายได้แสดงความสนใจที่จะซื้อกิจการแบรนด์ "วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก" กันอย่างคึกคัก เพราะเชื่อว่าคลินิกความงามแบรนด์ดังกล่าวจะสามารถช่วยต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มในธุรกิจเดิมได้มากขึ้น

เจ้าของธุรกิจที่ให้ความสนใจนั้นมี 2-3 กลุ่มหลัก ๆ อาทิ ค่ายเพลงระดับประเทศ เจ้าของธุรกิจโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะโรงพยาบาลระดับท็อปทรี ส่วนมูลค่าการซื้อขายนั้นคาดว่าไม่น่าจะไม่ต่ำกว่าพันล้านบาท

รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก จะขายแบรนด์ให้ผู้ประกอบการรายอื่น เพราะมองเห็นโอกาสใหม่ หลังสร้างแบรนด์วุฒิ-ศักดิ์จนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการกล่าวถึงอยู่เป็นระยะ ๆ และได้เงียบหายไปพักหนึ่ง แต่มาระยะ 1 เดือนที่ผ่านมามีข่าวหนาหูว่า อาจจะมีการซื้อขายกิจการกันจริง แต่ดีลจะจบแบบไหน ยังไม่มีใครตอบได้ เพราะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเจรจา

แหล่งข่าววงในอีกรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ในวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ที่ถือหุ้นในสัดส่วนเท่า ๆ กัน คือประมาณ 33.33% จะตัดสินใจขายหุ้นทิ้งบางส่วนประมาณ 20% เพราะต้องการถือเงินสดไว้ในมือ และยังคงถือหุ้นไว้เพียง 10% กว่า ๆ ขณะที่ผู้ถือหุ้นบางส่วนก็อยากขายหุ้นในส่วนน้อยเพราะเสียดาย

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" ได้สอบถามข้อเท็จจริงจาก น.ส.ปุญญาพร ธนัชชวลัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับคำตอบสั้น ๆ ว่า "ก็มีหลายรายพูดคุยกันอยู่ ขอให้ใจเย็น ๆ เพราะเป็นดีลที่มีความละเอียดอ่อน"

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีค่ายแกรมมี่จริงหรือไม่ นางปุญญาพรไม่ตอบและไม่ปฏิเสธ ได้แต่อมยิ้ม พร้อมกล่าวเสริมว่า "ถ้าบอกชื่อไป คุณต้องร้องอ๋อทันที เพราะคนที่สนใจจะซื้อแบรนด์เรา ซื้อธุรกิจเรา ถือว่าเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงมาก บอกได้เท่านี้ ไม่ขอพูดอะไรมาก ขอตัวก่อน"

ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2554 ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท เอราวัณ ทางธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดงานสัมมนาใหญ่ หัวข้อ "SCB SME IEP Seminar เคล็ด (ไม่) ลับ...สู่ความสำเร็จ ตอน "ของดี...ขายอย่างไรให้รวย" ได้เชิญนายณกรณ์ กรณ์หิรัญ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มาบรรยายถึงความสำเร็จในธุรกิจความงาม

ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมาก เพราะซีอีโอวุฒิ-ศักดิ คลินิก มีอายุเพียง 35 ปี และสามารถสร้างฐานะได้เร็ว โดยเติบโตมาจากคลินิกความงามย่านงามวงศ์วานที่ลงทุนร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน คนหนึ่งเป็นหมอ อีกคนหนึ่งเป็นสถาปนิก

นายณกรณ์กล่าวว่า จากวันแรกที่เคยเปิดธุรกิจมีผู้มาใช้บริการแค่ 40 คน ทำรายได้เพียงวันละ 1,000 บาท แต่ภายใน 11 ปีมานี้ วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ขยายการลงทุนมากขึ้นและรวดเร็ว เพราะผลตอบรับจากตลาดดีมาก ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 3,000 คน และสามารถขยายสาขามากกว่า 100 สาขาแล้ว โดยมีรายได้ระดับพันล้านบาท

"ขณะนี้เรามีแผนจะขยายสาขาธุรกิจความงามไปต่างประเทศ เพราะแบรนด์วุฒิ-ศักดิ์ มีความแข็งแกร่งขึ้น และเราต้องเตรียมพร้อมไปสู่การเปิดตลาดเสรีในปี 2558"

ผู้สื่อข่าวถามถึงข่าวการถูกทาบทามในการซื้อกิจการวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก จากค่ายแกรมมี่และบิ๊กเจ้าของโรงพยาบาล นายณกรณ์ขอไม่ตอบเรื่องนี้

นอกจากนี้ วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ยังได้เปิดตลาดผลิตภัณฑ์ประเภทสกินแคร์และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ อาทิ Wuttisak Gluta Healthi (วุฒิศักดิ์ กลูตา เฮลติ) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ผลิตจากน้ำองุ่นเข้มข้นผสม แอล- กลูตาไธโอน ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และผ่านการรับรองจาก อย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1308706472&grpid=&catid=11&subcatid=1100 (http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1308706472&grpid=&catid=11&subcatid=1100)

 ;D

โรงพยาบาลโหมลงทุนรับตลาดโต ค่ายใหญ่ทุ่มเสริมทัพ"พยาบาล"หวั่นบริการสะดุดShare 

ธุรกิจโรงพยาบาลโตต่อเนื่อง รายใหญ่ควักกระเป๋าลงทุนขยายบริการ"กรุงเทพ-บำรุงราษฎร์-สมิติเวช-รามคำแหง" เดินหน้าขยายวอร์ด-เพิ่มจำนวนเตียง-เปิดศูนย์เฉพาะทางเพิ่ม หวั่น "พยาบาล" ขาดทำธุรกิจสะดุด เสนอเงินเดือนงาม แถมสวัสดิการเพียบหวังจูงใจ


การเติบโตของธุรกิจโรงพยาบาลที่มีตัวเลขเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20-25% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นอกจากปัจจัยทางเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นตัวเกื้อหนุนแล้ว ในส่วนของชาวต่างชาติก็เข้ามาใช้บริการมากขึ้น และผู้เกี่ยวข้องหลาย ๆ ฝ่ายต่างมั่นใจว่าธุรกิจจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และได้เริ่มลงทุนขยายบริการและเตรียมความพร้อมในทางบุคลากร เพื่อรองรับความต้องการของทั้งคนในประเทศและชาวต่างประเทศที่เป็นผลมาจากการเปิดเสรีด้านบริการสุขภาพของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558

เดินหน้าลงทุนรับคนไข้เพิ่ม

นายแพทย์ศิริพงษ์ เหลืองวารินกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากแนวโน้มของธุรกิจโรงพยาบาลที่ยังมีศักยภาพที่จะเติบโตอีกมาก กลุ่มรามคำแหงจึงมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้ลงทุนตึกใหม่เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงและขยายวอร์ดผู้ป่วยเพิ่ม ขณะที่ ร.พ.ในเครือหลาย ๆ แห่งก็มีการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจและบริการ เช่น ร.พ.สุขุมวิทขึ้นตึกใหม่ เพิ่มเตียงเป็น 350 เตียง จากเดิมที่มี 70 เตียง รวมทั้งจะมีการเปิดศูนย์เฉพาะทางต่าง ๆ เพิ่มเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

"4-5 ปีที่ผ่านมา ร.พ.มีการเติบโตมากจึงได้ลงทุนเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์กันมาก ปัจจุบันทุกโรงต่างก็มีเครื่องมือแพทย์สมัยใหม่ที่ไม่ต่างกัน จึงหันมาเปิดคลินิกเฉพาะทางมากขึ้น ตอนนี้เทรนด์ใหม่ของ ร.พ.อยู่ที่ว่าจะสามารถนำส่งผลิตภัณฑ์ให้คนไข้รู้สึกถึงความห่วงใยและประสบการณ์ที่ดีได้อย่างไร จึงหันมาลงทุนในเรื่องของคน เพราะคนจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างความต่างจากตลาด"

ขณะที่นายแพทย์พิชิต กังวลกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลภาคตะวันออกประกอบด้วย ร.พ.กรุงเทพ พัทยา, ระยอง, จันทบุรี และตราดกล่าวว่า ขณะนี้กลุ่ม ร.พ.กรุงเทพภาคตะวันออกให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจและการพัฒนาขีดความสามารถในการรักษาเฉพาะทาง จึงมีนโยบายรับพยาบาลเพิ่มทุกปีโดยเฉพาะพยาบาลดูแลผู้ป่วยอาการหนัก ไอซียู ผ่าตัด

"ตั้งแต่ต้นปีทั้ง 4 โรงรับพยาบาลเพิ่มประมาณ 130 อัตรา โดยเฉพาะพัทยาที่ขยายแผนกใหม่เพิ่ม ขณะเดียวกันก็มีการประชาสัมพันธ์ตามสถาบันการศึกษาและมอบทุนการศึกษา ส่วนพยาบาลที่มีอยู่เดิมก็มีการปรับค่าตอบแทน ค่าความชำนาญการพิเศษ และมีการส่งไปศึกษาต่อต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.พ.กรุงเทพ ราชสีมา เป็นอีก ร.พ.หนึ่งที่มีการเติบโตสูง และมีแผนจะเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับคนไข้ รวมทั้งการปรับคลินิกที่ปากช่องให้เป็น ร.พ.ขนาด 30 เตียง ขยายแผนกผู้ป่วยฉุกเฉินและเปิดคลินิกเพิ่มอีก 1 แห่งที่มวกเหล็ก และยังมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2-3 แห่ง

นอกจากการขยายบริการเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ที่ผ่านมาหลายแห่งได้เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดเออีซีที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่ ปี 2558 อาทิ ร.พ.บีเอ็นเอช ที่ได้ลงทุนเปิดศูนย์โรคกระดูกและข้อ เพิ่มห้องผ่าตัด รวมถึงการขยายศูนย์เดิมที่มีอยู่ให้มีขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น เช่น แผนกกุมารเวช การเพิ่มวอร์ดไอซียู

ขณะที่ ร.พ.เจ้าพระยามุ่งไปที่การขยายศูนย์แพทย์เฉพาะทางเที่ยงคืน และศูนย์แพทย์เฉพาะทาง 24 ชั่วโมง อาทิ ศูนย์ระบบทางเดินอาหาร ศูนย์ หู คอ จมูก รวมถึงโรงพยาบาลเด็ก 24 ชั่วโมง ร.พ.เวชธานี ขยายศูนย์กุมารเวช และศูนย์มะเร็ง

เร่งแก้ปมพยาบาลขาด

จากการเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องดังกล่าว ส่งผลให้บุคลากรโดยเฉพาะพยาบาลที่ผลิตออกมาในแต่ปีที่มีประมาณ 8,000-9,000 คน มีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ทำให้ ร.พ.ต่าง ๆ ต้องวางแผนการเตรียมบุคลากรไว้รองรับทั้งในแง่ของการรักษาคนเดิมที่มีอยู่ไว้และรับบุคลากรที่ขาดเข้ามาเพิ่ม

นายธีรวุฒิ หัวแท้ ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัทโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทยอมรับว่าจำนวนพยาบาลที่จบใหม่ไม่สัมพันธ์กับธุรกิจด้านสุขภาพที่มีการขยายตัวมาก จึงเกิดการแชร์บุคลากรขึ้น อาทิ โรงพยาบาลเอกชน สถาบันความงาม คลินิกทั่วไป ประกันชีวิต บริษัทยา ฯลฯ ที่มีขาดแคลนมากที่สุด ได้แก่ พยาบาลเฉพาะทาง ประจำห้องฉุกเฉิน, ห้องผู้ป่วยวิกฤตหรือไอซียู, ห้องผ่าตัด, สูตินรีเวช

"เพื่อรักษาพนักงานไว้ ร.พ.จึงต้องเพิ่มสวัสดิการ โบนัส ปรับค่าจ้าง รวมทั้งการให้ทุนการศึกษาต่อและดูงานต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็มีการเปิดรับสมัครตลอดปีเพื่อขึ้นทะเบียนไว้กรณีที่มีอัตราว่าง"

นางภาวิณี รุจิพัฒนกุล ผู้อำนวยการสายงานการพยาบาล โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์กล่าวว่า พยาบาลมีอายุการทำงานค่อนข้างสั้น และแนวโน้มการลาออกหรือเปลี่ยนงานสูง ซึ่งบำรุงราษฎร์ได้มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของบุคลากรเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางเดียวกับการขยายธุรกิจ และมีการวางแผนพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการมีสวัสดิการต่าง ๆ จูงใจ อาทิ มีหอพักให้ จัดอบรมภาษาอังกฤษฟรี ปรับเพิ่มเงินเดือนตามกำหนดระยะเวลาทำงาน เพิ่มโอกาสการเติบโตทางวิชาชีพ สวัสดิการการรักษาและครอบครัว

"ปีนี้เราจะมีทั้งการเพิ่มวอร์ดใหม่ การเพิ่มจำนวนเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน จึงต้องการพยาบาลเพิ่มอีกประมาณ 300 อัตรา จากปัจจุบันมีพยาบาล 800 คน

นายแพทย์ดุลย์ ดำรงศักดิ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์กล่าวว่า กลุ่มสมิติเวชมีการขยายบริการใหม่ต่อเนื่อง เมื่อต้นปีสาขาสุขุมวิทได้เปิดศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวมครบวงจร ขณะที่ สาขาศรีนครินทร์เปิดศูนย์กระดูกสันหลังและข้อ มีการรับสมัครบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาลทั่วไป และเฉพาะทางสม่ำเสมอ เพื่อให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ

"สมิติเวชมีกลุ่มลูกค้าต่างชาติจำนวนมาก จึงให้ความสำคัญกับการส่งไปดูงานในประเทศต่าง ๆ เพื่อจะนำมาปรับใช้กับบริการ"

นายแพทย์นิธิ มหานนท์ ซีอีโอสถาบันหัวใจเพอร์เฟคฮาร์ท และกรรมการโรงพยาบาลปิยะเวทกล่าวว่า ปิยะเวทขาดแคลนพยาบาลทุกสาขา ทั้งทั่วไปและเฉพาะทาง แต่ที่มีความต้องการมากก็คือพยาบาลเฉพาะทางในห้องผ่าตัด ซึ่งมีวิธีการบริหารด้วยการมอบทุนนักเรียนพยาบาลและนักเรียนผู้ช่วยพยาบาล ขณะเดียวกันก็มีการปรับเรื่องค่าตอบแทน สวัสดิการและโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาต่อทางวิชาการ


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1308231095&grpid=&catid=11&subcatid=1100 (http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1308231095&grpid=&catid=11&subcatid=1100)

ข้อมูลเรื่องอัตราค่าตอบแทนนอกเวลาสำหรับแพทย์น่าจะผิดพลาดครับ...

อันที่จริงกระทรวงสาธารณสุขระบุไว้ชัดเจนถึงอัตราค่าตอบแทนอยู่ที่เวรละ ๘๐๐-๙๐๐ บาท...

ขึ้นอยู่กับลักษณะงานครับ...

ส่วนที่เห็นเงินเดือนและค่าตอบแทนแพทย์สูงกว่าพยาบาลมากนั้น...

มันมาจากค่าตอบแทนส่วนอื่นครับ...

อาทิ...เงินทดแทนส่วนที่ไม่ประกอบกิจการส่วนตัว เบี้ยกันดาร เงินสาขาวิชาชีพขาดแคลนครับ เงินพตส. ...

ส่วนมากแล้วแพทย์ที่ได้รับเงินตอบแทนค่อนข้างมากคือกลุ่มแพทย์ที่เสียสละไปอยู่โรงพยาบาลชุมชนครับ...

ผมอยากให้พยาบาลได้ค่าตอบแทนมากขึ้นกว่าเดิมเหมือนกันครับ...

เพราะที่รพ.ที่ผมทำงานอยู่ น้องพยาบาลจบใหม่ๆทำงานปีเดียวลาออกกันหลายๆคนทุกปี... :D