
ไม่ใช่เซียนมีด เป็นแค่คนรักมีด ขอตอบก่อนแล้วกันครับ
- ส่วนมากแล้วคนที่ซื้อมีดไว้ใช้จะดูวัสดุที่ใช้ทำมีดเป็นองค์ประกอบหลัก จริงอยู่ครับว่าถ้าเราได้ใบมีดที่ทำจากเหล็กชั้นดีจะได้ความคม และการรักษาคมที่ดี แต่เหล็กก็ยังมีข้อดีและข้อแย้งขัดกันเอง เช่น ถ้าแข็งมากมักจะเปราะ เคยอ่านบทความของ นายโจ ทาลมาดจ์ เขียนไว้เรื่องเกี่ยวกับเหล็ก แปลโดย คุณ.thaPIXIE แปลไว้ให้ที่ไทยเบรด ดังนี้
Steelเหล็กกล้า
Author: Joe Talmadgeผู้แต่ง: โจ ทาลมาดจ์
Source: rec.knives Newsgroupที่มา: rec.knives Newsgroup
May 1998พฤษภาคม 1998
Let me start with my bibliography. I got the knowledge for this FAQ from my own experience as a collector and amateur knifemaker, and from countless conversations with custom makers. I've also read countless articles on steels, but here are the four that I actually had in front of me:ขอให้ข้าพเจ้าได้เริ่มจากการกล่าวถึงบรรณานุกรม*ส่วนตัวของข้าพเจ้าก่อน ผมได้ความรู้ในการทำการรวมคำถามและคำตอบ**นี้จากประสบการณ์ส่วนตัวที่เป็นนักสะสม เป็นช่างทำมีดมือสมัครเล่น และการได้พูดคุยนับครั้งไม่ถ้วนกับช่างทำมีด อีกทั้งข้าพเจ้ายังได้อ่านหนังสือมากมายเหลือคณานับเกี่ยวกับเหล็ก แต่ที่จะกล่าวต่อไปนี้คือสี่เล่มที่ผมมีอยู่ตรงหน้า
*(รายชื่อหนังสืออย่างเช่นที่ท้ายหนังสือทั้งหลายลงที่มาของข้อมูลต่างๆในเล่ม: ผู้แปล)
**(FAQ: Frequently Asked Question/ คำถามที่พบบ่อย: ผู้แปล)
Bob Engnath's Blades and Stuff Catalog. Bob's catalog is a must-see for everyone, even for just collectors, as it contains a wealth of information on all kinds of great knife subjects. There is a section on knife steels. I think this is still $5, so call and order it 818-956-5110. "The Secrets of Steel," by Butch Winter, Tactical Knives, Spring 1995. "What Alloys Do For Blade Steel," by Wayne Goddard, Blade, June 1994. Email conversation with Wayne Goddard, February 1998.หนังสือ "Bob Engnath's Blades and Stuff Catalog": แคตตาลอกเล่มนี้เป็นหนังสือที่ทุกคนสมควรจะได้ดู แม้จะเป็นแค่นักสะสมมีดก็ตาม ด้วยที่ว่าหนังสือเล่มนี้เปี่ยมไปด้วยข้อมูลของมีดชั้นเลิศนานาชนิด ในเล่มมีหัวข้อหนึ่งกล่าวถึงเหล็กสำหรับทำมีด ข้าพเจ้าคาดว่าตอนนี้ราคายังคงอยู่ที่5เหรียญ ดังนั้นจงโทรศัพท์ไปสั่งมาเสีย ที่หมายเลข 818-956-5100 หนังสือ "The Secrets of Steel" โดย Butch Winter เกี่ยวกับมีดรณยุทธ์ พิมพ์เมื่อ ฤดูใบไม้ผลิ ปี1995
หนังสือ "Whay Alloys Do For Blade Steel" โดย Wayne Goddard เกี่ยวกับมีด เขียนเมื่อมิถุนายน ปี1994
ข้อสนทนาทางจดหมายอิเลคทรอนิคกับ Wayne Goddard กุมภาพันธ์ 1998
Also worth reading: อีกที่น่าอ่าน:
A. G. Russell's FAQ pages
Spyderco's steel pages
Malex's steel composition (ไม่สามารถเข้าถึงได้อีกต่อไป)
Crucible's web page
www.knives.com (มีเรื่องน่าสนใจมากมาย แต่ขอแนะนำให้ไปที่ "Tech"จากนั้นไปที่ "Steel")
Kevin Wilkins มีข้อมูลเรื่องชื่อของเหล็ก
One thing to keep in mind is that there's more to knife performance than the steel. The blade profile is also important (a tanto format isn't the best choice to skin a deer, for
example). But perhaps most important is the heat treatment. A good solid heat treatment on a lesser steel will often result in a blade that outperforms a better steel with inferior heat treatment. Bad heat treatment can cause a stainless steel to lose some of its stainless properties, or cause a tough steel to become brittle, etc. Unfortunately, of the three most important properties (blade profile, steel type, heat treatment), heat treatment is the one that is impossible to .s by eye, and as a result excessive attention is sometimes paid to the other two.สิ่งหนึ่งที่ต้องระลึกไว้เสมอคือ มันมีอะไรอีกมากมายเกี่ยวกับสมรรถนะของมีดที่นอกเหนือจากเหล็ก รูปแบบของใบมีดก็สำคัญ(ใบตันโตะไม่ใช่ทางเลือกที่เข้าท่าสำหรับการแล่หนังกวางเป็นต้น) แต่บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดอาจจะเป็นการปรับปรุงคุณสมบัติของเหล็กด้วยความร้อน(heat treatment) การทำ heat treatment อย่างเต็มรูปแบบกับเหล็กคุณภาพต่ำย่อมก่อให้เกิดประสิธิภาพที่ดีกว่าการทำ heat treatment อย่างครึ่งๆกลางๆกับเหล็กคุณภาพสูง การทำ heat treatment ผิดวิธีอาจทำให้เหล็กปลอดสนิมสูญเสียคุณสมบัติการปลอดสนิมได้ หรืออาจทำให้เหล็กที่เคยทนทานกลับเปราะแตกได้ง่าย แต่โชคร้ายที่หนึ่งในสามสิ่งสำคัญ(คือ ลักษณะใบมีด, ชนิดของเหล็ก และheat treatment) อย่างการทำ heat treatment นั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่า และมักไม่ได้รับการให้ความสนใจเท่าสองสิ่งที่เหลือ
Remember also to keep your particular application in mind. 440A is often scoffed at, but I'd rather have my salt water dive knife made of 440A than L-6. Properly heat treated 5160 is wonderfully tough, but if my application is skinning deer, I'm probably more interested in edge holding ala 52100. And on and on.อีกทั้งยังต้องระลึกถึงลักษณะการใช้งานในรูปแบบต่างๆไว้ด้วย 440A มักจะโดนดูแคลนเสมอ แต่กระนั้นข้าพเจ้าก็ยังใช้ 440A ทำมีดดำน้ำเค็มแทน L-6 อยู่ดี การปรับคุณสมบัติด้วยความร้อนอย่างเหมาะสมกับ 5160 ให้ความแข็งแกร่งอย่างวิเศษ แต่ถ้าการใช้งานประเภทแล่หนัง ข้าพเจ้าจะชื่นชอบการรักษาคมของมีดแล่ 52100 มากกว่า เป็นต้น
Steel Alloys: At its most simple, steel is iron with carbon in it. Other alloys are added to make the steel perform differently. Here are the important steel alloys in alphabetical order, and some sample steels that contain those alloys:เหล็กกล้าโลหะผสม: ว่ากันอย่างง่ายที่สุดก็คือ เหล็กกล้า คือเหล็กที่มีคาร์บอนผสมอยู่ โลหะผสมอื่นๆใส่เพิ่มเข้าไปเพื่อปรับให้เหล็กกล้านั้นๆมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันไป ต่อไปนี้คือ เหล็กกล้าโลหะผสมที่สำคัญๆ เรียงตามลำดับอักษร และตัวอย่างของเหล็กที่มีโลหะผสมนั้นๆ
Carbon: Present in all steels, it is the most important hardening element. Also increases the strength of the steel. We usually want knife-grade steel to have >.5% carbon, which makes it "high-carbon" steel. Chromium: Added for wear resistance, hardenability, and (most importantly) for corrosion resistance. A steel with at least 13% chromium is deemed "stainless" steel. Despite the name, all steel can rust if not maintained properly. Manganese: An important element, manganese aids the grain structure, and contributes to hardenability. Also strength & wear resistance. Improves the steel (e.g., deoxidizes) during the steel's manufacturing (hot working and rolling). Present in most cutlery steel except for A-2, L-6, and CPM 420V. Molybdenum: A carbide former, prevents & maintains the steel's strength at high temperatures. Present in many steels, and air-hardening steels (e.g., A-2, ATS-34) always have 1% or more molybdenum -- molybdenum is what gives those steels the ability to harden in air. Nickel: Used for strength, corrosion resistance, and toughness. Present in L-6 and AUS-6 and AUS-8. Silicon: Contributes to strength. Like manganese, it makes the steel more sound while it's being manufactured. Tungsten: Increases wear resistance. When combined properly with chromium or molybdenum, tungsten will make the steel to be a high-speed steel. The high-speed steel M-2 has a high amount of tungsten. Vanadium: Contributes to wear resistance and hardenability. A carbide former that helps produce fine-grained steel. A number of steels have vanadium, but M-2, Vascowear, and CPM T440V and 420V (in order of increasing amounts) have high amounts of vanadium. BG-42's biggest difference with ATS-34 is the addition of vanadium.คาร์บอน: ปรากฏอยู่ในเหล็กกล้าทุกประเภท เป็นตัวทำแข็งที่สำคัญและยังเพิ่มความแข็งแกร่งของเหล็กกล้า โดยทั่วไปเรามักจะต้องการให้เหล็กกล้าระดับที่ใช้ทำมีดมีส่วนผสมของคาร์บอนมากกว่า5% นั่นทำให้เหล็กนั้นกลายเป็นเหล็กกล้าคาร์บอนสูง/
โครเมี่ยม: ผสมลงไปเพื่อความทนทานต่อการใช้งาน และเพิ่มความสามารถในการชุบแข็ง และที่สำคัญที่สุดคือต้านทานการกัดกร่อน(เช่นoxidation คือการถูกกัดกร่อนโดยออกซิเจนโดยออกซิเจนจะดึงอิเลคตรอนในเหล็กออกมาเกิดการรวมตัวเป็นองค์ประกอบใหม่ที่เรียกว่าสนิม*เป็นต้น: ผู้แปล) เหล็กกล้าที่มีโครเมียมอยู่13%ขึ้นไปถูกขนานนามว่า"เหล็กกล้าปลอดสนิม"(stain: คราบ, รอยสกปรก, สนิม/ -less: ปลอดจาก, ปราศจาก: ผู้แปล) แต่ชื่อก็เป็นเพียงแค่ชื่อ เหล็กกล้าทุกประเภทเป็นสนิมได้ทั้งนั้นหากไม่รักษาให้ถูกวิธี/
แมงกานีส: องค์ประกอบสำคัญ ช่วยเป็นโครงสร้างเนื้อหยาบในเนื้อเหล็ก เอื้อความสามารถในการชุบแข็ง อีกทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งทนทานต่อการใช้งาน ช่วยรักษาเหล็ก(เช่นต่อต้านการ oxidize)ในกระบวนการผลิต(เช่น การผลิตที่ต้องใช้ความร้อนสูง และการม้วนเหล็ก) พบทั่วไปในเหล็กกล้าที่ใช้ผลิตอุปกรณ์ตัดเฉือน ยกเว้น A-2, L-6 และ CPM 420V/
โมลิบดีนั่ม: เป็นตัวก่อคาร์ไบด์(คือการที่อะตอมของธาตุจับกับอะตอมของคาร์บอน) ช่วยคงความแข็งแรงของเหล็กกล้าที่อุณหภูมิสูง พบในเหล็กกล้าหลายประเภท และเหล็กกล้าที่ชุบแข็งด้วยอากาศ(เช่น A-2, ATS-34) จะประกอบด้วยโมลิบดีนัมอย่างน้อย1%เสมอ โมลิบดินัมคือสิ่งที่ช่วยให้เหล็กชุบแข็งด้วยอากาศได้/
นิกเกิล: ช่วยเพิ่มความแข็ง ทนการกัดกร่อน ทนทานต่อการใช้งาน พบใน L-6 AUS-6 และ AUS-8/
ซิลิคอน: ช่วยเพิ่มความแข็ง เช่นเดียวกับ แมงกานีส ช่วยคงสภาพเหล็กกล้าระหว่างผ่านกระบวนการผลิต/
ทังสเตน: เพิ่มความทนทานต่อการใช้งาน เมื่อรวมกับโครเมียม และโมลิบดีนัมอย่างเหมาะสม ทังเสเตนจะทำให้เหล็กล้ากลายเป็นเหล็กกล้าความเร็วสูง(ในที่นี้หมายถึงการนำไปใช้งาน เช่นการนำไปผลิตเป็นใบเลื่อยความเร็วสูง หรือดอกสว่านความเร็วรอบสูง: ผู้แปล) เหล็กกล้าความเร็วสูง M-2 มีส่วนผสมของทังสเตนในปริมาณมาก/
วานาเดียม: เพิ่มความทนทานและความสามารถในการชุบแข็ง ตัวก่อคาร์ไบด์ชนิดนี้จะสร้างโครงสร้างให้เหล็กมีเนื้อละเอียด เหล็กกล้าจำนวนมากมีวานาเดียมเป็นองค์ประกอบ แต่ M-2, Vascowear, CMP T440V และ 420V(ขึ้นอยู่กับการเพิ่มปริมาณวานาเดียม) มีปริมาณวานาเดียมอยู่สูง ความแตกต่างที่เด่นชัดระหว่าง BG-42 กับ ATS-34 คือปริมาณวานาเดียมที่ผสมอยู่
*เหตุที่เหล็กชื้นหรือแช่น้ำเป็นสนิมเพราะ น้ำทำให้ออกซิเจนซึ่งมีอยู่ทั่วไปในอากาศแตกตัวเมื่อละลายน้ำ ออกซิเจนซึ่งมีอิเลคตรอนอยู่น้อยจะไปดึงอิเลคตรอนจากเหล็กออกมาทำให้โครงสร้างของเหล็กเปลี่ยนไป จะเห็นได้ว่าเหล็กที่เป็นสนิมจะมีเนื้อเหล็กหายไปเพราะเหตุที่กล่าวมา และอิเลคตรอนที่ดึงออกมาจะรวมตัวเป็นองค์ประกอบใหม่ที่เรียกว่าสนิม และเรื่องที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ออกซิเจนเป็นธาตุโลหะชนิดเดียวในโลกที่มีสถานะเป็นก๊าซ