กรณีนี้ มีคำพิพากษาศาลฎีกา ออกมาแล้ว ผมจำเลยฎีกาไม่ได้
กรณีนี้ มีคำพิพากษาศาลฎีกา ว่าไม่ผิด.. อย่าไปหลงเชื่อ ข่าวเฮ็งซวย แบบนี้

..

แก๊สพริกไทย มีไว้เพื่อป้องกันตัว เป็นวัตถุสำเร็จ ไม่ใช่ใช้ สูดดม หรือกิน แต่เจตนาเพื่อปกป้องตนเองจากภัยอันตราย ที่ไม่ถึงบาดเจ็บ
แต่เพื่อยับยั้ง แล้วเอาตัวหนีรอดออกมา
สภาพมันจึงไม่ใช่อาวุธ ดั่งมีด หรืออาวุธปืน อย่าไปตื่นตูม กันเลยครับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2031/2554
สเปรย์พริกไทย ผลิตขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้ฉีดพ่นเพื่อยับยั้งบุคคลหรือสัตว์ร้ายมิให้เข้าใกล้หรือทำอันตรายผู้อื่น ผู้ที่ถูกฉีดพ่นสารในกระป๋องสเปรย์ใส่จะมีอาการสำลัก จาม ระคายเคืองหรือแสบตา หลังจากนั้นไม่นานก็สามารถหายเป็นปกติได้ เห็นได้ว่า การผลิตสเปรย์พริกไทยดังกล่าว มิได้ผลิตขึ้นเพื่อทำร้ายผู้ใด จึงไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ ทั้งไม่อาจใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ สเปรย์พริกไทยจึงไม่เป็นอาวุธตามความหมายของ ป.อ. มาตรา 1 (5)
เรื่อง อาวุธ,ละเมิดอำนาจศาล,นำบทบัญญัติ ป.วิ.พ.มาใช้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕
ตาม ป.อ. มาตรา ๑ (๕) อาวุธหมายความรวมถึงสิ่งซึ่งไม่ใช่อาวุธโดยสภาพแต่ซึ่งได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุาร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ ผู้ถูกกล่าวหานำกระป๋องสเปรย์พริกไทยเข้าไปในบริเวณศาลชั้นต้น สำหรับสเปรย์พริกไทยได้ความว่า ผลิตขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการฉีดพ่นเพื่อยับยั้งบุคคลหรือสัตว์ร้ายมิให้เข้าใกล้หรือทำอันตรายผู้อื่น ผู้ที่ถูกฉีดพ่นสารในกระป๋องสเปรย์ใส่จะมีอาการ สำลัก จาม ระคายเคืองหรือแสบตา หลังจากนั้นไม่นาก็สามารถหายเป็นปรกติได้ เห็นได้ว่าการผลิตสเปรย์พริกไทยดังกล่าว มิได้ผลิตขึ้นเพื่อทำร้ายผู้ใด จึงไม่เป็นอาวุธโดยสภาพทั้งไม่อาจใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ สเปรย์พริกไทยจึงไม่เป็นอาวุธตามความหมายของบทกฎหมายข้างต้นด้วยเช่นกัน การที่ผู้ถูกกล่าวหาเข้าไปในบริเวณศาลชั้นต้นเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนายการสำนักงานประจำศาลชั้นต้นขอความร่วมมือไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาญจนบุรี การที่ผู้ถูกกล่าวหานำกระป๋องสเปรย์พริกไทยเข้าไปในบริเวณศาลชั้นต้น จึงไม่เป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล