จริงหรือเปล่าครับ?

>เพื่อนดิชั้นไปติดมาจากเมืองจีน แล้วกลับมาเสียชีวิตที่เปาโล!!!!!
เมื่อวันที่ 5 ม.ค ที่ผ่านมานี่เอง
> >โรคปอดอักเสบลึกลับที่กำลังแพร่ระบาดอยู่นี้ถึงเมืองไทยแล้ว
> >จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระบุชัดแล้วว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วจริงที่
> >รพ.ศิริราชและ รพ.เปาโลด้วยโรคระบาดดังกล่าว
> >แต่เพราะกลัวประชาชนจะตื่นตระหนกจึงไม่สามารถออกข่าวให้ประชาชนทั่วไปทราบได้
> >ถ้าใครคิดว่าเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องไกลตัว
>ขอให้คิดใหม่เพราะปัจจุบันวงการแพทย์ในสหรัฐอเมริกายังไม่สามารถระบุได้เลยว่าเ
ป็ > >ไวรัสชนิดใด!(เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะหายาแก้ก็ลืมไปได้เลย!!)
> >วิธีการแพร่ระบาด
> >ไอหรือจาม(เพราะฉะนั้นติดง่ายเหมือนหวัดทั่วไปมาก)
> >อาการของโรคเมื่อได้รับเชื้อ
> >จะมีอาการเหมือนป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ธรรมดา คือ จะมีไข้สูง (ประมาณ
38องศา) มีอาการปวดเมื่อยตามตัว
>และถ้าเชื้อขึ้นสมองก็จะมีเป็นไข้สมองอักเสบด้วยต่อมาจะเกิดมีอาการปอดบวมตามมา
แล > >เสียชีวิตในที่สุด
> >หากผู้ได้รับเชื้อไปถึงมือแพทย์ จะอยู่รอดได้ประมาณ 2 สัปดาห์
> >(โดยการประคองปอดให้ใช้งานได้)แต่หากไปไม่ถึงมือแพทย์จะอยู่ได้ไม่เกิน 48
> >ชั่วโมงเท่านั้น!!!> >วิธีการป้องกันเบื้องต้น > >1. หลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่ชุมชนจะดีมาก เพราะระยะฟักตัวของโรคจะประมาณ > >1สัปดาห์ เพราะฉะนั้นเราคงไม่อาจทราบได้ว่าใครติดเชื้อนี้มาแล้ว
> >2. หากมีผู้ใดไอหรือจามใกล้ๆ >ตัวโดยไม่ปิดปากให้รีบเอามือปิดจมูกและปากตัวเองโดยเร็วและหยุดหายใจชั่วขณะแล้วร> >บเดินออกไปห่างจากบริเวณนั้นโดยด่วน
> >ขอย้ำ!! งานนี้เพื่อตัวท่านเองและครอบครัวที่ท่านรักเพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจว่าใครจะหาว่ าเรารังเกียจนะครับ 3. สวมที่ครอบจมูกทำจากกระดาษที่มีขายอยู่ตามร้านค้าทั่วไป
> >จะช่วยสามารถป้องกันได้ระดับหนึ่ง >สาเหตุที่ไม่สามารถออกข่าวได้คงเพราะ
> >1. กลัวประชาชนในประเทศตื่นตระหนก > >2. เหตุผลทางการค้าของกิจการทั้งหลาย
> >เพราะถ้าออกข่าวไปคงมีคนไปโรงหนังน้อยลง ไปเดินซื้อสินค้าตามห้างฯ น้อยลง
> >ทำให้ขาดรายได้แน่นอน แต่เจ้าของกิจการเหล่านี้เค้าอยู่ปลอดภัยสบายดีอยู่แล้ว
> >ห่วงแต่กระเป๋าของตัวพวกเค้าเองเท่านั้น >ขณะนี้ที่สนามบินดอนเมืองได้มีการระดมแพทย์ทำการตรวจอาการผู้ที่ลงจากเครื่องบินที่มาจากประเทศต้องสงสัยเป็นรายบุคคลแล้ว > >แต่ก็คงจะไม่ได้ถึง 100
>%เพราะฉะนั้นทุกท่านคงจะต้องป้องกันตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อป้องกันการติดเชื้อเ
พิมเติม > >และระงับการแพร่ระบาดของโรคนี้ให้เร็วที่สุด

	ผู้เขียน	หัวข้อ: จริงหรือเปล่าครับ? (อ่าน 1150 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้