อาจารย์โคทมท่านคงมีมุมมองในแบบการดำรงชีวิตของท่าน (อยู่กรุงเทพฯ) เช้าขับรถไปทำงาน เย็น-ค่ำ ขับรถกลับบ้าน (มีคนขับรถ) วงจรการดำรงชีวิตของอาจารย์ช่างเรียบง่ายเต็มไปด้วยความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน (อาจมีตู้ยามตำรวจตั้งอยู่หน้าบ้านหรือใกล้เคียงคอยตรวจตรา 24 ชม.) แถมอยู่ในสังคมที่เต็มเปลี่ยมไปด้วยจริยธรรม มันแตกต่างกันมากครับกับชาวบ้านตาดำทั้งใน กทม. และโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านในชนบทเรารองนึกภาพดูนะครับ ทุกท่านที่เคยไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือในชนบท (ประเภทไป 2-3 วัน. แล้วกลับ กทม. ) ภาพที่เราเห็นมันช่างสงบเงียบ อากาศดี ชาวบ้านในท้องถิ่นยิ้มแย้มแจ่มใส ภาพเหล่านี้เป็นจริงหรือไม่... โอ้...
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้าน หากท่านได้คลุกคลีกับชาวบ้าน ชาวชนบท จนเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ พ่อบ้านในชนบทส่วนใหญ่จะถาม - จะคุย ถึงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของครอบครัวเสมอ คุยเสร็จก็จะย่องๆ ไปหยิบอีแก๊ปทำเองออกมาให้เพื่อที่รู้ใจชมเสมอ จริงหรือ...อำนาจรัฐฯ จะคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเขาเหล่านั้นได้ หนังสือพิมพ์ลงข่าวเกือบทุกวันชาวบ้านถูกยิง ถูกปล้น ถูกฆ่า ใครจะคุ้มครองพวกเขานอกจากตัวพวกเขาเองแล้วเครื่องมือในการคุ้มครองและปกป้องครอบครัวคืออะไร...สากเบือ...หรือไม้คาน...หรือกระบุง

แม่มึง..ทิศแดงวิ่งมาบอกเห็นพวกขี้ยามาโขมยเครื่องสูบน้ำที่นาเรา กำลังแบกหนีไปเห็นหลังไวๆ เองเฝ้าบ้านนะพี่จะไปตามเอาเครื่องสูบน้ำคืนเสียดายกว่าจะเก็บตังค์ซื้อได้ตั้งเกือบปี...เอ็งขึ้นเรือนหยิบสากเบือให้พี่ทีจะเอาไปสู้กับพวกโขมย

สาธุ