เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 10, 2025, 06:49:17 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานพระพิฆเนศ  (อ่าน 4631 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 02:23:31 AM »

ในพิธี “ตรียัมปวาย” หรือพิธีตรีปวาย ที่พราหมณ์แสดงเรื่องราวของพระอิศวร พระนารายณ์ เสด็จมาโล้ชิงช้าเปิดโลกรับปีใหม่ ทวยเทพที่ถูกเชิญมาไม่กี่องค์ มีพระคเณศ หรือพระพิฆเนศวร รวมอยู่ด้วย

พระคเณศ เป็นเทพเจ้าของประชาชนคนทุกระดับชั้น ปั้นรูปบูชา เพราะความเป็นเทพของประชาชน จึงมีคัมภีร์ที่อธิบายเรื่องพระคเณศมากมาย แต่เนื้อหาก็ไม่ตรงกัน

คัมภีร์ศิวะปุราณะ เล่าว่า เหตุเพราะพระศิวะ จู่โจมเข้าหาองค์พระอุมาโดยไม่ให้ทรงตั้งตัวอยู่ บ่อยๆ ครั้งหนึ่งพระอุมากำลังสรงน้ำ เมื่อพระศิวะเสด็จไปถึง ก็ต้องทรงขึ้นมาถวายการรับใช้ ด้วยความอับอาย

พระอุมาจึงทรงนำน้ำมันและไคลในตัวพระองค์ ปั้นเป็นเทพบุตรรูปงามเรืองฤทธิ์เดช ถือกระบองเหล็กเป็นอาวุธ

แล้วก็ถึงวันนั้น...วันที่พระอิศวรเสด็จเยี่ยมพระอุมา ขณะกำลังสรงน้ำอีก คราวนี้พระอิศวรผ่านประตูเข้าไปไม่ได้ เพราะเจอเทพบุตรหนุ่ม ถือกระบองยืนขวาง ขนาดบอกว่าเป็นพระสวามีพระอุมา เทพบุตรหนุ่มก็ไม่ฟัง ทั้งยังเอากระบองฟาดเข้าใส่

คัมภีร์เล่าว่า พระอิศวรต้องทรงสะกดพระทัย ไม่แสดงฤทธิ์เดชกับเทพเด็กๆ ฤทธิ์เดชของพระอิศวร ไม่เพียงจะทำลายเทพบุตร โลกจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย ต้องล่าถอยไปบอกเทพบริวารให้มาเจรจา

การเจรจาไม่เป็นผล เทพบริวารรุมเล่นงาน ก็เอาชนะเทพบุตรหนุ่มไม่ได้ ต้องล่าทัพกลับไปฟ้องพระอิศวร พระอิศวรโกรธด่าบริวาร ให้กลับไปเอาชนะเทพบุตรอีกครั้ง เทพบริวารประกาศเรียกเทพทั้งสวรรค์ชั้นฟ้าให้มารวมกัน

ข่าวสงครามเข้าหูพระอุมา พระแม่เจ้าทรงขัดเคือง พระสวามีเอาแต่พระทัย จะรอให้สรงน้ำเสร็จก่อนก็ไม่ได้ จึงสำทับเทพบุตรหนุ่มให้ทำหน้าที่ไว้ให้ดีที่สุด

คราวนี้ ประเด็นการต่อสู้เปลี่ยนไป เทพทั้งชั้นฟ้าสู้เทพบุตรหนุ่มองค์เดียวก็ไม่ได้ องค์พระศิวะก็จะเสื่อมพระเกียรติ อยู่ใต้อำนาจพระชายา สถานการณ์ ทำให้กลายเป็นสงครามศักดิ์ศรี แต่ผลของสงครามศักดิ์ศรี ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น ฝ่ายทวยเทพแพ้แล้วก็แพ้อีก

ชนะด้วยกำลังไม่ได้ พระศิวะหันไปใช้วิธีการทูต ขอให้พระพรหมไปช่วยเจรจา พระพรหมถูกไล่ตีกลับมา ถึงขั้นนี้พระศิวะทนไม่ได้ สั่งให้ประหารเทพบุตรทันที แต่ก็ไม่เป็นผล


สุดท้าย พระศิวะต้องนำทัพออกรบเอง ทั้งยังขอให้ พระวิษณุ (พระนารายณ์) ร่วมทัพไปด้วย คราวนี้เทพบุตรก็รับศึกหนัก ตั้งใจรบกับพระศิวะ เอากระบองฟาดจนตรีศูลพระศิวะกระเด็นจากพระหัตถ์ ทรงขัดพระทัยแผลงศรเข้าใส่ เทพบุตรก็จับลูกศรไว้ในมือได้อีก

พระวิษณุจึงต้องออกโรงรับมือแทนพระศิวะ ขว้างจักรตัดกระบองเทพบุตรเป็นสองท่อน เทพบุตรเอาท่อนที่เหลือขว้างใส่พระวิษณุ พญาครุฑเทพพาหนะเอาปากคาบรับ

จังหวะที่เทพบุตรโรมรันกับพระวิษณุ พระศิวะก็ใช้ทีเผลอขว้างตรีศูลตัดเศียรเทพบุตรแตกกระจายไม่มีชิ้นดี


เสียเทพบุตรผู้ทรงรักเหมือนพระโอรส พระอุมาก็พิโรธ ปกาศิตว่า ถ้าพระโอรสไม่ฟื้นคืนชีวิต สงครามใหญ่ระหว่างพระแม่เจ้ากับพระศิวะจะเกิดขึ้น โลกและจักรวาลจะเดือดร้อน

เทพทั้งหลายจึงต้องออกค้นหาสิ่งมีชีวิต เอามาต่อเป็นเศียรเทพบุตร กลุ่มที่มุ่งหน้าไปทิศเหนือเจอช้างงาเดียว จึงตัดศีรษะเอามาถวายให้องค์จอมเทพต่อเป็นเศียรเทพบุตรหนุ่ม เมื่อพระศิวะชุบชีวิตให้ฟื้นคืน เทพบุตรจึงได้ชื่อหนึ่งว่า เอกทันตะ ซึ่งแปลว่า งาเดียว

ฝ่ายที่เชื่อถือคัมภีร์ศิวะปุราณะ สร้างรูปพระคเณศ พระเศียรเป็นช้าง งาหักข้างหนึ่ง แต่ก็เกิดถกเถียงกันต่อว่า งาที่หักข้างไหน บางคัมภีร์ยืนยันว่า งาหักข้างซ้าย แต่บางฝ่ายก็เชื่อว่า งาหักข้างขวา

ทั้งยังมีบางคัมภีร์ที่เชื่อว่า พระคเณศมีทั้งสองงา...จึงปรากฏว่า ประติมากรรมพระคเณศ มีทั้งงาเดียว สองงา ในกรณีที่เป็นวัตถุโบราณล้ำค่า เรื่องของงา ไม่ใช่ประเด็นชี้ขาด...ตัดสินเก๊แท้แต่ประการใด.


ถ้าเทวดาองค์ไหนไม่เกรงใจ กล้าก่อคลื่นใต้น้ำบนน้ำกับผู้เป็นใหญ่สงสัยเหลือวิธีเดียวคือตัวหัว อย่างที่ทำกันมามาทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์จนปัจจุบันเป็นโทษสถานเดียวของผู้ขัดขืนมิฉะนั้นมันคงวุ่นวายหาความสงบไม่ได้ทั้ง สังคมเทวดาบนสวรรค์ ยันยมบาลในนรก ไม่เว้นแม้แต่สังคมมนุษย์ ใครอยากกลับก็ให้กลับมาเถอะครับ ข้อหาทรราชมีโทษสถานเดียวคือตัวหัว เสือที่ทำได้เพียงคำรามแต่ลงเขี้ยวไม่ได้จะเป็นเจ้าป่าได้อย่างไรสัตว์อื่นในป่าหรือจะกลัว?
 
http://www.thairath.co.th/news.php?section=specialsunday03&content=25455
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2006, 01:22:48 AM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
tOnz
ถ้าใจคุณอคติ คุณก็อ้างความถูกต้องและเป็นกลางไม่ได้หรอกครับ
Hero Member
*****

คะแนน 4
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1519

ต่อด้วย M870


« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 03:00:41 AM »

ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลผมก็นับถือ  พระพิฆเณศ  และบูชาพระวิษณุ ด้วย
บันทึกการเข้า

"มีปัญญาเป็นอำนาจ ยังดีกว่ามีอำนาจแต่ไม่มีปัญญา" ชิบ จิตนิยม
e.k.1911
ถ้าคนดีอยู่ในหมู่บ้านของชนเหล่าใด ความสุขและผลจักมีแก่ชนเหล่านั้น
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 251
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2809


Still Loving COLT


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 06:42:26 PM »

ขอขอบคุณมากๆครับ บูชาอยู่เช่นกันครับ
บันทึกการเข้า

โปรดจงเอาดอกไม้เสียบไว้ที่ปลายปืน  แล้วหยิบยื่นไมตรีมิตรให้แก่กัน
☆ *~PLOY~* ☆
Hero Member
*****

คะแนน 62
ออฟไลน์

กระทู้: 4190



« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 06:51:53 PM »

              องค์นี้ประทับอยู่ที่พระราชวังสนามจันทร์...............
บันทึกการเข้า

[URL=h
RUGER
ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี ตรองดูซีทุกคนก็มีหัวใจ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1262
ออฟไลน์

กระทู้: 23344


ฟ้าลิขิตชีวิตข้า ให้ค้าขาย


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 07:10:14 PM »

 Cheesy  องค์นี้ผมนำท่านมาบูชาอยู่ครับ .......

บันทึกการเข้า

http://www.youtube.com/watch?v=Ci3YXN93QEs
เนื้อร้าย  ต้องตัดทิ้ง  ... 555
Sig228-kolok
KU47 AGGIE / SOTUS HS9VOL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2947
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 40236



« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 07:23:06 PM »

ด้วยความเคารพครับ.....

ขอบคุณครับ คิดว่าจะไปหามาบูชาอยู่เหมือนกันครับ... Grin

ขอบคุณครับ................
บันทึกการเข้า

ขายที่ดิน 20 ไร่ บริเวณคลอง 8 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมฯ ไร่ละ 1.8 ล้าน โทร 086-2859988
กดที่นี่ >>http://www.wikimapia.org/#lat=14.0499777&lon=100.7824481&z=17&l=0&m=b
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 07:24:57 PM »

องค์พระพิฆเนศ เด่นด้านไหนครับ
บันทึกการเข้า

                
ป - ปั้น-รักในหลวง
ถ้าท้อเป็นเพียงถ่าน ถ้าผ่านจึงเป็นเพชร
Hero Member
*****

คะแนน 90
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4749


..พูดดีก็ดีด้วย พูดร้ายก็ร้ายตอบ...


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 09:50:12 PM »

........ห้อยคออยู่ครับ  ขอบคุณครับ....
บันทึกการเข้า

......พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว.... 
www.gingamegun.com
51
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2006, 09:56:32 PM »

เรียน พี่ PU ครับ

พระพิฆเนศวร์เป็นเทพผู้ประทานความสำเร็จ
เป็นเทพที่สามารถขจัดอุปสรรคกีดขวางทั้งปวงได้
บุคคลผู้บูชาจะเกิดความสำเร็จ  ไม่ว่าจะเป็นด้านกิจการงานใด ๆ

จึงยกย่องว่าพระพิฆเนศวร์ เป็นเทพเจ้าแห่งศิลปวิทยาการ
เทพเจ้าแห่งความฉลาด รอบรู้ เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ เทพประจำเรือน
เทพผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ เทพผู้คุ้มครองป้องกันขัดขวงสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
บันทึกการเข้า
Audy452 ♥ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1180
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14952



« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2006, 12:06:37 AM »

ห้อยคอบูชาอยู่เหมือนกันครับ...ของกรมศิลป์ครับ

บันทึกการเข้า

boon
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2006, 12:41:01 AM »

องค์พระพิฆเนศ เด่นด้านไหนครับ
คงจะเด่นด้านหน้าครับ ด้านหลังหรือด้านข้างคงไม่ค่อยเด่นเท่าไร Grin หลงรัก
บันทึกการเข้า
nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย
Website Sponsor
Hero Member
****

คะแนน 303
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4897


« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2006, 01:19:10 AM »

สัญญาณอันตราย ปฏิวัติซ้ำ [5 พ.ย. 49 - 01:17]
 


การทำรัฐประหารของคณะปฏิรูปการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)

ภายใต้การนำของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองฯ

ที่เข้ายึดอำนาจการปกครองแผ่นดินจากรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา

ถือได้ว่าเป็นการยึดอำนาจที่ปราศจากความรุนแรง

เป็นการทำรัฐประหารที่นุ่มนวลที่สุดในประเทศไทย

สภาพการณ์ทั่วไปภายหลังจากการยึดอำนาจเป็นไปแบบผ่อนคลาย

ผู้คนจำนวนมากทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่แห่แหนไปมอบช่อดอกไม้ หอบหิ้วกับข้าวกับปลา ขนม นมเนย ไปให้ทหารที่เข้ามารักษาการณ์ ขอถ่ายรูปกับรถถังเก็บไว้เป็นที่ระลึก

บรรยากาศสนุกสนานครึกครื้นเป็นกันเอง ไม่ต่างไปจากช่วงที่มีงานวันเด็ก หรือมีงานกาชาด

ที่สำคัญ หลังจากมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว คณะปฏิรูปการปกครองฯกลายสภาพมาเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)

มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกิจภายใต้การนำของ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เข้ามาทำหน้าที่บริหารประเทศ แต่งตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติเข้ามาทำหน้าที่แทนรัฐสภา

ขับเคลื่อนเดินหน้าการบริหารราชการแผ่นดิน ไปพร้อมๆกับการตั้งลำสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ

เพื่อเดินไปสู่การตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ขึ้นมาร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร

และจัดให้มีการเลือกตั้งคืนอำนาจให้ประชาชนภายในกรอบเวลา 1 ปี ตามที่คณะปฏิรูปการปกครองฯประกาศไว้

ทั้งนี้เป็นที่ชัดเจนว่า ภาพที่ออกมาตลอดระยะเวลา 1 เดือน 17 วัน นับจากวันที่มีการทำรัฐประหารยึดอำนาจ

คณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่แปลงสภาพมาเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ภายใต้การนำของ พล.อ.สนธิ รวมถึงรัฐบาลของ พล.อ.สุรยุทธ์

ได้ใช้แนวทางสมานฉันท์ในการเข้ามาปฏิรูปการปกครอง

พยายามผ่อนสั้นผ่อนยาว

ใช้ความอะลุ่มอล่วย

เปิดโอกาสให้ประชาชนและกลุ่มองค์กรประชาธิปไตยต่างๆ ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้เป็นปกติ


ไม่ได้มีการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เหมือนกับคณะปฏิวัติในอดีต

การใช้แนวทางการปกครองแบบสมานฉันท์ เน้นความอะลุ่มอล่วย ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

อาจทำให้มองดูเหมือนว่าจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้สถานการณ์ของประเทศ กลับสู่ความสงบเรียบร้อยได้รวดเร็วขึ้น

แต่จากสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในห้วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา กลับปรากฏร่องรอยแรงกระเพื่อมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่งผลให้ประเทศที่เคยอยู่ในสภาพอมโรค และได้รับยา

จากคณะผู้ยึดอำนาจไปแล้ว ซึ่งสังคมคาดหวังกันว่าจะช่วยรักษาให้หายได้

กลับกลายเป็นว่า เชื้อร้ายทำท่าจะปะทุขึ้นมาอีก

เกิดปัญหาคลื่นใต้น้ำ มือมืดออกใบปลิวโจมตีการยึดอำนาจ ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและรัฐบาล ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานอย่างต่อเนื่อง

มีการเปิดเว็บไซต์ส่งข้อความถล่มทางอินเตอร์เน็ต กระจายไปทั่วประเทศ

ตามมาด้วยการเคลื่อนไหวชุมนุมของคนกลุ่มย่อยๆทั้งในต่างจังหวัด และที่ท้องสนามหลวงใจกลางกรุงเทพมหานคร

ชูธงต่อต้านการปฏิวัติยึดอำนาจ

ปฏิเสธการนำของ คมช.และรัฐบาลที่มาจากการทำรัฐประหาร

ความเคลื่อนไหวในลักษณะนี้กำลังทำท่าว่าจะขยายวงขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะที่ พล.อ.สนธิเอง ก็ออกมายอมรับว่า

ขณะนี้กำลังติดตามดูความเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างจังหวัดอยู่ และสั่งเฝ้าระวังประกบทุกพื้นที่ เพราะคิดว่าน่าจะมีการเคลื่อนไหวในหลายจังหวัด

สะท้อนชัด ยังไม่ไว้วางใจสถานการณ์


แต่ในขณะเดียวกัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และรัฐบาลก็ไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางอะลุ่มอล่วย มาใช้ มาตรการที่รุนแรงในการควบคุมสถานการณ์

เพราะยังให้ความสำคัญในเรื่องความสมานฉันท์

ทำให้คณะผู้ยึดอำนาจต้องตกอยู่สภาวะกลืนไม่เข้า คายไม่ออก

จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า เหตุใดปัญหาคลื่นใต้น้ำจึงพุ่งเข้าใส่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง

“ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” ได้ติดตามสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด

เราขอชี้ว่า คลื่นใต้น้ำที่กำลังกระหน่ำเข้าใส่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติและรัฐบาล ในขณะนี้

มีหลายกลุ่มหลายพวก หลายสายพันธุ์

กลุ่มแรก ก็คือ กลุ่มนักประชาธิปไตย นักอุดมการณ์ นักวิชาการ ที่ยึดมั่นแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยด้วยใจบริสุทธิ์

ไม่ต้องการเห็นการใช้อำนาจพิเศษเข้ามาปกครองประเทศ

จึงออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้คณะผู้ยึดอำนาจเร่งคืนประชาธิปไตย ให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด

กลุ่มต่อมา คือ กลุ่มนักประชาธิปไตย นักอุดมการณ์ นักวิชาการ ที่ไม่สมประโยชน์กับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

อกหักจากการที่ขั้วอำนาจใหม่ ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร

ก็เลยต้องออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านคณะผู้ยึดอำนาจ โดยยกเรื่องความเป็นประชาธิปไตยมาเป็นข้ออ้าง

อีกกลุ่มหนึ่ง ก็คือ กลุ่มที่เสียประโยชน์โดยตรงจากการปฏิวัติรัฐประหาร ได้แก่ บรรดานักการเมืองที่ต้องหลุดออกจากวงจรอำนาจ ข้าราชการที่สูญเสียอำนาจโดนโยกย้าย โดนล้างบาง

รวมไปถึงกลุ่มทุนที่ผูกติดอยู่กับขั้วอำนาจเก่า สูญเสียผลประโยชน์ทางธุรกิจ

คนเหล่านี้แม้ไม่เปิดหน้าเปิดตัวออกมาเคลื่อนไหวเอง แต่ก็พร้อมให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

สำหรับกลุ่มสุดท้าย คือ เครือข่ายจัดตั้งของขั้วอำนาจเก่า หัวคะแนนหลักของพรรคไทยรักไทย ที่กระจายอยู่เกือบทุกภาคของประเทศ

กลุ่มนี้พร้อมออกมาเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลาที่มีโอกาสและสถานการณ์เปิด

ซึ่งจะเป็นหัวเชื้ออย่างดี ที่จะทำให้ชาวบ้านทั่วไปที่ยังรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนตาม


แน่นอนว่า กลุ่มคลื่นใต้น้ำที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติมองว่า เป็นอันตรายที่สุดก็คือ

เครือข่ายจัดตั้งของขั้วอำนาจเก่า


โดยเฉพาะเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไปปักหลักอยู่ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไม่ได้อยู่นิ่งๆ

แต่มีร่องรอยของการเคลื่อนไหวออกมาเป็นระยะ

ไล่ตั้งแต่การต่อสายถึง พล.อ.สุรยุทธ์ เจรจาขอเดิน

ทางกลับประเทศไทย แต่ถูกเบรกไว้เพราะสถานการณ์ยังไม่สะเด็ดน้ำ

ตามมาด้วยกระแสข่าวว่า อดีตผู้นำมีการวางแผนเดินทางเข้าประเทศสิงคโปร์ และจะกลับเข้ามาในประเทศไทย

แต่ทางสิงคโปร์ไม่เปิดไฟเขียว ทำให้ต้องยกเลิกแผนนี้ไป

และก็มาถึงคิวของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เดินทางจากกรุงลอนดอนกลับประเทศไทย

พร้อมทั้งดอดเข้าพบ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์

สร้างความกดดันให้กับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ไม่น้อยเลยทีเดียว

รวมทั้งล่าสุดกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางจากประเทศอังกฤษ ไปโผล่ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มีความพยายามที่จะไปขอเจรจากับ พล.อ.สุรยุทธ์ ที่มีภารกิจเดินทางไปประชุมอาเซียน-จีน ที่เมืองหนานหมิง

แต่ก็ไม่ได้เจอกัน

การขยับตัวเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้มองได้ว่า มีความพยายามที่จะขอเจรจาต่อรองกับขั้วอำนาจใหม่อยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้โดยธรรมชาติของการต่อรอง มันจำเป็นจะต้องมีอำนาจในการต่อรอง

ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า คลื่นใต้น้ำที่เกิดขึ้น ก็เป็นอำนาจในการต่อรองอย่างหนึ่ง

และแน่นอน

คนระดับ “ทักษิณ” แม้อยู่ต่างประเทศ แต่ก็ยังมีเครือข่ายจัดตั้งอยู่ในประเทศไทย

สามารถสร้างอำนาจในการต่อรองได้สบายๆ

อย่างไรก็ตาม จากสภาพการณ์ที่มีปัญหาคลื่นใต้น้ำโถมเข้าใส่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ และรัฐบาลในขณะนี้

ยิ่งทำให้น่าวิตกว่า บรรยากาศอมโรค สังคมแตกแยกแบบเก่าๆ

กำลังจะหวนกลับมา

และถ้าสถานการณ์เดินไปถึงจุดนั้นเมื่อไหร่


ระวัง อาจมีปฏิวัติซ้ำ
 

 
เขียนไว้เมื่อคืนว่า คปค.ต้องเด็ดขาดกว่านี้(ตอนตีสองขณะที่ตั้งกระทู้คอลัมน์ทีมการเมืองไทยรัฐยังไม่ออก)ผู้เชี่ยวชาญการเมืองก็มีความเห็นตรงกันว่าอาจจะมีปฏิวัติซ้อน มิฉะนั้นจะวุ่นวาย ถ้ายังปล่อยให้เป็นแบบนี้อยู่ความสงบก็ไม่มีวันเกิดในประเทศไทย ทั้งม้อบจัดตั้งจากชนบท และปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปโดยไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินหรือทำให้กฏอัยการศึกเข้มมากขึ้นคงเหลือเพียง2 ทางเลือกไม่ปฏิวัติซ้อน ก็จะมีสารพัดม้อบมารวมกันขับไล่ คปค.คงต้องตัดสินใจแล้วครับ สำหรับผม จะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ไม่สำคัญระบอบอะไรก็ได้ ขอเพียงให้คนไทยได้ปกครองกันเองไม่ถูกครอบงำจากต่างชาติ ไม่ขายชาติ รวมทั้งการไม่เป็นทาสต่างชาติทุกๆวิถีทางไม่ว่าจะทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ผมก็พอใจแล้วครับ ยินดีสนับสนุนผู้ปกครองทุกคนที่มีใจเป็นไท แม้จะขาดอิสระด้านการแสดงออกบางอย่างแต่ถ้าคนไทยยังได้ปกครองคนไทยแค่นี้ก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้วครับ

http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=25486
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 06, 2006, 02:39:39 AM โดย nars » บันทึกการเข้า

ถ้าเสียงส่วนใหญ่คือความถูกต้อง
ผีเปรตในนรกมันคงโหวตให้พวกมันได้ขึ้นสวรรค์
จะแก้รัฐธรรมนูญไปทำไม! ต้นตอปัญหามันเกิดจากรธน.ไม่ดี หรือพวกแกมันเลว!
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2006, 08:52:51 AM »

อะไรจะเกิดก็ขอให้เกิดขึ้นเร็วๆ อึมครึมแบบนี้มีแต่จะแย่หนักลงไปอีก ถ้าคณะนี้น้ำยาไม่พอก็ควรเลิกไป
แต่ถ้าคิดว่าทำได้ก็ต้องทำให้ได้จริงๆ อย่านุ่มนิ่มนัก มันไม่ใช่อ่ะ ระดับทักษิณแล้วผมคิดว่าสมองยังเหนือชั้นกว่าเยอะ
บันทึกการเข้า

                
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2006, 08:58:50 AM »

องค์พระพิฆเนศ เด่นด้านไหนครับ
คงจะเด่นด้านหน้าครับ ด้านหลังหรือด้านข้างคงไม่ค่อยเด่นเท่าไร Grin หลงรัก

บันทึกการเข้า

                
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.089 วินาที กับ 21 คำสั่ง