เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) น.ส.ทัศนีย์ ดำมุณี อายุ 30 ปี ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวแห่งหนึ่ง เข้าร้องเรียนเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับบิดาและประชาชนนับ 100 รายในต.ช้างซ้าย อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกขายอาวุธปืนสวมทะเบียนปลอม
น.ส.ทัศนีย์ กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา มีนายหน้าเป็นคนอ.กาญจนดิษฐ์มาติดต่อขายปืนให้กับคนในต.ช้างซ้าย อ้างว่าปืนดังกล่าวเป็นปืนมือสอง แต่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ประชาชนหลงเชื่อและซื้อปืนเป็นจำนวนมาก โดยเสนอราคาสำหรับปืนขนาด .38 กระบอกละ 50,000-60,000 บาท ขนาด .357 กระบอกละ 80,000 ถึง 1 แสนบาท ซึ่งบิดาตกลงซื้อปืนขนาด. 38 จำนวน 1 กระบอก ราคา 5 หมื่นบาท หลังจากตกลงซื้อขายแล้ว ผู้ต้องหาพาไปทำเรื่องโอนชื่อที่อ.กาญจนดิษฐ์ จากนั้นนำหลักฐานการโอนไปขอใบอนุญาตมีและใช้อาวุธปืน (ป.4) ซึ่งทางอำเภอได้ตรวจสอบประวัติก่อนออกใบอนุญาตให้
น.ส.ทัศนีย์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นประมาณ 3 เดือนมีประชาชนที่ซื้อปืนถูกจับ 2 ราย เนื่องจากตรวจสอบพบว่าเป็นอาวุธปืนเถื่อนที่สวมทะเบียน ทำให้บิดารู้สึกสงสัยว่าปืนที่ซื้อมาเป็นปืนเถื่อนหรือไม่ จึงให้ตนตรวจสอบกับกรมการปกครองพบว่าปืนที่ซื้อมา หมายเลขประจำปืน 92897 เครื่องหมายทะเบียนปืน กพ 2107859 มีนายจรูญ ศิริวุฒิ เป็นเจ้าของ โดยไม่ได้ขายหรือโอนแต่อย่างใด นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบชื่อของบิดาพบว่าไม่ได้เป็นเจ้าของปืน
"ต่อมาพ่อพร้อมชาวบ้านเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.อ.กาญจนดิษฐ์ เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบ ผลปรากฏว่าปืนทุกกระบอกที่ซื้อมาเป็นปืนสวมทะเบียนทั้งสิ้น ตำรวจจึงอายัดปืนทั้งหมดไว้ คาดว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะต้องมีเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นกับกลุ่มมิจฉาชีพ เพราะมีการออกใบอนุญาตให้ เหมือนซื้อขายอย่างถูกต้อง" น.ส.ทัศนีย์กล่าว
น.ส.ทัศนีย์ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้อยากให้ผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทยตรวจสอบอย่างจริงจัง เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน รวมมูลค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกว่า 5 ล้านบาท นอกจากนี้ กลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้ยังอาจไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นอีกด้วย
