เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 22, 2025, 06:06:08 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "3จังหวัดชายแดนใต้" อย่าให้ซ้ำรอย"เขาพระวิหาร"!!!  (อ่าน 2069 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1183
ออฟไลน์

กระทู้: 12698



เว็บไซต์
« เมื่อ: มีนาคม 02, 2005, 08:36:00 PM »

•• แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะพูดถึงท่าทีขององค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะ โอไอซี หรือชื่อเต็ม ๆ ในภาษาอังกฤษ OIC -- The Organization of the Islamic Conference ในการออกรายการวิทยุครั้งล่าสุดในทำนอง ไม่ใส่ใจ, ไม่ให้ความสำคัญ ในประโยคเดิม ๆ ที่ว่า “...เราไม่ได้ขอข้าวใครกิน.” แต่ล่าสุด สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ก็ได้แต่งตั้ง คณะผู้แทนพิเศษ ประกอบไปด้วย นิสสัย เวชชาชีวะ (บิดาของ สุรนันท์ เวชชาชีวะ), จรัล มะลูลีม, มะหะดี วิมานะ เตรียมตัวบินไปพบ อิกเมลิดดิน อีห์ซานโอกลู – เลขาธิการโอไอซี ในอีก 3 วันข้างหน้า วันที่ 5 มีนาคม 2548 หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2548 ก็ได้มอบหมายให้ สุวัฒน์ จิราพันธ์ – อุปทูตไทยประจำกรุงริยาด เข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจชั้นต้นแล้ว ความกระตือรือร้น ที่กล่าวได้ว่าเป็นพิเศษนี้เกิดขึ้นก็เพราะในการให้สัมภาษณ์ของ อิกเมลิดดิน อีห์ซานโอกลู – เลขาธิการโอไอซี เมื่อ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2548 นั้นเป็น ท่าทีไม่ปกติ – แสดงความไม่พอใจในความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็หวังว่าจะพอเยียวยาสถานการณ์ได้บ้างเมื่อนำมาประกอบส่วนกับ จิ๊กซอว์ชิ้นส่วนอื่น ไม่ว่าจะเป็น คณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติ ชุด อานันท์ ปันยารชุน หรือ มาตรการเปิดรัฐสภา 30 – 31 มีนาคม 2548 นี่คือแนวรบที่จะเริ่มทวีความเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ ๆ เพราะ การสูญเสียดินแดนยุคใหม่ ไม่ได้เสียกันด้วย ผลงานในพื้นที่, ผลงานในสนามรบ ไม่ได้อยู่ที่ ความเข้มข้นของกระแสชาตินิยม หรือแม้แต่ ความเข้มแข็งของผู้นำ หากแต่จะ เสียกันในเวทีองค์การระหว่างประเทศ จริงอยู่ละที่ “...เราไม่ได้ขอข้าวใครกิน.” แต่เราไม่อาจจะ อยู่เดี่ยว ๆ เดียวดาย -- โดยไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกาของโลก เมื่อถึงจุดนั้นแม้จะ เจ็บปวด ก็จำต้อง กลืนเลือดยอมรับ บ้านนี้เมืองนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยมี ตัวอย่าง เพียงแต่เราอาจจะลืมกรณี เขาพระวิหาร ที่เกิดขึ้นในยุค จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่สุดแสนจะ เข้มแข็ง และยังรองรับไปด้วย กระแสชาตินิยมเข้มข้นกว้างขวาง ในยุคนั้นไม่มี การเดินขบวนต่อต้านรัฐบาล มีแต่ การเดินขบวนสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลในการปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดน แต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้น เสียดินแดน เพราะ แพ้เกมการเมืองระหว่างประเทศ ในที่สุด
       
       •• อย่าว่าแต่ เดินขบวนสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลในการปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดน คนไทยเมื่อ ปี 2502 – 2503 ถึงขนาดร่วมกัน บริจาคเงินคนละ 1 บาท มอบให้รัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ใช้เป็น ทุนทรัพย์ ในกระบวนการ ต่อสู้คดี ใน ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (หรือที่เรียกกันติดปากว่า ศาลโลก) เพื่อให้ ปราสาทเขาพระวิหาร ยังคงอยู่ภายใต้อธิปไตยของ ประเทศไทย แต่ก็ ไม่สำเร็จ จำต้องสละอธิปไตยเหนือ พื้นที่ 150 ไร่ ไปหลังจากศาลยุติธรรมระหว่างประเทศที่ “...เราไม่ได้ขอข้าวกิน.” มีคำพิพากษาออกมาเมื่อ วันที่ 15 มิถุนายน 2505 ยังจำกันได้ไหม
       
       •• น่าศึกษา แนวทางการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ของประเทศไทยในยุค จอมพลป. พิบูลสงคราม มาจนถึง จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่อิงอยู่กับ กระแสชาตินิยม ถึงขั้นก่อสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านใน ปี 2483 จนสามารถ ผนวกดินแดนที่เคยเสียไปในยุคล่าอาณานิคมคืนกลับมา และเมื่อเสียกลับคืนไปหลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังคง ผนวกดินแดนบางส่วนคืนกลับมา ในช่วง ปี 2497 โดยเฉพาะ เขาพระวิหาร ที่ถือว่า ครอบครองไว้เด็ดขาด แต่ที่สุดก็ถูก ยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อ วันที่ 6 ตุลาคม 2502 ผ่านการต่อสู้คดีอยู่ 3 ปี สืบพยานทั้งหมด 73 ครั้ง ก็แพ้ไปด้วยคะแนนเสียงขององค์คณะผู้พิพากษา 9 : 3 อย่างที่ทราบกันดี
       
       •• ไม่มีใครอยากให้กรณี เขาพระวิหาร เกิดขึ้นซ้ำรอยอีกกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงไม่อยากให้รัฐบาล เดินเข้ากับดัก ที่วางเอาไว้อย่าง แยบยล ไม่น่าเชื่อ
       
       •• สิ่งที่รัฐบาลทำในวันสองวันนี้ ถูกต้องแล้ว ขอเพียงอย่าเน้นเฉพาะ ภาพ ขอให้ จริงใจและจริงจังในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เรื่องราวไม่ว่าหนักหนาสาหัสอย่างไรก็มีโอกาส เยียวยา ได้ไม่ยาก
       
       •• กล่าวเฉพาะที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ “เซี่ยงเส้าหลง” ปักใจมั่นเสมอมาว่าขณะนี้มี การแทรกแซงของต่างชาติ ว่าไปแล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มี เงื่อนไขระหว่างประเทศ เข้ามา ผสมผสาน, ผสมโรง กับ เงื่อนไขภายในประเทศ ย้อนยุคไปสมัย หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ ปี 2488 – 2489 ครั้งนั้นเป็น อังกฤษ ที่มีส่วนส่งเสริมบทบาท ขบวนแบ่งแยกดินแดน ทั้งการสนับสนุน ตนกูมะหะหมัด มะไฮยิดดิน บิน อับดุลการเดร์ หรือ กูดิน (บุตรชายของ รายาวิชิตภักดี เจ้าเมืองปัตตานีคนที่เป็น กบฏ ใน ปี 2466) ที่เชื่อว่าตนจะได้เป็น กษัตริย์ หลัง ปัตตานีเป็นเอกราช โดยมีผู้ร่วมก่อการในช่วงนั้นคือ ตนกูอับดุล ยะลานาแชร์ หรือ นายอดุลย์ ณ สายบุรี กับพี่ชายคือ ตนกูปัตตารอ ตั้งมั่นอยู่ในดินแดน รัฐกลันตัน สหพันธรัฐมลายู และทั้งการสร้างความนิยมชมชอบให้แก่ ชาวปัตตานี เมื่อกองทัพของตนเข้ามา ปลดอาวุธทหารญี่ปุ่น และทั้งสนับสนุนแนวคิดของ ดะโต๊ะออน บิน จาฟฟา มุขมนตรีแห่ง รัฐยะโฮร์ สหพันธรัฐมลายู ชั่วแต่ว่าขณะนั้น ท่านปรีดี พนมยงค์ ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อ แก้ไขความผิดพลาดในยุคชาตินิยม ของ จอมพลป. พิบูลสงคราม เพื่อ ขจัดเงื่อนไขสงคราม โดยผ่านทาง แช่ม พรหมยงค์ หรือ หะยีซำซุดดิน ที่ปรึกษากิจการมุสลิมของท่านที่ได้ดำรงตำแหน่ง จุฬาราชมนตรี โดยทำความเข้าใจกับผู้นำศาสนาอิสลามในพื้นที่คือ หะยีสุหลง อับดุลการเดร์ วิกฤตจาก อังกฤษ จึงผ่านพ้นไปได้ ปัญหาพื้นฐานที่ยังคงดำรงอยู่ ผนวกกับ ปัญหาใหม่ เป็นเชื้อไฟที่ทำให้ สหรัฐอเมริกา เข้ามารับช่วงแทนที่ อังกฤษ ในสองสามปีที่ผ่านมาหรือไม่ คนไทยทั้งมวล จะต้อง ไตร่ตรอง ให้ดี ๆ และตอบคำถามให้ได้ทำไม ทิศทางการข่าวการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงไปตกอยู่ใน แนว ของ สหรัฐอเมริกา ได้อย่างไม่น่าเชื่อ CTIC -- Counter Terrorist Intelligence Center ที่ถูก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เปิดโปงกลางสภาผู้แทนราษฎรว่าก่อตั้งขึ้นมาลับ ๆ ตั้งแต่ ปี 2544 มีส่วนมากน้อยแค่ไหน
       
       •• แต่ไหนแต่ไรมา ผู้นำมุสลิมชีอะห์ ที่เป็น ข้าราชสำนัก มาโดยตลอดตั้งแต่สมัยแผ่นดิน พระเจ้าทรงธรรม แห่ง กรุงศรีอยุธยา ชนิดที่ก่อนหน้ายุค คณะราษฎร ถือเป็นประเพณีปฏิบัติด้วยซ้ำว่าผู้จะมาดำรงตำแหน่ง จุฬาราชมนตรี จะต้องมาจาก ผู้นำมุสลิมชีอะห์ แล้วเหตุไฉนขณะนี้ตกมา เป้าหมาย ของ การจับตา, ความหวาดระแวง อย่างไม่มีเหตุผลรองรับ
       
       •• กล่าวเฉพาะกรณี ปัตตานี แม่ทัพคนสำคัญที่โดยเสด็จราชการสงครามครั้ง รบชนะปัตตานี เมื่อ ปี 2328 ของ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสีหนาท ที่ประวัติศาสตร์ระบุว่าคือ เจ้าพระยาพระคลัง และ พระยาจ่าแสนยากร นั้นแท้จริงแล้วทั้งสองเป็น ผู้นำมุสลิมชีอะห์ หรือ เชื้อสายผู้นำมุสลิมชีอะห์ ท่านเป็นบุตรหลานของ พระยาเพชรพิชัย ที่สืบทอดสายเลือด เฉกอะหมัด หรือในบรรดาศักดิ์สุดท้ายว่า เจ้าพระยาบวรราชนายก การเชื่อมโยงว่า ผู้นำมุสลิมชีอะห์รุ่นปัจจุบัน อาจจะไปเกี่ยวข้องกับ ขบวนการแบ่งแยกดินแดน เป็นเรื่องของคนที่ทั้ง ไม่เข้าใจประวัติศาสตร์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่เข้าใจวิวัฒนาการของศาสนาอิสลามในประเทศไทย เชื้อสายของผู้นำมุสลิมชีอะห์ในประเทศไทยมีทั้งที่ยังคงเป็น มุสลิมชีอะห์ มีทั้งที่เปลี่ยนมานับถือ พุทธศาสนา (เริ่มต้นจาก พระยาเพชรพิชัย ในรัชสมัย พระเจ้าบรมโกศ) แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่สืบทอดความเป็น ข้าราชสำนัก ที่ จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ไทย ไม่ว่าจะเป็นในยุค กรุงศรีอยุธยา, กรุงธนบุรี หรือ กรุงรัตนโกสินทร์ ดังนั้นการที่มีบุคคลระดับสูงบางคนในหลายฝ่ายรายงานนายกรัฐมนตรีในทำนองว่า “...บิ๊กจิ๋วอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ – เป็นผู้สนับสนุนชีอะห์ที่มีแนวคิดล้มล้างสถาบันกษัตริย์ในอิหร่าน.” จึงเป็นแผนการที่ แยบยล และ รับใช้ผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา อย่างยิ่ง
       
       •• ใช่หรือไม่ว่าเพราะ ความใกล้ชิดทางการข่าว ระหว่าง สหรัฐอเมริกา – ไทย เมื่ออภิมหาอำนาจตั้งใจจะ เปิดศึก กับ อิหร่าน เครือข่ายทั้งหมดของว่าที่คู่สงครามจึงต้อง ถูกจับตา ไว้ก่อน
       
       •• ตำรวจไทยเคยพลาดมาแล้วที่ขาดองค์ความรู้ว่าด้วยความสัมพันธ์และความขัดแย้งระหว่าง ซาอุดีอาระเบีย, อิหร่าน และ สหรัฐอเมริกา จนก่อเหตุเภทภัยทำให้ประเทศ สูญเสียผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจมหาศาล วันนี้ถ้ายัง ทำผิดซ้ำสอง ความสูญเสียครั้งใหม่จะ มากเหลือคณา อาจจะแตะระดับ เสียดินแดนอีกครั้ง ก็เป็นได้
       
       •• อยากจะบอกว่าไม่ว่าในฐานภาพความเป็น มุสลิมชีอะห์ หรือในเครือข่ายที่สัมพันธ์กับ อิหร่าน ผู้คนเหล่านี้ คัดค้านต่อต้านขบวนแบ่งแยกดินแดน 3 จังหวัดภาคใต้ เพราะเล็งเห็นว่านี่คือ แผน ของ สหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินการผ่านเครือข่าย มุสลิมวะฮะบีฮ์ หรือพูดอีกทางหนึ่งก็คือ ซาอุดีอาระเบีย (แต่ขณะนี้ก็กำลัง เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยการพลิกตัวออกห่างของ มกุฏราชกุมารอับดุลลาห์) ไม่ว่าวิกฤตด้ามขวานทองของไทยจะหยุดอยู่แค่ ความรุนแรง หรือพัฒนาไปสู่ การนำเรื่องเข้าสู่องค์การระหว่างประเทศ และไม่ว่า ผลสรุปคืออะไร ไม่สำคัญเท่ากับว่าระหว่างทางสายต่าง ๆ นี้ด้านหนึ่ง สหรัฐอเมริกา สามารถเข้ามามี บทบาทครอบงำ อีกด้านหนึ่งเป็นอีกสนามรบหนึ่งที่ กระจายความขัดแย้งออกมาจากตะวันออกกลาง – นักรบมุสลิมต้องรับศึกหลายด้าน อย่าลืมว่าอภิมหาอำนาจประเทศนี้ไม่ได้เป็น ศัตรู กับ มุสลิมทุกประเทศ พวกเขามี มิตร, เครือข่าย อย่างน้อย ๆ ที่เห็นได้ชัดก็คือ ซาอุดีอาระเบีย และ ปากีสถาน เป็นความสลับซับซ้อนที่จะต้องพิเคราะห์ให้ดี ๆ
       
       •• พยากรณ์ไว้ว่าจากที่ในอดีต จุฬาราชมนตรี เป็นของ ชีอะห์ เปลี่ยนมาเป็น ซุนนีห์ สถานการณ์ในภายภาคหน้ามีโอกาสสูงมากที่จะเป็น วะฮะบีฮ์ คอยดูกันไป
       
       •• องค์ความรู้ว่าด้วย ซุนนีห์ – ชีอะห์ – วะฮะบีฮ์ และ ซาอุดีอาระเบีย – อิหร่าน – สหรัฐอเมริกา และการมองทะลุ เกมการเมืองระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกายุคนวอนุรักษ์นิยม โดยเทียบเคียงกับ แนวทางแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของท่านปรีดี พนมยงค์ เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะจริง ๆ แล้ว “เซี่ยงเส้าหลง” เชื่อว่ามี สาเหตุร่วม ตรง การแทรกแซงของมหาอำนาจ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นหรือต่อให้มีรัฐใหม่เกิดขึ้นก็ไม่เกิดผลดีต่อทั้ง ประเทศไทย และ ชาวปัตตานี ถ้าโจทย์ในอดีตคือ “...ทำอย่างไรให้ชาวปัตตานีรู้ว่ากำลังถูกอังกฤษหลอกใช้.” โจทย์ในปัจจุบันก็คือ “...ทำอย่างไรให้ชาวปัตตานีและวะฮะบีฮ์ผู้บริสุทธิ์รู้ว่ากำลังตกเป็นเครื่องมือของสหรัฐอเมริกา.” แต่ปัญหาก็คือเราจะตั้งโจทย์เช่นนี้ได้ตัวเราเองก็ต้อง ไม่ตกเป็นเครื่องมือของสหรัฐอเมริกา เสียก่อน
บันทึกการเข้า

คนโง่ มันทำไม่คิด แต่คนชั่ว มันคิดแล้วจึงทำ จึงเรียกว่า คิดชั่ว //by อ.เหลือง

เกิดเป็นคน ทำดีได้ง่ายกว่าเดรัจฉานตั้งเยอะ แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำความดี
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 02, 2005, 11:15:38 PM »

 Wink ขอบคุณและรับทราบคับ...

หลายๆเรื่องไม่เคยรู้มาก่อนเลยคับ...

เพิ่งทราบก็เพราะคุณaxolot นี่แหละคับ... Cheesy
บันทึกการเข้า
Mr_Watt
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 02, 2005, 11:29:21 PM »

ขอบคุณครับ  สำหรับข้อมูลข่าวสาร
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 03, 2005, 01:12:32 AM »

ยำข่าวได้อร่อยดีครับ
บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.126 วินาที กับ 21 คำสั่ง