วันนี้ก็เหมือนเช่นเคยรถติดมากๆ ผมเลยจอดนังอรชร รถยนต์สุดรักไว้ที่บ้านแล้วเอา"คุณปู่" มอไซค์คู่ใจไปส่งภรรยาเพราะที่ทำงานอยู่ใกล้บ้าน
ขาไปส่งก็เรียบร้อยดี แต่ขากลับขณะขับรถมาผ่านแยกอู่ทองในเลี้ยวขวาถนนทั้งเส้นมีแท๊กซี่ขับนำหน้า ผมขับมอไซค์ตามหลัง มอ'ไซค์บรรทุกของ
มาอีกคันตามหลัง ปรากฏว่าแท๊กซี่เบรคกระทันหัน(แถมไฟเบรคไม่ติดด้วย) ผมก็เบรคตัวโก่งเกือบจะชน แต่มอ'ไซค์บรรทุกของที่ขับตามมา
เบรคไม่ทันเลยหักหลบไปชนฟุตบาทแล้วกระเด็นไปอยู่ข้างถนน ของที่บรรทุกมากระจายเกลื่อนถนนตัวคนขับหมวกกันน็อคกระเด็น
รปภ.ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังจะวิ่งมาช่วย แต่......เชื่อมั้ยครับ..ผมกลับขับรถมาหน้าตาเฉยเลยโดยที่ไม่ แม้แต่จะจอดรถดูหรือถามไถ่อาการ
เพียงเพราะว่า "ก่อนหน้านั้นผมได้รับโทรศัพท์ให้รีบเข้าไปที่ทำงานด่วน" ด้วยความกลัวที่จะมีภารกิจพิเศษเร่งด่วน
กลัวภารกิจจะเสียหายทำให้ผมตัดสินใจทิ้งเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างทันที
แต่สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ไปยิ่งกว่านั้นก็คือ ตอนมาถึงที่ทำงานคนที่โทรศัพท์บอกให้ผมเข้าไปที่ทำงานด่วนบอกว่า ไม่มีอะไรหรอกจะรีบไปตกปลา เนี่ยจะเก้าโมงแล้วเดี๋ยวไปรับเพื่อนไม่ทัน
เห็นมั้ย........เห็นความใจดำของผมมั้ย.....แค่จะรีบไปทำงาน..ผมใจดำได้ขนาดนี้ เห็นมั้ย
เหตุการณ์นี้มันหลอนผมทั้งวันเลยนะ.....เป็นรอยด่างในอารมณ์ผมทั้งวันเลย

ไม่มีอะไร แค่อยากระบายให้ฟัง ขอบคุณที่สละเวลาอ่าน

เรื่องที่ผ่านมาแล้ว เราย้อนกลับไปใหม่ไม่ได้ ถึงตรงนี้ คงต้องทำให้ตัวเองสบายใจที่สุด
ตามที่เล่ามาก็มีรปภ กำลังวิ่งไปช่วย และคิดว่าคงมีอีกหลายๆคนที่ร่วมกันเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ผู้บาดเจ็บคงได้รับการช่วยเหลือจากผู้พบเห็นท่านอื่นๆแล้ว