เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 21, 2025, 04:56:33 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คำชี้ขาดความเห็นแย้ง ที่ ๑๙/๒๕๓๗ พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ (การพกอาวุธปืน)  (อ่าน 6872 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
บอย2520
Newbie
*

คะแนน 5
ออฟไลน์

กระทู้: 3


« เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 04:11:50 PM »

บรรจุไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า ยังไม่ผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๓๖ เวลาประมาณ ๑๑.๓๐ น. สายตรวจสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรีได้รับแจ้งทางวิทยุว่า มีชายต้องสงสัยเดินอยู่บริเวณหน้าโรงงานถังเหล็กสากล ถนนสามวา ตำรวจกับพวกจึงได้เดินทางไปยังสถานที่ดังกล่าวพบผู้ต้องหานี้เดินอยู่มีท่าทางพิรุธ จึงเข้าทำการตรวจค้น และพบว่าในกระเป๋าเสื้อผ้าของผู้ต้องหาที่สะพายอยู่มีอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .๓๘ ทะเบียน กท. ๖๐๐๖๐๒ จำนวน ๑ กระบอก และกระสุนขนาด .๓๘ จำนวน ๕ นัด บรรจุอยู่ในซอง ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าดังกล่าว จึงจับกุมดำเนินคดีในข้อหาพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นำเอาอาวุธปืนของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียนเป็นของผู้ต้องหาติดใส่กระเป๋าเสื้อผ้ามาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อติดตามหาภรรยาที่หนีมา และทราบว่ามาทำงานอยู่แถวที่เกิดเหตุ เหตุที่ต้องนำอาวุธปืนติดตัวมาเนื่องจากที่บ้านพักในจังหวัดนครศรีธรรมราชไม่มีคนอยู่เกรงว่าจะสูญหาย
คดีมีปัญหาให้อัยการสูงสุดวินิจฉัยว่า ผู้ต้องหามีความผิดฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือไม่
อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า การพาอาวุธปืนติดตัวที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตร ๘ ทวิ นั้น จะต้องเป็นการกระทำที่ผู้กระทำนั้นอยู่ในวิสัยที่สามารถอาจใช้อาวุธปืนนั้นได้ในทันทีหากต้องการจะใช้โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมการเพื่อการใช้ใด ๆ อีก ฉะนั้น การที่ผู้ต้องหาแยกอาวุธปืนกับกระสุนปืนออกจากกันและบรรจุไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าแล้วนำกระเป๋าติดตัวมาด้วย จึงไม่ใช่เป็นการพาอาวุธปืนติดตัวในความหมายของกฎหมาย การกระทำของผู้ต้องหาจึงขาดองค์ประกอบของความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ ๔๔ ข้อ ๓ และโดยนัยเดียวกันการกระทำของผู้ต้องหาก็ไม่เป็นการพาอาวุธอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ด้วย จึงชี้ขาดไม่ฟ้องผู้ต้องหา
( ด้วยความเคารพ เกี่ยวกับความเห็นแย้งของอัยการในเรื่องนี้ ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผมได้ทราบความเห็นนี้ ผมได้ศึกษาและผมมีความเห็นแย้ง คำชี้ขาดความเห็นแย้ง ที่ ๑๙/๒๕๓๗ พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ (การพกอาวุธปืน) ตลอดมา และหากจะให้ผมเห็นด้วยแล้วไปอธิบายกฎหมายเรื่องนีให้ ใครๆ ฟังแล้วผมก็รู้สึกเขินอายจนไม่กล้าแสดงความเห็นด้วยกับความเห็นนี้ ด้วยเหตุผลดังนี้ครับ
1.การพาอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ไม่จำเป็นจะต้องพกพาอาวุธปืนติดตัว แต่สามารถหยิบฉวยได้ ก็ถือว่าเป็นการพา
2.อาวุธปืน แม้โดยสภาพที่ไม่สามารถใช้การได้ หรือแต่มีแต่เพียงชิ้นส่วน ก็ถือว่าเป็นอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ นี้
3.ตามข้อเท็จจริงนี้ ผู้ต้องหาสะพายกระเป๋า เสื้อผ้าอยู่ในที่สาธารณะ ซึ่งในกระเป๋ามีอาวุธปืนอยู่ ย่อมสามารถเอามือหยิบเอาปืนออกมาเมื่อไรก็ได้
4.หากข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ มีแต่อาวุธปืน แต่ไม่มีลูกปืนอยู่ในกระเป๋า ก็ไม่ผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ นี้หรือ
5.ยังมีอีกหลายความเห็นแย้งของอัยการ ที่ได้ชี้ขาดว่าเป็นความผิดเช่น การเอาชิ้นส่วนของอาวุธปืน ใส่กระเป๋าเสื้อผ้า และถูกตรวจจับได้เครื่องเอ็กซ์เรย์ ที่ท่าอากาศยาน ก็ถือว่าเป็นการพาอาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.นี้
6.ผมเคยศึกษามาว่า การพาอาวุธปืนติดตัว ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน มีความหมายแตกต่างกับการพาอาวุธ ตาม ป.อ.มาตรา 371 จากความเห็นของนักกฎหมาย ไม่แน่ใจว่าเป็น ของ อ.รชฎ(จิตติ) เจริญฉ่ำ หรือ อ.จิตติ ติงศภัทริย์ ของท่านใดไม่แน่ชัด แต่ผมจำได้คำอธิบายได้ว่า การพาแม้จะไม่สามารถหยิบฉวยได้โดยง่าย ก็เป็นการพาไปตาม ป.อ.มาตรา 371 แล้ว แต่การพาติดตัว ไม่จำเป็ต้องติดตัว แต่หากหยิบฉวยได้ ก็เข้าความหมายของ การพาติดตัว ได้ ดังนั้น การจะใช้งานได้หรือไม่ ไม่ใช่ ส่วนประกอบขององค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งแม้ปืนที่ไม่สามารถใช้งานได้ ก็ยังผิดเลย
     ดังนี้จะให้ผมเห็นด้วยกับคำชี้ขาดนี้แล้วนำไปอธิบาย ผมรู้สึกเขินอายจริงๆ ครับ แต่ก็อย่างว่าละครับ แม้ ตร.จะเสนอความเห็นสั่งฟ้อง แต่หากอัยการไม่ฟ้องซะอย่าง ใครจะฟ้องได้ละครับ เพราะเป็นความผิดที่ผู้เสียหายคือรัฐแต่เพียงผู้เดียว )
 (3)กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
           พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา ๘ ทวิ* ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทาง สาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุ จำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัด ให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด
*ความในมาตรานี้ มิให้ใช้บังคับแก่
         (๑) เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทหารและ ตำรวจ ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
          ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 “ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด  ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาทและให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น” ( บางเวฟบันทึกไว้ ว่า ผู้ใดพกอาวุธไปในเมือง ดังนั้นตรวจสอบให้ถูกต้องก่อนนะครับ )
      ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วมากล่าวถึงความผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้กันเลยดีกว่านะครับ
      การพกพาติดตัว ตามความหมายของ พ.ร.บ.อาวุธปืน หมายถึง การพกพาสิ่งของที่ไม่จำเป็นต้องติดกับลำตัวคนก็ได้ แต่สามารถหยิบฉวยได้ง่าย และไม่จำเป็นต้องหยิบฉวยได้ทันทีทันใด เพียงแต่สามารถหยิบฉวยเอามาได้ง่ายก็พอแล้ว เช่น การเอาอาวุธปืนไว้ที่ท้ายรถยนต์เก๋ง(กระโปรงหลัง) ไม่เป็นการพกพาอาวุธปืนติดตัว เนื่องจากไม่สามารถหยิบฉวยเอาได้โดยง่าย แต่ถือว่าเป็นการพาไป ตามความหมายของ ป.อ.
       การพาอาวุธ ตามความหมายของ ป.อ. หมายถึง พาอาวุธใดๆ (โดยสภาพ) ไม่จำเป็นต้องหยิบฉวยได้ง่าย แต่หากได้นำพาไปด้วยกัน ก็มีความผิดฐานนี้ได้ หากเป็นการพาไปโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควรฯลฯ
             เหตุยกเว้นของ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตาม ม.8 ทวิ คือเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ หมายถึง เป็นความจำเป็นที่ต้องใช้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินจากภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมาย ที่เร่งด่วนไม่อาจขอความช่วยเหลือจากบุคคลอื่นได้ หรือจำเป็นต้องพาอาวุธปืนไปด้วยในขณะนั้น เช่น มีคนร้ายลักทรัพย์ในบ้านแล้วลักเอาทรัพย์สินไป เจ้าของจำเป็นต้องติดตามเอาทรัพย์สินคืน จึงจำเป็นที่จะต้อง นำอาวุธปืนติดตัวไปด้วยเพื่อป้องกันตัวและติดตามเอาทรัพย์สินคืน
           เหตุที่ไม่เข้าข้อยกเว้น เช่น การที่พกพาเงินหรือทรัพย์สินไปทีละมากๆ แล้วจะบอกว่า มีความจำเป็นต้องพกพาอาวุธปืนติดตัวไปด้วย ดังนี้ไม่เข้าเหตุจำเป็นและเร่งด่วนนะครับ เพราะถ้าคุณไม่เอาทรัพย์สินมีค่าติดตัวไปมากๆ คงไม่มีใครจะมาประทุษร้ายต่อทรัพย์สินที่คุณจะพกพาไปและหากจำเป็นต้องขนเงินไปทีละมากๆ ก็สามารถขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ และโดยสภาพบ้านเมืองในปัจจุบัน ยิ่งสามารถเบิกหรือโอนเงินกันทาง เอทีเอ็ม ได้ สภาพบ้านเมืองก็ย่อมแตกต่างจากอดีต
         ทีนี้มาว่ากันเรื่อง การพกพาอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นเหตุยกเว้น ตาม ม.8 ทวิ (2) ผมจะอธิบายเหตุการณ์ที่คุณ piton กล่าวถึง ว่าเหตุใด จึงเป็นความผิด ผมขออธิบายดังนี้ครับ เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและมีอำนาจจับกุมทั่วราชอาณาจักร ตลอด 24 ชม. จนกว่าจะเกษียณหรือลาออก หรือ ตาย แต่ การปฏิบัติหน้าที่นั้นไม่ได้ปฏิบัติทั่วราชอาณาจักรดลอด 24 ชม. เหมือนการเป็นตำรวจนะครับ หน้าที่จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ มีคำสั่งของผู้บังคับบัญชาตามอำนาจที่ให้ไว้ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ (เป็นเรื่องของระเบียบ ตร.) แต่อีกหน้าที่หนึ่งแม้ไม่ได้มีคำสั่ง และไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ก็เกิดขึ้นได้ คือ เมื่อเกิดเหตุการณ์พบการกระทำผิดที่มีโทษทางอาญาซึ่งหน้า ถือหน้าที่นั้นได้เกิดขึ้นในทันทีครับ แต่การพกพาอาวุธปืนติดตัวไปก่อนที่หน้าที่จะเกิดขึ้นนั้นกระทำไม่ได้ ไม่เข้าข้อยกเว้นตาม มาตรา 8 ทวิ
       ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้แต่งเครื่องแบบมีหน้าที่เฉพาะในเขตพื้นที่รับผิดชอบของตนตลอด 24 ชม. ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในเขตพื้นที่นั้น จึงสามารถพกปืนได้แต่ห้ามพกโดยเปิดเผย เอาคร่าวๆ เท่านี้ก่อนนะครับ ถ้ามีเหตุสงสัย ผมยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเหตุเสมอ
กฎหมายห้ามมิให้บุคคลพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ คงต้องพิจารณาเป็นกรณีไป     แต่ไม่ว่ากรณีใดห้ามเด็ดขาดมิให้พกพาโดยเปิดเผยหรือพาไปในชุมชนที่ได้จัดให้มี การนมัสการ รื่นเริง การมหรสพหรือการอื่นใดแม้มีใบอนุญาตให้พกพาก็ตาม ยกเว้นสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยเช่น ทหาร ตำรวจ ซึ่งอยู่ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่หรือประชาชนที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานนั้นๆ
     ฏีกาที่ 3027/2526   จำเลยเก็บปืนและเงิน 70,000บาท ไว้ในลิ้นชักรถเมื่อจำเลยนั่งรถไปด้วย ถือได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไป และการที่จำเลยขับรถไปส่งผู้เสียหายกับพวกแล้วพากันไปนั่งดื่ม สุราและเบียร์ โดยทิ้งเงินไว้ในรถซึ่งจอดอยู่ห่างจากจำเลยประมาร 5-6 วา แสดงว่าจำเลยมิได้ห่วงใยเกี่ยวกับความปลอดภัยของทรัพย์สิน การที่จำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปจึงถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
     ฏีกาที่ 3945/2540 เจ้าพนักงานตำรวจได้ตรวจค้นและพบอาวุธปืนของกลางอยู่ในกระเป๋าเอกสารซึ่งปิดอยู่และวางเบาะหลังรถยนต์ซึ่งจำเลยเป็นผู้ขับ เมื่อปรากฏว่ากระเป๋าเอกสารที่อาวุธของกลางบรรจุอยู่นั้นโดยสภาพมีกญแจล็อกทั้ง 2 ด้าน ทั้งวางอยู่เบาะหลัง การที่จะหยิบฉวยอาวุธปืนมาใช้งานทันทีย่อมเป็นไปได้ยาก ทั้งจำเลยมีเจตนาเพียงขนย้ายสิ่งของ จึงมิอาจถือได้ว่าเป็นการพาติดตัว  จึงพอสรุปได้ว่าการที่จะพกพาอาวุธปืนไปได้นั้นต้องมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินเท่านั้นครับ
 มีต่อ
เพิ่มเติม
     กรณีการพกพาอาวุธปืนดังกล่าวถึงแม้ว่าจะได้แยกตัวปืนและเครื่องกระสุนปืนออกจากกันก็ตาม คงต้องพิจารณาที่เจตนา ว่าพกพาอาวุธปืนไปเพื่ออะไร สมมุติว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น พบอาวุธปืนติดตัวแถมมียาเสพติดหรือมีทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดซุกซ่อนอยู่ด้วย
ก็คงอ้างความจำเป็นไม่ได้อยู่ดี ไม่งั้นคนร้ายก็คงอาศัยช่องทางนี้ในการไปกระทำความผิดต่างๆโดยการแยกปืนและเครื่องกระสุนปืนออกจากกันใช่หรือเปล่าครับ แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นเร่งด่วนเช่นเดินทางไปในที่เปลี่ยวและมีโจรชุกชุมก็อาจจะเข้าข้อยกเว้นได้แม้ไม่ได้แยกปืนและเครื่องกระสุนออกจากกันก็ตาม   ต้องขอขอบคุณและขอเพิ่มเติม ดังนี้ครับ
1.ส่วนคำพิพากษาฎีกา 3945/2540 ผมถือว่าเป็นฎีกาทีคลาสสิกมากเลยครับ เพราะเป็นการวินิจฉัยเรื่องเจตนามาประกอบ ว่า หากเป็นการขนย้ายสิ่งของซึ่งต้องเอาปืนไปด้วย ประกอบกับสิ่งที่บรรจุปืนนั้นได้ทำการล็อกไว้มิดชิดไม่สามารถเปิดแล้วหยิบฉวยเอาปืนได้ง่าย จึงไม่ผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ครับ แต่หากข้อเท็จจริงเปลี่ยนเป็น การเอาไปแต่เพียงปืน ไม่ใช่เจตนาขนย้ายสิ่งของ แม้จะเก็บไว้ในกระเป๋าและปิดล็อกไว้ และวางไว้ที่เบาะหลัง ก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ นี้ครับ ฎีกา 3945/2540 ต้องอ่านและทำความเข้าใจให้ดีนะครับ เพราะบางทานตีความเป็นว่า เอาปืนใส่กระเป๋าแล้วล็อกไว้ วางไว้ที่เบาะหลังรถโดยตลอดไม่เป็นความผิด ดังนี้ไม่ได้นะครับ ฎีกานี้เป็นการเอาเรื่องเจตนาการพกพาอาวุธมาพิจารณาประกอบครับ แต่ที่น่าคิดคือเจตนาอยู่ภายใน เพราะฉนั้นจึงเป็นหน้าที่ของนักกฎหมายที่ต้องค้นหาเจนตาภายในให้เจอ ดังนั้นผมจึงไม่แนะนำให้นำวิธีการตามฎีกาไปใช้เพื่อให้ตนเองสามารถพกพาอาวุธปืนไปได้
2. ส่วนกรณีที่มีโจรชุกชุมและเป็นที่เปลี่ยว ถ้าผมจำไม่ผิด เคยมีฎีกาเรื่องนี้อยู่ ตามแนวคิดของผมนะครับ ผมเห็นว่ามันเป็นเหตุการณ์ในอดีตเมื่อหลายสิปปีก่อน โดยสถานการณ์ในอดีตมีพวกโจรต่างๆ ที่คอยดักปล้น ประกอบกับการโอนเงินทางเอทีเอ็มก็ไม่มี แต่ในปัจจุบันสื่อสาร การเดินทางมีได้หลายวิธี อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความคุ้มกันได้มากกว่า หากจะอ้างเหตุดังกล่าวแล้วผมว่าคงอ้างลำบาก และผมมองไม่ออกว่ามีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอย่างไร ถึงจะเดินทางผ่านไปในที่เช่นว่านั้น หลีกเลี่ยงเป็นขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ หรือขอให้ตำรวจคุ้มครองได้หรือไม่ หรือทีนั่นมีความจำเป็นอย่างไรต้องเข้าไป ผมยังนึกภาพในปัจจุบันไม่ออกครับ
     
 

บันทึกการเข้า
sopon7
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 139
ออฟไลน์

กระทู้: 1095


« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 05:53:11 PM »

ขอบคุณครับ +1
บันทึกการเข้า
Audy452 ♥ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1180
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14952



« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 06:02:35 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

hangseri - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -154
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1105


มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อความพ่ายแพ้


« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 07:23:38 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า
kong รักในหลวง
เกิดใต้ธงไทยนั้น ปวงชนทุกคนคือไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 153
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1157



« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 10:43:11 PM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

Prinya T
Sr. Member
****

คะแนน 45
ออฟไลน์

กระทู้: 918


« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 05, 2007, 11:35:32 PM »

กรณีไหนที่อัยการสั่งไม่ฟ้องแน่นอนมีไหม ที่ไม่ใช่กรณีขอย้ายสิ่งของนะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูล
บันทึกการเข้า
STECON
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 57
ออฟไลน์

กระทู้: 442


Just one shot, Dont miss it !!!


« ตอบ #6 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 08:46:49 AM »

จากแนวฎีกา3945/2540 และตาม พรบ อาวุธปืน + ป.อ.

1. แม้จะไม่ผิดข้อหาพกพาอาวุธปืนตาม พรบ อาวุธปืน มาตรา 8 ทวิ แต่ก็ผิดตาม ป.อ. มาตรา371
2. การนำพาต้องนำพาโดย "ไม่มีเจตนานำไปใช้" แต่มีเจตนาเพื่อเคลื่อนย้ายสิ่งของเท่านั้น

ถ้าตีความกฎหมายตามแนวฎกาแปลว่าจะ"นำพา"อาวุธปืนไปในลักษณะใดก็ผิดกฎหมายสิครับ
ตัวอย่างเช่น จะนำปืนออกจากบ้านใส่กระเป๋าล๊อคกุญแจไปสนามยิงปืนโดยไม่มีลูก เจอด่าน ตร. แม้ ตร.
จะตั้งข้อหาพกพาตาม พรบ อาวุธปืน ม.8 ทวิ ไม่ได้ แต่ก็ตั้งข้อหา "นำพา"อาวุธ ตาม ป.อ. ม.371 ได้อยู่ดี
จะอ้างว่า"พาอาวุธปืนเพื่อไปยิงซ้อมมือที่สนาม"ก็คงจะไม่มีเหตุสมควร

ถ้าอย่างนั้นควรจะต้องนำพาในลักษณะใดถึงจะถูกกฎหมายละครับ  Huh Huh Huh



บันทึกการเข้า
meethai
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 55
ออฟไลน์

กระทู้: 906


« ตอบ #7 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 09:19:16 AM »

ผมว่าถ้าพาปืนไปโดยไม่เปิดเผย เพื่อนำไปซ้อมยิงที่สนามก็เป็นการพาไปโดยมีเหตุผลอันสมควรแล้วครับ เพราะคนที่ซื้อปืนมาใช้ก็ต้องมีการซ้อมยิงเพื่อให้สมประโยชน์ในการใช้ปืน ไม่ใช่ซื้อมาเพื่อเก็บรักษาไว้อย่างเดียวโดยไม่ฝึกซ้อมเลย อย่างนี้ก็ไม่สามารถใช้ปืนเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินได้สมกับความมุ่งหมายในการขออนุญาตซื้อปืน ซื้อมาแล้วใช้ไม่เป็นมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะครับ พาไปได้ครับ ขอแต่ว่าอย่าโชว์ก็แล้วกัน เพราะกฎหมายห้ามไว้ชัดเจนเลยครับ
บันทึกการเข้า
jakrit97 - รักในหลวง -
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 164
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5466


Dead boy can't shoot!


« ตอบ #8 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 10:45:21 AM »

กฏหมายไม่ได้แบ่งแยกการ "พก" และ การ "พา" ครับ ....

กฏหมายยอมให้มีอาวุธปืนติดตัวไปได้ ในกรณี "จำเป็นและเร่งด่วน" ครับ และต้องไม่ติดไปในชุมชน งานรื่นเริง ฯ

การซ้อมยิงปืน ไม่ใช่เหตุจำเป็นและเร่งด่วนครับ

.... อย่างไรก็ดี เคยมีหนังสือแนะนำแนวทางปฏิบัติ ในการตรวจค้นอาวุธปืน ออกโดยกรมตำรวจว่า ... ถ้าแยกปืน แยกกระสุน ใส่กล่องล็อกกุญแจ ไว้ให้ห่าง (กระโปรงหลังรถ) ไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันที ให้พิจารณาไม่ต้องจับกุมครับ ....

แต่ตำรวจบางคนไม่ได้อ่านหนังสือนี้ หรืออ่านก็บอกว่าเป็นแค่แนวทาง ในการปฏิบัติเป็นเรื่องของเขา .... เวลาเห็นปืน ก็เหมือนถูกหวยครับ ....
บันทึกการเข้า

meethai
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 55
ออฟไลน์

กระทู้: 906


« ตอบ #9 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 11:24:59 AM »

เหตุจำเป็นและเร่งด่วน กับ กรณีมีเหตุผลอันสมควร น่าจะเป็นคนละกรณีกันนะครับ
บันทึกการเข้า
STECON
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 57
ออฟไลน์

กระทู้: 442


Just one shot, Dont miss it !!!


« ตอบ #10 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 11:33:00 AM »

กฏหมายไม่ได้แบ่งแยกการ "พก" และ การ "พา" ครับ ....

กฏหมายยอมให้มีอาวุธปืนติดตัวไปได้ ในกรณี "จำเป็นและเร่งด่วน" ครับ และต้องไม่ติดไปในชุมชน งานรื่นเริง ฯ

การซ้อมยิงปืน ไม่ใช่เหตุจำเป็นและเร่งด่วนครับ

.... อย่างไรก็ดี เคยมีหนังสือแนะนำแนวทางปฏิบัติ ในการตรวจค้นอาวุธปืน ออกโดยกรมตำรวจว่า ... ถ้าแยกปืน แยกกระสุน ใส่กล่องล็อกกุญแจ ไว้ให้ห่าง (กระโปรงหลังรถ) ไม่สามารถหยิบใช้ได้ทันที ให้พิจารณาไม่ต้องจับกุมครับ ....

แต่ตำรวจบางคนไม่ได้อ่านหนังสือนี้ หรืออ่านก็บอกว่าเป็นแค่แนวทาง ในการปฏิบัติเป็นเรื่องของเขา .... เวลาเห็นปืน ก็เหมือนถูกหวยครับ ....

นี่แหละครับประเด็น ผมถึงได้บอกว่าแม้ไม่ผิด พรบ อาวุธปืน ม.8 ทวิ แต่ก็ผิด ป.อ. ม.371
ซึ่ง จนท ตร ที่ต้องการจับก็อาศัยช่องว่างตรงนี้แหละครับ

บันทึกการเข้า
ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป
มืออ่อน หมัดแข็ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 857
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 6569


เตสาหัง สิรสา ปาเท วันทามิ ปุริสุตตเม


« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 11:45:03 AM »

ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 “ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด  ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาทและให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น”


อันนี้หมายรวมถึงอาวุธประเภท มีด พร้า ดาบ โต้ ดิ้ว สนับ ฯลฯ  เป็นสำคัญ

ความผิดใดที่มีการระบุความผิดโดยเฉพาะ เช่น พ.ร.บ. อาวุธปืน ต้องใช้กฎหมายนั้นมาบังคับ

ถ้าเจ้าพนักงานจะแจ้งข้อกล่าวหานี้ก็ตามสบายครับ  ปรับหนึ่งร้อย คืนของกลาง เรื่องจบในครึ่งชม....  

ตร. ไม่มีอำนาจยึดครองกลาง ต้องเป็นศาลสั่ง หรือ มีการประกอบความผิดหลายกระทงเกี่ยวเนื่อง....

ปรกติไม่แจ้งข้อหานี้กับผู้นำพา หรือ พกพา อาวุธปืนหรอกครับ....... ถ้าเป็นมีด คัดเตอร์ อีโต้ อีดาบ ไม่แน่


ถ้าจะให้ตอบว่า นำพาแบบใดปลอดภัยที่สุด  ก็ต้องตอบว่า นำพา/พกพา อย่าให้ท่านจับได้.........

เพราะดุลพินิจเจ้าพนักงานแตกต่างกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 07, 2007, 12:50:28 PM โดย ทัดมาลา » บันทึกการเข้า

บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า
เสียเลือดเสียเนื้อมิใช่เบา หน้าที่เรารักษาสืบไป
      
ลูกหลานเหลนโหลนภายหน้า จะได้มีพสุธาอาศัย
อนาคตจะต้องมีประเทศไทย มิยอมให้ผู้ใดมาทำลาย
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #12 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 11:55:42 AM »

การยกคำพิพากษาศาลฎีกา  สิ่งที่ควรต้องระมัดระวัง 
คืออย่า ไปมีความเห็นตัวเองว่าเข้าใจดีแล้ว ซ้ำลงไปอีก..

ที่ จขกท. นำเสนอนั้น มีการให้ความเห็น.. ซ้ำลงไปอีก ..
และอาจคลาดเคลื่อน ไปตามมุมมอง ของผู้ให้ความเห็นนั้น   งอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 06, 2007, 12:02:46 PM โดย Ro@d » บันทึกการเข้า

คนส่องกล้อง
ปัจจตัง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 158
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1805



« ตอบ #13 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 11:59:53 AM »

การยกคำพิพากษาศาลฎีกา  สิ่งที่ควรต้องระมัดระวัง 
คืออย่า ไปมีความเห็นตัวเองว่าเข้าใจดีแล้ว ซ้ำลงไปอีก..

ที่ จขกท. นำเสนอนั้น มีการให้ความเห็นลงซ้ำลงไปอีก ..
และมันคลาดเคลื่อนมากซะด้วย  งอน


แม่นแล้วครับ แถมลอกเขามาอีก  Grin
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.182 วินาที กับ 21 คำสั่ง