เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 27, 2025, 05:02:46 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เก็บมาเล่า..เรื่องของพ่อ  (อ่าน 1057 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 06:05:16 PM »

 Smiley เลยวันพ่อไปหนึ่งวันแล้ว... แต่คงไม่สายเกินไปนะครับ

"กาลหนึ่งนานมาแล้ว นานเท่าไหร่ไม่รู้"
พ่อมักจะเริ่มต้นเรื่องอย่างนี้ทุกครั้ง
"เจ้าหญิงอยู่องค์หนึ่ง เจ้าหญิงคนนี้เป็นคนขยัน ทำอาหารเก่ง
ชอบทำงานบ้านเสมอ ๆ " เจ้าหญิงของพ่อมักจะเป็นคนที่ขยันเสมอ ๆ ...
"เจ้าหญิงได้พบกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในสวนดอกไม้ข้าง ๆ ปราสาท
ในขณะที่เจ้าหญิงกำลังเก็บดอกไม้"

ผมพิมพ์มาถึงตรงนี้ ก็ต้องกด Delete ลบข้อความนั้นทิ้งเสียหมด
หลังจากที่ผมนั่งจ้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ร่วมครึ่งชั่วโมงแล้วมั้ง
แต่งานเขียนของผมก็ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่มีอะไรคืบหน้า

ไม่มีอะไรขยับเขยื้อนไปสักอย่าง...ทั้ง ๆ
ที่ผมจะต้องส่งต้นฉบับในวันพรุ่งนี้แล้ว..แย่จริง ๆ
สมาธิหายไปไหนหมดนะ..
บรรยากาศ ภาพความหลังในวัยเด็กหายไปไหนหมดนะ - -
นี่ผมคิดผิดหรือเปล่าหนอ?

ที่รับงานเขียนเรื่องสั้นเกี่ยวกับพ่อมา ก็เพราะคำว่า
...พ่อ...นี่แหละที่ทำให้ผมเขียนไม่ออก ไม่รู้จะเขียนอะไร
เพราะพ่อไม่เคยอยู่ในความทรงจำของผม หรือเป็นฮีโร่เยี่ยงอย่างพ่อคนอื่น ๆ
จนบางครั้งผมมีความรู้สึกราวกับว่า
พ่อกับผม เป็นคนแปลกหน้า ที่ต่างวัย
และบังเอิญมาอาศัยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน...
พ่อยังเป็นคนทำลายครอบครัว ทำลายความรักที่แม่มีต่อพ่ออย่างหมดสิ้น
จนแม่ทนไม่ไหวต้องหย่าร้างกันไปในที่สุด
และพ่อยังจะทำลายความฝันของผมอีก

ผมอยากเรียนหนังสือ ผมชอบงานเขียนหนังสือ
ผมบอกกับพ่อในวันที่พ่อบอกให้ผมเลิกเรียนหนังสือ
และออกมาช่วยกันทำงานที่โรงกลึงของตนเอง..
"แกจะเรียนไปทำไมนักหนา กิจการของพ่อก็มี แล้วไอ้ความฝันบ้า ๆ บอ ๆของแกอีก"
"ผมทิ้งมันไม่ได้ ผมทิ้งความฝันของผมไม่ได้หรอกพ่อ" ผมเถียง
"แต่แกต้องทิ้งมัน แกต้องมาช่วยฉันทำงาน" พ่อขึ้นเสียงตอบกลับมา

"พ่อ มันหมดสมัยที่พ่อจะบังคับลูกแล้วนะ"
"แต่ฉันจะบังคับแก" พ่อยื่นคำขาด "พรุ่งนี้แกต้องไปลาออก"

"ผมเกลียดพ่อ ผมเกลียดความคิดโง่ ๆ
ของพ่อ...เกลียดการกระทำของพ่อ...
ที่วัน ๆ มัวแต่นั่งทำงานงก ๆ พ่อไม่เคยสนใจผม

พ่อไม่เคยถามผมสักคำว่าผมต้องการอะไร

เอ๊ะอ๊ะอะไรพ่อก็บังคับผม...ผมเกลียดพ่อ..."

ฝ่ามืออันหนักอึ้งของพ่อกระทบลงบนใบหน้าแก้มข้างขวาของผมอย่างจัง...

"แกออกไป...แกออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้นะ แกไม่ใช่ลูกฉัน"
"ดูแลตัวเองดี ๆ นะ..." ผมหันมาบอกน้องชายที่ยืนอยู่ห่าง ๆ
ก่อนที่ผมจะก้าวเดินออกจากบ้านหลังนั้นมาด้วยความเครียดแค้นที่สุมรุมอยู่ในหัว

นับจากวันนั้นมา ผมเลือกใช้ชีวิตอยู่ในห้องเช่าหลังหนึ่งตามลำพัง
ยังดีที่มีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเกือบหมื่น...ซึ่งมันก็พอจะเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆได้บ้าง
แต่ผมก็ยังเฝ้าหางานทำอยู่หลายที่
แต่มาตกอยู่กับการเป็นนักแสดงสมทบ

หรือที่ใคร ๆ เรียกกันติดปากว่า...ตัวประกอบ
เพื่อแลกกับเงินเพียงไม่กี่ร้อย
แต่ผมก็ยังไม่ละทิ้งความฝันที่อยากจะเป็นนักเขียนหรอก
ผมเฝ้าฝึกฝีมืองานเขียน จนคิดว่าดีพอ
ถึงได้ลองส่งไปลงยังนิตยสารฉบับหนึ่ง
จนในที่สุดก็ได้รับการตีพิมพ์ ผมเริ่มมีความสุขกับการเขียนหนังสือมากขึ้น

เมื่อความฝันของผมเป็นจริง...
หนังสือเล่มแรกในชีวิตของผมพิมพ์เสร็จเป็นรูปเล่มเรียบร้อยแล้ว
ผมรับหนังสือจากพี่ใหม่มา เปิดออกดูทีละหน้า ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า

ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะมีโอกาสแบบนี้จริง ๆ...

"นี่มันสุดยอดความฝันของผมเลยครับพี่ ขอบคุณมากครับ"
"เอ้า...นี่หนังสือของนัทเก้าเล่ม พี่ให้นัทเอาไว้แจกเพื่อน ๆ
ถ้าไม่พอยังไงก็เข้ามาเอาใหม่ล่ะกัน" พี่ใหม่หยิบห่อกระดาษยื่นให้ผม
"และนี่เช็คเงินสดค่าเรื่อง"

"ขอบคุณมากครับ พี่ใหม่" ผมรับเช็คค่าความคิด
ค่าน้ำหมึกของผมมาถือไว้ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่ที่แน่ ๆ
มันเต็มเปี่ยมจนล้นไปด้วยความภาคภูมิ

มาถึงตอนนี้ผมมั่นใจได้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริงไม่ใช่ความฝัน
ผมอยากให้พ่อรู้เหลือเกินว่า ในที่สุดผมก็ทำความฝันของผมได้สำเร็จ

ผมละภาพความหลังเก่า ๆ
ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ด้วยการไปเดินเล่นที่ท่าน้ำ...
สายน้ำแห่งเจ้าพระยายังคงไหลเวียนไม่ขาดสาย

ประกายแสงจากดวงอาทิตย์ สะท้อนผืนน้ำระยิบระยับ ... เรือลำน้อย

เรือลำใหญ่แล่นว่ายอย่างเช่นเคย ...
ที่ตรงนี้ล่ะที่ทำให้ผมมีความสุข

รู้สึกสบายอกสบายใจทุกครั้ง ... และมักจะได้คำตอบหรือ
แนวพล็อตเรื่องอยู่เสมอๆ

วันนี้ผมก็หวังไว้เช่นนั้นเหมือนกัน
เสียงเรียกเครื่องเพจเจอร์ ทำลายความเงียบนั้นลง

"พ่อถูกรถชน พี่รีบมาด่วนนะ..."
ผมกดข้อความจากน้องชายอ่านซ้ำไปมา ใจหนึ่งลังเลจะไปดีหรือไม่ดี แต่ขาน่ะสิรีบก้าวออกไปก่อน โดยไม่รอคำตอบ

"ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ" ผมถามน้องชายเมื่อไปถึงโรงพยาบาล
"ก็พ่อน่ะสิ ทำหนังสือหล่นกลางถนน เลยหยุดเก็บ ก็เลย..."
น้องชายพูดเสียงสั่นเครือ
"แค่หนังสือเนี๊ยนะ เอามาแลกกับชีวิต พ่อนี่บ้าหรือเปล่า"

ผมยังมิวายหยุดว่าพ่อ
"ถ้าไม่ใช่หนังสือของพี่ พ่อก็คงไม่เก็บหรอก"
คำพูดของน้องชาย ทำเอาผมอึ้งไปพูดไม่ออก ... หนังสือของผม ...
เพราะหนังสือของผมเหรอ........

"พอพ่อรู้ว่า...หนังสือของพี่วางแผง พ่อก็รีบไปซื้อทันที
พ่อบอกว่า ไม่ซื้อไม่ได้ นี่ผลงานของลูก นี่ความฝันของลูก และพ่อยังบอกอีกว่า พ่อจะซื้อหนังสือของพี่ทุกเล่ม"

มาถึงตรงนี้ หยาดน้ำตาก็เริ่มไหลเอ่อรื้น อยู่เต็มขอบตา
"พี่รู้ไหม...พ่อคิดถึงพี่มากแค่ไหน พ่อคิดถึงพี่เสมอนะ
พ่ออยากให้พี่กลับมาอยู่ด้วย พ่อยังบอกอีกว่า พ่อจะไม่บังคับอะไรลูกๆอีกแล้ว

ชีวิตเป็นลูกพ่ออยากให้ลูกเลือกเดินเอง
แต่พ่อจะคอยอยู่ข้างหลัง คอยเป็นกำลังใจให้
ในยามที่ลูกเหนื่อยลูกท้อ

พ่อยังบอกอีกว่า
พ่อเชื่อว่า ลูกสามารถทำความฝันของตนเอง
เป็นจริงขึ้นได้อย่างมั่นคง"

คำพูดของน้องชาย ทำเอาน้ำตาที่เต็มไหลอาบแก้มเมื่อครู่
ไหลอาบแก้มอย่างไม่รู้ตัว...
ผมไม่เคยรู้สึกดีกับพ่อมาก่อนอย่างนี้...
ผมไม่เคยรู้สึกรักพ่อมาก่อนเท่าครั้งนี้...
ถึงเวลานี้ผมได้แต่ นั่งรอเวลาที่ผมจะโผเข้าสวมกอดร่างของพ่ออีกครั้ง...
จะนานแค่ไหนไม่รู้...
จะนานกี่ชั่วโมงไม่รู้...
กว่าที่ประตูห้องฉุกเฉินนั่นจะเปิดออก

แล้วผมจะกลับเข้าบ้านหลังนั้นอีกครั้ง ...
กลับเข้าไปสู่อ้อมแขนของพ่ออีกครั้ง...
และครั้งนี้ มันคงทำให้ผมเขียนเรื่องสั้นได้ทัน
ส่งต้นฉบับวันพรุ่งนี้แน่นอน...
ผมตั้งชื่อเรื่องรอไว้ก่อนแล้วว่า ...นิทานของพ่อ

พ่อคนเดียวที่สอนให้ผมรู้จักตัวเอง ให้ผมเข้มแข็ง
ให้ยืนหยัดได้ด้วยความฝัน สองแขนสองขาของตัวเอง
ผมอยากบอกว่า ผมรัก รักมาก
อย่างที่ไม่เคยรักมาก่อน ... และผมก็รักพ่อไม่น้อยกว่าที่รักแม่หรอก

Today , Are you Love your Daddy..... ?
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
Ramsjai
^ป้าแรมส์ใจดี^
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1075
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 7191


"ชีวิตมีคนที่เกลียดไม่กี่คน ที่เหลือรำคาญ"


« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 06:09:25 PM »

ขอบคุณมากค่ะคุณวัฒน์
สำหรับคนที่พ่อยังอยู่ รักพ่อให้มากเท่ากับหรือมากกว่าที่ท่านรักเรานะคะ
บันทึกการเข้า

ถ้าเป็นความทรงจำที่มีค่าล่ะก็..ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะคนตายจะมีชีวิตอยู่ในความทรงจำของเราเท่านั้น..
ชัยบึงกาฬ รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1991
ออฟไลน์

กระทู้: 8962


ต้องรู้ให้ถึงแก่น...


« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 06:19:04 PM »

ขอบคุณครับพี่วัฒ...แต่ผมไม่มีพ่อให้กอดแล้วครับ...ใครที่ยังมีพ่อให้กอด..จงกอดท่านครับ
บันทึกการเข้า
Min-Min
Hero Member
*****

คะแนน 969
ออฟไลน์

กระทู้: 3776


« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 06:23:00 PM »

ขอบคุณค่า ไหว้
บันทึกการเข้า

หากฉันใช้สมองจดจำเรื่องราวก็ยังพอจะลืมเธอได้  แต่ฉันใช้หัวใจเก็บความทรงจำเรื่องของเรา
rockguns
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 06:30:41 PM »

               ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้  พี่วัฒน์เองหรือเปล่าครับ เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า
JJ-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 386
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9425


« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2007, 06:46:57 PM »

ขอบคุณครับพี่วัฒน์
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.087 วินาที กับ 21 คำสั่ง