เมื่อวานผมได้ของสุนัขมา 2 อันครับ....เทศบาลแถมมาให้พร้อมวัคซีนครับ
หมดกัน....

เอ้า +1
ขอบคุณพี่ PU45 มากนะครับที่ให้ความกระจ่าง...

+1 ปาย
ในป้ายจะมีข้อมูลดังนี้
- ชื่อ นามสกุล
- หมายเลขประจำตัว
- ศาสนา
- กลุมโลหิต
-สังกัด
คนหนึ่งมี 2 แผ่น
ขอบคุณครับพี่เผด็จ...+1 อีกท่านครับ.

เครดิตโดย เวป taharn.net ครับ
Dog tags ป้ายห้อยคอทหารเขาไม่ได้ใช้ห้อยคอเพื่อความเท่ย์เพียงอย่างเดียว
............... หลาย ๆ ท่านที่เคยชมภาพยนต์สงครามของอเมริกันตั้งแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นต้นมาจะเห็นว่ามีหลายตอนที่ท่านจ ะสังเกตุเห็นสิ่งที่ห้อยคอทหารอเมริกันอยู่ หรือสำหรับท่านที่เป็นทหารบางท่านอาจจะเคยเห็นของจริงมาแล้ว โดยมีลักษณ ะเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมกว้างประมาณ ๑ นิ้ว ยาว ๒ นิ้ว มี ๒ แผ่น และมีสร้อยที่ลักษณะเป็นเม็ด ๆ มาต่อกันเส้นแรกเอาไว้คล้องคอ โดยมีป้ายแขวนอยู่ด้วย ๑ อัน ส่วนอีก ๑ อันนั้นจะแขวนกับสร้อยเส้นสั้น ๆ อีกเส้นหนึ่ง แล้วเอาสร้อยเส้นสั้นนั้นแขวนกับสร้อยเส้นยาวที่คล้องคออีกที่หนึ่ง บนแผ่นป้ายทั้ง ๒ อันจะเขียนโดยการปั๊มลงไปเหมือนกัน คือ ยศ ชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวทหาร ศาสนาและกรุปเลือด ของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งทหารอเมริกันจะได้รับแจกทุกนาย สำหรับของไทยเรานั้นถ้าจะทำเอาแบบอเมริกันเลยจะประมาณ ๒๕๐ - ๓๐๐ บาทต่อชุด หลาย ๆ ท่าน รวมทั้งเพื่อน ๆ ผมเคยถามว่าทำไมทหารอเมริกันถึงต้องทำแบบนั้น ทำเป็นบัตรประจำตัวหรือปักติดเสื้อไม่ได้หรือแล้วก็เขียนด้วยภาษาไทยก็น่าจะ ดีกว่าเพราะถ้าตายขึ้นมาก็จะมีทหารไทยเท่านั้นที่ไปเก็บศพ ซึ่งผมเองได้เล่าให้ฟังว่าป้าย Dog tags ที่เขาคิดขึ้นมานั้น เนื่องจากเมื่อมีสงครามเกิดขึ้นในอดีตที่ผ่านมานั้น ประชาชนได้ถูกเกณฑ์ไปรบ และล้มตายเป็นจำนวนมากผสมปนเปกันระหว่างทหารศัตรูและชาติเดียวกัน ทำให้แยกศพได้ลำบากเพราะบางที่ศพถูกทิ้งไว้เป็นเดือน ๆ ซึ่งเกิดความยุ่งยากในการแจ้งการสูญเสียให้แก่หน่วย ปและญาติผู้เสียชีวิตได้ทราบ เขาจึงได้ออกแบบสิ่งที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ โดยออกแบบตามประสบการณ์การรบที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตและตามกฎของสงครามที่ทำกันแบบสากล ซึ่งก็คือ เจ้า Dog tags ที่ผมว่านี่แหละครับ โดยสามารถที่จะอธิบายตามเหตุผลในรายละเอียดที่เขาคิดขึ้นมาได้ดังนี้
# ก่อนอื่นเรามาทราบวิธีการใช้เสียก่อนนะครับ ในระหว่างการทำการรบทหารที่เข้าทำการรบจะต้องมีป้ายแขวนคอทุกนาย เมื่อใดที่ได้เจอศพทหารฝ่ายเดียวกัน หรือเห็นว่าเพื่อนที่อยู่ด้วยกันได้เสียชีวิตลง แต่ภารกิจที่ได้รับมอบมายังไม่สำเร็จ สิ่งแรกที่ต้องทำหลังจากที่ปลอดภัยแล้ว คือการล้วงเข้าไปที่อกเสื้อเพื่อดูว่าป้ายห้อยคอมีใครเอาไปหรือยังถ้ายัง อยู่ก็กระตุกสร้อยเส้นยาวที่ร้อยอยู่ที่คอของศพทหารฝ่ายเดียวกัน แล้วเก็บป้ายหนึ่งอันไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของตนเอง ต่อไปให้เอาป้ายอีกอันที่ร้อยอยู่กับสร้อยเส้นสั้นนั้นยัดใส่ปากของศพไว้ สุดท้ายก็คือล้วงไปที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของศพว่า มีป้ายที่เขาเก็บมาจากศพอื่นก่อนหน้านี้หรือไม่ ถ้ามีก็ย้ายมาเก็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายของเราเอง หลังจากนั้นก็ปฏิบัติภารกิจต่อไป สรุปว่าถ้าการรบในครั้งนั้นทั้งกองร้อยทหารราบรอดตายอยู่คนเดียวคนสุดท้าย ที่เหลืออยู่ก็จะมีป้ายแขวนคอของเพื่อน ๆ ในกองร้อย ๒๐๖ อัน สำหรับศพนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เก็บศพมาถึงก็จะล้วงเข้าไปในปากของศพถ้าไม่พบ ป้ายห้อยคอของศพ ซึ่งถ้าพบว่าอยู่ในปากก็จะนำมาผูกร้อยที่เชือกรองเท้าของศพ แล้วจับศพมานอยเรียงกันเพื่อให้เจ้าหน้าที่บันทึกมาดำเนินการต่อไป หรือถ้ารองเท้าไม่มีก็เอามาห้อยที่นิ้วเท้าของศพเพื่อดำเนินกรรมวิธีต่อไป สำหรับผู้ที่รอดตายก็จะนำเอาป้ายแขวนคอที่รวบรวมได้นั้นมาส่งให้ผู้บังคับ บัญชาเพื่อจะได้แจ้งให้ญาติพี่น้องของตนเองได้ทราบว่าทหารคนนั้นได้เสีย ชีวิตไปแล้ว ซึ่งอาจจะหาศพเจอหรือไม่ หรือว่าหาเจอแล้วจะส่งกลับประเทศหรือไม่ก็แล้วแต่สถานการณ์ในขณะนั้น มีเกร็ดเพิ่มเติมอยู่นิดหนึ่งว่าในปัจจุบันนี้จะไม่มีการแถลงชื่อผู้ที่บาด เจ็บล้มตายในสนามรบแก่สื่อมวลชนใด ๆ จนกว่าที่ญาติพี่น้องของคนตายจะได้รับรู้ว่าทหารผู้นั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว ต่อไปลองมาดูเหตุผลเล็ก ๆ น้อย ๆ กันครับดังต่อไปนี้
# ทำไมเขาถึงต้องทำป้ายห้อยคอ ก็เพราะว่าในการทำสงครามนั้นทหารที่เขาทำการรบนั้นต้องมีคนบาดเจ็บล้มตาย ซึ่ง ถ้ามีการรบแบบนองเลือดมีการตายเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ คน ซึ่งคนเจ็บคนตายไม่สามารถให้ข้อมูลตนเองได้ กว่าที่จะมีใครมาเก็บศพหรือนำตัวไปรักษานั้นก็อาจจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่า ใครเป็นใครซึ่งทำให้ไม่สามารถนำศพนั้น ๆ ส่งไปให้ญาติที่อยู่แนวหลังได้ถูกต้อง แบบเดียวกับตอนเครื่องบินตกทั่วๆ ไป ที่ยากยิ่งที่จะเก็บศพแล้วพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นใครใครได้
# ทำไมต้องเขียนยศชื่อ นามสกุลลงไป ก็เพราะต้องการให้คนที่มาเก็บศพแยกแยะได้ว่าใครเป็นนายทหาร นายสิบหรือพลทหาร และชื่ออะไร เพราะในการตายแต่ละครั้งนั้นข้อมูลของผู้เสียชีวิตในสงครามโดยเฉพาะการรบที่ ดุเดือด เขาจะได้นำไปเอาชื่อต่าง ๆ เหล่านั้นพร้อมกับวีรกรรมที่คนรอดชีวิตเล่าถึงพฤติกรรมที่กล้าหาญของคนเหล่า นั้น เพื่อนำไปตั้งชื่อ ค่าย ชื่ออาคาร ชื่อถนน หรือทำเป็นอนุสาวรีย์ ให้ ที่ค่ายทหารต่าง ๆ ในสหรัฐเพื่อเป็นเกียรติประวัติ และเป็นตัวอย่างแห่งความกล้าหาญให้แก่ลูกหลานสืบไป ซึ่งถ้าใครได้เคยไปตามค่ายทหารสหรัฐก็จะเห็น ชื่อ ของพลทหาร นายสิบ และนายทหารที่เสียชีวิตจากการบเป็นชื่อของอาคาร สถานที่และถนนต่าง ๆ โดยทั่วไป
# ทำไมต้องเขียนกลุ่มเลือดลงไปด้วย ก็เพื่อเมื่อมีการบาดเจ็บ เจ้าตัวไม่สามารถพูดได้ และต้องการเลือดก็สามารถดำเนินการการได้ทันที โดยไม่ต้องรอเวลาพิสูจน์กลุ่มเลือดอีก หรือถ้าไม่ได้บาดเจ็บแต่ต้องการบริจาคเลือดให้คนบาดเจ็บก็สามารถบริจาคได้ ทันที
# ทำไมต้องเขียนศาสนา ศาสนาเป็นสิ่งที่ทุกชาติมีและเชื่อถือ ในการทำสงครามทหารที่มาร่วมนั้นถือว่าเป็นผู้มีเกียรติ มิใช่ฆาตรกร ดังนั้นเมื่อเสียชีวิตแล้ว ก็จะได้รับเกียรติ จากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเดียวกัน ฝ่ายข้าศึกหรือฝ่ายเป็นกลาง ในการดำเนินพิธีกรรมทางศาสนาแก่ผู้ที่เสียชีวิตนั้นๆ ตามความเชื่อทางศาสนาของบุคคลนั้น แม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว
# ทำไมต้องเป็นภาษาอังกฤษถ้าเราทำเราจะเป็นภาษาไทยดีกว่าไหม ทำได้แต่ไม่ดีเพราะ ในการทำสงครามนั้นการดำเนินการด้านการศพนั้น ไม่จำกัดว่าฝ่ายเดียวกันต้องดำเนินการ ฝ่ายข้าศึกก็ดำเนินการได้ เช่นเดียวกับศพข้าศึก ซึ่งถ้าไม่มีใครดำเนินการฝ่ายเราก็ต้องดำเนินการ ซึ่งอย่างที่กล่าวว่าทหารไม่ใช่ฆาตรกร การสังหารนั้นเป็นหน้าที่ที่ได้รับคำสั่งและกระทำอย่างมีเกียรติมิได้กระทำ เพราะความเ***้ยมโหดของจิตใจ ดังนั้นเมื่อเสียชีวิตลงจึงควรได้รับการปฎิบัติอย่างมีเกียรติจากทุกฝ่าย ตามความเชื่อของผู้ที่เสียชีวิต ซึ่งจะสามารถอ่านและเข้าใจได้จาก ป้ายห้อยคอ ซึ่งเขียนด้วยภาษาที่คนส่วนใหญ่ของโลกเข้าใจก็คือภาษาอังกฤษนั่นเอง
# ทำไมต้องทำด้วยอลูมิเนียมแล้วใช้การปั๊มแทนที่จะใช้สีเขียน การที่ทำด้วยแผ่นอลูมิเนียมก็เพื่อป้องกันการกระทบกระแทกเวลาหมอบลุก คลุกคลาน จะได้ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ สำหรับที่ใช้การปั๊มนั้นก็เพื่อมั่นใจได้ว่าจะไม่มีการลบลอกเมื่อใช้เป็น เวลานาน แม้ว่าจะอ่านยากอยู่สักหน่อย แต่แผ่นอลูมิเนียมนั้นสามารถที่จะทนความร้อนได้ดีกว่าป้ายผ้าหรือกระดาษ ในกรณีที่ศพอาจจะถูกไฟไหม้ เช่น ติดอยู่ในรถ หรือเครื่องบินตก
# ทำไมต้องทำสร้อยเป็นแบบเม็ดแล้วต้อง ๒ เส้น เส้นสั้นกับเส้นยาว ก็เพื่อเมื่อเวลาเพื่อน ๆ ในสนามรบจะต้องมาเก็บป้ายเอาไปหนึ่งอัน ซึ่งต้องรีบเก็บด้วยการกระชากออกจากคอ ซึ่งทำให้ขาดได้ทันที่ แต่เวลาปกตกติตะไม่ขาดง่ายและไม่เป็นเชื้อราเหมือนกับเชือกร่ม และที่ต้องทำเส้นยาวนั้นก็เพื่อเอาไว้ห้อยคอ แต่เส้นสั้นนั้นเอาไว้ตอนที่เขาเอาศพมาเรียงกัยมาก ๆ เขาจะใช้เส้นสั้นร้อยกับเชือกรองเท้า หรือ คล้องปลายนิ้วเท้าไว้
ขอบคุณครับพี่ helldiver....+1 ครับพี่...
