ต่อครับ....
จะเห็นได้ว่า แม้แรงงานไทยจะเป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการค้าผลไม้ป่า แต่ที่ผ่านมาเรายังไม่สามารถวาง
รากฐานการส่งออกแรงงานไทยในสวีเดนได้ เนื่องจากปัญหาการหลอกลวงโดยคนไทยด้วยกันเอง อย่างไร
ก็ตาม โดยที่แรงงานไทยมีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการเก็บผลไม้ป่าได้เป็นจำนวนมาก โดยเฉลี่ยมาก
ถึงคนละ 60 กิโลกรัมต่อวัน อีกทั้งเป็นแรงงานที่ไม่สร้างปัญหา เช่น ลักเล็กขโมยน้อย กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ
ผลไม้ป่าชาวสวีเดน จึงตัดสินใจเข้ามาดำเนินการนำเข้าแรงงานไทยเอง
เมื่อปีค.ศ. 2003 กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจผลไม้ป่าชาวสวีเดน ได้รวมตัวกันก่อตั้งสมาคม Sverige Bär Intress Förening
ขึ้น ดำเนินการเจรจากับรัฐบาลสวีเดน อ้างถึงความจำเป็นต้องใช้แรงงานไทย เพื่อให้ธุรกิจของตนอยู่รอด โดยขอเป็น
ผู้นำเข้าแรงงานไทยเอง และขอยกเว้นใบอนุญาตทำงานให้แรงงานเหล่านี้ เพื่อที่แรงงานจะได้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้
และนายจ้างไม่จำเป็นต้องเสียภาษีนายจ้าง ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลสวีเดนด้วยดี จากนั้น สมาคมฯ จึงได้ติดต่อ
ขอให้คนไทยในสวีเดน ช่วยดำเนินการในฐานะ นายหน้า รวบรวมแรงงานไทยให้ โดยแรงงานจะต้องเสียค่าใช้จ่ายบัตร
โดยสารเครื่องบินและค่าดำเนินการของวีซ่าเอง แต่ไม่ต้องเสีย "ค่าดำเนินการ" หรือเงินกินเปล่าให้แก่นายหน้า
อย่างไรก็ดี นายหน้ากลุ่มนี้จะได้รับประโยชน์จากการให้เช่าที่พัก และขายอาหาร (ในราคาที่ยุติธรรม) ให้กับแรงงาน
รวมทั้งได้ค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการช่วยจัดการสั่งผลไม้จากสมาคมฯ ซึ่งรับซื้อผลไม้จากแรงงานอีกกิโลกรัมละ 1 โครน
ผลจากการดำเนินการอย่างเป็นระบบดังกล่าว ทำให้แรงงานไทยที่เข้ามาค้าแรงงานในปี 2003 นำรายได้กลับประเทศรวม
แล้วถึง 85 ล้านบาท ภายในเวลาเพียงสองเดือนครึ่ง ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น อย่างไรก็ดี มีข้อจำกัดบางประการสำ
หรับแรงงานเก็บผลไม้ป่า ซึ่งไม่เหมือนแรงงานก่อสร้าง หรือแรงงานให้บริการอื่นๆ เนื่องจากเป็นแรงงานตามฤดูกาล
มีช่วงระยะทำงานเพียง 2-3 เดือนต่อปี และมีรายได้ที่ขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศ สำหรับปี 2004 นี้ มีแรงงานไทยโดยการ
นำเข้าของสมาคมดังกล่าวเข้ามาแล้ว ถึง 1,527 คน โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานยอดรายได้ทั้งหมด เนื่องจากยังไม่หมดฤดูกาล
การเข้ามาดำเนินการนำเข้าแรงงานไทยของสมาคมฯ ถือเป็นการจัดระเบียบการนำเข้าแรงงานไทยเก็บผลไม้ป่าเป็นครั้งแรก
และมีผลออกมาเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ทำให้แรงงานไทยได้รับโอกาสที่สูญเสียไปเป็นเวลาเกือบ 15 ปี กลับคืนมา
เป็นที่คาดหมายว่า ในปี 2005 ความต้องการแรงงานไทยจะเพิ่มมากขึ้นเป็น 3,000 คน หากคำนวณโดยคร่าว โดยใช้อัตราเดียว
กับรายได้ต่อคนเมื่อปี 2003 ในปี 2005 แรงงานไทยเก็บผลไม้ป่าในสวีเดน ซึ่งมาทำงานเพียง 2-3 เดือน อาจนำรายได้เข้า
ประเทศได้ถึง 555 ล้านบาททีเดียว ขอเพียงแต่แรงงานไทยรักษาชื่อเสียงด้านคุณภาพ และเป็นแรงงานที่ไม่สร้างปัญหา
โอกาสของแรงงานไทยที่มาเก็บผลไม้ป่าในสวีเดน ยังคงเปิดกว้างอยู่อีกมาก
จาก
Click