เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 27, 2025, 12:14:59 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดใจ ช่างดูแล รถยนต์พระที่นั่ง  (อ่าน 3377 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
นายรัก-รักในหลวง-
เลือด สี น้ำ เงิน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1646


จงภูมิใจในความเป็นตัวของตัวเอง


« ตอบ #30 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2009, 02:17:32 PM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ  ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้
บันทึกการเข้า

"สี่คนหาม สามคนแห่ หนึ่งคนนั่งแคร่ สองคนพาไป"
Choro - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 214
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3853



« ตอบ #31 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2009, 04:23:41 PM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ  ไหว้

  ผมอยากมีบุญแบบช่างอนันต์ครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า

สุดท้ายชีวิตไม่ขอรวย ขอแค่ไม่ป่วยก็พอแล้ว
birdwhistle...รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 218
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1293


« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 02, 2009, 04:48:44 PM »

ขอให้พระพลานามัยแข็งแรง ทรงหายจากพระประชวรในเร็ววัน

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ  ไหว้ ไหว้ ไหว้

บันทึกการเข้า

เมื่อมั่งมี มิตรมากมาย มาหมายมอง  
เมื่อมัวหมอง มิตรมอง เหมือนหมูหมา
ไม่มั่งมี มิตรมากมาย ไม่มีมา
แม้มอดม้วย มิตรหมูหมา ไม่มามอง
TOW MATER
Jr. Member
**

คะแนน 3
ออฟไลน์

กระทู้: 56


« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2009, 01:20:03 PM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ไหว้


ผมอ่านแล้วก็น้ำตาซึมครับ
บันทึกการเข้า
Peerapat - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 178
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1690


จะรบเป็นชาติพลี มอบวิญญาณ ดวงนี้ เพื่อผืนดินไทย


เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2009, 08:45:14 PM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
 

     ไหว้
บันทึกการเข้า

วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2009, 10:33:31 PM »

ชีวิตหลังพระเมตตาแผ่ปก  ไหว้



พรพิภัทร ขอสุก กับครอบครัว



"คืนหนึ่งผมฝันว่าในหลวงและพระราชินีเสด็จฯมาเยี่ยมและบอกจะช่วย จึงเล่าให้แม่ฟัง คิดว่าจะเขียนจดหมายถึงพระองค์"

เรื่องราวมากมายของเด็กนักเรียนยากจนข้นแค้น มีความเป็นอยู่ยากไร้ ต้องดิ้นรนต่อสู้ทุกวิถีทาง เหมือนชีวิตนี้จะไร้ที่พึ่ง แต่พลันที่พวกเขาระลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ชีวิตที่อับจนหนทางไปกลับมามีความหวังเรืองรอง

เช่นชีวิตของ "พรพิภัทร ขอสุก" หรือ "แดง" วัย 19 ปี นักเรียน ม.6 โรงเรียนรัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เคยคิดพักการเรียนทิ้งอนาคตเพื่อออกไปทำงานหาเงินส่งน้อง 2 คนเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน ซึ่งต้องเลี้ยงดูยายวัย 78 ปี กับบิดาป่วยเป็นโรคนิ่วและโรคไต เพราะแม่ไปหางานทำในเมืองกรุง

"แวบหนึ่งตอนนั้น ผมคิดถึงที่พึ่งหนึ่งเดียวในใจคือองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์มีพระเมตตาให้โอกาสแก่คนยากจน จึงไปปรึกษาหัวหน้าไปรษณีย์ อ.รัตนบุรี และได้เขียนเรื่องราวทูลเกล้าฯถวายฎีกาเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2551 กระทั่งวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2552 ผมได้รับเรื่องแจ้งจากสำนักพระราชวังตอบกลับมาในที่สุด"

สำนักพระราชวังมอบเงินทุนพระราชทาน จำนวน 200,000 บาท ให้สร้างบ้านหลังใหม่เรียบร้อยแล้ว ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเครื่องอุปโภคบริโภค คณะครูโรงเรียนรัตนบุรี ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ช่วยทุนการศึกษาระยะสั้น นายประเทือง เติมสุข นายก อบต.ทับใหญ่ อ.รัตนบุรี ช่วยทุนระยะยาว ส่วน นางกรรณิการ์ เจริญพันธ์ ส.ส.สุรินทร์ เขต 2 ช่วยรับบิดา-มารดาไปทำงานบ้าน




(บน) สภาพบ้านหลังเก่าของพรพิภัทร (ล่าง) บ้านหลังใหม่ที่พรพิภัทรได้รับหลังถวายฎีกา



จากเด็กเรียนดีกตัญญูรู้คุณ ไม่งอมืองอเท้า ขอเพียงมีโอกาส และโอกาสนั้นมาถึงแล้ว เหลือเพียงความใฝ่ฝันที่จะก้าวไปให้ถึงเป้าหมายคือนักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ ด้วยคติประจำใจว่า "หีบที่เต็มไปด้วยเงินทอง มีค่าไม่เท่ากับสมองที่เต็มไปด้วยความรู้"

ปี 2550 ด.ญ.วิไลวรรณ หลักนาลาว อายุ 14 ปี ผู้ยากไร้แห่งบ้านหนองตาก้าย ต.หนองประดู่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ได้เขียนจดหมายทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานการช่วยเหลือทุนการศึกษา ด้วยเหตุครอบครัวยากไร้ บิดาเสียชีวิต มารดาทำงานต่างถิ่น ต้องอาศัยอยู่กับ ยายเจียน หลักนาลาว วัยกว่า 70 ปี ตามลำพัง หาเลี้ยงครอบครัวด้วยอาชีพรับจ้างทำไร่ เผาถ่าน หาเงินมาจุนเจือครอบครัวและส่งหลานเรียน

ภายหลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ สพท.กาญจนบุรี เขต 4 มอบหมายให้ผู้บริหารโรงเรียนบ้านหนองตาก้าย ดูแลให้คำปรึกษา หลายหน่วยงานช่วยเหลือด้านต่างๆ โดยเฉพาะทุนการศึกษาต่อเนื่องจนจบปริญญาตรี




(ซ้าย) ศุภักษร เรืองศรี กับคุณแม่ (ขวา) วิไลวรรณ หลักนาลาว



วันนี้ วิไลวรรณกำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี เธอยังคงมุ่งมั่นกับการศึกษาให้สมกับที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ บนความใฝ่ฝันในอนาคต อยากเป็นตำรวจหญิง ทำหน้าที่ปกป้องชุมชนของเธอให้สงบสุข เท่าที่เด็กในหมู่บ้านคนหนึ่งที่มีโอกาสทางการศึกษาคนนี้จะทำได้

หนังสือจากสำนักพระราชวัง ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นเสมือนคบเพลิงซึ่งจุดประกายสว่างให้ชีวิต ด.ช.ศุภักษร เรืองศรี อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ซึ่งป่วยด้วยโรคไขกระดูกสันหลังฝ่อ มีกำลังใจอยู่สู้ชีวิตต่อไป

น้องโจ้อาศัยบ้านเช่าซอยเจริญสุข ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา กับ นางปราณี อินทร์ขำ มารดา วัย 34 ปี เธอหอบลูกเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาล (รพ.) พระมงกุฎเกล้าฯ อย่างคนสิ้นหวัง เงินทองที่มีอยู่ร่อยหรอลงเรื่อยๆ

"ผมป่วยหนักเลยต้องหยุดเรียน ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยตุ่มใส ไม่สบายตลอดเวลา ไม่รู้จะทำอย่างไร มีอยู่คืนหนึ่งผมฝันว่าในหลวงและพระราชินีเสด็จฯมาเยี่ยมและบอกจะช่วย จึงเล่าให้แม่ฟัง คิดว่าจะเขียนจดหมายถึงสองพระองค์ แต่แม่ห้ามในครั้งแรกว่า ขอให้ในหลวงทรงหายป่วยออกจากโรงพยาบาลก่อน แล้วจึงค่อยเขียนไป จนกระทั่งในหลวงทรงหายป่วย จึงเขียนไปถึงสำนักพระราชวัง ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าอยู่แถวไหน" น้องโจ้เล่าด้วยความใสซื่อ

"พระองค์ท่านเพิ่งจะหายป่วยและพระพี่นางสิ้นพระชนม์ แต่พระองค์ยังมองเห็นความเดือดร้อนของประชาชนทุกคน และให้ความช่วยเหลือ พอมีหนังสือตอบกลับมาน้ำตาไหลพราก เชื่อว่าลูกต้องดีขึ้นแน่นอน ถือว่าเป็นที่สุดในชีวิตแล้ว" นางปราณีพูดด้วยน้ำตาคลอเบ้า

ปัจจุบันน้องโจ้เรียนจบ ป.6 แล้ว แม้ไม่ได้เรียนต่อเพราะปัญหาสุขภาพ แต่นางปราณีก็ดีใจที่ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องหลังสำนักพระราชวังประสานมา เป็นค่าครองชีพสัปดาห์ละ 1,500 บาท และ รพ.พระนครศรีอยุธยาจัดรถพยาบาลรับส่ง รพ.พระมงกุฎฯ ฟรีเดือนละ 4 ครั้ง รพ.พระมงกุฎฯดูแลค่ารักษาให้ทั้งหมด

"น้ำพระทัยของพระองค์เสมือนน้ำทิพย์มาต่อชีวิตให้น้องโจ้ยืนยาวอยู่กับแม่นานวันมากขึ้น ทุกวันนี้น้องโจ้มีสภาพไปตามภาวะของโรค เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบภาวะเลือดออกในสมอง แพทย์ช่วยเหลือจนรอดมาได้อีกครั้ง โจ้กลับมาอยู่ที่บ้านพักด้วยกำลังใจจากทุกฝ่าย เป็นบุญสูงสุดในชีวิตที่ได้รับพระราชทานการช่วยเหลือ" แม่น้องโจ้กล่าว




ที่มา : มติชน
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad01031252&sectionid=0115&day=2009-12-03

บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
ART
ชีวิตคิดบวก แล้วจะ Happy
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 552
ออฟไลน์

กระทู้: 10811



« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2009, 01:26:55 AM »

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.084 วินาที กับ 21 คำสั่ง