ขออนุญาตปรึกษาด้านการทำเว็บหน่อยครับผม

[RSIA01 - รักในหลวง]

คือ ผมมีความจำเป็นที่จะต้องทำเว็บไซต์ ซึ่งเป็นเว็บอินเตอเฟส ของเว็บเซอวิส ที่ใช้ดึงข้อมูลออกมาจาก ดาตาเบส น่ะครับ แต่ทีนี้ มีปัญหาตรงที่ว่า
ไม่ทราบว่าจะใช้สคริปหรือภาษาใด จึงจะทำให้ หน้าเว็ป มีการปรับขนาดตามหน้าจออุปกรณืที่ผู้ใช้บริการใช้ได้น่ะครับ เช่น โทรศัพย์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ก็มีหน้าจอไม่เท่ากัน

จึงขอเรียนปรึกษาท่านผู้รู้และเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยครับ

ขอบพระคุณครับ

[muskey == รักในหลวง ==]

ตอบเป็นสองส่วนนะครับ

-เรืองการเลือกภาษา
     ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้พัฒนาเป็นหลักครับ แต่ถ้าเลือกได้ แนะนำ PHP ครับ ในปัจจุบัน php ทำงานได้หลากหลายและทำงานได้ทั้ง
บน Linux หรือ Windows

-เรื่องขนาดหน้าจอ ควรออกแบบเป็นสองส่วนครับ คือ หน้อจอสำหรับพวก PC Notebook กับพวกอุปกรณ์ Mobile เช่น Iphone หรือ Smart Phone
เพราะว่าการแสดงผล รวมทั้งการใช้งานต่างกันด้วย หน้าเว็บสำหรับอุปกรณ์พวกนี้สวนมากจะถูกอกแบบต่างหาก หน้าตาจะไม่เเหมือนกับเว็บปรกติ

เรืองขนาดหน้าจอของอุปกรณ์ สามารถใช้ CSS ช่วยจัดการแสดงผลได้ระดับหนึง ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับ Browser ของอุปกรณ์ ว่ารองรับ function ใดบ้าง
ซึงรวมทั้ง FLASH และ Javascript

ส่วนสคริปที่ใช้ตรวจสอบ Browser ของอุปกรณ์ ลองดูตัวนี้ครับ http://detectmobilebrowsers.mobi/

 

[naisomchai]

อาชีพเดิมของนายสมชายคือคอมพิวเตอร์แมนครับ... ตามน้ำถามหน่อยครับ...

วิธีการคือให้เบราเซอร์ที่กำลังเปิดหน้าเว็บส่ง Value มาว่าขณะนี้เป็นเบราเซอร์อะไร... แล้วจากนั้นให้ Server เลือกประมวลผลหน้าเว็บให้ตรงกับปลายทางใช่ไหมครับ...

แล้วมีคำถามต่อว่าเดี๋ยวนี้เขานิยมใช้เครื่องมืออะไรเขียนเว็บหรือครับ... สมัยนายสมชายเขานิยมใช้ Dreamweaver, แต่โปรแกรมเมอร์บางกลุ่มนิยมเล่นของยากเป็น Visual Studio+ASP.Net ครับ...

[muskey == รักในหลวง ==]

วิธีการคือให้เบราเซอร์ที่กำลังเปิดหน้าเว็บส่ง Value มาว่าขณะนี้เป็นเบราเซอร์อะไร... แล้วจากนั้นให้ Server เลือกประมวลผลหน้าเว็บให้ตรงกับปลายทางใช่ไหมครับ...

ใช้ครับ ทุกครั้งที่ Browser เปิดหน้าเว็บ จะส่ง HTTP Header มาด้วย ซึ่งในนั้น จะมีค่าบอกว่าเป็น Browser อะไร รวมทั้ง Version และ OS ด้วยครับ

ส่วน Tool หรือ IDE ที่ใช้ก็อยู่ที่ภาษาที่พัฒนา ถ้าเป็นสายของ Microsoft ก็คงจะเป็น VS.NET ครับ
แต่ถ้าเป็น PHP หรือ JAVA ก็จะมีทั้ง Netbeans , Eclipse และืยังมีอีกหลายตัว
ส่วนที่เป้นตัวแก้ไขเล็กๆน้อยๆ ผมใช้ทั้ง Editplus และ NotePad++

Dreamweaver นี่ออกแบบเว็บคงใช้กันทุกคนครับ ตอนนี้ก็ยังใช้กันอยู่ เพราะออกตัวใหมมาเรื่อยๆ 

[RSIA01 - รักในหลวง]

ขอบพระคุณมากครับพี่ๆทุกท่าน

แล้วหากจะทำWebservice และหน้าเว็บด้วย แนะนำโปรแกรมอะไรดีครับ ที่จะง่ายและเร็วที่สุด ขอบพระคุณครับ 

[naisomchai]

วิธีการคือให้เบราเซอร์ที่กำลังเปิดหน้าเว็บส่ง Value มาว่าขณะนี้เป็นเบราเซอร์อะไร... แล้วจากนั้นให้ Server เลือกประมวลผลหน้าเว็บให้ตรงกับปลายทางใช่ไหมครับ...

ใช้ครับ ทุกครั้งที่ Browser เปิดหน้าเว็บ จะส่ง HTTP Header มาด้วย ซึ่งในนั้น จะมีค่าบอกว่าเป็น Browser อะไร รวมทั้ง Version และ OS ด้วยครับ

ส่วน Tool หรือ IDE ที่ใช้ก็อยู่ที่ภาษาที่พัฒนา ถ้าเป็นสายของ Microsoft ก็คงจะเป็น VS.NET ครับ
แต่ถ้าเป็น PHP หรือ JAVA ก็จะมีทั้ง Netbeans , Eclipse และืยังมีอีกหลายตัว
ส่วนที่เป้นตัวแก้ไขเล็กๆน้อยๆ ผมใช้ทั้ง Editplus และ NotePad++

Dreamweaver นี่ออกแบบเว็บคงใช้กันทุกคนครับ ตอนนี้ก็ยังใช้กันอยู่ เพราะออกตัวใหมมาเรื่อยๆ 

ขอบคุณมากครับ...

เรื่อง Tool นี่นายสมชายมาสาย Microsoft คือเป็น MCP รุ่นแรกๆตั้งแต่ 2001 แล้ว, และแต่ง+แปลตำรา ASP.NET ให้ซีเอ็ดขายในร้านหนังสือ(บอกชื่อจริงนายสมชายไปค้นในกูเกิ้ลจะร้องอ๋อ)... แต่ยังยืนยันครับ ว่า Tools ของไมโครซอฟต์คือเดินนับไม้หมอนรถไฟไปเชียงใหม่...

พอดีเลิกเอาดีด้านคอมพิวเตอร์ มาเล่นหุ้นเป็นอาชีพแทน แต่มันอดเผลอสนใจไม่ได้ครับ... แฮ่ๆ...

[naisomchai]

ขอบพระคุณมากครับพี่ๆทุกท่าน

แล้วหากจะทำWebservice และหน้าเว็บด้วย แนะนำโปรแกรมอะไรดีครับ ที่จะง่ายและเร็วที่สุด ขอบพระคุณครับ  

มันขึ้นอยู่กับว่าเว็บเซอร์วิสที่ว่านั้นหมายถึงอะไรน่ะครับ... หากเป็นเว็บเซอร์วิสที่ใช้ XML เรียกข้อมูลจากเว็บไซต์ฐานข้อมูลของบริษัทอื่น ก็ต้องดูสเปคต้นทางแหละครับว่าเขาแนะนำให้ทำอย่างไร...

แต่ถ้าเว็บเซอร์วิสที่ว่านี่หมายถึงมีเว็บเซิร์ฟเวอร์, มี Database เซิร์ฟเวอร์, มี Application เซิร์ฟเวอร์ ฯลฯ อาจจะแยกกันคนละเครื่อง หรือรวมทั้งหมดในเครื่องเดียวกัน... แล้วผู้ใช้งานจะใช้เบราเซอร์ไปเรียกใช้งานแอปพลิเคชั่นที่ว่านั้น โดยที่ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับของบริษัทอื่น(ทำให้ต้องตกลงมาตรฐานกลางสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลเสียก่อน)...

ถ้าหากเป็นอย่างข้างบนนี้ โดยไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับใครที่ไหน, ก็ต้องเลือกตามถนัดแหละครับ... ตามแนวข้างล่างก็แล้วกันครับ, ถามกว้างเหลือเกิน และคาดว่ามือใหม่เลยตอบเหวี่ยงแหครับ...

1) หากมีลักษณะการใช้งานมาตรฐาน มีกระบวนการทำงานมาตรฐาน เช่นมีบทความผสมฐานข้อมูล, ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์บริษัทที่มีหน้าร้าน แนะนำสินค้า มีตระกร้าสินค้า สามารถซื้อสินค้าและตัดยอดคงคลัง มีระบบการให้คะแนนลูกค้า, มีกระดานเว็บบอร์ด, มีบทความเผยแพร่... อย่างนี้ให้เลือกพวก CMS - Content Management Sysytem เช่นจูมล่า(Joomla) หรือ ดรูพอล(Drupal) ครับ...

คือพวก CMS พวกนี้มันเป็นเหมือนมาม่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฉีกซองใส่ชาม เทน้ำร้อน... คือตัวจูมล่าเองจะเป็นโครงร่างที่มีคุณลักษณะมาตรฐานมาให้ โดยติดตั้งเป็นก็ใช้ได้แล้ว, และหากอยากได้หน้าตาแบบไหนก็เอาเท็มเพลตที่ชอบมาใส่(เปลี่ยนหน้าตา), อยากให้เว็บไซต์ของเรามีความสามารถอะไรเพิ่ม ก็เอาโมดุลมาใส่, เหมือนจับจิ๊กซอว์มาใส่ หรือเอาออกตามใจเราครับ...

ตัวอย่างเว็บไซต์พวก CMS คือเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เช่นแมเนเจอร์ ไทยรัฐ โพสต์ทูเดย์... พวกนี้เริ่มจาก CMS แล้วใช้งานไปดัดแปลงไปให้เข้ากับ Requirement ของตนเองครับ(เช่นแก้เท็มเพลต), จนในที่สุดเลยมีความเฉพาะตัว(แต่โครงร่างยัง Compatible กับต้นตอ)...

2) หากต้องการเว็บไซต์ที่ไม่ซับซ้อนมากแค่ไม่เกิน 10 หน้า, และมีการทำงานที่เป็นเฉพาะตัวเอง ไม่สามารถปรับแต่งโมดุลมาตรฐานมาใช้งาน... สร้างเว็บไซต์ง่ายที่สุดคือ Dreamweaver ครับ...

แต่ Dreamweaver พอใช้งานไปมันจะค่อยๆตัน เพราะเวลาเราเริ่มคล่องเริ่มเก่งแล้ว(พวก User นี่แหละตัวดีเลย) มันจะอยากเพิ่มโน่นเพิ่มนี่, ไปๆมาๆมันจะเหมือนค้นพบภูเขาน้ำแข็งใต้น้ำ... เลยเป็นที่มาของนักวิเคราะห์และออกแบบระบบต้องมานั่ง Define ว่าความต้องการที่แท้จริงคืออะไร...

ดังนั้นนายสมชายสรุปให้เลยว่าไปดู 2 เรื่องก่อนครับ... 1) จูมล่า(Joomla) และ 2) Dreamweaver ...

[RSIA01 - รักในหลวง]

ขอบพระคุณอาจารย์สมชายอีกครั้งครับ

เรื่องของเรื่อง เว็ปเซอวิสนี้ใช้ เรียกหรือ แควรี่ดาตาเบส จาก เอกซ์เอ็มแอล เบส ดาต้าเบส คือ เอชแอล 7 ครับ และต้องมีหน้าตาของเวฌปอินเตอร์เฟซ ที่ใช้ได้ทั้งกับ มือถือและ คอมบ้านครับผม

ผมมือใหม่ด้านการทำเว็ปครับ แต่จริงๆ เรียนคอมครับ เจ้างานนี้เป็นซีเนียรืโปรเจ็คครับพี่อาจารย์สมชาย แหะๆ

แบบนี้ควรใช้ทูลอะไรดีครับ ขอบพระคุณอีกครั้งครับผม 

[naisomchai]

"ซีเนียร์โปรเจค" หมายถึงโปรเจคจบการศึกษา หรือโครงงานนักศีกษาสำหรับจบปริญญาตรีใช่ไหมครับ... ขอถามหน่อย จะได้มีข้อมูลคุยกันต่อครับ...

[RSIA01 - รักในหลวง]

"ซีเนียร์โปรเจค" หมายถึงโปรเจคจบการศึกษา หรือโครงงานนักศีกษาสำหรับจบปริญญาตรีใช่ไหมครับ... ขอถามหน่อย จะได้มีข้อมูลคุยกันต่อครับ...

ใช่แล้วครับ อาจารย์สมชาย แต่เรื่องของเรื่องคือกลุ่มผมรับงานยากไปหน่อยครับ เป็นการทำเว็บเซอวิส ที่ใช้ได้จากทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ เรียกข้อมูลจาก ดาต้าเบส ที่เป็น HL 7 ซึ่งเป็น XML Base Database แบบหนึ่งออกมาครับ อันนี้ คืองานคร่าวๆของผมในตอนนี้ครับ แต่จริงๆยังมีส่วนที่ ต้องทำให้ HCIS กับ HosXP คุยกันได้ โดยผ่าน HL7 ด้วยครับ แต่ส่วนนั้น ได้แล้วเสร็จไปแล้วครับ เหลือแต่ทำอย่างไรข้อมูลที่ถูกแปลเป็น HL7 แล้ว (HL7 ถูกใช้เป็นภาษากลางในการเชื่อมต่อ Health Information Data Base เพราะเป็นระบบฐานข้อมูลมาตรฐาน ที่นิยมใช้กันทั่วโลกครับ ) จะถูกเรียกออกมาดูทางเว็ปได้ครับ ขอบพระคุณมากครับผม

[naisomchai]

"ซีเนียร์โปรเจค" หมายถึงโปรเจคจบการศึกษา หรือโครงงานนักศีกษาสำหรับจบปริญญาตรีใช่ไหมครับ... ขอถามหน่อย จะได้มีข้อมูลคุยกันต่อครับ...

ใช่แล้วครับ อาจารย์สมชาย แต่เรื่องของเรื่องคือกลุ่มผมรับงานยากไปหน่อยครับ เป็นการทำเว็บเซอวิส ที่ใช้ได้จากทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ เรียกข้อมูลจาก ดาต้าเบส ที่เป็น HL 7 ซึ่งเป็น XML Base Database แบบหนึ่งออกมาครับ อันนี้ คืองานคร่าวๆของผมในตอนนี้ครับ แต่จริงๆยังมีส่วนที่ ต้องทำให้ HCIS กับ HosXP คุยกันได้ โดยผ่าน HL7 ด้วยครับ แต่ส่วนนั้น ได้แล้วเสร็จไปแล้วครับ เหลือแต่ทำอย่างไรข้อมูลที่ถูกแปลเป็น HL7 แล้ว (HL7 ถูกใช้เป็นภาษากลางในการเชื่อมต่อ Health Information Data Base เพราะเป็นระบบฐานข้อมูลมาตรฐาน ที่นิยมใช้กันทั่วโลกครับ ) จะถูกเรียกออกมาดูทางเว็ปได้ครับ ขอบพระคุณมากครับผม

มีปัญหาแล้วครับ... โดยปรกติอาจารย์ที่ปรึกษาจะต้องเชี่ยวชาญในเครื่องมือที่จะเป็นที่ปรึกษาให้แก่นักศึกษา แต่ประมวลจากคำถามตามท้องเรื่องในกระทู้ แสดงว่า อ.ที่ปรึกษาทำงานไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ควรจะเป็นครับ...

ขอทบทวนกระบวนการสร้างระบบสารสนเทศนะครับ... เพื่อจะได้คุยกันต่อว่ามันอยู่ที่ขั้นตอนไหนของกระบวนการ...

ขั้น 1) หา Requirement เพื่อให้ได้ Output 2 อย่างคือหน้าจอ และรายงานในกระดาษ, สำหรับเขียนโปรแกรมส่วนติดต่อผู้ใช้งาน...
ขั้น 2) เอา Output มาทำ Nomalization เพื่อเข้าเกียร์ถอยหลังออกมาเป็น E-R Diagram, สำหรับเอาไปสร้างฐานข้อมูล...
ขั้น 3) เอา Output, Input, Process, Timing, Control มากำหนดสเปคฮาร์ดแวร์...
ขั้น 4) บันทึกขั้นตอน  1) - 3) ในรูปเอกสารออกแบบระบบฯ...

ตรงขั้นตอนที่ 4) นี้ต้องขออนุมัติผลการออกแบบระบบกับอาจารย์ที่ปรึกษาเสียก่อน... เพราะไม่งั้นจะหลงทางไปไกลแล้วกู่ไม่กลับ หากงานไม่สำเร็จอาจเรียนไม่จบในเทอมนั้น...

โปรเจคจบของนักศึกษา จะมีวัตถุประสงค์ให้นักศึกษาเข้าใจภาพรวมของการสร้างระบบสารสนเทศ ไม่ใช่ให้นักศึกษาไปเรียนรู้เฉพาะเจาะจง หรือเจาะลึกในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง... ดังนั้นโดยทั่วไปโประเจคจบ จะเป็นโครงงานไม่ซับซ้อนที่นักศึกษาสามารถทำตั้งแต่ต้นจนจบโปรเจคได้โดยไม่ต้องใส่ใจกับเรื่องทางเทคนิคลึกมากเสียจนโครงงานไม่สำเร็จ...

เพราะโปรเจคเล็กหรือใหญ่ก็มีวิธีการเดียวกัน แต่แตกต่างที่จำนวน Process มากกว่าโปรเจคเล็ก... ดังนั้นหากเลือกเล่น"ของยาก"จะทำให้ไปเสียเวลากับเรื่องเทคนิคเฉพาะตัวเครื่องมือเสียจนงานไม่เสร็จ ทำให้ไม่ได้"ภาพรวม", โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HL7 ไม่มีตำราภาษาไทยเสียด้วยครับ...

นายสมชายถามต่อครับ ว่า อ.ที่ปรึกษาได้บอกอะไรไปแล้วบ้าง เพราะ HL7 นั้นไม่ได้แพร่หลายเหมือนฐานข้อมูลอื่นทั่วไป แต่ HL7 คือฐานข้อมูลที่ใช้เฉพาะอุตสาหกรรมสุขภาพเท่านั้นครับ... ดังนั้นการที่เลือกใช้ฐานข้อมูลนี้ แสดงว่าต้องมีเหตุผลเบื้องหลังก่อนมาถึงตรงนี้แล้วครับ...

[naisomchai]

สมมติว่าอยากใช้ HL7 ต่อไป เพราะได้ขออนุมัติโครงงานไปแล้วนะครับ ก็มีทางเลือก 2 อย่าง...

1) ใช้เครื่องมือทั่วไปที่สามารถยิง "SQL สคริปต์มาตรฐาน"ฝ่า XML ข้ามเครือข่ายอินเตอร์เน็ต, ไปคิวรี่ข้อมูลจากฐานข้อมูล HL7(ทั้ง Read และ Write)... อย่างนี้แนะนำให้ใช้ Dream Weaver ครับ, เพราะตำราภาษาไทยเพียบ... ข้อนี้สามารถใช้แพลตฟอร์มมาตรฐานคือที่เซิร์ฟเวอร์ XP ติดตั้ง IIS ได้... แต่ไม่แน่ใจว่า HL7 อยู่บน XP แล้วคุยกับ HTTP เซิร์ฟเวอร์ได้อย่างไร(ต้องไปค้นต่อเอง)... ที่นี่ http://www.hl7.org/

2) หากเหตุผลที่เลือกใช้ HL7 เพราะต้องการใช้คุณลักษณะพิเศษของ HL7 อย่างนี้ก็ต้องใช้เครื่องมือของมันเองแล้วครับ... คือ HL7 Development Framework ที่นี่ http://www.google.com/search?q=HL7+Development+Framework&sourceid=ie7&rls=com.microsoft:en-US&ie=utf8&oe=utf8

ซึ่งค้นดูใน Google แล้วเจอเพียบเลยครับ... พอตอบมาถึงตรงนี้ ชักรู้สึกว่ามีทัศนคติที่ไม่เข้าท่ากับ อ. ที่ปรึกษาโครงงานแล้วครับ...

อ.ที่ปรึกษาจะต้องขลุกกับนักศึกษาแบบ"ค้นหา"แทนนักศึกษาเมื่อเกิดปัญหาครับ, อย่าว่าแต่เรื่องวิธีการเลือกเครื่องมือเลย... แม้แต่ในห้องสอบโครงงาน ก็ต้องเถียงแทนนักศึกษา เวลาที่กรรมการสอบโครงงานจะให้เกรดแบบ"ไม่ยุติธรรม"แก่นักศึกษาก้นกุฎิของตนเองครับ...

[RSIA01 - รักในหลวง]

"ซีเนียร์โปรเจค" หมายถึงโปรเจคจบการศึกษา หรือโครงงานนักศีกษาสำหรับจบปริญญาตรีใช่ไหมครับ... ขอถามหน่อย จะได้มีข้อมูลคุยกันต่อครับ...

ใช่แล้วครับ อาจารย์สมชาย แต่เรื่องของเรื่องคือกลุ่มผมรับงานยากไปหน่อยครับ เป็นการทำเว็บเซอวิส ที่ใช้ได้จากทั้งคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ เรียกข้อมูลจาก ดาต้าเบส ที่เป็น HL 7 ซึ่งเป็น XML Base Database แบบหนึ่งออกมาครับ อันนี้ คืองานคร่าวๆของผมในตอนนี้ครับ แต่จริงๆยังมีส่วนที่ ต้องทำให้ HCIS กับ HosXP คุยกันได้ โดยผ่าน HL7 ด้วยครับ แต่ส่วนนั้น ได้แล้วเสร็จไปแล้วครับ เหลือแต่ทำอย่างไรข้อมูลที่ถูกแปลเป็น HL7 แล้ว (HL7 ถูกใช้เป็นภาษากลางในการเชื่อมต่อ Health Information Data Base เพราะเป็นระบบฐานข้อมูลมาตรฐาน ที่นิยมใช้กันทั่วโลกครับ ) จะถูกเรียกออกมาดูทางเว็ปได้ครับ ขอบพระคุณมากครับผม

มีปัญหาแล้วครับ... โดยปรกติอาจารย์ที่ปรึกษาจะต้องเชี่ยวชาญในเครื่องมือที่จะเป็นที่ปรึกษาให้แก่นักศึกษา แต่ประมวลจากคำถามตามท้องเรื่องในกระทู้ แสดงว่า อ.ที่ปรึกษาทำงานไม่ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ควรจะเป็นครับ...

ขอทบทวนกระบวนการสร้างระบบสารสนเทศนะครับ... เพื่อจะได้คุยกันต่อว่ามันอยู่ที่ขั้นตอนไหนของกระบวนการ...

ขั้น 1) หา Requirement เพื่อให้ได้ Output 2 อย่างคือหน้าจอ และรายงานในกระดาษ, สำหรับเขียนโปรแกรมส่วนติดต่อผู้ใช้งาน...
ขั้น 2) เอา Output มาทำ Nomalization เพื่อเข้าเกียร์ถอยหลังออกมาเป็น E-R Diagram, สำหรับเอาไปสร้างฐานข้อมูล...
ขั้น 3) เอา Output, Input, Process, Timing, Control มากำหนดสเปคฮาร์ดแวร์...
ขั้น 4) บันทึกขั้นตอน  1) - 3) ในรูปเอกสารออกแบบระบบฯ...

ตรงขั้นตอนที่ 4) นี้ต้องขออนุมัติผลการออกแบบระบบกับอาจารย์ที่ปรึกษาเสียก่อน... เพราะไม่งั้นจะหลงทางไปไกลแล้วกู่ไม่กลับ หากงานไม่สำเร็จอาจเรียนไม่จบในเทอมนั้น...

โปรเจคจบของนักศึกษา จะมีวัตถุประสงค์ให้นักศึกษาเข้าใจภาพรวมของการสร้างระบบสารสนเทศ ไม่ใช่ให้นักศึกษาไปเรียนรู้เฉพาะเจาะจง หรือเจาะลึกในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง... ดังนั้นโดยทั่วไปโประเจคจบ จะเป็นโครงงานไม่ซับซ้อนที่นักศึกษาสามารถทำตั้งแต่ต้นจนจบโปรเจคได้โดยไม่ต้องใส่ใจกับเรื่องทางเทคนิคลึกมากเสียจนโครงงานไม่สำเร็จ...

เพราะโปรเจคเล็กหรือใหญ่ก็มีวิธีการเดียวกัน แต่แตกต่างที่จำนวน Process มากกว่าโปรเจคเล็ก... ดังนั้นหากเลือกเล่น"ของยาก"จะทำให้ไปเสียเวลากับเรื่องเทคนิคเฉพาะตัวเครื่องเสียจนงานไม่เสร็จ ทำให้ไม่ได้"ภาพรวม", โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HL7 ไม่มีตำราภาษาไทยเสียด้วยครับ...

นายสมชายถามต่อครับ ว่า อ.ที่ปรึกษาได้บอกอะไรไปแล้วบ้าง เพราะ HL7 นั้นไม่ได้แพร่หลายเหมือนฐานข้อมูลอื่นทั่วไป แต่ HL7 คือฐานข้อมูลที่ใช้เฉพาะอุตสาหกรรมสุขภาพเท่านั้นครับ... ดังนั้นการที่เลือกใช้ฐานข้อมูลนี้ แสดงว่าต้องมีเหตุผลเบื้องหลังก่อนมาถึงตรงนี้แล้วครับ...

เป็นโปรเจ็คระหว่างคณะของผมกับโรงพยาบาลรามาฯ ครับ จึงเกี่ยวกับ HL7 การใช้ฮาร์ดแวร์ เนื่องจากโปรเจ็คนี้เป็นเพียงการทดลองพื้นฐาน จึงใช้คอมพิวเตอร์ธรรมดาได้ครับ ไม่ได้ต้องใช้อะไรมากมาย อาจารย์ที่ปรึกษาท่านนี้ก็เชี่ยวชาญทั้งทางดาตาเบสและเน็ตเวิร์คครับ ท่านก็ให้คำปรึกษาได้ดี แต่ว่า ในการลงมือทำจริง
ท่านให้อิสระในการเลือกใช้โปรแกรมสักหน่อย ผมจึงพยายามหาโปรแกรมที่ใช้งานได้ง่ายที่สุดครับ
หากจะมีปัญหา ไม่ใช่เพราะอาจารย์หรอกครับ เพราะตัวผมเองมากกว่า เพราะผมเป็นคนที่ไม่เก่งและไม่ชอบโปรแกรมมิ่งมาแต่แรกแล้วครับ ที่มาเรียนคอม คืออยากใช้โปรแกรมต่างๆที่มีอยู่แล้วให้เก่ง มากกว่าที่จะมาเขียนโปรแกรมเองครับ แต่ว่าจะรู้ตัวก็อยู่มานานแล้ว เสียดายค่าเทอม เสียดายเวลา  เลยทนๆเรียนให้จบไปก่อนสักอันครับ อย่างน้อยก็พอมีความรู้อะไรบ้าง แล้วจะต่อโท หรือเรียนตรีอีก ในสาขาที่ชอบจริงๆค่อยว่ากันครับ

ทีนี้ ตอนนี้ผมติดอยู่แค่ เรื่องนี้แหละครับ จึงมาขอคำปรึกษาว่า ใช้ดปรแกรมอะไรดี ที่ผมจะสามารถทำงานได้ง่ายที่สุด เพื่อให้งานเสร็จ จะได้จบๆเสียทีครับ

ขอบพระคุณครับ

[naisomchai]

นายสมชายเลือกให้ไปแล้วครับ คือ DreamWeaver ครับ, ที่จริงเรื่อง Database กับเรื่อง Networking เป็นส่วนที่ง่ายที่สุดของงานโครงงานนะครับ... ส่วนที่ยากที่สุดคือการโปรแกรมมิ่งให้ตรงตาม Requirement ครับ...

ขยายความเพิ่มเติมคือเรื่องฐานข้อมูลมันยากแค่ทำ Normalization ออกมาเป็น E-R ซึ่งถ้าได้ Output นิ่งๆแล้วมันก็ได้ E-R Diagram ทั้งนั้นแหละครับ... ส่วนเรื่อง Networking นี่แค่คอนฟิกเกอร์เว็บเซิร์ฟเวอร์ให้มองเห็นเอ็นจิ้นฐานข้อมูล แล้วมันก็จบเรื่องไปแล้วนะครับ ไม่ต้องยุ่งอะไรอีก ตราบใดที่เบราเซอร์มองเห็นเซิร์ฟเวอร์+มองเห็น Database ครับ...

แต่ที่ไม่ค่อยจะจบเรื่องคือเวลา Requirement ที่ผู้ใช้งานต้องการได้เห็น มันกลายเป็นงานให้โปรแกรมเมอร์วิ่งเอาหัวชนทางตันเข้าให้... ตรงนี้ อ.ที่ปรึกษาต้องสามารถแก้ไขให้สิ่งที่ผู้ใช้อยากได้ต้องได้ พร้อมกับโปรแกรมเมอร์ทำงานต่อได้จนจบงานครับ, การแก้ไขงานทุกขั้นตอนให้ผิดไปจากเอกสารออกแบบนั้น อ.ที่ปรึกษาต้องตามไปป้องกันให้ลูกศิษย์ในห้องสอบโครงงานฯ ด้วยครับ...

นายสมชายยังย้ำอีกที... ว่า อ.ที่ปรึกษาต้องเป็นคนช่วยเลือกเครื่องมือให้ลูกศิษย์ด้วย เพราะต้องช่วยลูกศิษย์แก้ปัญหาครับ...