เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 27, 2025, 06:49:15 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: + + + การตัดสินความถูกผิดทางจริยศาสตร์ไทย + + +  (อ่าน 2793 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
pasta
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 8119
ออฟไลน์

กระทู้: 6924


ล้นเกล้าเผ่าไทย


« เมื่อ: มีนาคม 26, 2011, 06:25:53 PM »

การตัดสินความถูกผิดทางจริยศาสตร์ไทย
           
 ชีวิตของตัวละครในวรรณคดีก็คือภาพสะท้อนชีวิตจริงของมนุษย์ สังคมในวรรณคดีก็คือภาพสะท้อนจากสังคมมนุษย์จริง ผู้ประพันธ์พยายามสะท้อนให้เห็นความเป็นจริงของชีวิตทั้งในด้านสว่างและด้านมืด

             แม้การเสนอภาพชีวิตนางกากีในกากีคำกลอน และนางวันทองในขุนช้างขุนแผนทั้งสองนั้น    จะดูไม่มีคุณค่าทางจริยธรรม อาจเชื่อได้ว่าเป็นภาพชีวิตที่ทำลายระบบจริยธรรมของสังคมด้วยซ้ำ  แต่สาระทางจริยธรรมมิได้อยู่ที่ภาพชีวิตของตัวละครที่ผู้ประพันธ์นำเสนอ ความรู้สึกนึกคิดอันเป็นเจตนารมณ์ทางจริยธรรมของผู้ประพันธ์  ถูกแสดงออกผ่านคำพูดของตัวละครในวรรณคดีเรื่องนั้นๆ

              นางวันทองแม้จะเป็นเมียขุนแผน แต่ก็ต้องจำยอมแต่งงานกับขุนช้างอีกครั้งทั้งที่รู้ว่าขุนแผนยังมีชีวิตอยู่ เพราะอาศัยปัจจัยทางด้านสังคมเป็นตัวบีบบังคับให้ทำเช่นนั้น  ซึ่งโดยแก่นแท้แล้วนางวันทองรู้ว่าทำไม่ถูก แต่สังคมบีบบังคับให้ต้องทำ  หากไม่ทำตามก็ไปแย้งกับจริยธรรมด้านความกตัญญู จนอาจได้ชื่อว่าเป็น "คนอกตัญญู"  นางวันทองจึงจำต้องเลือกระหว่าง "คนอกตัญญู" กับ " คนสองใจ"

              ว่าโดยจริยธรรมตามจารีตประเพณีนางวันทองผิดจริยธรรม  แต่ว่าโดยจริยธรรมทางด้านจิตใจ  นางวันทองไม่ผิดจริยธรรม เพราะนางวันทองไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น

บางครั้งการตัดสินคุณค่าทางจริยธรรมโดยจารีตประเพณีก็ขัดแย้งกับคุณค่าจริยธรรมทางด้านจิตใจ

              กรณีของนางวันทอง หากตัดสินว่านางวันทองประพฤติผิดจริยธรรมเพราะผิดประเพณีเนื่องจากแต่งงานสองครั้ง  เป็นความถูกต้องทางจริยธรรม  ความรู้สึกว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการไม่ถูกต้อง จนนางวันทองแย้งว่า "ถึงคนไม่อายก็อายผี" ก็เป็นการผิดจริยธรรม

ในทางตรงกันข้าม  หากตัดสินว่า การที่นางวันทองมีความรู้สึกว่าการแต่งงานสองครั้งไม่ถูกต้อง  เป็นความถูกต้องทางจริยธรรม  การบังคับให้นางวันทองแต่งงานสองครั้งก็เป็นการผิดจริยธรรม

               แต่ภาพนางกากีและนางวันทองก็เป็นการเสนอภาพชีวิตให้เห็นว่า มนุษย์ดำเนินชีวิตอยู่บนความขัดแย้ง และเป็นความขัดแย้งที่จำเป็นต้องเลือก  ทั้งความขัดแย้งทางด้านจิตใจและความขัดแย้งทางด้านสังคม  และการเลือกแต่ละด้านย่อมมีผลอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง

               นอกจากผู้ประพันธ์มุ่งให้วรรณคดีเกิดสุนทรียะเพื่อเป็นการเฉลิมพระนครแล้ว ผู้ประพันธ์ก็ไม่ได้ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม รามเกียรติ์และอุณรุท แม้ผู้ประพันธ์เองจะเน้นว่าเป็นเรื่อง "ไร้แก่นสาร"  แต่ในความไร้แก่นสารก็กลับแสดงแก่นแท้ของจิตมนุษย์เอาไว้อย่างลึกซึ้ง

               รามเกียรติ์สะท้อนให้เห็นว่า  ผู้ประพันธ์ได้เข้าไปตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับธรรมชาติมนุษย์ เมื่อพระลักษณ์ถูกหอกโมกขศักดิ์  แม้พระรามจะเป็นอวตารมาปราบอธรรม  พระรามก็ได้แสดงธาตุแท้ของมนุษย์ออกมาอย่างเห็นได้ชัด

             โอ้อนิจจาเจ้าเพื่อนยาก               แสนทุกข์ลำบากมาด้วยพี่

             เลื่องชื่อลือฤทธิ์ทั้งธาตรี             หรือมาแพ้อสุรีพาลา

             เสียงแรงไวกูณฑ์มาด้วยกัน          วาจะมล้างอาธรรม์ริษยา

             เจ้ามาสิ้นชีพชีวา                        แต่พี่ยาจะทำศึกไป

             ถึงมีชัยได้เมียก็เสียน้อง              จะต้องการอะไรก็หาไม่

             ครั้นจะกลับคืนเข้าเวียงชัย           ใครเลยจะนับว่าเป็นชาย

             ทั้งสามสมเด็จพระชนนี               จะโศกาโกรธพี่ไม่รู้หาย

             ว่ารักเมียใช้น้องไปให้ตาย            ความอับอายจะชั่วกัลปา

             เสียเมียรักแล้วมิหนำ                   มาซ้ำเสียองค์กนิษฐา

             จะอยู่ไยให้ทนเวทนา                   จะสู้สิ้นชีวาด้วยน้องรัก

             ไปสู่เมืองฟ้าสุราลัย                    ให้ลับตาพวกภัยปรปักษ์

             ร่ำพลางกอดองค์พระลักษณ์         ซบพักตร์กันแสงไม่สมประดีฯ

                                                                                      (รามเกียรติ์)

             วรรณคดีที่มีจุดประสงค์อันแน่ชัดในการสอนจริยธรรม เช่น สวัสดิรักษา และเพลงยาวถวายโอวาท ผู้ประพันธ์มุ่งสอนจริยธรรมของกษัตริย์ กาพย์พระไชยสุริยา  มุ่งสอนจริยธรรมของผู้ปกครอง

นอกจากนั้น งานประพันธ์เรื่อง สุภาษิตสอนหญิง   กฤษณาสอนน้องคำฉันท์   อิสรญาณภาษิต เพลงยาวเจ้าพระ    โคลงฤษีดัดตน     โคลงภาพคนต่างภาษา    และโคลงโลกนิติ เป็นต้น   ล้วนแสดงนัยแห่งวรรณคดีเชิงจริยศาสตร์   ดังที่สุนทรภู่แถลงไว้ในกาพย์เรื่องพระไชยสุริยา  "ภัทราการุญสุนทร  ไว้หวังสั่งสอน  เด็กอ่อนอันเยาว์เล่าเรียน"

             คำสั่งสอนที่ผู้ประพันธ์ได้ใช้ศิลปะแห่งกาพย์กลอนอันไพเราะแต่งขึ้นก็ "หวังจะให้เจนจำได้ชำนาญ" จุดประสงค์ก็เพื่อ "ไว้เป็นแบบสอนตนพ้นราคี" การจะสอนตนให้ "พ้นราคี"  ผู้ประพันธ์เชื่อว่าจำจะต้องมีแบบในการตัดสินคุณค่าทางจริยธรรม ผู้ประพันธ์จึงได้เสนอคุณค่าที่จะตัดสินว่า ชีวิตควรจะดำเนินไปอย่างไรจึงจะชื่อว่ามีคุณค่าและดีงาม  ผู้ประพันธ์เชื่อว่าการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าและดีงามนั้นมิใช่ว่าจะเกิดขึ้นเองอย่างลอยๆ แต่ต้องมีการศึกษาเล่าเรียนและจดจำไว้เป็นแบบ จนเกิดเป็นมโนภาพ (Concept) ขึ้นในใจ เพื่อจะได้เป็นแบบในการตัดสินความถูกผิด

             ดังนั้น หน้าที่ของผู้ประพันธ์คือเสนอแบบแห่งการดำเนินชีวิตที่ดีงามและเป็นที่ยอมรับของสังคม  พฤติกรรมที่ดีงามและสังคมยอมรับนั้นต้องไม่เป็นที่นินทาของคนในสังคม   แม้สุนทรภู่จะยอมรับความเป็นธรรมดาของชีวิตว่า "มนุษย์เดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา" แต่การนินทาก็เป็นเครื่องตัดสินคุณค่าความดีงามในระดับจริยธรรม  การเสนอคำสอนทางจริยธรรมของนักคิดไทย  จึงเป็นเจตนารมณ์ส่วนตัวที่ต้องการสอนในแง่มุมใดแง่มุมหนึ่ง

             วรรณคดีทุกเรื่องย่อมมีเจตนาของผู้ประพันธ์แฝงอยู่ คือ ผู้ประพันธ์พยายามใช้ทัศนะคติจากชีวิตจริงแสดงออกทางงานประพันธ์  ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหา ถ้วยคำ สำนวนประโยค ลักษณะนิสัยตัวละครที่อาจเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติของประชาชนได้

             จุดประสงค์ของการประพันธ์งานด้านจริยธรรมของผู้ประพันธ์มิได้มุ่งเพื่อให้เกิดความไพเราะหรือเกิดสุนทรียะเพียงอย่างเดียวเท่านั้น  ความไพเราะและความงามเป็นเพียงองค์ประกอบที่ผู้ประพันธ์ใช้เป็นสื่อให้ผู้เล่าเรียนมีแรงจูงใจที่จะจดจำสารัตถะที่กวีต้องการนำเสนอ โดยมุ่งสอนให้จดจำและนำไปใช้เป็นบรรทัดฐานในการตัดสินว่าอะไรดีไม่ดี มีคุณค่าไม่มีคุณค่า สุนทรภู่เสนอแนะวิธีการอ่านวรรณคดีเชิงจริยธรรมไว้ในสุภาษิตสอนหญิงว่า

             อย่าฟังเปล่าเอาแต่กลอนสุนทรเพราะ     จงพิเคราะห์คำเลิศประเสริฐศรี

             ไว้เป็นแบบสอนตนพ้นราคี                    กันบัดสีคำค่อนคนนินทาฯ

                                                                                      (สุภาษิตสอนหญิง )

             นอกจากสุนทรภู่จะได้เสนอแนะวิธีการอ่านแล้ว ยังได้ชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่จะเป็นเครื่องตัดสินคุณค่าด้านจริยธรรมว่าถูกต้องดีงามหรือไม่  ขึ้นอยู่กับการตัดสินของสังคมด้วย เพราะถ้าความประพฤตินั้น "คนนินทา" ก็ถือว่าเป็นความประพฤติที่ผิดจริยธรรม ไม่ถูกต้องดีงาม  เมื่อพระลักษณ์ถูกหอกกบิลพัท พระรามก็กลัวคนจะติฉินนินทาว่าพาน้องมาตาย

            ไตรโลกจะชวนกันติฉิน            ล่วงมาดูหมิ่นประมาทได้ฯ

                                                                          (รามเกียรติ์)

             การตัดสินคุณค่าทางจริยศาสตร์ของนักปรัชญาไทยว่าผู้ใดดีหรือเลวนั้น  ต้องพิจารณาจากการชั่งน้ำหนักพฤติกรรมที่แสดงออกว่า  เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ในสังคมหรือไม่  ถ้าส่วนใหญ่ยอมรับก็ถือว่าเป็นกลุ่มของคนดี   ถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ยอมรับจนถึงขั้นนินทาก็จัดอยู่ในส่วนการกระทำที่ไม่ดีหรือทำชั่ว

             ตามทัศนะของนักปรัชญาไทย ความไพเราะที่เกิดจากศิลปะแห่งการประพันธ์ เป็นเพียงสิ่งที่เคลือบสารัตถะเอาไว้ภายใน   ความไพเราะเปรียบเสมือนน้ำตาลที่เคลือบยาไว้ภายใน หากผู้ที่จดจำคำที่ผู้ประพันธ์ใช้ความจัดเจนทางภาษาเรียงร้อยขึ้นมาให้เกิดความไพเราะได้ก็เท่ากับได้จำจดสารัตถะไปด้วย  และหากผู้อ่านหรือผู้ศึกษา "พิเคราะห์คำ"  ก็สามารถรู้สารัตถะที่ซ่อนอยู่ในคำนั้นได้

            วรรณคดีนั้นเป็นศิลปะทางภาษา  จึงย่อมเป็นเครื่องมือสื่อความคิดที่มีความงามไพเราะเป็นที่จับใจทั้งผู้อ่านผู้ฟัง และผู้ศึกษา    และการจับใจนั้นต้องจับใจทุกยุคทุกสมัย คือเป็นอมตะสืบทอดจากชั่วอายุจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง

            อาจกล่าวได้ว่า ศิลปะเป็นสิ่งที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อแก่นแท้อารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์  อารมณ์ความรู้สึกที่สะท้อนออกมาทางศิลปะนั้นเป็นอารมณ์ที่เป็นสากล  มนุษย์ทุกยุคทุกสมัยประสบจะเกิดอารมณ์เดียวกัน

           สุข ทุกข์ เศร้าโศก โกรธ เกลียด ที่ผู้ประพันธ์แสดงออกผ่านพฤติกรรมของตัวละครล้วนสะท้อนมาจากชีวิตจริง ซึ่งเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ประพันธ์ เป็นการวิจารณ์ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์  ระหว่างที่มนุษย์ต้องเหน็ดเหนื่อยอยู่กับการหาอาหาร  หาสิ่งที่จำเป็นขั้นพื้นฐานอื่นๆ มนุษย์ใคร่จะได้รับการปลอบใจจากเรื่องราวที่มิได้เกิดแก่ชีวิต มนุษย์โดยแท้จริงมนุษย์จึงมีการเล่านิทาน ฟังนิทาน มีบทเพลง และการละเล่นตั้งแต่แรกเริ่มมีอารยธรรม

             พฤติกรรมของตัวละครในนิทานจึงมาจากการตั้งข้อสังเกตพฤติกรรมในชีวิตจริง  เมื่อผู้ประพันธ์แสดงพฤติกรรมของตัวละครก็เท่ากับเข้าไปวิจารณ์จิตซึ่งเป็นบ่อเกิดพฤติกรรมมนุษย์

             ในเรื่องกากี การที่นางกากีประพฤติผิดศีลธรรม สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการของมนุษย์ในการแสวงหาความสุขอย่างปุถุชนนั้นมีพลังมหาศาล  โดยพื้นฐานทางด้านจิตใจนางกากีไม่ต้องการที่จะทำเช่นนั้น แต่องค์ประกอบและสถานการณ์ขณะนั้นบังคับ จิตฝ่ายชั่วจึงเข้ามามีอำนาจแทนฝ่ายดี  แม้เมื่อไปอยู่ฉีมพลี ก็ยังผิดซ้ำสองเพราะการที่ถูกปล่อยให้อยู่คนเดียว

             มนุษย์ทุกคนมีความอ่อนไหวและหวาดกลัวเป็นธรรมชาติ เมื่อนางกากีอยู่คนเดียวจึงต้องการหาที่พึ่ง  ผู้ประพันธ์พยายามชี้ให้เห็นว่าการแสดงออกด้านพฤติกรรมของนางกากีในเรื่องกากีกลอนสุภาพ   นางวันทองในขุนช้างขุนแผน และพฤติกรรมขอพระรามและทศกัณฐ์ในรามเกียรติ์  ล้วนมีที่มาจากความต้องการด้านจิตที่แสดงอำนาจ 

             แม้ในเรื่องรามเกียรติ์นักวิจารณ์มักเชื่อว่าจะถูกยกให้เป็นเรื่องของการต่อสู้ระหว่างธรรมและอธรรม  สุดท้ายผู้ประพันธ์ก็แสดงสัจธรรมให้เห็นว่าธรรมะย่อมชนะอธรรม แต่พฤติกรรมของทั้งสองฝ่าย   ก็ล้วนกะเทาะให้เห็นแก่นแท้ของจิตใจ พฤติกรรมมนุษย์นั้นล้วนกระทำตามกิเลสที่ผลักดันอยู่ภายในให้แสวงหาอำนาจ               ซึ่งบางครั้งก็ถูกนำมาอ้างเป็นความชอบธรรมในการทำลายล้างผู้อื่น ในนิราศสุพรรณได้แสดงธรรมชาติของจิตไว้ว่า               

             แต่ชะลอจิตมนุษย์นี้สุดยาก            เอาพรวนลากก็ไม่ไหวอย่าได้ขืน

             ใครขัดขวางน้ำเหมือนไฟฟืน          ทั้งแผ่นพื้นภพไตรใจเหมือนกัน

             ประเดี๋ยวร้ายประดีมีต่างต่าง           ประเดี๋ยวร้างประเดี๋ยวเริดระเหิดหัน

             ประเดี๋ยวประเดี๋ยวกล้าสารพัน         เพราะใจนั้นมากมายเป็นหลายใจฯ

                                                                                (นิราศสุพรรณ)

              ผู้ประพันธ์เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนนั้นต้องการอิสระ ไม่ต้องการให้ใครมากดขี่ข่มเหง ไม่ต้องการอยู่ในอำนาจหรือการบังคับของใคร  แต่มนุษย์ก็ไม่อาจเป็นอิสระจากความขัดแย้งในตัวเอง เพราะความเปลี่ยนแปลงทางด้านจิต มนุษย์ทุกคนนั้นมีความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอยู่ ๒ ส่วน คือ

              ส่วนหนึ่งเป็นความรู้สึกที่อยากจะเป็นคนดี  อยากจะทำอะไรดีๆ เพื่อคนอื่น  เสียสละ  มีคุณธรรม  อยู่ในศีลในธรรมทำตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม ความรู้สึกดังกล่าวเป็นพลังผลักดันให้มนุษย์ทำความดี   แต่อีกส่วนหนึ่งของจิตฝ่ายชั่ว จิตส่วนนี้อยากจะทำอะไรที่เห็นแก่ตัว อยากทำอะไรได้ตามใจชอบโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรมจรรยา  ไม่อยากจะทำอะไรให้สังคมและส่วนรวม ความรู้สึกดังกล่าวเป็นพลังผลักดันให้มนุษย์ทำความชั่ว 
             ความรู้สึกทั้ง ๒ ส่วนนี้เป็นพลังขัดแย้งในจิตใจของมนุษย์ทุกคน   ความรู้สึกฝ่ายไหนแสดงผลได้มากกว่า พฤติกรรมมนุษย์ก็จะเปลี่ยนไปตามความรู้สึกฝ่ายนั้นเป็นดีหรือชั่ว  "เพราะใจนั้นมากมายเป็นหลายใจ" ผู้ประพันธ์พยายามแสดงให้เห็นความจริงว่าจิตเป็นสิ่งที่สำคัญ แม้จะมีหลายใจแต่หากบังคับจิตได้ก็สามารถ "ข่มมาร" ได้  (ลิลิตศรีวิชัยชาดก)

 

ที่มาจากหนังสือ ทฤษฎีเบื้องต้นแห่งปรัชญาไทย ผู้แต่ง ญาณวชิระ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

นำมาฝากครับ เสาร์-อาทิตย์ สบายใจสบายอุรากันนะครับ  ไหว้ สวัสดีครับ... pasta  หลงรัก
บันทึกการเข้า

พาสตา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B2

โชคดีเป็นของคนกล้า วาสนาเป็นของคนจริง จงชนะความร้าย ด้วยความดี
amfine02 รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 142
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 402


เรียกผมว่าป้องครับ


« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 27, 2011, 05:26:48 AM »

ใช้เวลาอย่างมีสาระครับ ในการอ่านครั้งนี้
บันทึกการเข้า

[/url]
อนัตตา
หนักแค่ไหนก็ไม่ทุกข์ สุขเพียงใดก็ไม่พลั้ง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1616
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8201


เมื่อเจ้ายืนอยู่บนยอดภูผา อย่าลืมว่าเจ้ามาจากที่ใด


« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 27, 2011, 08:17:27 AM »

บางครั้งสังคมก็กำหนดชีวิตคนให้ดีเลวได้ ถ้าไม่หนักแน่นพอ
บันทึกการเข้า

ฅนบ้านนอก
นำแหน่พ่ออ่าว
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 401
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1228


หากินซามฮ้อดมื้อตาย


« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 27, 2011, 01:50:08 PM »

                        จำได้ว่าผมเคยดูหนังไทยเรื่อง    "ไอ้ฟัก"    หลายปีมาแล้ว
                        ผมชอบมาก  การนำเสนอเนื้อเรื่องการตัดสินคน  ของคนในสังคม
       และสุดท้าย   จบแบบทิ้งท้ายให้คิดอีก....สงสารตัวเอกของเรื่อง  เครียดอยู่หลายวัน   เศร้า ไหว้
บันทึกการเข้า


   แนวนาม เขียดอีโม่นาหน้าต่ำ มันบ่สมส่ำเซื้อเครือเจ่าซาติหงส์ ดอกตี๋
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1203
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 27, 2011, 01:57:18 PM »

บางครั้งสังคมก็กำหนดชีวิตคนให้ดีเลวได้ ถ้าไม่หนักแน่นพอ

เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.097 วินาที กับ 21 คำสั่ง