แล้วก็ไปที่ เชียงคานต่อครับ แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้ เพราะหมดสภาพตั้งแต่ที่แก่งคุดคู้

เช้าวันรุ่งขึ้นออกเดินทางตั้งแต่ ตี5 ไปชมภูเรือครับ ภูเรือที่ผมจำได้กับวันนี้มันต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อซัก 20 ปีที่แล้ว ภูเรือยังไม่มีอะไรเลยครับ ตอนนี้เจริญขึ้นแยะ

หมอกลงจัดครับ อากาศเย็น ลมกรรโชกเป็นระยะ ๆ


ที่เห็นในรูปเพิงด้ายซ้ายจะมีที่วัดอุณหภูมิ ศาลาด้านขวาเป็นจุดชมวิว แต่มองไม่เห็นวิวด้านล่างครับ มีแต่หมอก และหมอก ตรงก่อนจะถึงศาลาหมอกรวมตัวกันเป็นหยดน้ำครับ เหมือนฝนตกเลย

พอมาดูอุณหภูมิ ก็ 10 องศานิด ๆ (แต่คิดว่าตรงจุดชมวิวน่าจะต่ำกว่านี้ เพราะลมพัดเข้าตลอด...ตรงจุดชุมวิว..ผมลองถอดเสื้อหนาว ถอดหมวกออกเพื่อลองว่ามันจะขนาดไหน น้ำมูลไหลไม่รู้ตัวครับ เย็นจนชาไปหมด

)

อยู่ตั้งนานครับ เพิ่งเห็นแสงอาทิตย์

ส่วนอันนี้ขอเรียกว่าฮีตเตอร์เมืองไทยครับ แค่เอามือมาอังเอาความร้อนนี้ก็รู้สึกอุ่นขึ้นแยะ (มันน่ามีอันเล็ก ๆ แบบพกพานะครับ ใครเจอบอกผมที จะซื้อติดบ้านไว้เพื่อต้องไปอีกจะได้งัดเอามาใช้

)
