การล่าสัตว์เป้นการสนองสัญชาติญาณดั้งเดิมของมนุษย์อย่างหนึ่ง ก่อนจะมาทำเกษตรเราก็คงต้องยังชีพด้วยการล่าเหมือนสัตว์โลกอื่นๆ
และเมื่อมาถึงวันนี้ Safari Park ในอาฟริกา มีทั้งแบบท่องเที่ยวกินบรรยากาศ ถ่ายภาพ และล่าสัตว์(แบบไม่ต้องผจญภัย)
รายได้จากพรานสมัคเล่นก็ใช้บำรุงท้องที่ครับ
ค่าใบอนุญาตยิงช้าง บวกกับภาษีงาที่จะนำกลับบ้าน (เก็บตามน้ำหนัก) ช้างหนึ่งตัวสร้างโรงเรียนให้หมู่บ้านเจ้าของทั้งที่ได้สองห้องครับ
ชาวบ้านเขาจึงดูแลช้างอย่างดี รอเวลาคนจ่ายเงินมาล่า
ถ้าไม่มีรายได้จากกิจกรรมนี้ เขาจะใช้วิธีวางบ่วงเคเบิลล่ามไว้กับท่อนซุง ช้างติดบ่วงแล้วก็ต้องลากท่อนซุงนั้นไป ขาเน่า ตายทรมาน
ช้างที่แอฟริกา ในบางพื้นที่ มีเยอะมากเกินไป ทำให้วงจรชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์อื่น เปลี่ยนไป
เพราะช้างกินเยอะ ทำให้อาหารขาดแคลน สัตว์อื่นก็อยู่ไม่ได้
ตลอดปี มักจะมีการเคลื่อนย้ายช้างไปไว้ในอุทยาน หรือ เขตป่า ในเขตอื่น ๆ อยู่เรื่อย ๆ แต่การขนย้ายช้าง มักจะใช้ทุนที่ค่อนข้างมาก
ไหนจะ เฮลิคอปเตอร์ ที่บินขึ้นไปยิงลูกดอกยาสลบ ต้องยกไว้ในคอก แล้วยังต้อขนย้ายไปให้เร็วที่สุด เพราะอาจจะมีปัญหากับชีวิตของช้างได้
ทำให้ขั้นตอน เงินทุน และ เงื่อนไขเรื่องเวลา มาเป็นปัญหาในการเคลื่อนย้ายช้าง
ทางอุทยาน เลยมีการอนุญาตให้มีการลดจำนวนช้างในอุทยานลง โดยอาจจะมีการกำจัดช้างด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ยิง เป็นต้น
และบางที ก็อนุญาตให้บุคคลภายนอก เข้ามาร่วมยิงได้ โดยอาจจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อน
ซึ่งส่วนใหญ่ จะติดต่อใช้บริการกับบริษัทตัวแทน เพื่อเข้าไปล่าสัตว์ครับ ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียม หรือ ค่าบริการ ต่างกันไป ตั้งแต่ ราว ๆ 1 ล้านบาท และอาจจะถึง 3 ล้านบาท หากต้องเข้าไปในป่าลึก
และล่าสัตว์ใหญ่ ครับ
ปล. เหมือนจะเคยดูจาก National Geographics อะไรซักอย่างนี่แหละครับ
ขอบคุณอาจารย์ ผณิศวรและท่านพี่asdfw ครับ
ผมไม่คิดจะล่า แล้วก้ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วยครับ แต่ล่องไพร มีอิทธิพลกับผมพอสมควร NGก็เคยดูบ้างครับ
ตอนเด็กๆ เจ้าคุณปู่เคยเล่าให้ฟังว่าเขายิงล้มช้างด้วยปืนแก๊ป แต่จะยิงเมื่อจำเป็นเท่านั้นครับ ไม่ได้เอางาไปขาย ส่วนมากยิงเก้ง ยิงกวาง หมูป่าไปกินตามวิถีป่าแบบโบราณครับ
สมัยนี้ป่าแบบนั้นไม่มีแล้วครับ แถวบ้านผม