ที่จริงเป็นเรื่องปรกติของที่โน่นนะครับ... หินงอกหินย้อยเกาะรถยนต์เนี่ย...

นายสมชายเคยเรียนหนังสือที่รัฐ Oklahoma, USA. ที่เดียวกับคุณ 686 นั่นแหละ...
ที่นี่เป็นรัฐกลางทะเลทราย หน้าร้อน ร้อนตับแตก... ร้อนไม่แพ้เมืองไทยที่จังหวัดตาก... ฮา
แต่หน้าหนาวหิมะปลิวไสว หนาวแบบหูแข็งปวดหูจี๊ด... ห้ามเอามือไปหักหูเล่น กลัวมันดังกร๊อป กระจายเหมือนหักข้าวเกรียบ...จ๊ากซ์
รถตามภาพ... น้ำแข็งเกาะดูหนาๆ แต่จริงๆแล้วไม่แข็งเหมือนในตู้เย็นครับ เอามือมั่ง "ที่แซะน้ำแข็ง"มั่ง เป็นพลาสติกมีขายทั่วไปตามปั๊มตาม Wall-Mart มาแซะๆ ตามกระจกหน้า ตามมือจับประตู... แถมด้วยสเปรย์ฉีดละลายน้ำแข็งอีกนิดหน่อย...
พอเข้ารถได้แล้วมักสตาร์ทเครื่องติดครับ ที่ไม่ติดมักเกิดจากสาเหตุอื่น... เพราะรถพวกนี้เขาเตรียมไว้ตั้งแต่แรก ของเหลวในนั้นทั้งหมดไม่แข็งตัว ท่อยางทั้งหลายตั้งใจผลิตไม่ให้แข็งในหน้าหนาวครับ...
สตาร์ทติดแล้วนั่งวอร์มเครื่องรอให้ฮีทเตอร์อุ่นรถ ตอนนั้นเราก็ทะยอยถอดเสื้อคลุมเครื่องกันหนาวถุงมือ... ต่อไปไม่ใช้แล้ว เพราะลงจากรถก็วิ่งตื๋อเข้าอาคารเรียน อาคารทำงานเลย... ที่โน่นอากาศหนาว แต่คนไม่ทรมาน เพราะในอาคารมีฮีตเตอร์ ทุกที่ทุกแห่งคนนิยมสวมเสื้อกันหนาว... ที่เมืองไทยคนยอมทนหนาว ใครใส่เสื้อกันหนาวถูกมองหน้า... ฮา
วิธีขับรถที่พื้นน้ำแข็งอัดแน่น... หากคนไม่คุ้นขับยากมาก แต่ถ้าลองขับคุ้นๆแล้วก็ไหวครับ ที่เดียวกันเดินด้วยเท้าลื่นมาก แต่ยางรถยนต์เกาะหนึบกว่ารองเท้า... มีหลายครั้งจอดรถเสร็จแล้วลงมาเดินก้าวแรกลื่นต้องเกาะหลังคารถค่อยๆขยับตัว...
เด็กเอเซียหัวดำชอบขับรถฝึกไถลๆลื่นๆ ในลานจอดรถ ฝึกความคุ้นเคย... หากคุ้นแล้วเลี้ยง Friction กับแรงเหวี่ยงสบายๆ ครับอย่าเร่งแรงๆ อย่าเบรคแรงๆ... เว้นระยะแต่ละคันห่างๆ ไม่คะนอง... ถนนโรยเกลือและมีรถกวาดหิมะวิ่งเป็นระยะๆ วิ่งให้เหมือนชาวบ้านแบบสบายๆ...
เราจะเห็นว่าบน Inter-State พวกเจ้าถิ่นขับเว้นระยะต่อกันแบบนี้แช่ความเร็วที่ 65 ไมล์/ชม. กันเป็นแถวยาว... เพราะเขาไว้ใจคันอื่นรอบข้างครับ... ถนนหมอกหนา ก็วิ่งแบบนี้สบาย มองไฟท้ายคันหน้าเอา... เด็กไทยไปโน่นใหม่ๆ เจอหมอกก็จอดข้างทาง... แป๊บเดียวตำรวจมาบอกให้ขับต่อ ห้ามจอดเดี๋ยวคันอื่นจะจอดตามเป็นพรวน... ฮา