ปลายนิ้วนายกำแหง : ปลายนิ้วนายกำแหง : สู้ซึ่งหน้าไม่เอาก็ต้องเชื่อว่าวันเวลาและสถานะที่เปลี่ยนไป ทำให้ความคิดคนเปลี่ยน
โดยเฉพาะสถานะที่ตัวเองได้เปรียบทางการเมือง
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ปฏิเสธการขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ร่วมกับหัวหน้าพรรคการเมืองอื่น โดยอ้างว่าการแสดงวิสัยทัศน์หรือ ดีเบต ไม่ใช่ ธรรมเนียมไทย เพราะธรรมเนียมไทยไม่เอาผู้ใหญ่ในประเทศมานั่งทะเลาะกัน
คนที่จะไปทำงานให้ประเทศ ไม่ใช่เอานักโต้วาทีไปทำงาน เพราะ นักโต้วาทีก็ควรทำอาชีพหนึ่ง ผมทำงานอีกอาชีพหนึ่ง มันคนละแบบกัน เอานโยบายมาแข่งกันดีกว่า
พ.ต.ท.ทักษิณในปี 2548 จึงผิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา
เมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นแต่เพียงหัวหน้าพรรคไทยรักไทยที่ลงสู้การเลือกตั้งในวันที่ 6 มกราคม 2544 พ.ต.ท. ทักษิณไม่ปฏิเสธการ ดีเบต
พ.ต.ท.ทักษิณได้ขึ้นเวทีประชันการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้อาสาเป็น นายกรัฐมนตรีร่วมกับ ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีขณะนั้น พร้อมกับ บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย และ กร ทัพพะรังสี หัวหน้า พรรคชาติพัฒนา ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ไม่แสดงทีท่าอิดออด ไม่เคยคิดว่าเป็นการเอาผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมาทะเลาะกัน ไม่เคยคิดว่าการทำเช่นนั้นผิดธรรมเนียมไทย
ไม่คิดว่านี่คือการเอานักโต้วาทีไปทำงาน
ก่อนหน้านั้น เมื่อมีการเลือกตั้งในยุคที่เชื่อกันว่าเป็นการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้ง (หมายถึงเป็น ส.ส.) เขาก็จัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์กันเป็นประจำ
จำได้ว่าเมื่อการเลือกตั้งวันที่ 22 มีนาคม 2535 ซึ่งสมัยนั้น พ.ต.ท. ทักษิณอาจจะยังเป็นวุ้นทางการเมืองอยู่ ก็มีการจัดให้มีการแสดงวิสัยทัศน์ของหัวหน้าพรรคการเมืองในหัวข้อ ผมพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมใหญ่แห่งหนึ่ง
ผู้เข้าร่วมมี ณรงค์ วงศ์วรรณ หัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม พล.อ.อ.สมบุญ ระหงษ์ หัวหน้าพรรคชาติไทย มนตรี พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคกิจสังคม ชวน หลีกภัย หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หัวหน้าพรรคพลังธรรม ฯลฯ
หลังจากนั้นก็มีการแสดงวิสัยทัศน์ของหัวหน้าพรรคการเมืองทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง
ก็เพิ่งจะมีครั้งนี้แหละที่หัวหน้าพรรคการเมืองที่เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ปฏิเสธการขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ยกเว้นแต่การขึ้นเวทีฉายเดี่ยว พูดคนเดียว
หรืออย่างเก่งก็รายการที่มีพิธีกรอย่าง สรยุทธ สุทัศนจินดา คอยเป็นเพื่อนคุยเพื่อซักประเด็น
มีคนบางคนบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่จำเป็นต้องพึ่งเวทีดีเบตตามสถานที่ต่าง ๆ หรือแม้แต่ที่จะจัดทางโทรทัศน์ เพราะทุกวันนี้มีทั้งรายการโทรทัศน์และวิทยุที่มีผู้จัดคอยทำหน้าที่เชียร์รัฐบาล และรุกไล่ฝ่ายค้านตั้งแต่เช้ายันค่ำอยู่แล้ว
เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่น จนมองได้ว่าอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ดูเหมือน กกต.จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
สุดท้ายมีข่าวมาจาก ไมตรี ลิมปิชาติ อุปนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย บอกมาว่า
วันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคมนี้ ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมประมูลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดังของไทย อาทิ ถวัลย์ ดัชนี, สวัสดิ์ สันติสุข, กมล ทัศนาญชลี, ช่วง มูลพินิจ, ประเทือง เอมเจริญ
เปิดการประมูลตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ หลักสี่
รายได้จากการนี้เพื่อการก่อสร้างที่ทำการสมาคมนักเขียนฯ แท้ ๆ
ถึงแม้จะมีการรวมตัวกันตั้งพรรคศิลปิน แต่งานนี้รับรองว่าไม่เกี่ยวกัน.
กำแหง ภริตานนท์คัดลอกจาก
http://www.dailynews.co.th/col/each.asp?columnid=7657