เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ธันวาคม 22, 2025, 08:33:36 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ฉันไม่มีความสุข  (อ่าน 1386 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
powerboy
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 52
ออฟไลน์

กระทู้: 412


« เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2007, 09:23:23 PM »

ฉันไม่มีความสุข...

ฉันไม่ชอบงานที่ฉันทำ เพราะมันน่าเบื่อและไม่มีที่สิ้นสุด
ฉันไม่ชอบเจ้านาย เพราะเขาไม่เคยคิดหรือทำอะไรเองนอกจากชี้นิ้วสั่งกับดุด่าฉันเท่านั้น
ฉันไม่ชอบเช้าวันจันทร์ เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกเหมือนถูกบังคับให้ตื่นขึ้นมาเผชิญโลกที่โหดร้าย แต่ละสัปดาห์ของการทำงานดูราวกับการคืบคลานไปท่ามกลางสนามรบ
ฉันไม่ชอบเช้าวันอังคาร เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งทำงานไปได้วันเดียวยังมีอีกหลายวันที่โหดร้ายรออยู่
ฉันไม่ชอบเช้าวันพุธ เพราะเป็นวันที่ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความล้าและพบว่าเวลาเพิ่งผ่านไปเพียงครึ่งทางเท่านั้น
ฉันไม่ชอบเช้าวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันที่ฉันเหนื่อยล้าจากการทำงานมาตลอดหลายวัน แต่ทุกอย่างก็ยังคงดำเนินต่อไป พรุ่งนี้ก็ยังต้องทำงาน
ฉันไม่ชอบเช้าวันศุกร์ เพราะฉันเหนื่อยจนแทบลุกจากเตียงไม่ไหวแล้วแต่ก็ยังต้องลุกไปทำงาน
ฉันไม่ชอบเช้าวันเสาร์ เพราะฉันอยากตื่นสายๆ แต่กลับมีเด็กบ้านใกล้ๆวิ่งเล่นเสียงดังจนต้องตื่นแต่เช้า
ฉันไม่ชอบเช้าวันอาทิตย์ เพราะฉันจะถูกปลุกแต่เช้าเช่นกันด้วยเสียงเครื่องดูดฝุ่นกับเสียงตัดต้นไม้และเครื่องตัดหญ้าของเพื่อนบ้าน
ฉันไม่ชอบวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะมันทำให้ร้านรวงในกรุงเทพฯปิด จะซื้อหาอะไรก็ยาก จะออกไปต่างจังหวัดคนก็มาก ฉันเคยเห็นรถติดบนยอดเขาห่างไกลในวันสิ้นปีมาแล้ว
ฉันไม่ชอบรถติด เพราะมันทำให้ฉันถึงที่ทำงานช้า
ฉันไม่ชอบรถเมล์ เพราะฉันต้องยืนเบียดกับคนแปลกหน้าและร้อนอบอ้าว
ฉันไม่ชอบบ้านเช่าที่ฉันอยู่ เพราะมันคับแคบแออัด เปิดหน้าต่างออกไปเห็นแต่ตึกบังท้องฟ้า
ฉันไม่ชอบบ้านเดิมที่ต่างจังหวัด เพราะมันห่างไกลมากและมีแต่ความกันดาร
ฉันไม่ชอบนิยายน้ำเน่า เพราะมันไม่เคยให้แง่คิดหรือช่วยพัฒนาจิตใจของเราให้ดีขึ้นเลย
ฉันไม่ชอบหน้าร้อน เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกอบอ้าวและหงุดหงิดทั้งวัน
ฉันไม่ชอบหน้าฝน เพราะมันทำให้ฉันเปียกแฉะ เดินทางลำบาก ตากผ้าก็ไม่แห้ง
ฉันไม่ชอบหน้าหนาว เพราะมันทำให้ฉันเป็นหวัดและไม่มีชีวิตชีวา
ฉันไม่ชอบมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนจบมา เพราะมันไม่ค่อยมีชื่อเสียง ทำให้ฉันหางานทำลำบาก
ฉันไม่ชอบคนรักของฉัน เพราะเขาเป็นคนขวานผ่าซาก ไม่โรแมนติก ไม่เอาอกเอาใจฉันเลย
ฉันไม่ชอบกรุงเทพ เพราะที่นี่มีแต่ความเบียดเสียด ทุกอย่างเร่งรีบและดิ้นรนผู้คนเห็นแก่ตัว
ฉันไม่มีความสุข...
ความสุขอยู่ที่ไหนกัน...

........................................................... ..........................................................
วันหนึ่งฉันยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ แม่ลูกคู่หนึ่งนั่งรอรถอยู่ใกล้ๆ ผ่านไปสักพักอยู่ๆลูกชายวัยซนของ
หญิงคนนั้นก็ชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าและบอกกับแม่ “แม่หมาอยู่บนฟ้า”
“ไหนลูก” แม่ขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวมองตามลูก “อ๋อ เมฆน่ะเหรอลูก ดูเป็นหมายังไงนะ”
“นี่ไงแม่ ตรงที่ยื่นๆออกมานี่เป็นหัวหมา นี่หูมัน มีขาหน้าด้วย”
“แล้วขาหลังล่ะลูกไม่เห็นมีเลย”
“มันกระโดดออกจากปุยนุ่น ขาหลังมันเลยจมในปุยนุ่น” เด็กชายว่า
ฉันหันไปมองเมฆก้อนนั้นตามด้วนความอยากรู้อยากเห็นแล้วก็ต้องขมวดคิ้วมันเป็นแค่ก้อน
เมฆสีขาวไร้รูปทรงธรรมดาก้อนหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้มีความเหมือนกับหมาตรงไหนเลย ฉันยักไหล่แล้ว
หันไปชะเง้อมองรถเมล์บนถนนตามเดิม เสียเวลาฟังเจ้าเด็กฟุ้งซ่านจริงๆ
“เหรอ...แต่แม่ว่ามันดูเหมือนกับยีราฟนะลูก เห็นมั้ย คอมันยาวเป็นยีราฟเลย หูชี้ด้วย”
“ไม่ใช่นะแม่ ยังเป็นหมาอยู่ หมาคอยาวๆ เอ๊ะ ทำไมขามันหายไปแล้วล่ะ”
“ข้างบนลมคงพัดแรงน่ะลูก เมฆมันเป็นแค่ไอน้ำที่ลอยในอากาศและจับตัวกันเป็นก้อน พอ
ลมพัดมันก็เปลี่ยนรูปร่างเหมือนกันตอนที่ลูกเป่าควันในชามก๋วยเตี๋ยวร้อนๆไงจ๊ะ”
ฉันเงยหน้ามองก้อนเมฆไอน้ำสีขาวบนทั้งฟ้าอีกครั้ง มองอย่างไรก็เห็นเป็นเพียงแต่เมฆ
ธรรมดาๆ ก้อนหนึ่งเท่านั้น ในขณะที่แม่ลูกคู่นั้นเห็นเป็นสัตว์ต่างๆมากมาย ทำไมของสิ่งเดียวกันแต่คน
สองคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กันกลับมองไม่เหมือนกัน หรือว่ามาลูกคู่นี้เห็นในสิ่งที่ฉันไม่เห็น...
บนรถเมล์ที่ฉันโหนไปทำงาน เด็กนักเรียนสองคนใกล้ๆ กำลังพูดถึงการสอบเข้า
มหาวิทยาลัย
“ทำไมแกรีบอ่านหนังสือคร่ำเคร่งนัก กว่าจะสอบก็ปีหน้าไม่ใช่เหรอ”
“ต้องรีบอ่านสิ อีกแค่ปีเดียวพวกเราต้องสอบแล้วนะ นี่อ่านแทบไม่ได้นอนมาหลายเดือน
แล้ว”
“เหรอ...”
“แล้วแกล่ะ ทำไมจนป่านนี้ยังไม่อ่านหนังสือสักที”
“ไม่ต้องรีบหรอก อีกตั้งปีกว่าจะถึงวันสอบ”
ฉันมองตามหลังเด็กทั้งสองขณะที่พวกเขาเดินลงจากรถหน้าโรงเรียน นับว่าเป็นอีกตัว
อย่างหนึ่งของคนสองคนที่มองสิ่งเดียวกันต่างออกไป คนหนึ่งมองอย่างเป็นทุกข์ อีกคนมองอย่างไม่ทุกข์
หรือว่าทุกสิ่งรอบตัวสามารถมองได้สองแบบจริงๆ แบบเดียวกับที่ฉันมองสองด้านของเหรียญหรือมองแก้ว
น้ำที่มีน้ำเหลืออยู่ครึ่งแก้ว
แล้วที่ฉันไม่มีความสุขอยู่ทุกวันนี้เกิดจากการมองของฉันใช่หรือไม่...
เย็นวันนั้นฉันกลับบ้านมานั่งพักที่ระเบียง แมวดำตัวหนึ่งกำลังพยายามจะมาคุ้ยหาขยะใน
ถุงดำที่มัดกองไว้หน้าบ้าน แต่แรกฉันทำท่าจะถอดรองเท้าขว้างใส่แบบที่เคยทำ แต่เมื่อคิดไปอีกทาง ว่า
การเกิดเป็นแมวจรจัดไร้เจ้าของและที่ซุกหัวนอนนั้นก็แย่พออยู่แล้ว ยังต้องมาคุ้ยขยะหาอาหารประทัง
ชีวิตให้รอดแล้วยังถูกคนขับไล่อีกไปที่ไหนก็มีแต่คนไม่ต้อนรับเอ็นดู
ฉันลองเปลี่ยนความคิดดู หันหลังเดินเข้าครัว หยิบไส้กรอกอีสานและแฮมในตู้เย็นออกมา
อุ่นเล็กน้อย จากนั้นก็เปิดประตูบ้านออกไป แมวดำยังอยู่ที่กองขยะหน้าบ้าน แสงจากเสาไฟฟ้าที่ส่องสลัว
ลงมาถึงตัวของมันทำให้มองดูเหมือนกับว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่โดดเดี่ยวที่สุดในโลก ฉันส่งเสียงเลียนแบบ
แมวดังเหมียวๆ จนมันหันมามอง
“กินซะนะ อยู่ด้วยกันมานานฉันเพิ่งจะมาใจดีวันนี้แหละ”
แมวตัวนั้นค่อยๆเดินมาอย่างกล้าๆกลัวๆจนมาหยุดใกล้ๆฉันจึงวางไส้กรอกอีสานกับหมูแฮม
ลงบนพื้น แมวจรจัดส่งเสียงร้องเหมียวๆขณะก้มลงดมอาหารมื้อพิเศษนั้น ในที่สุดมันก็กินอย่างเอร็ดอร่อย
ทีเดียว
ฉันยืนกอดอกมองภาพแมวที่กำลังกินอาหารที่ฉันหามาให้อย่างมีความสุข เพิ่งได้รู้กับตัว
เองว่าการไล่แมวกับการให้อาหารแมวนั้นมันให้ความสุขทางใจที่แตกต่างกันมากกขนาดนี้เอง
ต่อจากนี้ไปฉันจะมีความสุข...

........................................................... .............................................
ฉันชอบงานที่ฉันทำ เพราะมันให้โอกาสฉันได้แสดงฝีมือทำงานเพื่อส่วนรวมและมีรายได้
มาเลี้ยงตัวเอง งานทั้งหลายนั้นดูช่างท้าทายฉันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ฉันชอบเจ้านาย เพราะเขาให้โอกาสฉันคิดและตัดสินใจลงมือทำสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง
โดยพยายามตัดเตือนแนะนำเมื่อฉันทำงานผิดพลาด
ฉันชอบเช้าวันจันทร์ เพราะเป็นวันที่ฉันรู้สึกเหมือนทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งสัปดาห์นี้
จะต้องดีกว่าสัปดาห์ที่แล้ว
ฉันชอบเช้าวันอังคาร เพราะเป็นวันที่ฉันเพิ่งทำงานไปได้วันเดียว ยังมีอีกหลายวันที่
สนุกสนานรออยู่ เพื่อนที่ทำงานยังรอฉันอยู่
ฉันชอบเช้าวันพุธ เพราะเป็นวันที่ฉันเริ่มตื่นขึ้นมาพร้อมความล้าเล็กน้อยและพบว่า
เวลาผ่านไปครึ่งทางแล้ว ฉันจะรีบทำงานในเวลาที่เหลือให้ดีที่สุด อีกไม่นานฉันจะได้พักผ่อนวันหยุดแล้ว
ฉันชอบเช้าวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันที่ฉันเห็นความคืบหน้าของงานในสัปดาห์นี้มากมาย
หากฉันไม่จัดการงานพวกนี้ บริษัทและทุกคนในบริษัทคงลำบากมากฉันรู้ว่าฉันมีส่วนร่วมในการผลักดัน
บริษัทของฉัน
ฉันชอบเช้าวันศุกร์ เพราะฉันจะให้กำลังใจตัวเองว่านี่คือวันทำงานวันสุดท้ายแล้วฉัน
จะจัดการทุกสิ่งไม่ให้คั่งค้างเพื่อให้พรุ่งนี้และมะรืนนี้เป็นวันหยุดที่แสนสบาย
ฉันชอบเช้าวันเสาร์ เพราะฉันจะตื่นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของเด็กบ้านใกล้ๆที่
กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน ฟังดูสดชื่นมีชีวิตชีวา จากนั้นฉันจะเริ่มทำความสะอาดบ้านและมองดูบ้าน
ที่สะอาดขึ้นทีละน้อยอย่างภูมิใจ
ฉันชอบเช้าวันอาทิตย์ เพราะฉันจะตื่อนแต่เช้าเช่นกันเพื่อเตรียมหุงหาอาหารใส่บาตร
พระที่ผ่านมาหน้าหมู่บ้าน จากนั้นฉันจะไปซื้อของและกลับมาพักผ่อนที่บ้าน รอคอยสัปดาห์ใหม่ที่กำลังจะ
เริ่มขึ้น
ฉันชอบวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะมันทำให้ฉันมีเวลาส่วนตัวให้ตัวเองและครอบครัวมาก
ขึ้น
ฉันชอบรถติด เพราะมันทำให้ฉันเพลิดเพลินกับการฟังเพลงวิทยุช่องโปรดและเหม่อมอง
สิ่งต่างๆรอบตัวนานขึ้น
ฉันชอบรถเมล์ เพราะฉันมองเห็นคนมากมายที่กำลังร่วมทางกันอยู่บนรถคันเดียวกัน
แต่ละวันที่ได้พบกับผู้คนบนรถเมล์ฉันมักจะได้แง่คิดดีๆ จากการเงี่ยหูฟังพวกเขาคุยกันอยู่เสมอ
ฉันชอบบ้านเช่าที่ฉันอยู่ เพราะมันดูกะทัดรัดดูแลทำความสะอาดได้ง่าย มีเพื่อนบ้าน
มากมายคอยช่วยเป็นหูเป็นตาให้
ฉันชอบบ้านเดิมที่ต่างจังหวัด เพราะมันห่างไกลจากความวุ่นวายในเมืองหลวง และ
ฉันมักจะกลับไปพักผ่อนเติมพลังอยู่เสมอเมื่อเหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตในเมือง
ฉันชอบนิยายน้ำเน่า เพราะมันทำให้ฉันผ่อนคลายและได้ล่องลอยไปในโลกความฝัน
บ้างหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
ฉันชอบหน้าร้อน เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกถึงชีวิตชีวารอบข้าง เสียงแมลงต่างพากันร้อง
นกต่างพากันบินออกหากิน ดอกไม้เบ่งบาน
ฉันชอบหน้าฝน เพราะมันช่างดูอบอุ่นชุ่มเย็น การเฝ้ามองต้นไม้เขียวขจีต้องลมฝนจาก
ใต้ชายคาบ้านฉันเป็นภาพที่สวยงามจริงๆ
ฉันชอบหน้าหนาว เพราะมันทำให้ฉันรู้สึกเย็นสบาย ได้หยิบเสื้อหนาวสวยๆในตู้ออกมา
ใส่จะเดินออกไปไหนมาไหนก็กระชุ่มกระชวย นอนหลับก็สบายไม่ต้องเปิดพัดลม
ฉันชอบมหาวิทยาลัยที่ฉันเรียนจบมา เพราะมันไม่ค่อยมีชื่อเสียง หากฉันทำงานของฉัน
จนประสบความสำเร็จฉันจะกลายเป็นบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยของฉัน
จะเป็นที่ยอมรับของทุกคน
ฉันชอบคนรักของฉัน เพราะเขาเป็นคนจริงใจพูดตรงไปตรงมา ไม่มีมารยา และทำ
ให้ฉันเรียนรู้ที่จะเอาอกเอาใจเธอ
ฉันชอบกรุงเทพ เพราะที่นี่มีผู้คนมากมาย และมีบทเรียนใหม่ๆ ที่จะคอยสอนใจฉัน
อย่างไม่รู้จักจบสิ้น เหมือนกับที่มันเคยสอนฉันให้มองโลกอย่างมีความสุขมาแล้ว
ฉันมีความสุข...

การ์ตูน ขายหัวเราะ
ฉบับประจำวันพุธที่ 14-20 กุมภาพันธ์ 2550

ความสุขอยู่ในทุกหนแห่งและอยู่ที่ตัวฉันเอง...อยู่ที่ฉันจะตั้งใจมองหามันในทุกสิ่งรอบข้าง
เองหรือไม่เท่านั้น...
บันทึกการเข้า
E_mail
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2007, 10:00:29 PM »

บอกแบบไม่กลัวคนหมั่นไส้ ว่าตอนนี้ผมมีความสุขกับชีวิตมากครับ  Cheesy

ทุกคืนได้กอดลูกเข้านอน ทุกเช้าตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็มานั่งรอลูกตื่นมายิ้มให้ ลงมาจะทำงานก็มีขนมที่เมียเตรียมมาเผื่อไว้ให้กินกับกาแฟ ทุกวันมีกาแฟอร่อย ทุกวันมีเมีย1ลูก2ไว้ให้แกล้งให้หัวเราะก๊าก ..... สุข Cheesy
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2007, 10:13:05 PM โดย E_mail » บันทึกการเข้า
adisak5
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 4
ออฟไลน์

กระทู้: 661


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 28, 2007, 11:14:33 PM »

ข้อคิดที่ดีครับ
บันทึกการเข้า
FUFUFUFU
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2007, 05:42:54 AM »

  ขายหัวเราะ หน้า 43 เขียนโดย ธามาดา ปีที่ 22 - 915
 ประจำวันพุทธที่ 14-20 2550
 แต่ถึงอย่างไรก็ขอขอบคุณครับที่ นำมาให้อ่าน
บันทึกการเข้า
โซ้ยตี๋
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 59
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2733



« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2007, 07:32:44 AM »

บอกแบบไม่กลัวคนหมั่นไส้ ว่าตอนนี้ผมมีความสุขกับชีวิตมากครับ  Cheesy

................ทุกวันมีเมีย1ลูก2ไว้ให้แกล้งให้หัวเราะก๊าก ..... สุข Cheesy

แล้วกิ๊กไปไหนล่ะ

 Grin Grin Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า
harusame
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2007, 07:42:18 AM »

 Grin Grin Grin ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิดดี ๆ .... ความสุขมันอยู่ทุกที่ จริง ๆ มันอยู่การมอง และการคิดของเราเองนี่ล่ะ  Cheesy Cheesy Cheesy
บันทึกการเข้า
MadFroG
Si vis pacem para bellum
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 46
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1985


Father and Son


« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 29, 2007, 09:22:21 AM »

ดิดให้ทุกข์ ก็ทุกข์
คิดให้สุข ก็สุข
ไม่คิด ก็ไม่ทุกข์ไม่สุข
ปล่อยวาง

ทุกท่านเลือกได้ว่าจะทำอย่างไร
ต้องการเป็นแบบไหน ทำแบบนั้น
ทุกคนเหมาะควรต่างกัน

บันทึกการเข้า

เมื่อเกิดวงเล็บ จึงเกิดการก้าวกระโดดทางตรรกะ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.094 วินาที กับ 21 คำสั่ง