ผมขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ,ผมเคยไปมาแล้ว(ส่งมอบงานเพื่อเก็บเงิน)เสี่ยงใหม?ทหารที่เป็นหลาน(ร.อ)บอกให้ไปเอาปืนกลAK.47 สองตัวแม็ค 4 อันแต่ต้องรับผิดชอบเอาเองทุกอย่างรวมถึงชีวิตและทรัพย์สินของตัวเอง ผมไม่เอาแบบนั้นแต่เป็นแบบนี้ครับ ผมไปสองคนและไปจ้างคนทางโน้นอีกสองคนผมขับรถโดยให้อีกสามคนคอยมองถ้ามี
มอ,ใซด์มาผิดลายให้ยิงทันทีไม่ต้องถามผมก่อนและไม่ต้องบอก ผมได้ยินเสียงปืนเอง, บอกตามตรงคนที่ไปด้วยยิงไปสามครั้ง หกคน มอ,ไซด์ล้มควําทุกครั้งที่มันโดนยิงนี่แค่อ.เมืองยะลาที่เดียวแต่งานมีหกที่นราฯสองที่ปัตฯสองที่แต่ละที่
อยู่ในเขตพื้นที่สังหารของเขาทั้งนั้นแต่ทีมผมใช้แบบนี้ตลอดคือ ไปเป็นทีม(4 คน) ไม่จอดรถระหว่างทางเด็ดขาด และ
ถ้าสงสัยไห้จ้องมองแล้วยิงทันทีถ้ามันชยับมือไปบริเวณเอว ไม่ต้องกลัวติดคุก ไม่มีเจ้าทุกข์ ไม่มีโจทย์ ไม่มีจำเลย มีแต่คนเจ็บน้อย , มาก , ดาย และตายฟรีมาตลอด สามปีที่ผ่านมานี้ นี่คือของจริงที่ไปสัมผัสมา มีแต่คนหาปืน และหาซื้อปืนจะมีหรือไม่มีใบฯ ไม่สน ที่สนคือ ความอยู่รอดของตนและครอบครัวแลญาติมิตรบริวาร คนที่นั่นคิดไม่เหมือนคนที่อื่นนานแล้วครับ อยู่กับความจริงวันนี้ดีกว่า ขนาดทหารมีของดี ของหนัก ยิงแบบอัตโนมัติได้เป็นสิบนัดต่อวินาทียังเอาตัวไม่รอดแล้วจะให้มาคอยดูแลคนอื่น, เป็นแบบนี้มานานแล้วใช่ใหมครับ. มันยิงเราแน่ฯและยิงผมมาแล้วทั้งที่รถ,คนไม่มีอะใรแปลกให้มันเห็นผิดสังเกต เราขับผ่านไปมันขับมอ,ใซด์ตามยิงทันทีมันไม่สนใจรู้เลยว่าเราจะยิงสวนใหม.เราจะฝึกมาแบบใหน....ซีล....แรงเยอร์....อรินทราช....ป่าหวาย....มันไม่สนมันยิงก่อน,กดระเบิดก่อนเสมอมา...คนทางโน้นรวมถึงทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ใช้วิธีนี้แล้วครับ( จ้องมอง - มันขยับมือ -จ้องสวนตาเรา -ให้ยิงมันทันที )มีทางรอด 80% โชคดีจงมีแด่ท่าน ทุกเวลาพระองค์อยู่กับท่านเสมอ....

แล้วถ้าเกิดไปเจอคนที่ดีเหมือนท่าน คิดเหมือนกันกับท่าน มีความหวาดระแวงเช่นเดียวกันกับท่าน จังหวะมาเจอกัน จ้องตากัน ขยับมือเกือบพร้อมๆกัน จะไม่เป็นการยิงฝ่ายเดียวกันหรือครับ
ถ้าเป็นอย่างท่านว่าจริง ผมก็ขอเดาเอาว่าที่ตายกันเกลื่อนถนน ต้องมีเหตุการณ์แบบพวกเดียวกันยิงกันเองไม่มากก็น้อย
น่ากลัวครับแบบที่ท่านว่ามา
แต่ก็ต้องยอมรับความจริง
ด้วยความเคารพครับ
จากที่ท่านเรียนแจ้งเตือนด้วยความเป็นห่วง ก็คงจะน่าคิดอยู่เหมือนกันครับ แต่ว่าในความเป็นจริง ไม่มีใครหรอกครับที่เป็นคนดี ๆแล้วจะมาขับรถแกล้ง คนดี ๆด้วยกัน แกล้งทำเป็นจ้อง ๆให้คนอื่นหวาดระแวง ทั้ง ๆที่ เป็นที่รู้กันว่า ถ้าทำอะไรตุกติกอาจจะโดนยิงสวนให้ตายฟรี คงไม่มีใครเสี่ยงเล่น ๆให้เพื่อนยิง( เล่น ๆ) หรอกครับ มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับ ที่จะมาขับรถจ่อ ๆด้านหลังลักษณะเหมือนรอจังหวะอะไรซักอย่าง ลองนึกดูเล่น ๆน๊ะครับ ว่าถ้าท่านจะขับรถแซงรถใครสักคน ท่านจะทำอย่างไร อย่างน้อยสายตาก็ต้องจ้องไปข้างหน้าเกือบตลอดเวลา ไม่ใช่สายตาพยายามจะจ้องมองผ่านกระจกติดฟิล์มเข้ามาสังเกตภายใน ถี่ ๆ แล้ว ในสถานการณ์ที่จะแซง ก็มักไม่ใช่ย่านชุมชน เพราะพวกมันจะทำงานในช่วงที่เปลี่ยว ๆ จึงไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่จะต้องมาสังเกตมากมาย ความเป็นจริงก็รีบขับแซงอย่างเร็ว แล้วรีบไป.....แต่อาการของคนรอจังหวะมันบ่งบอก.... แล้วจะมีคนดี ๆลงทุนเอาชีวิตมาให้ คนยิงเล่น ๆมีเหรอครับ........
.........แต่มีข้อสังเกตเล็ก ๆครับ .....ผมเคยขับรอไปทางอำเภอสายบุรี บนถนนสายหลัก เส้นทาง กรุงเทพ- นราธิวาส ช่วงผ่านทางเป็นที่ชุมชน ด้วยความอ่อนล้า เลยผ่อนคันเร่งขับแบบช้า ๆ พอค่อยผ่อนคลาย กำลังขับเพลิน ๆ สังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่น ขับมอเตอร์ไซน์ 5 คัน ขับออกมาจากริมถนน มองลักษณะเหมือนกำลังจะซิ่งออกมาเป็นกลุ่ม พยายามสังเกต ผ่านกระจกมองหลัง ....แต่ลักษณะวัยรุ่นซิ่ง เมือออกรถมาแล้ว ก้อต้องแย่งกัดบิดหูดับตับไหม้ไปเลย แต่ที่สังเกต ทำท่าเหมือนแข่ง...ทำเป็นแซงกันเอง สลับกัน...ทำเป็นก้มหมอบเหมือนกำลังแข่งกันในความเร็วสูง ๆ แต่ท่านจะนึกไง ถ้าตอนนั้นท่านขับความเร็วแค่ 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง จะมาทำหมอบหลบลมกัน มันดูไม่ได้เลยครับ ถ้าผมขับอยู่ที่ ความเร็วซัก 160 กม. ผมจะไม่เอะใจเลย ...ทีนี้ พวกค่อย ๆแซงมา แยกเป็น ด้านซ้าย 3 คัน ด้านขวา 2 คัน มาจ่อ ๆเหมือนจะแซง แต่สายตา พยายามจ้องมองเข้ามาภายในรถ ......ข้อสังเกต...... ท่านเคยดูทีวีมั้ยครับ เวลาดาราตัวประกอบใหม่ ๆแสดง จะอดไม่ได้ที่จะแอบจ้องมองกล้อง โดยที่เค้าจะนึกว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ภาพที่คนดู จะมองออกทันทีเลย...มันไม่เป็นธรรมชาติ แล้วจะดูขัดตา สังเกตได้ทันที่ .....ลักษณะอย่างนั้นเลยครับ...โดยที่พวกมัน ไม่รู้ตัว...ว่าเราสังเกตตรงลูกตามันตาหลายคู่ อาการเหมือนกันหมด เรามองผ่านหลังกระจกติดฟิม์ลสีดำ มันมองออกน่ะครับ ...สรุปต่อจากนั้น พรรคพวกที่นั่งมาในรถอีกสองคนขึ้นลำ เตรียมยิง ...แต่...เวลากระชั้นชิด ในสถานการณ์อย่างนั้นการบริหารจัดการ ไม่ลงตัวครับ จะจัดการตัวไหนก่อน แล้วที่เหลือ จะให้ลำดับความสำคัญอย่างไร เรา 3 คน มันมากัน 5 คัน ผมเป็นคนขับ ตัดออกไป ครึ่งหนึ่ง สรุป เรามีกำลัง 2 คน กับอีกครึ่งคน แต่ ไม่มีใครพูดกันครับ ในรถต่างคนต่างคิดกันคนละทาง เพื่อนผมทางด้านซ้าย เร็วกว่าหมุนกระจกลงนิดแล้วสอดปลายกระบอกปืนออกไป พอปลายลำกล้องโผล่ หนึ่งในนั้นมันขับรถเสียหลักทันที แล้วเกี่ยวอีกสองคันล้มไป อีกสองคันทางขวา มันเห็นพรรคพวกล้ม มันรีบเบรกอย่างแรง รถสะบัดแต่ไม่ล้ม......น่าคิดมั้ยครับว่า คนแข่งรถกันถึงทางโล่ง แล้วจะไม่รีบแซง แล้วแข่งรถกัน จะมาพยายามมองผ่านกระจก ที่มองเข้ามาเกือบไม่เห็น แถม แบ่งกันแซง ซ้ายบ้าง..ขวาบ้าง แล้วยังจะมามีเวลามองเห็นปลายกระบอกปืนแค่เสี้ยววินาที ของการขับแข่งขันกันอีก แล้ว ...นักบิดของเรา แต่งตัวเหมือนขับระดับสนามแข่ง หมวก ถุงมือครบ แต่มาแอ็คชั่นกันที่ความเร็วแค่ 80 -90 กม. เอง ถ้าเป็นท่านจะคิดแต่งต่างจากที่พวกผมคิดหรือปล่าวครับ
........สรุปเทคนิค....
ถ้าท่านเดินทางผ่านนอกเมือง อย่าขับรถช้านัก อย่าขับแบบผู้ดีนัก เพราะพวกมันจะมีคนสังเกตอยู่ข้างทาง ถ้าเป็นไปได้ ขับกระโชกโฮกฮาก บ้างดูเหมือนว่าพวกทานเถื่อน ๆอยู่ในรถ เพราะว่าพวกมันคงไม่อยากทำงานอะไรที่มันยาก ๆ ....เชื่อผมเถอะครับ........ด้วยความเคารพ