โอ้โห้.......มีตุ๊กตายกมือแต้ๆ .....ทั้งบนทั้งล่าง ไม่ช่วยกันก็ไม่รู้ทำไงแล้วแหละครับ
ลูกซองปั๊ม ชื่อก็บอกแล้วว่า ปั๊ม คือ ยิงนัดหนึ่ง กระแทกปั๊ม หรือกระโจมมือกลับหลัง ทีหนึ่ง จึงจะยิงได้ใหม่ได้
ถ้าไม่เคยเห็นอาการกระทำของปืน ก็ไม่รู้ทำไง หาดูจากภาพยนต์ก็แล้วกัน
เคยดู คนเหล็ก ภาค2 ไหมครับ นางเอกแขนเจ็บข้างหนึ่ง ก็ยิงได้ กระชากสไลด์ได้
ถ้าเป็นหนังเก่า ของไทยๆ ก็ สมบัติ เมทะนีนั่นแหละ เจ้าตำหรับ ยิงไปกระชากไป
ลูกซองออโตเมติก คือ ก่อนยิง กระชาก 1 ที ทีนี้ ก็กระดิกนิ้วลั่นไกอย่างเดียว จนกว่ากระสุนจะหมดแม็กกาซีนหลอด นั่นแหละขอรับ
ข้อดีของลูกซองปั๊มคือ
1.ล้างง่าย ดูแล ง่ายๆ สไตล์ลูกทุ่ง
2.ไม่ต้องมากังวลเรื่องแรงกระสุน ว่าจะฐานสูง หรือฐานต่ำ เอาเป็นว่า เบอร์ 12 ก็ใช้ได้เลย
ข้อเสียของลูกซองปั๊มคือ
1.แรงถีบ มันจะหนักกว่าปืนออโตฯ เพราะหัวไหล่ของคนยิงต้องรับแรงถีบแบบเต็มๆ
ข้อดีของลูกซองออโตคือ
1.ยิงต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็ว เพราะเวลายิงกันจริงๆ การจะยิงไป กระชากไป จะต้องฝึกให้คุ้นเคย ส่วนออโตนั้น
ไม่ต้องคิดอะไร เหนี่ยวไกอย่างเดียวเท่านั้น
2.รู้สึกได้ว่า ปืนออโตจะยิงได้นุ่มนวลกว่าปืนปั๊ม เพราะรู้สึกไม่ค่อยเจ็บหัวไหล่ เวลายิงไปหลายๆ นัด
ข้อเสียคือ
1.ลูกกระสุน จะต้องมีแรงขับดัน ให้ได้ตามมาตรฐานของลูก หากเจอลูกเก่า ลูกแรงดันไม่ดี อาจทำให้ปืนติดขัด ในจังหวะการสลัดปลอกออกได้ จะทำให้ยิงต่อเนื่องไม่ได้
2.การดูแลรักษา การล้าง ต้องมีการถอดชุดปฏิบัติการของมันออกมาล้างด้วย กรณีเป็นระบบแก็ส เจาะรูลำกล้อง เอาแก็สมาบริหารกลไกด้วยลูกสูบ หรือระบบแบบไม่เจาะลำกล้อง แต่ใช้แรงสะท้อนถอยหลัง มาบริหารกลไก ไม่ว่าจะเป็นออโตแบบไหน ก็ต้องมีการถอดกลไกออกมาล้าง
ซึ่งจะดูแล ยุ่งยากกว่าปืนปั๊ม ขึ้นมาอีกระดับหนึ่งแน่นอน
คิดซื้อปืนลูกซอง ถ้าไม่ได้เอาไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิตที่เป็นฝูง ๆ ตามท้องนา ท้องไร่ แค่ 18 นิ้ว ก็ดีถมไปแล้วครับ
ใช้ติดบ้าน ก็โอเค ใช้ติดรถ ลำบากหน่อย บางคนติดรถ เขาเอาไปหั่นให้สั้นลงเสมอแม็กกาซีนหลอดเสียด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าเป็นนักกีฬา ผมไม่รู้เรื่องครับ รู้แต่แบบใช้งาน
สรุป ถ้าซื้อไปใช้งานทั่วไป ก็ปั๊มเลยครับ สะดวก ไม่แพง ไม่เลือกลูก สมบุก สมบัน
ยี่ห้อ ที่ฮิตสุดๆ แข็งแรงดีๆ เหล็กทั้งดุ้น ก็เรมิงตัน 870 เลยครับ ทนจริงๆ ดูแลก็ง่าย