สถานที่แห่งนี้ เคยเป็นวังสถานที่ประทับของ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส พระราชโอรสองค์ที่ ๔๖ ในรัชกาลที่ ๕ และเป็นองค์ที่ ๓ ในเจ้าจอมมารดาโหมด รัชกาลที่ ๕ ได้พระราชทานให้ และได้ประทับที่วังนี้ตลอดพระชนมายุ
เดิมมีเนื้อที่ ๑๔ ไร่ ๒ งาน ๗๙ ตารางวา ที่ดินจำนวนนี้ได้ตกทอดไปยังทายาทในเวลาต่อมา จนกระทั่งตกเป็นที่ดินของหลวงบางส่วน โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้รับมอบอำนาจจากกระทรวงการคลัง ให้เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน และได้ดำเนินการขอใช้เป็นสถานที่ตั้งของกองบัตรประจำตัวประชาชน ต่อมา ได้มีกองการทะเบียน กองประสานราชการ กองป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน สำนักงานการทะเบียนราษฎร งานศูนย์จัดเก็บเอกสาร และ ไมโครฟิล์ม กองวิชาการ งานเครื่องเขียน แบบพิมพ์ กองคลัง และ หมวดสมุดประวัติ กองอัตรากำลัง และส่งเสริมสมรรถภาพ ตามมาขอใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ตั้ง ปัจจุบันมีเนื้อที่ทั้งสิ้น ๕ ไร่ ๓ งาน ๔๔ ตารางวา
วังไชยาเดิมมีศาลเจ้า หลวงปูวังไชยา หรือ ศาลเสด็จป๋า ซึ่งเป็นพระอาจารย์ของ กรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส ทรงเคารพนับถือมาก เมื่อถึงแก่กรรม จึงทรงสร้างศาล เสด็จป๋าขึ้นไว้เคารพสักการะ หลังจากพระองค์สิ้นพระชนม์ ผู้ที่เคยอาศัยอยู่บนวังไชยา พบปรากฏการณ์พิศวง คล้ายๆ เห็นร่างของกรมหมื่นไชยาฯ มาประทับที่ระเบียง ชั้น ๔ ทรงสูบพระโอสถกล้อง ตามพระนิสัยที่เคยปฏิบัติอยู่เนืองๆ หลังจากไฟไหม้ศาลเสด็จป๋า กองการทะเบียนจึงสร้างศาลสองศาลขึ้นทดแทนเป็นศาลของเสด็จป๋าเดิม และศาลของกรมหมื่นไชยาฯ ขึ้นคู่กัน เป็นที่เคารพสักการะของผู้คนใกล้เคียงสืบมา จนกระทั่งศาลเก่าชำรุดทรุดโทรมมาก
เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๓๔ ผู้แทนของกองต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในวังไชยาจึงประชุมปรึกษาหารือกัน รวมศาลสองศาล อัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาสถิตย์ ณ อาคารศาลแห่งใหม่นี้ โดยตั้งชื่อว่า "ศาลกรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาสและพระอาจารย์" เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๔ เสร็จเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๓๔ ค่าก่อสร้าง เป็นเงิน ๓๘๐,๐๐๐.๐๐ บาท นายศิริพงษ์ วัชโรทัย ประจำหมวดโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง เป็นผู้ตรวจสถานที่ กำหนดฤกษ์ยามพิธีเปิด และทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน ๒๕๓๔ โดยนายฉลอง กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการปกครอง
******************
ข้อมูลจากที่นี่ครับ
http://www.culture.go.th/knowledge/pculture/bangkok1/1_28.html
