ไปเจอมาครับ อดไม่ได้ที่จะนำมาเผยแพร่ต่อนะครับ
ผมมีภาพๆ หนึ่งเอามาให้ดูกัน เป็นภาพหลอดยาสีฟันที่ถูกใช้แล้วครับ
เห็นทีแรกไกลๆ ก็ไม่รู้สึกอะไรมากหรอกครับ
เป็นภาพที่ติดอยู่บนบอร์ดที่โรงเรียนของลูก ระหว่างที่
รอลูกๆ ลงมาจากห้องเรียนจึงได้อ่านข้อความที่ประกอบภาพนี้อย่างละเอียด
ภาพหลอดยาสีฟันที่เห็นนี้ต้องเรียกว่าเป็นหลอดยาสีฟันพระทนต์ประวัติศาสตร์
เพราะนี่คือหลอดยาสีฟันของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เห็นแล้วรู้สึกเหมือนผมไหมครับ
ความเย็นจากที่ไหนก็ไม่รู้อาบลงมากลางกระหม่อมเลย
ภาพนี้ถูกตีพิมพ์เป็นโปสเตอร์โดยคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์ฯ
ครูที่โรงเรียนของลูกผมไปพบเข้าเลยนำมาถ่ายสำเนาติดบอร์ดให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้และเข้าใจคำว่า ประหยัด
ศาสตราจารย์พิเศษทันตแพทย์หญิงท่านผู้หญิงเพ็ชรา เดชะกัมพุช
ทันตแพทย์ประจำพระองค์ อดีตคณาบดีคณะทันตแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนเล่าให้ฟังว่า
ครั้งหนึ่งทันตแพทย์ประจำพระองค์กราบถวายบังคมทูลเรื่องศิษย์ทันตแพทย์จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัยบางคนมีค่านิยมในการใช้ของต่างประเทศและมีราคาแพง
รายที่ไม่มีทรัพย์พอซื้อหาก็ยังขวนขวายเช่ามาใช้เป็นการชั่วครั้งชั่วคราว
ซึ่งเท่าที่ทราบมามีความแตกต่างจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
ที่ทรงนิยมใช้กระเป๋าที่ผลิตในประเทศเช่นสามัญชนทั่วไป ทรงใช้ดินสอสั้นจนต้องต่อด้าม
แม้จนยาสีพระทนต์ของพระองค์ท่านก็ทรงใช้ด้ามแปรงพระทนต์รีดหลอดยาจนแบน
จนแน่ใจว่าไม่มียาสีฟันพระทนต์หลงเหลืออยู่ในหลอดจริงๆ
เมื่อกราบบังคมทูลเสร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสั่งว่าของพระองค์ท่านก็เหมือนกัน
และยังทรงรับสั่งต่อไปอีกว่าเมื่อไม่นานมานี้เองมหาดเล็กห้องสรงเห็นว่ายาสีพระทนต์ของพระองค์คงใช้หมดแล้ว
จึงได้นำหลอดใหม่มาเปลี่ยนให้แทน
เมื่อพระองค์ได้ทรงทราบก็ได้ขอให้เขานำยาสีพระทนต์หลอดเก่ามาคืน
และพระองค์ท่านยังทรงสามารถใช้ต่อไปด้อีกถึง 5 วัน
จะเห็นได้ว่า ในส่วนของพระองค์ท่านเองนั้นทรงประหยัดอย่างยิ่ง
ซึ่งตรงกันข้ามกับพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่ทรงพระราชทานเพื่อราษฏรผู้ยากไร้อยู่เป็นนิจ
พระจริยาวัตรของพระองค์ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ่มชัดถึง พระวิริยะ อุตสาหะ ตลอดจนความประหยัดในการใช้ของอย่างคุ้มค่า
หลังจากนั้น ทันตแพทย์ประจำพระองค์
ได้กราบพระบาททูลขอพระราชทานหลอดยาสีฟันพระทนต์หลอดนั้น
เพื่อนำไปให้ศิษย์ได้เห็นและรับใส่เกล้าเป็นตัวอย่างเพื่อประพฤติปฏิบัติในโอกาสต่อๆ ไป
ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชทานส่งหลอดยาสีพระทนต์เปล่าหลอดนั้นมาให้ถึงบ้าน
ทันตแพทย์ประจำพระองค์รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นเกล้า
ยิ่งเมื่อได้พิจารณาถึงลักษณะของหลอดยาสีพระทนต์เปล่าหลอดนั้นแล้ว
ทำให้เกิดความสงสัยว่าเหตุใด ยาสีฟันพระทนต์หลอดนี้จึงแบนราบเรียบโดยตลอด
คล้ายแผ่นกระดาษโดยเฉพาะบริเวณคอหลอดยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปเกือบถึงเกลียวคอหลอด
เมื่อได้มีโอกาสเข้าเฝ้าอีกครั้งในเวลาต่อมา จึงได้รับคำอธิบายจากพระองค์ว่า
หลอดยาสีฟันพระทนต์ที่เห็นแบนเรียบนั้นเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีดและกดจนเป็นรอยบุ๋มที่เห็นนั่นเอง
และเพื่อที่จะขอนำไปแสดงให้ศิษย์ทันตแพทย์ได้เห็นเป็นอุทาหรณ์
จึงได้ขอพระราชานุญาตซึ่งพระองค์ท่านก็ได้ทรงพระเมตตาด้วยความเต็มพระทัย
ผมมีโอกาสได้ยืนมองดูรูปหลอดยาสีพระทนต์หลอดนี้อยู่เนืองๆ เวลาไปรอรับลูกที่โรงเรียน
และเมื่อยิ่งดูก็ยิ่งได้รับรู้ถึงปรัชญาที่พระองค์พระราชทานผ่านมาทางหลอดยาฯ นี้
แล้วผมก็พบว่าแก่นแท้ของการประหยัดอยู่ตรงนี้นี่เอง
ไม่ใช่ไม่ยอมใช้เลย แต่ต้องรู้จักใช้
รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
ไม่ใช้แบบ เหลือทิ้งเหลือขว้าง
และทำให้ผมคิดไปถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติบนโลกใบนี้
หลอดยาสีพระทนต์ของในหลวงหลอดนี้ สอนผมให้เข้าใจว่า
ในความเป็นจริงแล้วมนุษย์เรายังคงต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติต่อไป ไม่ใช่ไม่ใช้เลย
แต่จะใช้อย่างไรมากกว่า
ตัวอย่างง่ายๆ เรื่องการใช้น้ำ
เราไม่ควรประหยัดน้ำจนต้นไม้ที่ปลูกอยู่ตายเพราะขาดน้ำ
แต่เราควรระวังการเปิดน้ำทิ้งไว้ เราควรระวังท่อน้ำรั่วหยดซึม
เราควรระวังเรื่องสิ้นเปลืองเหล่านี้ต่างหาก
แล้วผมก็เลยคิดไปถึงเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง
รวมทั้งเรื่องเขื่อนว่า ทำไมบางครั้งโลกเราถึงต้องยอมเสียพื้นทีป่าบางพื้นที่เพื่อสร้างเขื่อนบ้าง
ผู้ส่งอีเมลล์ฉบับนี้เป็นอีกคนนึงที่ได้อ่านถึงข้อความทั้งหมดนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ
และรู้สึกว่า ตัวเองทำอะไรสิ้นเปลืองอยู่ตลอดเวลาจริงๆ
ขอขอบคุณ คุณ Xellos จาก PK ที่นำข้อความดีๆ
มาให้อ่านครับ ที่มา คุณTeera เวป http://www.weekendhobby.com/sale/question.asp?id=18674[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]