เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
สิงหาคม 26, 2025, 05:29:38 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ช้าง รัชกาลที่ 9  (อ่าน 8385 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
NaiMai>รักในหลวง
ไม่ว่าจะมีพร้อมทุกสิ่ง แต่ก็ยังไม่มีสิ่งใดเหนือกว่าความมีสติ
Hero Member
*****

คะแนน 741
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14573


นายใหม่ รักหมู่


เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 10:53:07 PM »

 เยี่ยม
บันทึกการเข้า

soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 10:56:57 PM »

ภาพช้างสำคัญในรัชการที่9 ครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
soveat ชุมไพร
มือสังหารคันคากหมุ่น พรานปลาวัด พราน28k สมช. เลขที่ 1475
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3429
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 30132


เลือดกรุ๊ป โอละนออออออออออออ


เว็บไซต์
« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2009, 10:58:07 PM »

 ไหว้
บันทึกการเข้า

จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา
^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^
มีภัย มีเรา biw199
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 224
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3412



« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2009, 08:10:35 AM »

 ไหว้
บันทึกการเข้า





พายุยิ่งพัดอื้อ....................ราวป่าหรือราบทั้งแดน
อิศานนับแสนแสน..............สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?
Choro - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 214
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3853



« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2009, 09:04:07 AM »

ขอบคุณครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

สุดท้ายชีวิตไม่ขอรวย ขอแค่ไม่ป่วยก็พอแล้ว
นิ น น า ท
ชัดเจนและจริงใจครับ
Full Member
***

คะแนน 72
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 182


« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2009, 02:08:57 PM »


  เป็นความรู้ที่มีคุณค่ายิ่งครับ แล้วก็..ขออนุญาตนิดหนึ่งนะครับ

 

  จาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน 

  รัชกาล

  คำแปล

  น. เวลาครองราชสมบัติแห่งพระราชาองค์หนึ่งๆ.

  โดยอนุโลมใช้หมายถึงองค์พระมหากษัตริย์ในรัชกาลนั้น ๆ เช่นรัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสต้น.


  ขอบคุณมากครับ


 
บันทึกการเข้า

หัวดี หัวเก่ง หัวก้าวหน้า
มือเยี่ยม มือกล้า มือขยัน
ใจกว้าง ใจสู้ ใจแบ่งปัน
รู้ทัน รู้ชอบ รู้ตอบแทน...

...ขอแค่นี้เอง..เกินพอ
JUNG KO
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 29
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 274



« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2009, 02:47:05 PM »

ช้างไทยในแต่ละรัชกาล
            ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของประเทศ ปกครองมานานหลายรัชสมัย ซึ่งในการปกครองแต่ละรัชสมัยนั้นก็ได้มีช้างเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการปกครองตั้งแต่สมัยโบราณจนกระทั่งปัจจุบันช้างถือว่าเป็นสัตว์ที่ช่วยเสริมบารมีของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ตามความเชื่อในทางพระพุทธศาสนาที่ว่าพระพุทธเจ้าทรงเสวยราชย์เป็นพระยาช้างที่มีบุญบารมีมากว่า 500 ชาติ จึงถือได้ว่าช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของคนไทยเลยก็ว่าได้
กรุงสุโขทัย
ในศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวว่าพระเจ้ารามคำแหงมหาราชได้ชนช้างชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด และยังมีอีกตอนที่กล่าวถึงช้างเผือกตัวโปรดของพระเจ้ารามคำแหงมหาราชที่ชื่อรุจาครี ซึ่งช้างเผือกตัวนี้ทรงให้แต่งด้วยเครื่องคชาภรณ์ แล้วทรงนำราษฎรออกบำเพ็ญกุศลตามพระอารามในอรัญญิกเมื่อครั้งที่ทรงครองกรุงสุโขทัย
กรุงศรีอยุธยา
            ในสมัยกรุงศรีอยุธยาได้มีช้างเผือกที่มีลักษณะพิเศษที่นำมาเป็นสัตว์คู่บารมีของพระมหากษัตริย์แต่ละรัชกาล
• ในสมัย สมเด็จพระอินทราชาที่ 2 ได้ช้างเผือกมา 1 เชือก
• ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราชได้ปรากฏช้างเผือกที่ชื่อพระฉัททันต์ขึ้น
• ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ซึ่งถือได้ว่าเป็นรัชสมัยเริ่มต้นที่ให้ความสำคัญกับช้างเผือกมากที่สุด พร้อมทั้งยังมีช้างเผือกประจำรัชกาลนี้ถึง 7 เชือก คือ พระคเชนทโรดม พระรัตนากาศ พระแก้วทรงบาศ ช้างเผือกพังแม่และพังลูก พระบรมไกรสร พระสุริยกุญชร
• ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 (สมเด็จพระนารายณ์มหาราช) ได้ช้างเผือกมา  2  เชือก คือ พระอินทร์ไอยราวรรณ และ เจ้าพระยาบรมคเชนทรฉัททันต์
• ในสมัยสมเด็จพระมหาบุรุษ( พระเพทราชา) ได้ช้างเผือกมา 2 เชือก คือ พระอินทรไอราพต และ พระบรมรัตนากาศ
• ในสมัยสมเด็จพระสรรเพชญที่ 8 ( พระเจ้าเสือ ) ได้ช้างเผือกชื่อ พระบรมไตรจักร
• ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่  3 ( พระบรมโกศ )ได้ช้างเผือกมา 6 เชือก คือ พระวิเชียรหัสดิน พระบรมราชนาเคนทร พระบรมวิไชยคเชนทร พระบรมกุญชร พระบรมจักรพาลหัตถี พระบรมคชลักษณ์

กรุงธนบุรี
            สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ช้างพังเผือก ได้เมื่อครั้งนำกองทัพกรุงไปล้อมเมืองฝาง เจ้าฝางหนีพาช้างไปด้วย กองทัพติดตามได้ลูกช้างนำมาถวาย

กรุงรัตนโกสินทร์
• รัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ช้าง 10 เชือก คือ พระบรมไกรสร ( บวรสุประดิษฐ) พระบรมไกรสร ( บวรบุษปทันต์ ) พระอินทรไอยรา พระเทพกุญชร พระบรมฉัททันต์ พระบรมนัขมณี พระบรมคชลักษณ์ ( อรรคคเชนทร์ ) พระบรมนาเคนทร์ พระบรมคชลักษณ์ ( อรรคชาติดามพหัตถี ) พระบรมเมฆเอกทนต์
• รัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีช้าง 6 เชือก คือ พระยาเศวตกุญชร พระบรมนาเคนทร์ พระบรมหัศดิน พระบรมนาเคนทร์ ( คเชนทรธราธาร ) พระยาเศวตไอยรา พระยาเศวตคชลักษณ์
• รัชกาลที่ 3 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีช้างเผือกอยู่ 20 เชือก คือ พระบรมคชลักษณ์ พระบรมไอยรา พระบรมนาเคนทร์ พระบรมเอกทันต์ พระยามงคลหัสดิน พระยามงคลนาคินทร์ พระบรมไกรสร พระบรมกุญชร พังหงษาสวรรค์ พระนัขนาเคนทร์ พระบรมไอยเรศ พระบรมสังขทันต์ พระบรมคชลักษณ์ ( ศักดิสารจุมประสาท ) พระบรมนขาคเชนทร์ พระนาเคนทรนขา พระบรมทัศนขา ช้างพลายสีประหลาด พระบรมศุภราช พระยามงคลคชพงศ์ ช้างพลายกระจุดดำ
• รัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีช้าง 15 เชือก คือ พระบรมนัขสมบัติ พระวิมลรัตนกิริณี พระบรมคชรัตน พระวิสูตรรัตนกิริณี พระพิไชยนิลนัข พระพิไชยกฤษณาวรรณ พระศรีสกลกฤษณ์ พระมหาศรีเศวตวิมลวรรณ ช้างพังเผือกเอก พระเศวตสุวรรณาภาพรรณ ช้างพัง เผือกเอก พระเทวสยามมหาพิฆเนศวร ช้างสีประหลาด เจ้าพระยาปราบไตรจักร พระยาไชยานุภาพ
• รัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีช้าง 19 เชือก คือ พระเศวตวรวรรณ พระมหารพีพรรณคชพงษ์ พระเศวตสุวภาพรรณ พระเทพคชรัตนกิริณี พระศรีสวัสดิเศวตวรรณ พระบรมทันตวรลักษณ์ พระเศวตวรลักษณ์ พระเศวตวรสรรพางค์ พระเศวตวิสุทธิเทพา พระเศวตสุนทรสวัสดิ์ พระเศวตสกลวโรภาศ พระเศวตรุจิราภาพรรณ พระเศวตวรนาเคนทร์ ช้างพลายเผือกเอก พระศรีเศวตวรรณิภา พระเศวตอุดมวารณ์ ช้างพลายสีประหลาด  2 เชือก เจ้าพระยาไชยานุภาพ
• รัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ช้าง พระเศวตวชิรพาหะ
• รัชกาลที่ 7 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ช้าง พระเศวตคชเดชน์ดิลก

บันทึกการเข้า


ลิงกัง...จังโก้
hangseri - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -154
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1105


มนุษย์ไม่ได้เกิดมาเพื่อความพ่ายแพ้


« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2009, 02:53:29 PM »

ขอบคุณมากครับ
บันทึกการเข้า
JUNG KO
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 29
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 274



« ตอบ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2009, 03:03:07 PM »

ช้างต้น  หมายถึง  ช้างที่ได้รับการขึ้นระวางเป็นช้างหลวงส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์  ในสมัยโบราณได้แบ่งช้างต้นออกเป็น  ๓  ประเภท  ดังนี้
    ๑.ช้างศึกที่ทรงออกรบ
    ๒.ช้างสำคัญซึ่งมีลักษณะเป็นช้างมงคลตามตำราคชลักษณ์  แต่ไม่สมบูรณ์หมดทุกส่วน
    ๓.ช้างเผือกซึ่งมีลักษณะถูกต้องตามตำราคชลักษณ์อย่างสมบูรณ์
     ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์  การศึกที่ต้องใช้กองทัพช้างในการสงครามหมดความสำคัญลง  ช้างศึกที่ควรขึ้นระวางเป็นช้างต้นก็ไม่มีความจำเป็นจึงคงเหลือเพียงช้างต้น  ที่หมายถึงช้างสำคัญและช้างเผือก  ซึ่งหากพบก็จะมีการประกอบพระราชพิธีรับสมโภชและขึ้นระวางเป็นพระยาช้างต้น  ด้วยถือตามพระราชประเพณีที่ว่า  ช้างเผือกนั้นเป็นหนึ่งในรัตนะ  ๗  สิ่งซึ่งคู่บารมีขององค์พระมหากษัตริย์  โดยรัตนะทั้ง  ๗  นี้มีชื่อเรียกว่า  สัปตรัตนะ  อันได้แก่  จักรรัตนะ(จักรแก้ว)  หัตถีรัตนะ(ช้างแก้ว)  อัศวรัตนะ(ม้าแก้ว)  มณีรัตนะ(มณีแก้ว)  อัตถีรัตนะ(นางแก้ว)  คหปติรัตนะ(ขุนคลังแก้ว)  ปริณายกรัตนะ(ขุนพลแก้ว)
                                    
 
กำเนิดช้างมงคล
   จากตำราพระคชศาสตร์  ได้กล่าวถึงการกำเนิดช้างมงคล  และแบ่งช้างมงคลเป็น  ๔  ตระกูล   ตามนามแห่งเทวะผู้ให้กำเนิด  คือ
    ๑. ช้างตระกูลพรหมพงศ์  พระพรหมเป็นผู้สร้าง  ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีย่อมให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางวัตถุและวิทยาการต่างๆ
    ๒.  ช้างตระกูลอิศวรพงศ์  พระอิศวรเป็นผู้สร้าง  ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีบ้านเมืองจะมีความเจริญรุ่งเรืองด้วยทรัพย์และอำนาจ
     ๓.  ช้างตระกูลวิษณุพงศ์  พระวิษณุ(พระนารายณ์)เป็นผู้สร้าง  ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีย่อมมีชัยชนะแก่ศัตรู  ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล  ผลาหารธัญญาหารจะบริบูรณ์
     ๔.  ช้างตระกูลอัคนีพงศ์  พระอัคนีเป็นผู้สร้าง  ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีบ้านเมืองจะเจริญด้วยมังสาหารและมีผลในทางระงับศึก  อันพึงจะเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นแล้ว  ทั้งมีผลในทางระงับความอุบาทว์ทั้งปวง  อันเกิดแก่บ้านเมือง
 
คติความเชื่อเกี่ยวกับช้างเผือก
      ตามคติความเชื่อทั้งในศาสนาพราหมณ์  และพุทธศาสนาถือว่าช้างเผือกเป็นสัตว์ที่สูงด้วยมงคลทั้งปวง  เป็นสัญลักษณ์ทั้งธัญญาหาร  ภักษาหาร  ผลาหาร  และพระบารมีเกริกไกรอันยิ่งใหญ่แก่แผ่นดิน  และจะเกิดขึ้นด้วยบุญญาบารมีแห่งองค์พระจักรพรรดิ  แห่งแคว้นประเทศนั้น  ด้วยเหตุดังกล่าวเมื่อได้พบช้างเผือกเวลาใด  ประชาราษฎร์ก็จะแซ่ซ้องสาธุการน้อมเกล้าฯ  ถวายด้วยเป็นรัตนะแห่งพระองค์
 
เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายหอม) ในรัชกาลที่ ๓ - ๔
 
เจ้าพระยาปราบไตรจักร
งาช้าง ขนาด สูง ๒๙๙ ซม. และ สูง ๒๓๘ ซม. หนา ๔๔.๕ ซม. และ หนา ๔๕.๕ ซม
อายุสมัย รัตนโกสินทร์ ช้างพลายหอมจันได้มาจากเมืองด่านซ้าย ได้รับการขึ้นระวางประกอบพระราชพิธีสมโภช และพระราชทานนามว่า เจ้าพระยาปราบไตรจักร พลายหอมจันมีรูปร่างงาม มีงายาวไขว้จนถึงดิน ในขณะที่เข้าขบวนใดก็ตาม จะต้องทำพื้นยกเตรียมไว้ เวลาเดินต้องแหงนคอขึ้น เพื่อไม่ให้งาครูดกับพื้น เมื่อหยุดเดิน ก็ยืนบนแท่นที่เตรียมไว้  เอางาพักบนพื้นดิน  งาช้างพระยาปราบไตรจักร เคยจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร  และได้นำมาจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช้างต้นวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๓๕  
 
แส้หางช้างพลายศรีประหลาด  
 เมืองเชียงใหม่       
งาพระยาช้างต้น (จากซ้ายไปขวา)  
 งา พระเทพกุญชร  รัชกาลที่ ๑
 งา พระเศวตกุญชร  รัชกาลที่ ๒
 งา พระบรมฉัททันต์ รัชกาลที่ ๓

 
พ่อหมอเฒ่า (ปฏิยะ) ทำด้วยสำริด ศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น เข้าใจว่าเดิมเป็นรูปเคารพอยู่ในกรมพระคชบาล ปัจจุบันจัดแสดงอยู่  ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช้างต้น
    กว้าง ๓๕ ซม. สูง ๔๔ ซม.
    สมัยรัตนโกสินทร์
    ทำจากสำริด
    กรมช้างต้นกระทรวงวัง ส่งให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติช้างต้นวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๔๗๒    
หนังช้างเผือกดอง เข้าใจว่าเป็นหนังช้าง
เผือกเอก ซึ่งพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามหามาลา  กรมขุนบำราบปรปักษ์ทรงคล้องได้ ที่บ้านนา แขวงนครนายก พ.ศ.๒๔๐๗ แต่ล้มเสียก่อนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเสียดายมากโปรดเกล้าให้เอาหนังดองไว้ ฯ
 

โรงช้างต้นเก่า  ในพระราชวังดุสิต ข้างรัฐสภา  ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ   ช้างต้นเป็นช้างเผือกโท คล้องได้ที่ป่าดงกระมุง แขวงเมืองสมบุกสมบุญ เจ้ายุติธรรมนครจำปาศักดิ์  น้อมเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีสมโภชขึ้นระวางเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๑๘ วันพุธ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๗ปีกุน จ.ศ.๑๒๓๗ รูปจำลองนี้จำลองขึ้นเพื่อนำทูลเกล้า ฯ ถวายเพื่อทอดพระเนตร และมีคำสั่งโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีสมโภชขึ้นระวาง จารึกชื่อความเป็นมา ลงบนแท่นหินอ่อน หรือฐานของรูปหุ่นช้างเป็นของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ช้างต้นมาแต่เดิม
นำมาจัดแสดงวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๓๕  

ในอดีตยามสงคราม กษัตริย์จะอัญเชิญพระชัยหลังช้างออกนำกระบวนทัพเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่กองทัพ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2009, 03:10:27 PM โดย JUNG KO » บันทึกการเข้า


ลิงกัง...จังโก้
Tืa์M๊ ┇รัnใuxaวJ
T็a๋kํk็y็l๊i็v์e์
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 64
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 721


2341E51F


« ตอบ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 24, 2009, 05:51:00 PM »

พระเศวตสุรคชาธารฯ หรือ คุณพระเศวตฯ เล็ก เป็นช้างพลายเผือก เกิดในป่าตำบลการอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จราชดำเนินทรงประกอบพิธีสมโภชขึ้นระวาง ที่จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2511 พระราชทานนามว่า

พระเศวตสุรคชาธาร บรมนฤบาลสวามิภักดิ์
ศุภลักษณเนตราธิคุณ ทศกุลวิศิษฏพรหมพงศ์
อดุลยวงศ์ตามพหัตถี ประชาชนะสวัสดีวิบุลยศักดิ์
อัครสยามนาถสุรพาหน มงคลสารเลิศฟ้า ๚
เครดิต จาก wikipedia ครับ

ซึ่งมีอนุสาวรีย์ที่สนามโรงพิธิช้างเผือก จังหวัดยะลาครับ 






« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 24, 2009, 05:54:50 PM โดย D์๋E์aTํH๊z์ » บันทึกการเข้า


www.gunsandgames.com

-๊S็a๊F๋e์T๋Y์   A๋c๊c๋u๊r๋aํt๋Eื   S๊m์o๊o่TัH์   F๊a๋s๋T๊-๊
bluebunny รักในหลวง
Full Member
***

คะแนน 144
ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 235



« ตอบ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 25, 2009, 05:40:37 AM »

ขอบคุณค่ะ เป็นกระทู้ที่ดีมากเลย +1 ค่ะ ชอบตอนที่เล่าถึงพระเศวตอดุลยเดชพาหนฯ ไม่ยอมให้พาเดิน แต่พอเข้าในเขตพระราชฐานก็เปลี่ยนเป็นสงบลง อ่านแล้วรู้สึกประทับใจค่ะ
บันทึกการเข้า

For King & For Country!
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2009, 12:23:37 PM »

เครื่องทรงใหม่ใช้ทอง 5953กร้ม  (เกือบหกกิโล)  ปัจจุบันแค่ค่าทอง 7321200(เจ็ดล้านสามแสนกว่า) นี่ไม่นับค่าแรงระดับอาจารย์   ตกใจ ตกใจ
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.107 วินาที กับ 21 คำสั่ง