เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้เราทราบกันดีว่าเศรษฐีส่วนใหญ่มักใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด รู้จักสร้างทรัพย์สินมากกว่าก่อหนี้สิน และใช้เวลาชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด หากใครชอบอ่านหนังสืออัตชีวประวัติของเศรษฐีแต่ละคน ก็จะพบลักษณะของ Financial Blueprint ที่คล้ายๆกัน
แล้ว Always Poor Blueprint เป็นแบบไหน ใครมีลักษณะเช่นนี้ให้ระวังไว้
- รายจ่ายมีสัดส่วนเทียบเท่ารายรับ เช่น รายได้ 100% รายจ่าย 95% บางเดือนรายจ่ายอาจมีมากเกิน 100% ได้ ด้วยการกู้ยืมเงิน, ใช้บัตรเครดิต เป็นต้น
- ซื้อสินค้าเงินผ่อน เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนทีวี ผ่อนแอร์ ผ่อนมือถือ ฯนฯ
- บริโภคสินค้าที่ไม่มีประโยชน์ เช่น สุรา บุหรี่ หรือข้องเกี่ยวกับอบายมุข เช่น ติดการพนัน
- ใช้เวลาในชีวิตที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เช่น นั่งซุบซิบนินทาเรื่องของคนอื่น นั่งคิดเมนูช็อปปิ้งเมนูอาหารมากจนเกินสมควร, นั่งเล่นแต่เกมทั้งวัน
สรุปลักษณะของ Always Poor Blueprint คือ มักก่อหนี้สินมากกว่าสร้างทรัพย์สิน ใช้เวลาชีวิตไม่เป็นประโยชน์ และคนลักษณะนี้จะไม่มีเป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจน
นอกจากนี้ข้อเท็จจริงคนส่วนใหญ่ มักจะลดขนาดความฝันของตัวเองให้มีขนาดพอๆ กับรายได้ แนวทางการดำเนินชีวิตจึงไม่มีแรงจูงใจที่มากพอที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเอง และมักจะคิดถึงแต่เรื่องในปัจจุบันเท่านั้น
กลับกัน… จะมีคนส่วนหนึ่งที่คอยสำรวจตัวเองอยู่เสมอ ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้น มีส่วนช่วยให้ไปถึงเป้าหมายของชีวิตที่ได้กำหนดไว้หรือไม่ เราจะพบว่าคนกลุ่มนี้มักจะแสวงหาโอกาสอยู่เสมอๆ มีความฝันความทะเยอทะยาน และมองเห็นภาพในอนาคตของตัวเองได้ชัดกว่าคนทั่วไป
เลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ เป็นหัวข้อที่แสดงให้เห็นว่าชีวิตคนเราอาจเกิดมามีลักษณะครบถ้วนสมบูรณ์แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อาจควบคุม หรือกำหนดได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถควบคุมและกำหนดเองได้คือ “ความคิด”
“ความคิด” สามารถกำหนดให้ชีวิตเป็นไปในแบบที่ต้องการได้ บางคนอาจเริ่มต้นการฝึกคิดด้วยการอ่านหนังสือ และเพิ่มพูนประสบการณ์ด้วยการฝึกทำ ซึ่งทั้งการฝึกคิดและการฝึกทำ จะทำให้เราเกิดสิ่งที่เรียกว่า “ทักษะ” คนที่พูดไม่เก่ง เมื่ออ่านหนังสือบ่อยๆ (ฝึกคิด) จะมีความรู้มากขึ้น และหากบุคคลนั้นได้พูดในสิ่งที่รู้อย่างสม่ำเสมอ (ฝึกทำ) ก็จะเกิดสิ่งที่เรียกว่าทักษะในการพูด หากมีการทำซ้ำอย่างต่อเนื่องทุกๆวัน ทักษะก็จะแปรเปลี่ยนไปเป็นนิสัย ซึ่งจะเป็นลักษณะเฉพาะตัวทำให้บุคคลคนนั้นมีความแตกต่างจากคนทั่วๆไปได้
จากความคิดไปสู่เป้าหมาย หรือความสำเร็จ ระหว่างนั้นจะมีสิ่งๆหนึ่งซึ่งมาคั่นกลาง เราเรียกว่า “อุปสรรค” มาถึงขั้นนี้ สิ่งที่จะสามารถเอาชนะอุปสรรคต่างๆได้ก็คือ “ทัศนคติ” และ “ความเป็นผู้นำ”
คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่าแต่ละคนจะมีบุคคลต้นแบบอย่างน้อยหนึ่งคนในชีวิต และเขาเหล่านั้นก็จะเรียนรู้ “ทัศนคติ” และ “ความเป็นผู้นำ” ของบุคคลที่เขาให้ความยอมรับนับถือ ขั้นตอนนี้เรียกว่าการ Copy หรือการเลียนแบบ
ใครที่เคยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสำเร็จ ว่าเราสามารถ Copy กันได้จริงหรือ? คำตอบก็คือ… จริงๆครับ คนที่สำเร็จจะมีเคล็ดลับการ Copy หนึ่งวิธีที่สำเร็จ มากกว่าจะค้นหาหนึ่งร้อยวิธีที่ไม่สำเร็จ และสิ่งที่ Copy ได้ง่ายๆ คือ หลักคิด และ ทัศนคติ นั่นเอง
ดังนั้น หากเลือกที่จะเป็นได้ คุณต้องการที่จะศึกษาและเลือกที่จะเป็นแบบบุคคลผู้ประสบความสำเร็จ หรือบุคคลผู้ประสบความล้มเหลวหละ?
