มี M ๑๖ ใช้นะดีแล้ว......ดีกว่า HK ๓๓ ของผมเยอะเบากว่า.......แม่นกว่า...ของแต่งมีเยอะแยะ.......ของผมยิงเป็น ๑๐๐ เข้าเป้าแค่ ๑๐ กว่านัด.....แถมลูกวิ่งเป็นแนวขวางด้วย......เกลียวเกือบเกลี้ยง.....ศูนย์ปรับไม่ไปแหละ.......บางกระบอกดึงคันรั้งไม่ได้ด้วยซ้ำ(แข็งมากๆ)นี่ไม่รวมที่แค่ท้องฟ้าคลึ้มฝน.....พี่แกสนิมขึ้นรอเลย......ไปทำงานร่วมกับ น.ย.และ อส. อำเภอ และ ตร. เมื่อไหร่...ไม่อยากเข้าไกล้...อายเขา...ของเขาเลิกใช้กันหมดแหละมีแต่ทหารพราน....อย่างพวกผมนี่แหละ
ส่งซ่อมสิครับ
ถ้าส่งซ่อมก็ต้องซ่อมเกือบทั้งกรมเลยครับ.........นำไปฝึก แข่งขัน นทล. ของทหารพราน ๓ จชต. นำไป ๓๑ กระบอก...ปรากฎว่าที่ยิงเข้าเป้าประมาณ ๕ กระบอกได้......ที่เหลือทั้งปรับศูนย์.....เล็กเผื่อ..แล้ว...ก็ไม่เข้าเป้า......สุดท้ายต้องไปยืมปืน รบพิเศษ มาใช้.......ก็ไปเลือกมาหมดคลังเหมือนกัน....กว่าจะได้ปืนที่พอยิงจะเข้าเป้า.....นี่แหละหนอทหารพรานเหมือนลูกเมียน้อย......อะไรที่ทหารหลักไม่ใช่แหละก็โยนมาให้ทหารพรานใช้ทั้งนั้น
ก็คิดซะอย่างนี้... มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นหรอก
หน่วยทหารหลักที่ใช้ ปลย.11/HK.33 ก็ยังมีหลายหน่วย ผมเห็นว่าอาวุธของเขา ส่วนใหญ่ยังคงสภาพดีอยู่ ..ปืนมันเก่าก็จริง แต่ถ้า ผบ.หน่วย , กำลังพลที่เป็นผู้ใช้ และช่างอาวุธประจำหน่วย เอาใจใส่ ปรนนิบัติบำรุง-ดูแลรักษา และซ่อมบำรุงตามระบบ มันก็สามารถคงสภาพความพร้อมใช้งานไว้ได้ ....มันอยู่ที่คน !
ที่สำคัญก็คือ เมื่อมีอาวุธชำรุด ผู้ใช้กับหน่วยใช้ต้องส่งซ่อมเพื่อให้คืนสภาพปกติ หรือถ้าชำรุดมาก ต้องซ่อมขั้นคลังนานๆ หน่วยสนับสนุนจะจ่ายปืนใหม่ หรือปืนเก่าเก็บแต่สภาพดีมาให้ใช้แทน หรือถ้าซ่อมไม่ได้เลย ก็ต้องจำหน่ายแล้วหน่วยเบิกทดแทน ..ดังนั้น ถามว่า ถ้าไม่ส่งซ่อม หรือดำเนินการใดๆ หน่วยสนับสนุนเขาจะได้ซ่อม หรือจ่ายปืนใหม่ให้หน่วยคุณหรือไม่? แล้วหน่วยเหนือจะได้รับทราบ เพื่อแก้ปัญหาให้หน่วยของคุณหรือไม่?
ถ้าในกรมมีปืนชำรุดมาก ก็ไปเรียน ผบ.หน่วย ให้สำรวจ วางแผน และจัดลำดับความเร่งด่วนในการซ่อม
ปัญหาแบบนี้ ควรรายงานให้ผู้บังคับบัญชาโดยตรงทราบ เพื่อแก้ไขตามระบบก่อน
ยินดีด้วยกับอาวุธ ค.40 มม.ใหม่

...ทหารหลักอย่างผมยังไม่มีใช้เลย