ก่อนอื่นขอตอบเป็นข้อๆนะครับ
1 ผมไม่ใด้เป็นทหารไม่ใด้รับราชการครับ
2 ผมเก็บปืนไว้ที่เบาะข้างคนขับครับตรงที่เราส่วนใหญ่ใช้เสียบเอกสาร มีลูกอยู่ในโม่เต็มครับ(เอื้อมมือหยิบใด้ครับ เผื่อมีเหตุการณ์ครับ)
3 ที่ผมถามพี่ที่ศาลกับตำรวจนะ ว่าตัดสินแบบผมจะมีประวัติไหมเขาบอกไม่มีครับของผมมีแต่โทษปรับไม่มีโทษจำหรือรอลงอาญาครับ แต่จะมีคดีดำติดตัวครับคือถ้าต่อไปโดนเรื่องมีคดีอะไรอีกต้องใช้หมายเลขคดีดำรอบนี้ละครับแจ้งต่อพนักงานสอบสวนด้วย แต่ถ้าลืมหรือทำหายเราไปขอเลขคดีที่ศาลใด้ครับ (กรณีเป็นข้าราชการโดนแบบผมก็น่าจะไม่มีปัญหานะ แต่ถ้าต้องรอลงอาญาหรือเสียประวัติทางราชผมไม่ทราบครับว่ามีผลมั๊ย)
ผมดีใจนะที่อย่างน้อยประสบการณ์ของผมเป็นประโยชน์กับพี่น้องในเวปบ้างไม่มากก็น้อยครับ ขอบคุณทุกกำลังใจครับ

ผมสงสัยว่า ปรับเฉยๆ กับรอลงอาญา ต่างกันตรงไหนกันครับ ถึงข้อดีข้อเสีย หนักเบาแต่ละอย่าง หรือว่าความหนักเบาต่างกัน
ในการโดนครั้งหน้า เคยเห็นท่านธำรงค์บอกว่าไม่มีสูตรสำเร็จ
เพราะคดีลักษณะเดียวกันเห็นหลายกระทู้แล้วครับ ตัดสินต่างกันแล้วแต่ศาล บางครั้งเห็นในกระทู้
ขังเลย ขนาดโดนครั้งแรก มี ป.4 ครบ ก็เลยเป็นงง (ทั้งลักษณะ มือเอื้อมถึงบรรจุ(สู้คดีศาลยกฟ้อง) เอื้อมไม่ถึง อยู่ในซอง ในกล่องล็อก
บรรจุ ไม่บรรจุ อยู่ในกล่อง ซอง ที่เบาะหลัง เก๊ะหน้ารถล็อก ไม่ล็อก ฯลฯ)
ขอถามท่านธำรงค์และผู้รู้ท่านอื่นๆด้วยนะครับ

บทกำหนดโทษ กรณีที่ปืนมีทะเบียน ของตนเอง......
.............ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้นั้นฝ่าฝืนมาตรา 8 ทวิ วรรคสอง ด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงห้าปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท..........
เห็นได้ว่าศาลท่านสามารถพิจารณาเจตนาและความหนักเบาของพฤติกรรม กำหนดโทษเพียงปรับก็ได้ หรือจำคุกก็ได้ถึง 5 ปี
ผมค่อนข้างเห็นว่ามาตรา 8 ทวิ และบทกำหนดโทษข้างต้นนี้ เป็นคุณต่อผู้สุจริต และเป็นโทษหนักเพิ่มได้สำหรับเจตนาและกรรมที่บุคคลก่อขึ้น
ตอบได้เคลียร์มากครับ ขอบคุณครับ ท่านธำรง มิน่าเขาว่า กม.ดิ้นได้
อยู่ที่กาละ เทศะ จังหวะ โอกาส และอะไรอื่นๆ อีกมากมาย ถ้างั้นทนาย นักกฎหมายคงตกงาน ไม่มีอะไรตายตัว
ขอบคุณมากมากอีกครั้งครับท่านธำรง
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลความรู้ที่นำมาแบ่งปันกัน
