ใครจะประเมินจุดด้อยของผู้ชุมนุม ผมเฉย ๆ
แต่ผมจะประเมินจุดด้อยของรัฐบาลและคน กทม. มากกว่า....
กำลังสับเปลี่ยน ว.๔๓ รอบนอก ก็ไม่มี
ใช้กำลังชุดเดียว...ตั้งมากกว่า ๔๘ ชม. ใครจะไปไหว....
ทั้ง ๆ ที่ผ่าน ร.๑๑ มาแล้ว แต่ก็ไปผ่านฟ้าฯ
เพื่อไปเจอทำเนียบฯ เปล่า ๆ (ซึ่งก็รู้อยู่ก่อนแล้ว)
ผ่านฟ้าฯ เอง...ก็อยู่ใกล้ทั้งสนามหลวงและเทเวศร์
กลับไม่ไป....ยอมทนร้อนไปตั้งถึงบางบัว
รถติดมหาวินาศแน่....
วันแรก...ผ่าน ร.๑๑ ไปดื้อ ๆ ผ่านมาวันสองวัน กลับจะกลับไป ร.๑๑ อีก
จำนวนคนเรือนหลายหมื่น...เคลื่อนขบวนจะใช้เวลากี่ ชม.
เป้าหมายการเคลื่อนที่ของผู้ชุมนุมปรับเปลี่ยนได้ตลอด...(ตามใจฉัน)
การตั้งรับในลักษณะนี้ ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลแน่
movement ของผู้ชุมนุม...ผ่านจุดล่อแหลมของชุมชนตั้งสองสามแห่ง
movement ของผู้ชุมนุม เป็นทฤษฎีที่ทำให้แปรเปลี่ยนเป็น mob ได้ง่าย ๆ
"น้ำเลี้ยง" ถ้าเป็นตัวเงิน กับ "งบประมาณ" ที่รัฐมีอยู่
"การปราบปราม" กับ "การอดทน" และ "ความยั่วยุ"
คือ การยืนระยะ...ของแต่ละฝ่าย....
ผมยอมรับ...ในวันศุกร์ที่ผ่านมา....
การถ่วงเวลาในการเดินทางของผู้ชุมนุม ประสบผลสำเร็จ...
แต่จะถ่วงหรือยืด timing ออกไปได้นานแค่ไหน...
๒๔ หรือ ๓๖ ชม. ซึ่งผลก็ได้ออกมาแล้ว....
การถ่วงเวลา...จะถูกนำออกมาใช้เรื่อย ๆ หรืออย่างไร....
สำหรับสถานการณ์ ผมยังคงต้องให้น้ำหนักทั้งสองฝ่าย...พอ ๆ กัน
การดำเนินการกับคนเรือนหมื่น ไม่ใช่จะเอารถมารับส่งกลับบ้านได้ง่าย ๆ
หรือจะฟาดแกนนำ จะฟาดได้ซักกี่คนเชียว....
เรื่องปากท้อง เรื่องแกนนำ...คราวนี้ ฝ่ายผู้ชุมนุม แก้ปัญหามาได้ค่อนข้างดีกว่าคราว เม.ย. ๕๒
ก็เลียนมาจาก พธม. นั่นแหละ....
จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...
ไม่ได้เรียกน้องจ้าวเพราะน้องจ้าวกว่าจะมาน้องกุ้งก็ง่วงแล้ว

คริ คริ แบบนี้ post แบบนี้....
ต้องลิโพฯ สองขวดซิเพ่.....คริ คริ