เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤษภาคม 17, 2025, 03:41:36 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เพิ่งโดนจับข้อหาพาอาวุธปืนเมื่อคืน  (อ่าน 14296 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
BLACK EGLE
ทำงานให้จริงจัง คบคนให้จริงใจ
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 2
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 336



« ตอบ #30 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 11:37:49 AM »

ขนาดว่าท่าน จขกท เป็นข้าราชการ ยังต้องโดนขนาดนั้นเลยหรอครับ จริงๆน่าจะเคลียร์กันได้ เพราะกินภาษีประชาชนเหมือนกัน
บันทึกการเข้า

จุดกำบัง.....เข้าที่ระเบิด..
นิพนธ์-รักในหลวงของไทย
Full Member
***

คะแนน 38
ออฟไลน์

กระทู้: 303


« ตอบ #31 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 01:41:02 PM »

+1  yutthakarn
บันทึกการเข้า
arun21
Newbie
*

คะแนน 1
ออฟไลน์

กระทู้: 5


« ตอบ #32 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 07:51:07 PM »

ผมเคยต้องการเรียกร้องให้พวกเราคนรักปืนและต้องการมีปืนไว้ป้องกันตัว รวมตัวกันเพื่อเสนอขอแก้ไขบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
ถ้าเราดูข้อความในใบ ป.4 จะใช้คำว่า ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ดังนั้น หากตีความตามตัวอักษร ใบอนุญาตดังกล่าว เป็นการอนุญาตให้มีและใช้ โดยไม่ได้ระบุว่า ให้ใช้เฉพาะในเคหสถานที่อยู่อาศัยเท่านั้น ดังนั้น การใช้น่าจะสามารถใช้ได้ในทุกสถานที่
เมื่อว่ากันถึง “การใช้” ก็ต้องพิจารณาถึงสภาพของอาวุธปืน อันเป็นอาวุธที่สามารถทำอันตรายบุคคลและทรัพย์สินได้ การใช้อาวุธจึงต้องเป็นการใช้เพื่อป้องกันตัว
เมื่อว่ากันถึง “การป้องกันตัว” การกระทำที่เป็นการป้องกันตัวที่ไม่เป็นความผิด ต้องพิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 คือเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตนเองหรือผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึง หากกระทำไปพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ขอบด้วยกฎหมาย ผู้กระทำไม่มีความผิด
ดังนั้น การใช้อาวุธปืนที่ไม่ผิดต่อกฎหมาย ต้องเป็นการใช้เพื่อป้องกันตนเองหรือผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึง และต้องกระทำพอสมควรแก่เหตุ
หากใช้อาวุธปืนไปโดยไม่เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ การใช้อาวุธปืนนั้น ก็เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดต่อกฎหมาย
เมื่อกฎหมายบัญญัติให้ออกใบอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนได้ ก็น่าที่จะให้สิทธิในการใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด
ดังนั้น ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ก็น่าที่จะมีสิทธิพาอาวุธปืนติดตัวไปเพื่อการป้องกันตัวโดยขอบด้วยกฎหมาย ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของใบอนุญาต
ทีนี้ มาว่ากันถึงบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งมีชื่อเต็มว่า “พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ” มีบทบัญญัติในมาตราหลัก ๆที่น่าสนใจดังนี้
มาตรา 7 ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่
มาตรา 8 ห้ามมิให้ผู้ใดมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้
มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด
มาตรา 7 เป็นเรื่องการห้าม มี และ ใช้อาวุธปืน กระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาต
มาตรา 8 ทวิ วรรคแรก(คำว่า“วรรค” ในภาษากฎหมาย หมายถึง “ย่อหน้า”ครับ)เป็นการห้ามพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
พิจารณาตาม บทบัญญัติใน 3 มาตราดังกล่าว จะเห็นว่า มาตรา 8 ทวิ เป็นบทที่ล็อกหรือบล๊อกสิทธิในการใช้อาวุธปืนนอกสถานที่อยู่อาศัย โดยจะนำปืนติดตัวออกจากที่พักได้ จะต้องมีใบอนุญาต แต่มีข้อยกเว้นว่า สามารถนำติดตัวไปได้ในกรณีเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
ซึ่งจะต้องเกิดมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์เสียก่อน จึงจะสามารถนำปืนติดตัวไปได้ อันจะเห็นได้ว่า เป็นการจำกัดสิทธิในการใช้อาวุธปืนป้องกันตัวให้ลดน้อยลง
ตามมาตรา 8 วรรคสอง ที่ว่า “ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด”
เป็นการห้ามพาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย ข้อนี้ ผมเห็นด้วย หากมีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนแล้ว ก็ให้พกพาไปได้โดยซุกซ่อนให้มิดชิด ไม่ให้พกพาเปิดเผย ให้เป็นที่น่าหวาดเสียวแก่ผู้พบเห็น
ผมเห็นว่า หลักในทางปฏิบัติน่าจะเป็นดังนี้ คือ เมื่อได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจากนายทะเบียนโดยถูกต้องแล้ว จะสามารถใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวโดยชอบตามกฎหมายได้ในทุกสถานที่ โดยไม่มีความผิด
แต่เมื่อใดที่นำปืนไปใช้กระทำผิดกฎหมาย แม้ว่าจะเป็นการใช้เพื่อป้องกันตัวแต่เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ หรือที่เรียกกันว่า “ป้องกันเกินกว่าเหตุ” อันถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือว่าได้พกพาปืนไปโดยเปิดเผย ผู้นั้นจะถูกเพิกถอนสิทธิการมีและใช้อาวุธปืนทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้น และถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการที่จะได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนได้อีกตลอดชีวิต
หลักดังกล่าวจะเป็นเครื่องเตือนใจผู้ที่มีปืนโดยถูกต้องตามกฎหมายว่า หากนำอาวุธปืนไปใช้กระทำความผิดหรือได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตราใด มาตราหนึ่ง นอกจากจะต้องรับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติแล้ว ก็จะหมดสิทธิในการมีอาวุธปืนอีกต่อไป ซึ่งในความรู้สึกของคนรักปืน เป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุดแล้ว
ผมเห็นว่า ทางแก้ไขให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการป้องกันตัว สามารถทำได้โดยแก้ไขบทบัญญัติ ในมาตรา ๘ ทวิ ให้เป็นข้อความว่า
“ห้ามมิให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจากนายทะเบียนท้องที่พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย”
 ++100 ไปเลย
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #33 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 08:01:04 PM »

ด้วยความเห็นใจ ครับ  แต่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ชัดเจนครับ
ใช้ครรลอง ลูกผู้ชาย  "กล้าทำ ต้องกล้ารับผิดชอบ" เมื่อประกันตัวได้ ก็จบ
รอปรับ ศาล เท่านั้น ๒,๐๐๐ +/-

และอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เพราะนี่ คือการดำเนินคดี ผู้ละเมิดกฎหมาย
ไม่ใช่เชิญไปกินโต๊ะจีน.. ปืนอาจมีร่องรอยบ้าง ส่วนใหญ่คือสนิม กินผิว

ส่วนเรื่องมา ไส มาขูดเลข ปืนยุคนี้สวมทะเบียนยากส์ ครับ   Grin

บันทึกการเข้า

ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #34 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 08:46:18 PM »

ด้วยความเห็นใจ ครับ  แต่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ชัดเจนครับ
ใช้ครรลอง ลูกผู้ชาย  "กล้าทำ ต้องกล้ารับผิดชอบ" เมื่อประกันตัวได้ ก็จบ
รอปรับ ศาล เท่านั้น ๒,๐๐๐ +/-

และอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เพราะนี่ คือการดำเนินคดี ผู้ละเมิดกฎหมาย
ไม่ใช่เชิญไปกินโต๊ะจีน.. ปืนอาจมีร่องรอยบ้าง ส่วนใหญ่คือสนิม กินผิว

ส่วนเรื่องมา ไส มาขูดเลข ปืนยุคนี้สวมทะเบียนยากส์ ครับ   Grin



 เยี่ยม   ไหว้
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #35 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 09:01:40 PM »

ถ้าใส่ไว้ท้ายรถไกลมือก็อีกเรื่องหนึ่ง
บันทึกการเข้า
rambo1th
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1349


« ตอบ #36 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 09:19:55 PM »

ถ้าไม่ใช่เหตุจำเป็นอย่างสุดยอดจริงๆ ถึงขั้นจะเป็นอันตรายถึงชีวิตและจวนตัวจริงๆ อย่าพกพาออกนอกบ้านเลยครับ ชาวบ้านธรรมดา หรือข้าราชการถ้าไม่ใช่ทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง (ที่มีแนวโน้มจะเคลียได้ไม่ถูกบันทึกจับกุม) ถูกจับกุมทุกรายครับ ไอ้เรื่องแยกปืนแยกลูกไรนะ มันเรื่องดุลพินิจล้วนๆ แต่ปัญหาข้อเท็จจริงในชั้นจับกุมขอดูใบ ป.12 ไม่มีแสดงให้ดู จบ ........สถานเดียว เรื่องโทษคงไม่เท่าไรถ้าปืนมีทะเบียน แต่ต้องถูกยึดปืน ประกันตัว มีประวัติติดตัว ถมจะโดนวินัยข้าราชการตามมาอีก...........ไม่คุ้มครับ
บันทึกการเข้า
100
Full Member
***

คะแนน 18
ออฟไลน์

กระทู้: 223



« ตอบ #37 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 11:12:17 PM »

oo
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 08, 2013, 04:03:24 AM โดย m100 » บันทึกการเข้า
juicymanz
Full Member
***

คะแนน 26
ออฟไลน์

กระทู้: 211



« ตอบ #38 เมื่อ: ธันวาคม 23, 2012, 11:26:56 PM »

ผมเคยต้องการเรียกร้องให้พวกเราคนรักปืนและต้องการมีปืนไว้ป้องกันตัว รวมตัวกันเพื่อเสนอขอแก้ไขบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ
ถ้าเราดูข้อความในใบ ป.4 จะใช้คำว่า ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ดังนั้น หากตีความตามตัวอักษร ใบอนุญาตดังกล่าว เป็นการอนุญาตให้มีและใช้ โดยไม่ได้ระบุว่า ให้ใช้เฉพาะในเคหสถานที่อยู่อาศัยเท่านั้น ดังนั้น การใช้น่าจะสามารถใช้ได้ในทุกสถานที่
เมื่อว่ากันถึง “การใช้” ก็ต้องพิจารณาถึงสภาพของอาวุธปืน อันเป็นอาวุธที่สามารถทำอันตรายบุคคลและทรัพย์สินได้ การใช้อาวุธจึงต้องเป็นการใช้เพื่อป้องกันตัว
เมื่อว่ากันถึง “การป้องกันตัว” การกระทำที่เป็นการป้องกันตัวที่ไม่เป็นความผิด ต้องพิจารณาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 คือเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตนเองหรือผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึง หากกระทำไปพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ขอบด้วยกฎหมาย ผู้กระทำไม่มีความผิด
ดังนั้น การใช้อาวุธปืนที่ไม่ผิดต่อกฎหมาย ต้องเป็นการใช้เพื่อป้องกันตนเองหรือผู้อื่นให้พ้นจากภยันตรายที่เกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายอันใกล้จะถึง และต้องกระทำพอสมควรแก่เหตุ
หากใช้อาวุธปืนไปโดยไม่เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ การใช้อาวุธปืนนั้น ก็เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นความผิดต่อกฎหมาย
เมื่อกฎหมายบัญญัติให้ออกใบอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนได้ ก็น่าที่จะให้สิทธิในการใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวโดยสมควรแก่เหตุ ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด
ดังนั้น ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน ก็น่าที่จะมีสิทธิพาอาวุธปืนติดตัวไปเพื่อการป้องกันตัวโดยขอบด้วยกฎหมาย ให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของใบอนุญาต
ทีนี้ มาว่ากันถึงบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งมีชื่อเต็มว่า “พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ” มีบทบัญญัติในมาตราหลัก ๆที่น่าสนใจดังนี้
มาตรา 7 ห้ามมิให้ผู้ใดทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่
มาตรา 8 ห้ามมิให้ผู้ใดมีเครื่องกระสุนปืนซึ่งมิใช่สำหรับใช้กับอาวุธปืนที่ตนได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้
มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด
มาตรา 7 เป็นเรื่องการห้าม มี และ ใช้อาวุธปืน กระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาต
มาตรา 8 ทวิ วรรคแรก(คำว่า“วรรค” ในภาษากฎหมาย หมายถึง “ย่อหน้า”ครับ)เป็นการห้ามพาอาวุธปืนติดตัวโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
พิจารณาตาม บทบัญญัติใน 3 มาตราดังกล่าว จะเห็นว่า มาตรา 8 ทวิ เป็นบทที่ล็อกหรือบล๊อกสิทธิในการใช้อาวุธปืนนอกสถานที่อยู่อาศัย โดยจะนำปืนติดตัวออกจากที่พักได้ จะต้องมีใบอนุญาต แต่มีข้อยกเว้นว่า สามารถนำติดตัวไปได้ในกรณีเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
ซึ่งจะต้องเกิดมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์เสียก่อน จึงจะสามารถนำปืนติดตัวไปได้ อันจะเห็นได้ว่า เป็นการจำกัดสิทธิในการใช้อาวุธปืนป้องกันตัวให้ลดน้อยลง
ตามมาตรา 8 วรรคสอง ที่ว่า “ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด”
เป็นการห้ามพาอาวุธปืนไปโดยเปิดเผย ข้อนี้ ผมเห็นด้วย หากมีใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนแล้ว ก็ให้พกพาไปได้โดยซุกซ่อนให้มิดชิด ไม่ให้พกพาเปิดเผย ให้เป็นที่น่าหวาดเสียวแก่ผู้พบเห็น
ผมเห็นว่า หลักในทางปฏิบัติน่าจะเป็นดังนี้ คือ เมื่อได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจากนายทะเบียนโดยถูกต้องแล้ว จะสามารถใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวโดยชอบตามกฎหมายได้ในทุกสถานที่ โดยไม่มีความผิด
แต่เมื่อใดที่นำปืนไปใช้กระทำผิดกฎหมาย แม้ว่าจะเป็นการใช้เพื่อป้องกันตัวแต่เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ หรือที่เรียกกันว่า “ป้องกันเกินกว่าเหตุ” อันถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หรือว่าได้พกพาปืนไปโดยเปิดเผย ผู้นั้นจะถูกเพิกถอนสิทธิการมีและใช้อาวุธปืนทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้น และถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติในการที่จะได้รับอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนได้อีกตลอดชีวิต
หลักดังกล่าวจะเป็นเครื่องเตือนใจผู้ที่มีปืนโดยถูกต้องตามกฎหมายว่า หากนำอาวุธปืนไปใช้กระทำความผิดหรือได้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตราใด มาตราหนึ่ง นอกจากจะต้องรับโทษตามที่กฎหมายบัญญัติแล้ว ก็จะหมดสิทธิในการมีอาวุธปืนอีกต่อไป ซึ่งในความรู้สึกของคนรักปืน เป็นการลงโทษที่รุนแรงที่สุดแล้ว
ผมเห็นว่า ทางแก้ไขให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการป้องกันตัว สามารถทำได้โดยแก้ไขบทบัญญัติ ในมาตรา ๘ ทวิ ให้เป็นข้อความว่า
“ห้ามมิให้ผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนจากนายทะเบียนท้องที่พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย”
 ++100 ไปเลย
+1 ประเดิมให้เลยครับ อยากให้เป็นเช่นนั้นครับ
บันทึกการเข้า
ANKIMBER
Sr. Member
****

คะแนน 60
ออฟไลน์

กระทู้: 592



« ตอบ #39 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2012, 12:05:18 AM »

ผมเห็นด้วย
บันทึกการเข้า
ahu
กฎหมายทำให้เสมอภาค ปืนทำให้เท่าเทียม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 162
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1331



« ตอบ #40 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2012, 10:03:15 AM »

รับสารภาพ = ปรับ
สู้คดี ถ้าแพ้ = ก็ ปรับ เหมือนกัน  Grin
บันทึกการเข้า

"เศรษฐกิจพอเพียง"     หนึ่งตำบล.......หนึ่งภรรยา  Grin  Grin


มีไว้    หน้าใหญ่....ใจร้อน    นอนวัด
มีไว้    ปลอดภัย....อุ่นใจ    ไกลคุก
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #41 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2012, 10:09:34 AM »

รับสารภาพ = ปรับ
สู้คดี ถ้าแพ้ = ก็ ปรับ เหมือนกัน  Grin

อย่างหลังนี่จะมีค่าทนายอีกประมาณ 3 หมื่นบาทครับ... แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
ธำรง
Hero Member
*****

คะแนน 1727
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8568


.....รักในหลวง.....


« ตอบ #42 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2012, 11:31:50 AM »

รับสารภาพ = ปรับ
สู้คดี ถ้าแพ้ = ก็ ปรับ เหมือนกัน  Grin

อย่างหลังนี่จะมีค่าทนายอีกประมาณ 3 หมื่นบาทครับ... แฮ่ๆ...

คุณahu เป็นทนายสู้ความเอง  คิก คิก
ส่วนผมขอศาลจัดทนายอาสาครับ  ขำก๊าก



บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #43 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2012, 11:47:21 AM »

แหมนำพาไปจริงก็สารภาพปรับไม่มากการจะย้อนถอยหลังมันเป็นไปไม่ได้หรอก

พูดตรงๆนะว่า ขนาดพรรคพวกที่เป็นทหารยศนายพลกันแล้วยังเห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่พกปืนออกนอกบ้านกัน(วันก่อนไปทำกิจกรรมกับพวกตำรวจสองสามคนเขายังไม่พกกัน) เหตุอันควรนั่นเลิกคิดเถอะสมัยนี้เขาไม่พกเงินสดกันเยอะๆแล้ว เผลอๆจะโดนตั้งข้อสงสัยว่าเอาเงินไปจ่ายค่าอะไรหรือเปล่า มีทั้งปืนทั้งเงินอยู่ด้วยกัน
บันทึกการเข้า
นิพนธ์-รักในหลวงของไทย
Full Member
***

คะแนน 38
ออฟไลน์

กระทู้: 303


« ตอบ #44 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2012, 05:35:20 PM »

"เหมือนเยียบจมดินประชาชน"ให้ซื้อปืนตามราคาหน้าร้าน แล้วให้ภาครัฐซื้อปืนในราคาที่ต่ำกว่าใช่มั้ยครับ แปลกเนอะกฎที่เอารัดเอาเปรียบแล้วละเมิดสิทธิ์อีกยังทำได้ แปลก หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.06 วินาที กับ 21 คำสั่ง