การพกปืนออโต้ขึ้นลำกับลูกโม่

[524]

 ..ผมเคยพก ลูกโม่ m 10.. 2 นิ้ว อยู่ 2-3 ปี และเปลี่ยนมาเป็น ออโต 9 มม.ตลอด อาจเพราะส่วนตัว ชอบความเนียนบาง และจำนวนกระสุนที่มากกว่า.. และพกโดยไม่ขึ้นลำ.. ในเกือบทุกสถานะการณ์ร้ายๆที่ต้องใช้อาวุธปืน จะมีเหตุบ่งบอกล่วงหน้าเสมอ..วินาทีเดียวเพียงพอที่จะขึ้นลำ..จะยิงนัดแรกแบบซิงเกิล.. ไม่นิยมยิงแบบดับเบิล แม้บางครั้งอาวุธปืนจะเป็นแบบดับเบิล เพราะหวังผลแน่นอนไม่ได้.. (แต่ตอนหลังมาให้ Glock 19 น้ำหนักไกเสมอกันก็ไม่ต้องกังวลอีก).. คนหนึ่งคน เหตุร้ายมักไม่ค่อยเกิด ..แต่คนร้ายเพราะพวกมาก.อาวุธมาก.. ออโตอาจใช้ได้ชัวร์ดี นะครับ...

[naisomchai]

ท่านที่ถนัด 1911 ช่างสังเวียน(ทำไมพูดถึงช่างคนนี้กันน้อยจังทั้งที่แกก็ระดับแนวหน้า )ถึงจะเชี่ยวชาญลูกโม่รูเกอร์ แต่ 1911 แกก็ไม่เบา แกแต่งกลไกของปืนให้เอานกลงชิดโครงได้ขณะปืนเข้าเซฟอยู่  เวลาจะยิงก็แค่ปลดเซฟหัวแม่มือ นกงี้ง้างร่าออกมาเชียว อ.ผณิศวรยังชมว่าแจ๋ว ผมละสงสัยจิงจิงว่าทำไมแกไม่ขายสิทธิบัตรนี้ น่าจะได้เงินก้อนโต

ช่างสังเวียนมีความเป็นศิลปินมากกว่าช่างครับ... และมีความเป็นช่างมากกว่านักธุรกิจ... ไม่ฮา

[babor]

  เหมือน ๆ กันครับ หากไม่ไปเหนี่ยวไกก็ไม่ลั่น ... แต่ถ้าพกแบบซิงเกิ้ลผมไม่กล้า กลัวจุดสองห้อยกระจุย ไกเบาเกินไป ทีสำคัญอย่าประมาทและเชื่อมั่นในกลไกจนเกินไปครับ

[boon]

ทำเป็นเล่นไปนะพี่แต่ก่อนผมเคยมีความคิดจะซื้อจุกอุดหูแบบตัดเสียงมาใช้...
ผมเคยอ่านพบในหนังสือปืน เขาก็แนะนำว่าควรจะมีนะครับ เอาใว้ที่หัวเตียง ถึงเวลาใช้ก้ไม่ต้องหา   จะช่วยถนอมหูเราได้มาก
ยิงในบ้านเสียงจะดังก้องมาก ถ้าปืนหนักๆอย่าง.357 .45 พวกนี้ โอกาศหูเสียมีมาก 

[นาจา™รักในหลวง]

ทำเป็นเล่นไปนะพี่แต่ก่อนผมเคยมีความคิดจะซื้อจุกอุดหูแบบตัดเสียงมาใช้...
ผมเคยอ่านพบในหนังสือปืน เขาก็แนะนำว่าควรจะมีนะครับ เอาใว้ที่หัวเตียง ถึงเวลาใช้ก้ไม่ต้องหา   จะช่วยถนอมหูเราได้มาก
ยิงในบ้านเสียงจะดังก้องมาก ถ้าปืนหนักๆอย่าง.357 .45 พวกนี้ โอกาศหูเสียมีมาก 

ประโยชน์จากพี่บุญบอก....กันเสียงปืนได้...แต่เสียงเมียคงลำบาก แนะให้ใช้จุกอุดแบบตัดทั้งสองเสียงเลยครับ

[Zeus-รักในหลวง]

ทำเป็นเล่นไปนะพี่แต่ก่อนผมเคยมีความคิดจะซื้อจุกอุดหูแบบตัดเสียงมาใช้...
ผมเคยอ่านพบในหนังสือปืน เขาก็แนะนำว่าควรจะมีนะครับ เอาใว้ที่หัวเตียง ถึงเวลาใช้ก้ไม่ต้องหา   จะช่วยถนอมหูเราได้มาก
ยิงในบ้านเสียงจะดังก้องมาก ถ้าปืนหนักๆอย่าง.357 .45 พวกนี้ โอกาศหูเสียมีมาก 

ประโยชน์จากพี่บุญบอก....กันเสียงปืนได้...แต่เสียงเมียคงลำบาก แนะให้ใช้จุกอุดแบบตัดทั้งสองเสียงเลยครับ

ไม่เข้าใจครับว่าพี่นาจาหมายฟามว่าอะไร....อิอิคนโสดนะครับไม่คอยเข้าใจหัวอกคนมีเมียเท่าไรหรอกครับ5555

[นาจา™รักในหลวง]

ทำเป็นเล่นไปนะพี่แต่ก่อนผมเคยมีความคิดจะซื้อจุกอุดหูแบบตัดเสียงมาใช้...
ผมเคยอ่านพบในหนังสือปืน เขาก็แนะนำว่าควรจะมีนะครับ เอาใว้ที่หัวเตียง ถึงเวลาใช้ก้ไม่ต้องหา   จะช่วยถนอมหูเราได้มาก
ยิงในบ้านเสียงจะดังก้องมาก ถ้าปืนหนักๆอย่าง.357 .45 พวกนี้ โอกาศหูเสียมีมาก 

ประโยชน์จากพี่บุญบอก....กันเสียงปืนได้...แต่เสียงเมียคงลำบาก แนะให้ใช้จุกอุดแบบตัดทั้งสองเสียงเลยครับ

ไม่เข้าใจครับว่าพี่นาจาหมายฟามว่าอะไร....อิอิคนโสดนะครับไม่คอยเข้าใจหัวอกคนมีเมียเท่าไรหรอกครับ5555

เรื่องอย่างนี้ต้องลองมีเองครับ...

[babor]

  อย่างที่ ลุงสมชายฯ เคยบอกไว้ ว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่าพกขึ้นลำหรือไม่พกขึ้นลำ หรือ ซิงเกิ้ล หรือ ดับเบิ้ล คือ การที่จะตัดสินใจว่าจะยิงหรือไม่ยิง

  เพราะต่อให้พกแบบซิงเกิ้ล แต่พอจะยิงไม่กลับลังเลจะยิงดีหรือไม่ จะทำให้ช้าไม่ทันการ ... ผมลองคิดดูและเหตุที่ทำให้ต้องเอาปืนชี้ไปยังเป้าหมาย บางครั้งยังสับสนว่าจะยิงหรือไม่ยิง หลัง ๆ เลยฝึกแบบฉับพลันและตัดสินใจแน่วแน่หากเจอเหตุก็ซัดเลย ไม่งั้นโจรยิงสวนมาแน่ ๆ ... คือว่าหยอดเหรียญยิงอีกครั้งไม่ได้อ่ะ โจรตายดีกว่าเราตายนา

[Don Quixote]

ท่านที่ถนัด 1911 ช่างสังเวียน(ทำไมพูดถึงช่างคนนี้กันน้อยจังทั้งที่แกก็ระดับแนวหน้า )ถึงจะเชี่ยวชาญลูกโม่รูเกอร์ แต่ 1911 แกก็ไม่เบา แกแต่งกลไกของปืนให้เอานกลงชิดโครงได้ขณะปืนเข้าเซฟอยู่  เวลาจะยิงก็แค่ปลดเซฟหัวแม่มือ นกงี้ง้างร่าออกมาเชียว อ.ผณิศวรยังชมว่าแจ๋ว ผมละสงสัยจิงจิงว่าทำไมแกไม่ขายสิทธิบัตรนี้ น่าจะได้เงินก้อนโต

ลุงสังเวียนจดสิทธิบัตรในเมืองไทยแล้วครับ แต่ในต่างประเทศไม่ได้จด ฝาหรั่งเมกันก็เลยลอกแบบไปทำขายได้ตั้งชุดละ 2-3 ร้อย ดอล

ติดขัดยังไงถึงไม่ได้จดสิทธิบัตร รึว่าจดไม่ได้ครับ น่าเสียดาย

เมื่อก่อนคงจะวุ่นวายมากมังครับ และถ้าจดได้ การจะไปทำขายในเมกาคงยุ่งกว่ามาก

เมื่อกี้ผมเลยโทรไปถามพวกกรมทรัพย์สินฯ เขาว่าอย่างสมัยนี้ก็เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 3 แสนบาท มีอายุ 20ปี แต่ต้อต่อทุกปีที่ 5, 7 และ 15 ดูได้ที่ www.uspto.gov ครับ

[Choltit]

เมื่อกี้ผมเลยโทรไปถามพวกกรมทรัพย์สินฯ เขาว่าอย่างสมัยนี้ก็เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 3 แสนบาท มีอายุ 20ปี แต่ต้อต่อทุกปีที่ 5, 7 และ 15 ดูได้ที่ www.uspto.gov ครับ

อาจเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ช่างสังเวียนและ อ.ผณิศวร ไม่สนใจไปจดสิทธิบัตร 

[ออด]

เมื่อก่อนคงจะวุ่นวายมากมังครับ และถ้าจดได้ การจะไปทำขายในเมกาคงยุ่งกว่ามาก

เมื่อกี้ผมเลยโทรไปถามพวกกรมทรัพย์สินฯ เขาว่าอย่างสมัยนี้ก็เสียค่าใช้จ่ายประมาณ 3 แสนบาท มีอายุ 20ปี แต่ต้อต่อทุกปีที่ 5, 7 และ 15 ดูได้ที่ www.uspto.gov ครับ

ค่าจดสิทธิบัตรแพงขนาดนี้เลยหรือครับ